ดูเหมือนว่าปุ่ม Camera Control หรือปุ่มควบคุมกล้อง ที่เป็นเหมือนฟีเจอร์มาตรฐานใน iPhone รุ่นใหม่ๆ กำลังจะได้รับการปรับปรุงดีไซน์อีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าจะตัดทิ้งออกไปเลย เพราะว่าในการใช้งานจริงมีหลายคนที่ยังไม่เห็นถึงประโยชน์จริงๆ ของปุ่มนี้ และดูท่าว่าจะต้องปรับเปลี่ยนไปจริงๆ ในรุ่น iPhone 18 รุ่นใหม่ในปี 2026 โดยมีข่าวลือใหม่ล่าสุดจากแหล่งข่าววงในอย่าง Instant Digital ที่บอกว่า Apple กำลังวางแผนที่จะทำให้ปุ่มมีความเรียบง่ายขึ้น เพื่อลดต้นทุน
ส่วนรุ่นล่าสุดที่มีขายตอนนี้คือ iPhone 17 Pro ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท Shopee/ Lazada และ iPhone 17 Pro Max ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท Shopee/ Lazada
Apple อาจเปลี่ยนปุ่ม Camera Control ใน iPhone 18
ตามรายงานระบุว่าปุ่ม Camera Control ที่ใช้ใน iPhone 16 และ iPhone 17 จะมีโครงสร้างที่ซับซ้อน โดยผสานการทำงานของเซ็นเซอร์ 2 แบบเข้าด้วยกัน คือเซ็นเซอร์แบบ Capacitive สำหรับตรวจจับการสัมผัสและท่าทางการปัด และเซ็นเซอร์แรงกด เพื่อรับรู้น้ำหนักการกดในระดับต่างๆ
แต่สำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวเป็นรุ่นถัดไป แหล่งข่าวอ้างว่า Apple จะทำการตัดเลเยอร์ของตัวเซ็นเซอร์ Capacitive ออกไป และจะคงเหลือไว้เแค่เซ็นเซอร์แรงกดเพียงอย่างเดียวในการทำหน้าที่ควบคุมฟังก์ชันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแตะเบาๆ การกดค้าง หรือแม้แต่การปัดเพื่อซูม ซึ่งแนวทางการใช้เซ็นเซอร์แรงกดเพียงตัวเดียวนี้ มีลักษณะคล้ายกับเทคโนโลยีที่ใช้ในมือถือฝั่ง Android บางรุ่น เช่น OPPO X8 Ultra และ vivo X200 Ultra
Instant Digital ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การปรับเปลี่ยนนี้ไม่ได้เป็นเพราะ Apple จะลดฟังก์ชันการใช้งานของปุ่ม แต่เป็นการประหยัดต้นทุนการผลิตเป็นหลัก เนื่องจากโซลูชันที่ใช้เซ็นเซอร์สองชั้นในปัจจุบันนั้นมีราคาสูงมาก และยังทำให้มีเกิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหลังการขายที่แพงตามไปด้วย
นอกจากนี้แหล่งข่าวยังกล่าวถึงอนาคตในรุ่นถัดๆ ไปอีกว่า Apple อาจนำวัสดุเซรามิกเพียโซอิเล็กทริกมาใช้เพื่อสร้างการตอบสนองแบบสั่น (Haptic Feedback) ที่สมจริงยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญไปสู่การเปลี่ยนปุ่มกดทั้งหมดบน iPhone ให้เป็นแบบ Solid-State (ปุ่มแบบสัมผัส) ในวาระครบรอบ 20 ปีของ iPhone ก็เป็นได้ ส่วนการเปิดตัวของ iPhone 18 Air, Pro, Pro Max และรุ่นพับได้จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2026 และรุ่นมาตรฐานอย่าง iPhone 18 และ iPhone 18e จะย้ายไปเปิดตัวในปี 2027 แทน
ที่มา: macrumors
