Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Android Platform»[Review] รีวิว Xiaomi Mi 8 Pro ฝาหลังโปร่งใส กล้องดี สแกนนิ้วบนจอ สเปคเทพ ในราคาสองหมื่นมีทอน !!
    Android Platform

    [Review] รีวิว Xiaomi Mi 8 Pro ฝาหลังโปร่งใส กล้องดี สแกนนิ้วบนจอ สเปคเทพ ในราคาสองหมื่นมีทอน !!

    SpecPhone HQBy SpecPhone HQ18 ธันวาคม 2018Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    หลังจากที่ Xiaomi ได้วางขาย Xiaomi Mi 8 เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่จัดเต็มให้กับสเปค และมีราคาที่เป็นมิตรภาพ ทำให้ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี ล่าสุด Xiaomi ได้นำรุ่นพิเศษของซีรี่ส์ Mi 8 ที่หลายคนรอคอยกันนั่นก็คือ Xiaomi Mi 8 Pro รุ่นอัพเกรดสเปคให้ดีขึ้นไปอีก ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อย ในราคา 19,990 บาท โดยมีสเปคที่สูงกว่า Xiaomi Mi 8 รายละเอียดตัวเครื่องจะเป็นอย่างไรไปดู รีวิว Xiaomi Mi 8 Pro ได้เลยครับ

    รีวิว Xiaomi Mi 8 Pro

    รายละเอียดสเปค Xiaomi Mi 8 Pro

    • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.21 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2248 พิกเซล อัตราส่วน 18.7 : 9
    • ขนาดตัวเครื่อง 154.9 x 74.8 x 7.6 มม. หนัก 175 กรัม
    • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 CPU Octa-core (4×2.8 GHz Kryo 385 Gold & 4×1.8 GHz Kryo 385 Silver)
    • แรม 8 GB
    • หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128 GB ไม่รองรับ micro SD
    • กล้องหลัง Dual Camera พร้อมกับเทคโนโลยี AI ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเลนส์ Sony IMX363 รูรับแสงกว้างสุด f/1.8
    • กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
    • เซ็นเซอร์สแกนนิ้วบนหน้าจอ และเซ็นเซอร์สแกนหน้าอินฟาเรด
    • รองรับ Dual SIM
    • พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
    • แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh
    • ระบบปฏิบัติการ Android Oreo 8.1
    • ราคา 19,990 บาท

    จุดเด่นด้านดีไซน์ของ Xiaomi Mi 8 Pro คือมาพร้อมดีไซน์สีไทเทเนียมโปร่งใสสะดุดทุกสายตา ใครกังวลว่าต้องใส่เคสเหมือนเดิม หายห่วงไปได้เลย เพราะในกล่องเคสใสมาให้ ซึ่งแนะนำให้ใส่เคสเพราะฝาหลังเป็นกระจกใน อาจจะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย

    สำหรับการออกแบบตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.21 นิ้วความละเอียด Full HD+ เป็นจอ Super AMOLED ที่มีจุดเด่นสีสันสดใส และสีดำที่มืดสนิท พร้อมรองรับ HDR10 อีกด้วย ครอบด้วยกระจกกันรอยขีดข่วน Corning Gorilla Glass 5 มีรอยบากขนาดใหญ่พอสมควร อยู่ด้านบนของตัวเครื่อง

    บริเวณรอยบากจะประกอบไปด้วยกล้องหน้า และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ พร้อมกับฟีเจอร์สแกนหน้าแบบอินฟาเรด ทำให้รอยบากมีขนาดใหญ่กว่าปกติ

    ส่วนพื้นที่ด้านล่างจะมีขอบเครื่องหนาเล็กน้อย โดยปุ่ม Navigation จะอยู่ด้านในของเครื่อง

    ส่วนด้านหลังเป็นแม่พิมพ์ 3D พิมพ์เข้ามาให้เป็นเหมือนฮาร์ดแวร์แผงวงจรตัวเครื่องที่ดูดีมาก ๆ ครอบด้วยกระจก โดยมีชื่อสีว่า Transparent Titanium

    ตำแหน่งของกล้องจะอยู่บนซ้าย โดยมากับกล้องหลัง Dual Camera แนวตั้งเป็นรูปวงรีพร้อมกับ LED Flash ในกรอบ และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสีตามตัวเครื่องที่เล่นขอบโครเมี่ยม

    ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C  ลำโพงขับเสียง ไมค์สนทนา ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ใช้ช่องเดียวกันกับที่ชาร์ต แต่มีตัวแปลงเป็น 3.5 มม. มาให้ในกล่อง

    ด้านซ้ายจะมีเฉพาะถาดใส่ซิมแบบเข็มจิ้ม ซึ่งรองรับ Dual SIM แต่ไม่สามารถใส่ microSD เพิ่มความจุได้

    ด้านขวาตัวเครื่องจะเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่ม Power ซึ่งจะมีการเล่นสีแดงบริเวณปุ่ม Power  ขอบเครื่องใช้โลหะ Aluminum frame (7000 series) ที่แข็งแรงเป็นพิเศษที่ใช้เป็นขอบของตัวเครื่องให้ทั้งความแข็งแรง และความสวยงาม

    ในส่วนของซอฟต์แวร์ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 พร้อมกับ MIUI 10 เวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมใช้ชิปประมวลผลระดับท็อป Snapdragon 845 ที่มีประสิทธิภาพแรงที่สุด บวกกับแรมขนาด 8 GB ไว้ให้ใช้กันแบบเหลือ ๆ ซึ่งแรมเยอะขนาดนี้ทำให้การใช้งานสลับไปมาทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องโหลดใหม่ ถึงแม้จะเป็นเกมใหญ่ ๆ อย่าง Asphalt 9 หรือ Ragnarok ก็สลับไปมาได้ในทันที

    สำหรับฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามานั้น มาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้เลย และมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Face ID สแกนหน้าแบบสามมิติ ถือเป็นนวัตกรรมรักษาความปลอดภัยสูงสุดแล้วบนสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน

    สำหรับรุ่น Xiaomi Mi 8 Pro นั้นมาพร้อมกับแรมขนาด 8 GB ให้ใช้กันแบบเหลือ ๆ เรียกได้ว่าเยอะแบบเหลือ ๆ ในปัจจุบัน ในส่วนของรอมนั้นก็จัดมาให้ถึง 128 GB โดยมีการใช้งานในส่วนของระบบปฏิบัติการอยู่ที่ประมาณ 9 GB ดังนั้นจะมีพื้นที่ให้ใช้ประมาณ 119 GB เลยทีเดียว

     

    ในส่วนของประสิทธิภาพนั้น มากับชิปประมวลผล Qualcomm SDM845 Snapdragon 845 CPU Octa-core (4×2.7 GHz Kryo 385 Gold & 4×1.7 GHz Kryo 385 Silver) พร้อมกับชิปประมวลผลกราฟิกสุดแรง Adreno 630 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลรุ่นท็อปของค่ายที่สามารถเล่นได้ทุกเกมแบบลื่น ๆ และแรมสำหรับรุ่นนี้มีไว้ใช้งานกันแบบเหลือเฟือที่ 8 GB ส่วนรอมอยู่ที่ 128 GB ไว้ใช้กันแบบยาว ๆ ดังนั้นในเรื่อง Performance หายห่วงไปได้เลย แต่จะมีข้อสังเกตเล็กน้อย คือ Xiaomi Mi 8 Pro จะไม่สามารถใส่ microSD เพิ่มได้

    Camera

    ส่วนเรื่องของกล้องนั้นก็เหมือนกับ Xiaomi Mi 8 เลย เป็นเลนส์ตัวเดียวกัน ความละเอียดเดียวกัน รูรับแสงเดียวกัน และเป็นเวอร์ชั่นของกล้องที่เวอร์ชั่น 3.0 เหมือนกัน โดยได้คะแนนภาพนิ่งจาก DXOMark เว็บไซต์เชี่ยวชาญในเรื่องของกล้องมากถึง 105 คะแนน !! และมีคะแนนรวม(วิดีโอ)อยู่ที่ 99 คะแนน ซึ่งมากกว่า iPhone X และมีคะแนนเท่ากับ Samsung Galaxy S9+ โดยรายละเอียดกล้องของ Xiaomi Mi 8 มากับกล้องหลัง Dual Camera แบบ Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทัั้งสองเลนส์ รูรับแสงกว้างสุด f/1.8 พร้อมกับฟีเจอร์กันสั่น OIS แบบ 4-Axis พร้อมรองรับ Optical Zoom 2x

    เมื่อถ่ายรูปหน้า AI ก็จะเปลี่ยนก็จะเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม (ไอคอนตรงกลางด้านบน) อย่างเช่นภาพด้านล่าง ที่ถ่ายดอกไม้ โลโก้ก็จะเปลี่ยนเป็นรูปดอกไม้ และเร่งแสงสีให้สวยงามตามโหมดภาพนั้น ๆ

    ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง

    ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า

    สรุป

    Xiaomi Mi 8 Pro นั้นถือเป็นรุ่นอัพเกรดสเปคจาก Xiaomi Mi 8 เพิ่มคุณสมบัติสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ In-Screen Fingerprint Sensor และเซ็นเซอร์สแกนหน้าแบบ IR Face Unlock ที่สามารถปลดล็อคใบหน้าได้ทุกสภาพแสงด้วยเซ็นเซอร์แบบอินฟาเรดซึ่งถือเป็นคุณสมบัติปลดล็อคหน้าจอที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมากับฝาหลังพิเศษ Transparent Titanium เป็นการพิมพ์แบบ 3D ขึ้นมาให้เป็นฝาหลังเปลือย ๆ ที่ดูสปอร์ตไปอีกแบบ เพิ่มแรมเป็น 8 GB ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มเงินแค่ 2,000 บาทเท่านั้น จาก Xiaomi Mi 8 ถือเป็นการเพิ่มเงินที่คุ้มค่ามาก จากการใช้งานในหลาย ๆ ด้านก็เป็นที่ประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกล้อง หรือความลื่นไหลของซอฟต์แวร์ สเปคที่จัดเต็ม ในราคา 19,990 บาท ถือว่าถูกคุ้มมาก กับสมาร์ทโฟนที่มีครบทุกการใช้งาน

    ข้อดี

    • ดีไซน์เท่ด้วนฝาหลังโปร่งใส เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
    • สเปคจัดเต็มสุด ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่ง
    • เพิ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และเซ็นเซอร์สแกนใบหน้า
    • กล้องหน้า กล้องหลังคุณภาพดีเกินราคา
    • ซอฟต์แวร์ MIUI 10 ทำงานได้ลื่นมาก

    ข้อสังเกต

    • เพิ่ม microSD ไม่ได้
    • ฝาหลังเป็นกระจกอาจจะต้องใช้งานระวังรอยขีดข่วน
    • แบตเตอรี่หมดไวกว่า Mi 8

    Gallery

    Xiaomi
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    SpecPhone HQ

    Related Posts

    วิธียกเลิกบริการเสริม AIS ที่เสียเงิน ยกเลิกข้อความเสียเงินจาก AIS ทำยังไง อัพเดท 2568

    13 พฤษภาคม 2025

    วิธียกเลิกแอพเสียเงิน iOS/ Android ยกเลิกสมัครแอพต่างๆ ทั้งหมดทำยังไงบ้างแบบง่ายๆ ปี 2025

    13 พฤษภาคม 2025

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    Google เปิดตัวฟังก์ชันใหม่ใน Android 16 ช่วยกันมิจขณะคุยโทรศัพท์

    14 พฤษภาคม 2025

    ซีอีโอเผยราคา Nothing Phone (3) ล่วงหน้า พร้อมเทียบชนกลุ่มเรือธงเต็มตัว

    14 พฤษภาคม 2025

    วิธียกเลิกบริการเสริม AIS ที่เสียเงิน ยกเลิกข้อความเสียเงินจาก AIS ทำยังไง อัพเดท 2568

    13 พฤษภาคม 2025

    วิธียกเลิกแอพเสียเงิน iOS/ Android ยกเลิกสมัครแอพต่างๆ ทั้งหมดทำยังไงบ้างแบบง่ายๆ ปี 2025

    13 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X