Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Android Platform»[Review] Xiaomi Mi Mix 3 มือถือจอสไลด์แบบ Full Screen พร้อมสเปคระดับท็อป
    Android Platform

    [Review] Xiaomi Mi Mix 3 มือถือจอสไลด์แบบ Full Screen พร้อมสเปคระดับท็อป

    ZeroSystemBy ZeroSystem12 กุมภาพันธ์ 2019Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    นับตั้งแต่ได้รับการเปิดตัวมา Xiaomi Mi Mix 3 ก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนจาก Xiaomi ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยการคงคอนเซ็ปท์มือถือจอเกือบเต็มเครื่องตามสไตล์ซีรีส์ Mix ซึ่งคราวนี้มาพร้อมการพัฒนายิ่งกว่าเดิมด้วยการซ่อนกล้องหน้าแบบ 100% แล้วเปลี่ยนมาใช้กลไกที่สามารถสไลด์หน้าจอเพื่อให้สามารถซ่อนกล้องหน้าเอาไว้ภายในได้นั่นเอง และนอกเหนือจากการสไลด์หน้าจอแล้ว สเปคภายในยังมาในระดับที่เรียกว่าจัดเต็มอีกด้วย ซึ่งในรีวิวนี้จะมาดูกันในทีละจุดเลยครับ ก่อนอื่นก็มาดูสเปคก่อนเลย

    Xiaomi Mi Mix 3

    สเปค Xiaomi Mi Mix 3

    • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 ความเร็วสูงสุด 2.8 GHz มี 8 คอร์ประมวลผล พร้อมชิปกราฟิก Adreno 630
    • แรม 6 GB
    • พื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB แบบ UFS 2.1 ไม่รองรับการเพิ่ม MicroSD
    • หน้าจอแบบ Full Screen พาเนล AMOLED ขนาด 6.39″ อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดระดับ FHD+ (2340 x 1080)
    • กลไกสไลด์หน้าจอด้วยระบบแม่เหล็ก
    • กล้องหลังคู่ พร้อมแฟลช LED ถ่ายวิดีโอสโลว์โมชันได้ถึงระดับ 960 fps
      • เลนส์ระยะปกติ 12 ล้านพิกเซล f/1.9 เซ็นเซอร์ Sony IMX363
      • เลนส์เทเล 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung S5K3M3
    • กล้องหน้าคู่ พร้อมแฟลช LED
      • เลนส์ปกติ 24 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX576
      • เลนส์สำหรับช่วยวัดระยะ 2 ล้านพิกเซล
    • รองรับ 4G LTE และ VoLTE พร้อมกันทั้ง 2 ซิม และรองรับการทำ 3CA ที่ซิมหลัก
    • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง
    • แบตเตอรี่ความจุ 3200 mAh
    • รองรับการเชื่อมต่อทาง USB-C และสามารถชาร์จเร็วได้ถึงตามมาตรฐาน Quick Charge 4.0+
    • รองรับการชาร์จไร้สาย 10W (แถมแท่นชาร์จในกล่อง)
    • ราคาศูนย์ไทย 18,999 บาท

    สเปคโดยรวมของ Xiaomi Mi Mix 3 ก็ยังคงอัดแน่นไปด้วยฮาร์ดแวร์ระดับท็อป ฟีเจอร์ในระดับเรือธง แถมยังนำเทรนด์ด้วยการใช้หน้าจอแบบสไลด์ที่ทำให้จอไม่มีติ่ง ไม่มีหยดน้ำ ไม่มีเจาะรูอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในเครื่องราคาไม่ถึง 20,000 บาท นับว่าเป็นมือถือรุ่นท็อปที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งในช่วงนี้เลยก็ว่าได้

     

    ดีไซน์ หน้าตาของ Xiaomi Mi Mix 3

    สิ่งที่เป็นจุดเด่นก็คงหนีไม่พ้นหน้าจอที่รอบนี้มาในแบบเกือบเต็มเครื่อง ไม่มีติ่ง หยดน้ำ หรือรูกล้องหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนกรอบด้านล่างจอหรือที่เรียกว่าคางนั้น ก็บางลงกว่า Mi Mix 2S ด้วย แต่อย่างไรก็ยังหนากว่าขอบจอด้านบนอยู่เล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องของเทคโนโลยีในการผลิตครับ

    หน้าจอเลือกใช้พาเนล AMOLED ที่สามารถแสดงผลได้ดีในแทบทุกสภาพแสง ลองเอียงจอดูแล้วก็ไม่พบอาการจอเหลือบสีน้ำเงิน (blue tint) มุมมองภาพกว้าง ส่วนสีสันก็ไม่จัดจ้านมากนักครับ ถ้าไปเทียบกับมือถือรุ่นอื่นที่ใช้พาเนล AMOLED เหมือนกัน ก็อาจจะทำให้รู้สึกว่าภาพของ Mi Mix 3 ดูสีซีดไปหน่อย แต่โดยรวม ๆ แล้วผมรู้สึกว่ามันสบายตากว่า ใช้งานได้นานแบบไม่ค่อยล้าสายตาเท่าไหร่

    ส่วนปุ่มสั่งงาน 3 ปุ่มด้านล่างนั้น ที่จริงยังมีให้ใชอยู่ครับ แต่ในเมนูก็มีหัวข้อให้ซ่อนทั้ง 3 ปุ่มไป แล้วใช้การสั่งงานด้วยการปัดหน้าจอแทนได้ ตัวอย่างของรูปแบบการปัดหน้าจอก็เช่น ปัดที่ขอบจอเข้ามาเพื่อแทนปุ่ม back ปัดจากขอบล่างขึ้นบนเพื่อแทนปุ่มโฮม ปัดจากขอบล่างขึ้นมาแล้วจิ้มนิ้วค้างไว้ เพื่อแทนปุ่ม recent app เป็นต้น

    ส่วนการสไลด์หน้าจอเพื่อใช้งานกล้องหน้า ก็ให้กดจอแล้วเลื่อนลงมา ซึ่งกลไกการสไลด์หน้าจอแบบแม่เหล็กนั้นถือว่าทำออกมาได้ดี เพราะทำให้การล็อกตำแหน่งจอและการเลื่อนดูมีความแข็งแรงดีมาก แม้ในตอนที่ใช้แรก ๆ อาจจะดูฝืดไปเล็กน้อย แต่พอใช้งานไปซักพักก็จะจับจุดได้ครับว่าควรเลื่อนอย่างไร แนะนำว่าให้กดนิ้วหัวแม่มือลงไปที่กลางจอ จากนั้นดันนิ้วกดลงไปเล็กน้อย แล้วเลื่อนจอลงมาเลย

    เมื่อสไลด์ลงมาแล้ว ก็จะพบกับแผงกระจกที่บรรจุกล้องหน้าที่วางคู่กันทางฝั่งซ้าย ลำโพง และไฟแฟลช LED ทางฝั่งขวา โดยมีขอบเครื่องนูนอยู่โดยรอบเพื่อเป็นการปกป้องแผงกระจกด้านในไปด้วยในตัว

    ส่วนเซ็นเซอร์วัดแสงสว่าง เซ็นเซอร์วัดระยะห่างนั้นจะถูกวางไว้ที่ขอบจอด้านบนเลยครับ ถ้าอิงตามตำแหน่งในภาพด้านบนก็คืออยู่แถว ๆ ไอคอนรูปกระดิ่งกับไอคอนรูปแบตเตอรี่

    ขอบจอด้านล่างจะมีความหนากว่าขอบด้านอื่นเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบแล้วก็ถือว่าบางกว่า Mi Mix 2S อย่างเห็นได้ชัดเหมือนกัน

    พลิกมาด้านหลังก็จะเป็นฝาหลังแบบเซรามิกที่มีความแวววาว และสวยงามแบบดูมีคลาสมาก ตัดด้วยโลโก้ MIX BY XIAOMI สีทองที่ยอมรับเลยว่าทำออกมาได้ดูดีจริง ๆ ขอบของฝาหลังแต่ละด้านจะโค้งตัดเข้าไปหาขอบเครื่องอลูมิเนียมได้แบบพอดี ทำให้เวลาจับแล้วไม่บาดมือ จะติดก็ที่น้ำหนักตัวเครื่องที่เริ่มต้นก็ 218 กรัมเข้าไปแล้ว

    ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็อยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับปลายนิ้ว ถัดขึ้นไปก็เป็นแถบกล้องหลังคู่ที่นูนขึ้นมาจากฝาหลัง พร้อมกับไฟแฟลช LED ที่อยู่ตรงกลาง

    ส่วนด้านข้างเครื่องก็มีพอร์ตและปุ่มต่าง ๆ ดังนี้

    • ด้านบน: ช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน
    • ด้านล่าง: ช่องรับเสียงของไมค์สนทนา ลำโพงและ USB-C
    • ด้านซ้าย: ถาดใส่ซิมคู่ และปุ่มสำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant
    • ด้านขวา: ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่ม Power

     

    ซอฟต์แวร์ของ Xiaomi Mi Mix 3

    Xiaomi Mi Mix 3 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ที่ครอบมาด้วย MIUI 10.0 Global ที่พร้อมใช้งานได้ตั้งแต่แกะกล่อง รวมถึงยังมีแอปจาก Google มาอย่างครบถ้วน และสามารถใช้งานภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์ด้วย

    พื้นที่เก็บข้อมูลตามสเปคคือ 128 GB เมื่อเปิดมาครั้งแรกก็จะเหลือให้ใช้อีกประมาณ 117 GB ส่วนแรมนั้นหายห่วงเลยครับ เปิดแอปเยอะขนาดไหนก็รับมือได้สบาย เพราะ Mi Mix 3 มาพร้อมแรมถึง 6 GB เลยทีเดียว

    ด้านของการเชื่อมต่อเครือข่าย Mi Mix 3 ก็รองรับการสแตนด์บาย 4G และรองรับ VoLTE พร้อมกันทั้งสองซิม โดยจะมีเฉพาะซิมหลักเท่านั้นที่รองรับการเชื่อมต่อได้สูงสุดที่ระดับ 3CA

     

    ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Xiaomi Mi Mix 3

    ฟีเจอร์เด่นหลัก ๆ เลยก็คือการสไลด์หน้าจอเพื่อเปิดใช้งานกล้องหน้า รวมถึงยังใช้ในการปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้า และยังสามารถสไลด์หน้าจอลงมาเพื่อรับสายโทรศัพท์ได้อีกด้วย เท่ห์ฝุด ๆ

    ซึ่งในเมนูการตั้งค่าจะมีให้ผู้ใช้เลือกได้ว่า จะให้การสไลด์หน้าจอเป็นตัวแทนของช็อตคัตใด โดยค่าเริ่มต้นก็คือจะให้เป็นการเปิดแอปกล้องเพื่อเตรียมสำหรับถ่ายเซลฟี่ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนหน้าจอลงมาเพื่อถ่ายเซลฟี่ได้ทันที จะเลือกให้เปิดแอปอื่นแทนก็ได้ เช่นอาจจะให้เลื่อนหน้าจอลงเพื่อเปิด Line หรือจะปิดช็อตคัตนี้ไปเลยก็ได้เช่นกัน

    อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ไม่มีช่องเสียบแจ็คหูฟังแบบ 3.5 มม. ทำให้ถ้าหากต้องการใช้หูฟังแบบมีสาย ก็แทบหนีไม่พ้นว่าจะต้องใช้สายแปลงจาก USB-C เป็น 3.5 มม. ซึ่งอาจกระทบกับการสไลด์หน้าจอได้เหมือนกัน หากตัวสายแปลงหรือหัวของสายชาร์จหนาจนเกินไป ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถสไลด์จอลงมาเพื่อใช้กล้องหน้า หรือสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกจอได้เลย ส่วนถ้าใช้สายที่แถมมาในกล่องก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ

    ส่วนการชาร์จแบบไร้สายรองรับการชาร์จตามมาตรฐาน Qi โดยสามารถใช้แท่นชาร์จที่แถมมาในกล่องได้เลย ตัวแท่นก็จะเป็นแผ่นกลม ๆ แบน ๆ ครอบผิวด้านนอกด้วยวัสดุแบบซอฟต์ทัช ส่วนช่องเสียบสายชาร์จก็จะเป็นหัวแบบ USB-C

    ด้านของอะแดปเตอร์ชาร์จไฟก็สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดได้ 3 ค่าคือ 5V 2.5A / 9V 2A และ 12V 1.5A

     

    ประสิทธิภาพและการเล่นเกมบน Xiaomi Mi Mix 3

    ในแง่ของประสิทธิภาพ ความแรง และผลการทดสอบด้วยแอปต่าง ๆ นั้น คงไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ เพราะมาพร้อมสเปคระดับท็อปทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล Snapdragon 845 แรม 6 GB พื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 2.1 ความเร็วสูง ทำให้คะแนนผลการทดสอบที่ออกมานั้นเกาะกับกลุ่มมือถือระดับท็อปได้แบบไม่มีปัญหา ส่วนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 4G ในไทย เท่าที่ผมทดสอบด้วยเครือข่ายสีแดงก็ได้ความเร็วทะลุเกิน 100 Mbps ได้สบาย (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ใช้งานด้วย)

    ในการใช้งานทั่วไป ผมไม่พบปัญหาอะไรครับ ทั้งไหลลื่น รวดเร็ว และสามารถเปิดแอปทิ้งไว้ได้แบบแทบไม่ต้องเคลียร์แอปทิ้งเลย

    ผมลองทดสอบด้วยการเล่นเกม PUBG Mobile เมื่อเปิดเครื่องมาครั้งแรก ตัวเกมก็ปรับกราฟิกให้เป็นระดับ High มาตั้งแต่แรกเลย ส่วนในเมนู Graphics ผมก็ลองปรับภาพขึ้นไปเป็นระดับ HDR และเลือกเฟรมเรตในระดับ Ultra ก็สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นแบบไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด ดังนั้น เกมอื่น ๆ ก็เล่นได้สบายเลย

    ส่วนการใช้งานแบตเตอรี่นั้น ถ้าเป็นรูปแบบการใช้งานทั่วไปในระหว่างวัน ไม่ได้เล่นเกมติดต่อกันนาน ๆ ก็สามารถใช้จนหมดวันได้ครับ นอกจากนี้ผมลองปล่อยบอทในเกม Ragnarok Mobile จากแบตเต็มจนเหลือแบต 5% ก็สามารถปล่อยได้ราว ๆ 5 ชั่วโมง 45 นาที

    สำหรับการชาร์จแบตผมลองทดสอบทั้งการชาร์จผ่านสายด้วยอะแดปเตอร์ที่ให้มาในกล่อง และก็ชาร์จแบบไร้สายด้วยชุดชาร์จจากในกล่องด้วยเช่นกัน ได้ข้อสรุปคร่าว ๆ คือ

    • ชาร์จด้วยสาย: เริ่มชาร์จจาก 6% ไปจนถึง 98% ใช้เวลา 80 นาที
    • ชาร์จไร้สาย: เริ่มชาร์จจาก 9% ไปจนถึง 89% ใช้เวลา 118 นาที

    ดังนั้น ถ้าหากต้องการรีบชาร์จด่วน ๆ แนะนำว่าเสียบชาร์จด้วยสายโดยใช้อะแดปเตอร์และสายที่รองรับ Quick Charge 3.0 ขึ้นไปจะดีที่สุดครับ

     

    กล้องถ่ายรูปของ Xiaomi Mi Mix 3

    ในช่วงปีที่ผ่านมา Xiaomi เองได้พัฒนาเรื่องกล้องในสมาร์ทโฟนของตนเองขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ขึ้นมาแข่งกับมือถือจากแบรนด์อื่นได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งกล้องใน Mi Mix 3 ก็ถือว่าทำออกมาได้สมเป็นมือถือระดับเรือธงอีกรุ่นของ Xiaomi เลยทีเดียว

    อย่างในแง่ของฟีเจอร์ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่น่าสนใจก็เช่น ความสามารถในการเบลอฉากหลังแบบเรียลไทม์ได้ตั้งแต่ตอนพรีวิวก่อนถ่าย พลังประมวลผลภาพจาก AI โหมดการถ่ายภาพที่มีให้เลือกทั้งโหมดออโต้ โหมด portrait โหมดกลางคืน รวมถึงยังสามารถถ่ายด้วยโหมด manual ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้เองตามต้องการ รวมถึงยังสามารถสั่งให้ถ่ายภาพจากเลนส์เทเลในตัวโดยตรงได้อีกต่างหาก (กดซูมภาพที่ 2x ก็ทำได้เหมือนกัน)

    นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอสโลว๋โมชันได้ถึงระดับ 960 fps ซึ่งเท่าที่ผมทดสอบดูก็สามารถใช้งานได้ไม่ยากนัก ส่วนไฟล์ที่ออกมาจะถูก export เป็นวิดีโอ 30 fps ที่มีการทำภาพสโลว์มาให้เรียบร้อยแล้วครับ ต่างจากการถ่ายที่เฟรมเรต 120 และ 240 fps ที่ได้เฟรมเรตของวิดีโอออกมาเป็น 120 หรือ 240 fps ตามที่ถ่ายจริง

    ภาพคู่ด้านบนนี้ก็เป็นตัวอย่างภาพที่ได้จากกล้องหลังทั้งสองตัว โดยภาพซ้ายคือภาพที่ได้จากเลนส์ปกติ ส่วนภาพขวาคือภาพที่ได้จากเลนส์เทเลครับ ซึ่งจากที่ผมลองทดสอบจากหลาย ๆ สถานการณ์มา พบว่าภาพจากเลนส์เทเลจะมีคุณภาพที่น้อยกว่าภาพจากเลนส์หลักเล็กน้อย เช่น การโฟกัสที่ไม่คมเท่า รวมถึงมี noise มากกว่ากันนิดนึง ซึ่งก็ไม่แปลกนัก เพราะตัวเลนส์เทเลถูกออกแบบมาเพื่อเสริมการทำงานให้กับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ การถ่าย portrait ซะมากกว่า

    ส่วนชุดภาพด้านบนนี้ ภาพทางฝั่งซ้ายคือภาพที่ได้จากโหมด auto ส่วนภาพทางขวานั้นเป็นภาพจากโหมดกลางคืนครับ จะเห็นว่าสีสัน ความสว่างและความคมชัดมีความแตกต่างกันแบบสังเกตได้ ซึ่งเท่าที่ผมเทียบค่าของความเร็วชัตเตอร์และ ISO ที่ทั้งสองโหมดเลือกใช้ พบว่าภาพจากโหมดถ่ายกลางคืน มักจะมีค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ช้ากว่าเล็กน้อย เช่น 1/25 จากที่ภาพในโหมด auto เลือกใช้ที่ 1/33 วินาที รวมถึงค่า ISO ที่มักจะเลือกใช้ค่าที่สูงกว่า เพื่อการเก็บแสงที่ดีขึ้นด้วย

    แต่ในการใช้งานจริง เมื่อเลือกถ่ายด้วยโหมดถ่ายกลางคืน ตัวกล้องจะใช้ระยะเวลาในการเก็บภาพที่นานกว่า เรียกว่านานเป็นหลักวินาทีเลยก็ได้ ดังนั้นจึงเดาได้ว่าตัวกล้องน่าจะใช้หลักการแบบ HDR ในการประมวลผลภาพ นั่นคืออาศัยถ่ายหลายภาพที่มีการตั้งค่าเพื่อรับแสงที่แตกต่างกัน แล้วประมวลผลรวมเป็นภาพเดียว

    ส่วนตัวอย่างภาพถ่ายอื่น ๆ จากกล้อง สามารถรับชมได้จากแกลเลอรี่ด้านล่างนี้ครับ

     

     

























    Overall

    Xiaomi Mi Mix 3 นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนสเปคระดับท็อปในราคาที่น่าสนใจ พร้อมด้วยฟังก์ชันล้ำ ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ Full Screen ที่คิดเป็นพื้นที่กว่า 93.4% ของตัวเครื่อง ซึ่งสามารถสไลด์ลงเพื่อใช้งานกล้องหน้าและรับสายได้แบบไม่เหมือนใคร ส่วนกล้องถ่ายรูปก็เป็นอีกส่วนที่ต้องบอกเลยว่า Xiaomi พัฒนาขึ้นมาจนอยู่ในระดับที่ไว้ใจได้ในหลาย ๆ สถานการณ์ ซึ่งถ้าคุณอยากได้มือถือในลักษณะนี้ Xiaomi Mi Mix 3 คืออีกหนึ่งเครื่องที่ผมอยากให้คุณลองสัมผัสครับ
    Review Xiaomi Xiaomi Mi Mix 3
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    รวมโทรศัพท์ OPPO ใหม่ล่าสุดทุกรุ่นปี 2025 มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้างช่วงกลางปีนี้

    22 พฤษภาคม 2025

    ผล AnTuTu ชิป XRing O1 ใน Xiaomi 15S Pro มาแล้ว เฉือน SD8 Elite

    22 พฤษภาคม 2025

    สเปค Infinix GT 30 Pro มือถือเกมมิ่งพร้อมชิป Dimensity 8350 Ultimate ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,990 บาท

    21 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    รวมโทรศัพท์ OPPO ใหม่ล่าสุดทุกรุ่นปี 2025 มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้างช่วงกลางปีนี้

    22 พฤษภาคม 2025

    รวมโปรย้ายค่าย AIS ย้ายค่ายเบอร์เดิม AIS ปี 2568 เน็ตไม่ลดสปีด และเน็ตเต็มสปีดคุ้มๆ แบบรายเดือนเริ่มต้น 399 บาท

    22 พฤษภาคม 2025

    Q1’25 ตลาดหูฟังไร้สายยังโตต่อเนื่อง AirPods ยังครองเบอร์ 1 ส่วนแบ่งตลาด

    22 พฤษภาคม 2025

    ผล AnTuTu ชิป XRing O1 ใน Xiaomi 15S Pro มาแล้ว เฉือน SD8 Elite

    22 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X