สำหรับข้อมูลนี้ผมอ้างอิงมาจากบทความในเว็บไซต์ Whatphone.com ครับ เกี่ยวกับการเลือกซื้อมือถือ โดยผลสำรวจดังกล่าวมีที่มาจากระบบแบบสอบถามในแอพพลิเคชั่น “Doo ADs” (ดูแอด) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกี่ยวการรับชมโฆษณาและเก็บข้อมูลผู้บริโภค ได้ทำแบบสอบถามผู้ใช้งานเกี่ยวพฤติกรรมการใช้งานและเลือกซื้อ smartphone ของคนไทย ช่วงระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 9,970 คน ก็มีผลสรุปออกมาได้ดังนี้ครับ
การที่คนไทยจะซื้อมือถือสักเครื่อง สิ่งที่เน้นๆ เลย 5 อันดับก็ได้แก่
- สเปคเครื่องแรง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน (แบตอึด)
- หน้าจอใหญ่
- ถ่ายรูปสวย
- ออกแบบสวย
โดยคำจำกัดความของข้อที่ 1 สเปคเครื่องแรง ส่วนตัวผมมองว่าบางคนไม่ได้ต้องการมือถือสเปคที่แรงที่สุด แต่ต้องการมือถือที่มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 1 – 2 ปี ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลชุดที่ 2 เกี่ยวกับการเปลี่ยนมือถือของคนไทย ส่วนมากก็จะมีระยะเวลาอยู่ที่ 1 – 2 ปี และ 2 ปีเปลี่ยนเครื่องทีนึง เพราะฉะนั้นสเปคของมือถือที่ซื้อเลยต้องแรงหน่อย (ณ ตอนที่ซื้อเครื่องใหม่) เพื่อที่จะได้ใช้งานได้ 2 ปียังไงล่ะครับ อย่างคนที่เปลี่ยนมือถือในปี 2016 ก็น่าจะคาดหวังว่ามือถือที่ซื้อไป ควรจะใช้งานได้ดีไปจนถึงปี 2018 เป็นต้น
ถัดมาก็จะเป็นข้อมูลชุดที่ 3 เกี่ยวกับราคาของสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือที่คนไทยสนใจซื้อ ช่วงราคายอดนิยมคือมีราคาต่ำกว่า 12,000 บาท และจากการที่ผมเขียนบทความแนะนำมือถือมาหลายต่อหลายรุ่น อนุมานต่อไปได้อีกว่าน่าจะเป็นมือถือที่ราคาต่ำกว่า 10,000 บาทด้วยซ้ำไป เพราะเป็นช่วงราคาที่มีคนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เป็นราคาที่หลายคนรู้สึกว่าไม่แพงจนเกินไป แล้วก็ไม่ได้ถูกจนเกินไป ทำให้มีการคาดหวังสูงมากในช่วงราคานี้
แล้วมือถือสเปคแบบนี้ มีจริงๆ หรือ??
นั่นสิครับ มันจะมีมือถือที่ทำได้ขนาดนี้ขายอยู่จริงหรือ ทั้งจอใหญ่, แบตอึด, สเปคแรง, กล้องแจ่ม และดีไซน์สวย ที่สำคัญคือต้องราคาต่ำกว่า 10,000 บาทอีกต่างหาก แต่เชื่อหรือไม่ ว่าเราสามารถหามือถือแบบนี้ได้จริง และผมก็ได้ทำการรวบรวมมาให้เพื่อนๆ แล้ว น่าจะช่วยในการตัดสินใจซื้อมือถือใหม่ได้ครับ
ASUS Zenfone Max
แวบแรกที่ผมเห็นข้อมูลจากผลสำรวจชุดนี้ มือถือรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัวเลยครับ เพราะ ASUS Zenfone Max เป็นมือถือที่มีทุกอย่างที่ว่ามา เริ่มจาก
หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว ชัดเต็มตาด้วยความละเอียดระดับ HD แถมยังเป็นกระจกนิรภัย Gorilla Glass 4 ซะด้วย การที่เลือกใช้ความละเอียดหน้าจอที่ความละเอียดระดับ HD นอกจากจะเพียงพอที่จะทำให้หน้าจอของ ASUS Zenfone Max คมชัดในระยะใช้งานจริง ยังส่งผลต่อความเร็วของตัวเครื่องอีกด้วย
สเปคแรง คำว่าสเปคแรงในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแรงแบบคะแนนเทสทะลุหลอดนะครับ แต่ความแรงของ ASUS Zenfone Max เป็นความแรงแบบพอดีๆ ด้วยชิปเซ็ตตัวประหยัดพลังงาน Qualcomm Snapdragon 410 Quad Core ความเร็ว 1.2 GHz กับ Ram 2 GB นั้นเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโซเชียล, เล่นอินเทอร์เน็ต, หรือจะเล่นเกม ASUS Zenfone Max ก็ทำได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะหน้าจอความละเอียด HD ก็ไม่ได้กินทรัพยากรอะไรมากมาย แล้วเดี๋ยวนี้เกมในมือถือแอนดรอยหลายๆ เกมก็สามารถปรับความละเอียดของกราฟฟิคได้แล้ว และสเปคแบบนี้ น่าจะใช้งานได้ 1 – 2 ปี แบบสบายๆ อย่างน้อยก็ยืนยันจากทาง ASUS แล้วว่า ASUS Zenfone Max ได้ไปต่อที่ Android 6.0 Marshmallow อย่างแน่นอน
แบตอึด ต่อเนื่องจากสเปคด้านบน ที่ใช้ชิปเซ็ตรุ่นประหยัดพลังงาน Snapdragon 410 กับหน้าจอความละเอียด HD แต่ปัจจัยหลักที่ ASUS Zenfone Max สามารถใช้งานได้นานนั้นอยู่ที่แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000 mAh ที่บรรจุอยู่ในตัวเครื่องนี่แหละครับ จัดแบตเตอรี่มาให้เยอะพอๆ กับ Powerbank จากการทดสอบของทาง ASUS เอง ASUS Zenfone Max สามารถชมยูทูปแบบต่อเนื่องได้นานประมาณ 12 ชั่วโมง และจากการทดสอบของทีมงาน SpecPhone.com เราเฉลี่ยให้ที่ 2 วัน จะต้องทำการชาร์จไฟ ASUS Zenfone Max สักครั้งครับ นอกจากนี้ ASUS Zenfone Max ยังสามารถจ่ายไฟให้มือถือเครื่องอื่นผ่านสาย OTG ได้อีกด้วย เรียกว่าแบตอึดแล้วยังใจดีอีกนะเนี่ย
กล้องแจ่ม ASUS Zenfone Max จัดกล้องหลังที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มาพร้อมเทคโนโลยี PixelMaster ที่อัดพิกเซลขนาดใหญ่เข้าไว้ในเซนเซอร์กล้องถ่ายรูป ส่งผลให้ ASUS Zenfone Max ถ่ายรูปได้ดีทั้งในที่แสงปกติและในที่แสงน้อย หรือถ้าเป็นที่แสงน้อยจัดๆ ก็ยังมี Night Scene หรือโหมดนกฮูกมาให้ใช้งานเพิ่มอีก โหมดอื่นๆ ของกล้องหลังก็จัดเต็มมาไม่แพ้ ASUS Zenfone รุ่นอื่น และยังติดระบบ Laser Auto Focus ใส่มาช่วยในการโฟกัสอีกด้วย จากการที่ได้ลองเล่น ASUS Zenfone Max ก็พบว่ามือถือรุ่นนี้จับโฟกัสได้รวดเร็วสมกับที่ติด Laser Auto Focus มาจริงๆ แตะปุ๊บ โฟกัสปั๊บได้ดั่งใจนึก
ดีไซน์สวย คำว่าดีไซน์สวยสำหรับมือถือที่มีทั้ง 4 ข้อที่ว่ามาเนี่ย ส่วนตัวผมว่าหายากตั้งแต่แบตอึดแล้วล่ะครับ แต่การที่ ASUS Zenfone Max อัดแบตเตอรี่มาที่ 5000 mAh ก็ไม่ได้ทำให้มือถือรุ่นนี้มีดีไซน์ที่หนาเทอะทะเหมือนมือถือแบตเยอะๆ สมัยก่อน น้ำหนักตัวเครื่องก็ไม่ได้หนักจนเกินไป ฝาหลังมีดีไซน์แบบเครื่องหนัง ให้ความหรูหรา และสวยงาม จับถือได้ถนัดมือ
ท้ายที่สุดคือราคา ASUS Zenfone Max ทำราคาออกมาได้น่าประทับใจมากที่ 6,490 บาทเท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในงาน Thailand Mobile Expo 2016 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ASUS Zenfone Max จะเป็นมือถือที่มียอดขายสูงสุดในงาน ทำสถิติได้ที่ 1.25 เครื่องต่อนาที
มีรุ่นอื่นอีกไหม?
มีแน่นอนครับ สำหรับตัวเลือกอื่นๆ นอกจาก ASUS Zenfone Max สามารถกดที่รูป เพื่อเข้าไปดูสเปคได้เลยครับ