ในการจัดอันดับสุดยอดสมาร์ตโฟนแห่งปี 2023 ทีมงานเรายกให้ Xiaomi 13T Series เป็น Best Camera Phone หรือสุดยอดสมาร์ตโฟนสำหรับการถ่ายภาพ โดยเหตุผลที่ทีมงานเรามองว่า Xiaomi 13T Series (Xiaomi 13T / Xiaomi 13T Pro) เป็นสมาร์ตโฟนแห่งปี 2023 ในแง่ของการถ่ายภาพ เนื่องจากสมาร์ตโฟนซีรี่ส์นี้ มาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปคุณภาพสูง มีการจับมือกับทาง LEICA ได้เลนส์ Summicron
แต่ที่สำคัญสุดก็คือในเรื่องของราคา โดยสมาร์ตโฟนซีรี่ส์ดังกล่าว มีราคาเริ่มต้นเพียง 15,990 บาท สำหรับ Xiaomi 13T และราคาเริ่มต้น 19,990 บาท สำหรับ Xiaomi 13T Pro คือได้สเปคระดับท็อป ได้กล้องระดับ Hi-end ที่ถ่ายรูปได้สวยมาก ๆ ในราคาไม่ถึง 20,000 บาท และในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกกันว่า จุดเด่นในแต่ละด้านของ Xiaomi 13T Series นั้นเป็นอย่างไร
กล้องได้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMICRON ถ่ายสวย ระยะเลนส์ครอบคลุมทุกการใช้งาน
จุดเด่นที่สุดของ Xiaomi 13T Series คงหนีไม่พ้นเรื่องกล้องถ่ายภาพ โดยรุ่นนี้ยังคงจับมือกับทาง LEICA ความดีงามในรอบนี้คือไม่ว่าจะเป็นรุ่นธรรมดา หรือรุ่นโปร ก็มาพร้อมกล้องชุดเซนเซอร์เดียวกัน ได้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMICRON เหมือนกันหมด ประกอบไปด้วยกล้องหลักเซ็นเซอร์ Sony IMX707 ความละเอียด 50MP ที่เทียบเท่าเลนส์ระยะ 24 มม., กล้อง Telephoto เซ็นเซอร์ OmniVision OV50D ความละเอียด 50MP ที่เทียบเท่าเลนส์ระยะ 50 มม. และเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 12MP ที่เทียบเท่าเลนส์ระยะ 15 มม. นอกจากนี้ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 20MP ด้วย การถ่ายภาพก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งภาพถ่ายกลางวันและในที่แสงน้อย
โหมดลูกเล่นต่าง ๆ ของกล้อง Xiaomi 13T Series ก็จัดว่าแพรวพราวครับ สมกับที่ไปจับมือพัฒนากล้องกับทาง LEICA เลยทำให้สามารถเลือกโทนภาพแบบเดียวกับกล้อง LEICA ได้ถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ LEICA Authentic ที่เน้นความสมจริงเหมือนตาเห็น กับ LEICA Vibrant ที่มากับโทนสีจัดจ้าน และนอกจากโทนภาพแบบ LEICA Look ที่ทำได้ดีมากแล้ว Xiaomi 13T Series ยังมาพร้อมกับฟิลเตอร์จาก LEICA อีก 6 รูปแบบ ลักษณะคล้ายฟิลเตอร์ในกล้องฟิล์ม ช่วยสร้างอารมณ์ให้แต่ละรูปถ่ายให้แตกต่างไปจากเดิม ที่น่าสนใจก็ได้แก่ฟิลเตอร์ Monochrome อันเลื่องชื่อของทาง LEICA และยังมีฟิลเตอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาอย่าง LEICA Sepia กับ LEICA Blue ให้เลือกใช้งานได้อีกด้วย
ส่วนโหมดถ่ายคน หรือโหมด Portrait ก็ตามสไตล์ของสมาร์ตโฟน Xiaomi ที่ไปจับมือกับทาง LEICA เพราะรุ่นี้ก็ได้ Master-lens system สำหรบการถ่าย Portrait ที่มีให้เลือก 3 รูปแบบ แตกต่างกันไปตามระยะเลนส์ เริ่มจากระยะแรก Documentary Lens 35 มม. ให้ภาพถ่ายเบลอหลังแบบเน้นความสมจริง ถัดมาเป็นระยะที่หลายคนน่าจะใช้ถ่ายภาพคนกันบ่อย ๆ อย่าง Swirly Bokeh Lens 50 มม. ทำให้บุคคล และวัตถุมีความโดดเด่นมากขึ้น ปิดท้ายด้วย Soft Focus Lens ที่ระยะ 90 มม. เน้นความฟุ้งทั้งตัวแบบและฉากหลัง
ด้านการถ่ายวิดีโอก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน โดยใน Xiaomi 13T Pro จะสามารถถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพ ด้วย 10 bit LOG 4:2:0 H.265 พร้อม Rec.709 LUT เพื่อนำไปใช้ในการปรับแสงทีหลัง ซึ่งสามารถเลือกถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 8K ได้ด้วย โดยเลนส์หลักจะมีระบบกันสั่น OIS และ EIS ส่วน Xiaomi 13T รุ่นธรรมดาจะรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K
ตัวอย่างวิดีโอที่ถ่ายแบบ 10bit LOG แล้วปรับแสงด้วย Rec.709 LUT
สเปคระดับท็อป ในราคาที่เข้าถึงได้
Xiaomi 13T Series เลือกใช้ชิปเซ็ตซีรี่ส์ Dimensity จากทาง MediaTek โดยในรุ่นปกติ Xiaomi 13T จะมาพร้อมกับ Dimensity 8200 Ultra [RAM LPDDR5 + UFS 3.1] ส่วนรุ่นโปร Xiaomi 13T Pro ใช้ชิปตัวท็อป Dimensity 9200+ [RAM LPDDR5x + UFS 4.0] เรื่องความเร็วในการใช้งานก็หายห่วง ทั้งคู่สามารถเล่นเกม, ใช้งานโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการทำงาน ตอบโจทย์การใช้งานหนักได้ทุกรูปแบบ
เรื่องความแรงของ Dimensity 9200+ นี่ผมได้ทำวิดีโอรีวิวเฉพาะความแรง รวมถึงผลทดสอบเกมของชิปเซ็ตตัวนี้เอาไว้แล้วครับ สามารถกดเข้าไปรับชมกันได้เลย
ในส่วนของหน้าจอแสดงผล ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอ Dot Display ขนาด 6.67 นิ้ว CrystalRes AMOLED ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล ให้สีสันที่ยอดเยี่ยม และยังรองรับการแสดงผล Dolby Vision และ HDR10+ รวมถึงรองรับ DRM Widevine L1 รับชม NetFlix ความละเอียดสูงกับคอนเทนต์ที่เป็น Dolby Vision ได้อีกด้วย
การใช้งานหน้าจอ ในลักษณะของการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน หน้าจอของทั้งสองรุ่นสามารถเร่งความสว่างได้สูงสุดถึง 2600 nits สูงเป็นอันดับต้น ๆ ในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน ทำให้การใช้งานกลางแจ้ง ในแดดจัด ๆ ไม่เป็นปัญหาแม้แต่น้อย หน้าจอสามารถสู้แสงได้สบาย ๆ ส่วนเรื่องการตอบสนองของหน้าจอก็ลื่นติดนิ้ว และแสดงผลได้อย่างลื่นไหล เพราะเป็นหน้าจอแบบ 144Hz
นอกจากหน้าจอจะยอดเยี่ยมแล้ว ด้านความบันเทิงอย่างลำโพงหลักของตัวเครื่อง Xiaomi 13T Series มาพร้อมกับลำโพงคู่สเตอริโอ รองรับระบบเสียง Doly Atmos สามารถปรับจูนเสียงได้ละเอียดในระดับหนึ่ง และที่สำคัญคือ Dolby Atmos ใน Xiaomi 13T Series ทำงานร่วมกับลำโพงหลักของตัวเครื่องได้เลย
สเปคด้านอื่น ๆ ของ Xiaomi 13T Series ก็จัดเต็มตามแบบฉบับของสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ทั้งตัวเครื่องที่กันน้ำกันฝุ่น IP68 หรือจะเป็นการเชื่อมต่อที่รองรับ 5G การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด และไฮไลต์อย่างการรองรับ Wi-Fi 7 มาตรฐานใหม่ล่าสุดของการเชื่อมต่อ Wi-Fi (เฉพาะ Xiaomi 13T Pro)
แบตเตอรี่อึดสะใจ ใช้งานได้ทั้งวัน และชาร์จไวแปบเดียวเต็ม
การเป็นสมาร์ตโฟนที่ดี นอกจากเรื่องสเปค และกล้องถ่ายภาพแล้ว ในด้านแบตเตอรี่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันครับ และแน่นอนว่า Xiaomi 13T และ Xiaomi 13T Pro ก็ให้แบตเตอรี่กับระบบชาร์จไฟที่จัดว่าเป็นระดับท็อปของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAhเท่ากัน จากที่ได้ทดสอบทั้งสองรุ่นก็ให้ระยะการใช้งานที่ยาวนานตลอดทั้งวัน แม้จะมีการเล่นเกมด้วยในระหว่างวันก็ตาม
ส่วนเรื่องการชาร์จไฟ จะมีความแตกต่างกันสำหรับรุ่น Pro กับรุ่นธรรมดา โดย Xiaomi 13T จะรองรับการชาร์จไว 67W สามารถชาร์จจาก 0 – 100% ใช้เวลาเพียง 42 นาที ส่วนในรุ่น Xiaomi 13T Pro จะรองรับชาร์จไว 120W ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% เต็มในเวลาเพียง 19 นาทีเท่านั้น
Xiaomi 13T Series – Best Camera Phone 2023
ภาพรวมสำหรับ Xiaomi 13T Series ในความเป็นสุดยอดสมาร์ตโฟนสายถ่ายภาพประจำปี 2023 จากการจัดอันดับของทีมงาน Specphone ด้วยเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่จัดเต็มทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่มีการปรับจูนจากทาง LEICA ให้ภาพถ่ายที่เป็นเอกลักษณ์ มีลูกเล่นแพรวพราว ทั้งโทนภาพแบบ LEICA Look, ฟิลเตอร์ LEICA และ Master-lens system สำหรับโหมด Portrait ส่วนระยะเลนส์ที่ให้มาในชุดกล้องก็ครอบคลุมการใช้งานได้เป็นอย่างดี
นอกจากเรื่องกล้องจัดเต็มแล้ว ในความเป็นสมาร์ตโฟนของ Xiaomi 13T Series ก็ให้สเปคมาแบบจัดเต็มไม่แพ้กัน ทั้งชิปเซ็ตระดับท็อป, หน้าจอสเปคสูงระดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน ไปจนถึงแบตเตอรี่และระบบชาร์จไว เลยทำให้ Xiaomi 13T Series ตอบโจทย์การใช้งานในด้านอื่น ๆ ได้ดีไม่แพ้การถ่ายภาพเลยครับ
สำหรับใครที่สนใจ Xiaomi 13T Series ทั้งสองรุ่นวางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Black และสีเขียว Meadow Green ที่จะใช้วัสดุฝาหลังเป็นแบบกระจก ส่วนสีฟ้า Alpine Blue จะเป็นวัสดุหนัง Vegan ให้ความหรูหราไปอีกแบบ โดยราคาของ Xiaomi 13T Series จะมีดังนี้ครับ
- Xiaomi 13T (12GB + 256GB) ราคา 15,990 บาท
- Xiaomi 13T Pro (12GB + 512GB) ราคา 19,990 บาท
- Xiaomi 13T Pro (16GB + 1TB) ราคา 23,990 บาท