สวัสดีครับ กลับมาพบกับการรีวิวกันอีกแล้ว หากเราจะมาหูฟังเสียงดีมาฟังเพลงโปรดซักตัวหนึ่งแล้ว ความจริงก็คือราคาค่าตัวของมันต้องค่อนข้างที่จะสูงอย่างแน่นอน แต่มาในวันนี้ทีมงาน SpecPhone.com จะมารีวิว Headset ที่เป็นทั้งหูฟังเสียงดีพร้อมมีไมโครโฟน ในราคาที่ไม่แพง ในรุ่น Sennheiser MM 60 กัน โดยมีดีไซน์การออกแบบเป็นหูฟังแบบครอบหูขนาดเล็กที่พกพาได้สะดวก มีปุ่มควบคุมการเล่นในตัว พร้อมทั้งยังสามารถพับเก็บใส่กล่องได้หากไม่ใช้งาน
มาเริ่มดูที่แพคเกจกันก่อนโดยกล่องที่บรรจุมาเป็นลักษณะพลาสติกใส ที่ตัวกล่องมีรายละเอียดต่างๆ ของหูฟังรุ่นนี้อยู่อย่างชัดเจน
พร้อมมีข้อความว่าสามารถใช้งานได้กับ iPod / iPhone หรือเครื่องเล่น MP3 อื่นๆ ได้
แน่นอนว่ามันเป็น Headset จึงมีในส่วนไมโครโฟนที่เป็นรีโมทควบคุมมาด้วย ทำให้เราไม่ต้องหยิบ iPhone มาแนบหูเมื่อมีสายเข้ามา หรือขณะที่เราฟังเพลงก็สามารถสั่งหยุดหรือเล่นได้
ด้านหลังกล่องจะเป็นรายละเอียดอื่นๆ อย่าง ขนาดแจ็ค / น้ำหนัก / ความยาวของสาย / การรับประกัน / ช่วงคลื่นความถี่ของหูฟัง / ช่วงคลื่นความถี่ที่ไมโครโฟนรับได้
อีกทั้งยังมีวิธีการพับหูฟังมาให้ดูด้วย
เมื่อเราแกะกล่องออกมา จะพบกับตัวหูฟังที่อยู่ภายในกล่องเก็บ และสายต่อเพิ่มความยาวที่มีไมโครโฟนและรีโมทควบคุมในตัว
ซึ่งด้านหลังของกล่องจะมีวิธีพับเก็บเข้ากล่องอยู่ โดยเราสามารถทำตามได้ทันที
หน้าตาของหูฟังที่พับอยู่เมื่อถอดออกจากกล่องเก็บ
เมื่อเราทำการกางออกมาจะเห็นได้ว่า Sennheiser MM 60 มีรูปร่างที่ค่อนข้างบาง และมีน้ำหนักเบา โดยมีส่วนประกอบหลักเป็นพลาสติกสีดำคุณภาพดี? เมื่อใส่แล้วรู้สึกสบาย สายหูฟังที่ต่อออกมามีทั้งสองข้าง งานประกอบโดยรวมดูเรียบร้อย
สำหรับนวมหูฟังสีดำมีความหนานุ่มพอประมาณ ใส่แล้วรู้สึกสบายแต่ไม่เก็บเสียงเท่าที่ควร ทำให้มีเสียงรบกวนภายนอกเข้ามาได้
ส่วนต่อของโครงและข้อพับจะเป็นอะลูมิเนียมสีเงิน ที่จัดว่าแข็งแรงใช้ได้ จากการลองพับไปพับมา
ด้านบนสุดจะเป็นการสกรีนโลโก้ Sennhieser ลงไป ที่ดูแล้วสวยงามบ่งบอกถึงหูฟังสายพันธ์เยอรมัน
ถัดมาเป็นตัวปรับความกว้างระหว่างสาย 2 เส้น
แจ็คหูฟังจะเป็นทองเหลืองแบบ 2 เฟส คือ สัญญาณเส้นซ้ายและขวา
มาดูในส่วนของไมโครโฟนกันบ้าง จะเห็นเป็นช่องไมโครโฟนเพื่อรองรับการสนทนา และปุ่มรีโมทควบการเล่นเพลงและรับสาย ซึ่งวีธีการใช้ควบคุมการเล่นเพลง คือ เมื่อเรากดที่ปุ่ม 1 ครั้งจะเป็นการเล่นหรือหยุด / กด 2 ครั้งติดกันจะเป็นการ เลือกเล่นเพลงถัดไป / กด 3 ครั้งติดกันจะเป็นการเลือกเล่นเพลงก่อนหน้า
สำหรับช่องต่อเข้ากับหูฟังก็จะเป็นทองเหลือง พร้อมมีคลิปหนีบ เพื่อไว้เหน็บกับเสื้อหรือกางเกง
มาดูที่แจ็คของสายไมโครโฟนจะเป็นทองเหลืองแบบ 3 เฟส คือ สัญญาณเสียงซ้าย-ขวา และสัญญาณไมโครโฟน
รูปร่างหน้าตาเมื่อเรานำมาเชื่อมต่อ พร้อมที่จะใช้งานกัน
เมื่อเอา Sennheiser MM 60 เชื่อมต่อกับ iPhone แล้ว เราก็มาดูด้านเสียงกันหน่อย จากเท่าที่ฟังเรียกได้ว่าเสียงดีใช่ได้เหมือนกันหากเทียบกับราคา โดยเฉพาะเสียงเบสที่มีช่วงกว้างกว่าพูฟังแบบ Earbud ในราคาที่เท่ากัน (แต่ก็มีแตกเหมือนกันถ้าเจอเบสหนักๆ) ด้านของเสียงกลางและเสียงแหลมก็ทำได้ดีด้วยเสียงของเครื่องดนตรีต่างๆ และเสียงร้องมีความชัดเจน โดยรวมเหมาะสำหรับไว้ฟังเพลงแนวสบายๆ ซะมากกว่า
สำหรับด้านการใช้งานอื่นๆ อย่างการควบคุมผ่านรีโมท ก็สามารถทำได้เพียง เล่น / หยุด / ถัดไป / ย้อนกลับ ซึ่งไม่สามารถปรับระดับเสียงได้ ซึ่งหากเราต้องการปรับระดับเสียงต้องมาปรับที่ตัว iPhone หรือ iPod อย่างเดียว ทำให้ไม่ค่อยสะดวกนัก
ส่วนเวลาใช้งานจริงตัวรีโมทจะห้อยลงมาเล็กน้อย โดยแก้เรื่องนี้ได้ คือจับเหน็บเสื้อไปเสียเลย เรื่องการพับเก็บ Sennheiser MM 60 ยังคงทำได้ดี คือสามารถพับเก็บได้ในไม่กี่ขั้นตอนเรียกว่าจะหยิบใช้หรือพับเก็บก็รวดเร็ว แต่ในการเก็บใส่กล่องที่มีมาให้นั้นดูลำบากไปซักหน่อย แนะนำว่าหากใช้บ่อยๆ ก็ไม่ต้องเก็บเข้ากล่องก็ได้นะครับ
สุดท้ายกับการใช้งานด้านโทรศัพท์ ที่จากการทดสอบใช้งานจริงก็ให้เสียงสนทนาที่ชัดเจนในระดับหนึ่ง อีกทั้งเราสามารถกดรับสายได้ที่ปุ่มตรงรีโมททันที ทำให้เพิ่มความสะดวกได้พอประมาณ แต่ข้อสังเกตคือ เราไม่สามรถกดโทรออกจากการกดปุ่มตรงรีโมทได้ ซึ่งปุ่มนั้นทำหน้าที่ได้เพียงรับสายได้อย่างเดียว
สรุปการใช้งาน
หากใครที่กำลังหาก Headset ดีๆ พร้อมมีรีโมทควบคุมที่สายซักตัว มาใช้ทดแทนหูฟังเดิมๆ ของ iPhone ที่มีมาให้ โดยตรงการคุณภาพดี ราคาไม่แพงแล้วล่ะก็ลองดูเป็น Sennheiser MM 60 เชื่อได้เลยว่าเป็นหูฟังสำหรับ iPhone ตัวหนึ่งที่คุณภาพจัดได้ว่าคุ้มค่าต่อราคาแน่นอน ถ้ายังไม่เชื่อก็ต้องลองไปหาฟังด้วยตนเองซะแล้วนะครับ 🙂
จุดเด่น :
- ดีไซน์สวยงาม น้ำหนักเบา แต่แข็งแรง
- มีรีโมทควบคุมการเล่นเพลง
- คุณภาพของเสียงจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี
- ราคาไม่แพงเพียง 2,190 บาท
จุดสังเกต :
- ไม่เก็บเสียงเท่าที่ควร มีเสียงรบกวนภายนอกเข้ามาได้
- ไม่มีปุ่มปรับระดับเสียงที่รีโมท
- ไม่สามารถโทรออกได้ด้วยรีโมทที่สาย