หนึ่งในอุปกรณ์เสริมจำเป็นของสมาร์ทโฟนก็คงหนีไม่พ้นเคส ไม่ว่าจะใส่ด้วยเหตุผลใดก็ตาม เรื่องความสวยงาม, ความสะดวกในการใช้งาน และการปกป้องตัวเครื่องจากความเสียหายต่าง ๆ ทั้งรอยขนแมว รวมถึงรอยหนัก ๆ จากการหล่น หรือการกระแทก แต่ปัญหาของเคสสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่คือ เคสสวย ๆ มักจะไม่กันกระแทก ส่วนเคสกันกระแทกก็ไม่สวย แถมยังหนา และหนักจนเกินไป เมื่อรวมกับน้ำหนักของสมาร์ทโฟนอาจทำให้การใช้งานกลายเป็นไม่สะดวกไปเลยก็ได้
เคส UAG Monarch และ UAG Plyo สำหรับ iPhone X เป็นเคสกันกระแทกที่ผ่านมาตรฐาน MIL-STD 810G – 516.6 หรือมาตรฐานทางการทหารของประเทศสหรัฐอเมริกา
MIL-STD 810G – 516.6 จะเป็นการทดสอบด้านความทนทาน รองรับแรงกระแทกได้หลายครั้ง โดยเคสของ UAG จะมีความทนทานต่อการตกเริ่มต้นที่ความสูง 1.2 เมตรในรุ่นปกติ และทนทานต่อการตกที่ความสูง 2.44 เมตร โดยให้ตกกระทบที่หน้าจอมุมทั้งสี่ขอบข้างรวมทั้งสิ้น 26 ครั้งสำหรับ UAG Monarch Series (2X MIL STD 810G – 516.6) ส่วนพื้นที่ใช้ในการทดสอบมาตรฐานดังกล่าวเป็นพื้นไม้อัด ซึ่งเป็นพื้นผิวที่มีโอกาสพบได้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
ลักษณะร่วมของเคส UAG นอกจากภาพลักษณ์ที่ดูทนทาน แข็งแรง ก็คือรังผึ้งด้านในตัวเคส ที่ช่วยซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี รวมถึงบริเวณขอบมุมที่ใช้เป็นยาง และตัวเคสยังยกขอบด้านหน้าให้สูงขึ้น ช่วยปกป้องหน้าจอตัวเครื่องในกรณีที่ทำหล่นลงพื้นได้ในระดับหนึ่ง ถ้าเป็นพื้นเรียบ ๆ นี่สบายหายห่วงครับ
ตอนที่ใส่เคส UAG Monarch ผมลองทำ Drop Test ด้วยตัวเองมาหลายรอบ ทั้งปล่อยตกลงพื้นเลียนแบบกรณีที่เผลอทำหล่น รวมถึงการปาตัวเครื่องอัดพื้น ก็ไม่พบว่า iPhone X ที่ใส่ UAG Monarch จะมีริ้วรอยอะไร
UAG Monarch for iPhone X จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 สี แบ่งเป็นสีเดิมแบบตอน iPhone 7 ด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Graphite (คล้าย ๆ สี Space Grey), Platinum (สีเงิน) และ Crimson (แดง) ส่วนสีใหม่ 2 สีที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นสีดำ (Black) กับ Carbon Fiber โดยส่วนตัวผมชอบรุ่น Carbon Fiber มากที่สุด เพราะให้ความรู้สึกหรูหรา และเข้ากับ iPhone X สี Space Grey ได้เป็นอย่างดี สนนราคาอยู่ที่ 2,290 บาท
ข้อสังเกตหนึ่งของเคส UAG ในแง่ของการเป็นเคสกันกระแทก คือมันไม่ได้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่แสดงให้เห็นถึงความถึกทนเพียงอย่างเดียว รวมถึงลบล้างความเชื่อที่ว่าเคสหนา ๆ กันกระแทกได้ดีกว่า เพราะตัวเคสเอง ทั้งในรุ่น Monarch หรือจะเป็นรุ่นใหม่อย่าง UAG Plyo ก็ไม่ได้มีความหนามากกว่าเคสปกติสักเท่าไหร่ แถมยังมีน้ำหนักเบา ไม่เป็นการเพิ่มภาระในยามที่จับถือตัวเครื่องนาน ๆ อีกด้วยครับ
นอกจากการกันกระแทก และน้ำหนักเบาแล้ว เคสของ UAG ทุกรุ่น ถ้าสังเกตดี ๆ บริเวณด้านข้างตัวเครื่อง จะการออกแบบให้มีพื้นผิวแบบกันลื่น ทำให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
บริเวณด้านหลังของ UAG Monarch for iPhone X นอกจากการเลือกใช้วัสดุเป็นโลหะ กับหนัง (หรือผิวแบบคาร์บอนไฟเบอร์) บริเวณกล้องจะเห็นว่ามันนูนขึ้นมาเพื่อป้องกันเลนส์กล้อง iPhone X ได้เป็นอย่างดี และไม่ใช่แค่นูนขึ้นมาเพื่อปกป้องเลนส์กล้องเท่านั้นนะครับ ยังมีคุณสมบัติในการลดการสะท้อนของแฟลชด้วย ไม่เหมือนเคสบางยี่ห้อที่นูนขึ้นมาปกป้องเลนส์กล้องก็จริง แต่ดันเป็นพลาสติกใส ซึ่งมันสะท้อนแสงแฟลช
เพื่อการันตีความถึกทนผมก็มีวีดีโอคลิปสั้นๆที่ได้ทดสอบการกันกระแทกของUAG Monarch for iPhone X มาให้ชมกันด้วยในคลิปจะเห็นว่าการตกนี่มีทั้งแบบตกเฉยๆแบบปล่อยลงพื้นกับการพยายามปาลงพื้นจนตัวเครื่องiPhone X กระเด้งกระดอนไปไกลแต่ก็ไม่ได้เกิดความเสียหายกับตัวเครื่องและหน้าจอแต่อย่างใดครับ
นอกจาก UAG Monarch for iPhone X ก็ยังมีเคสอีกรุ่นของ UAG ที่พึ่งวางจำหน่ายได้ไม่นานอย่าง UAG Plyo ส่งมาให้รีวิวด้วย โดยเคสรุ่นดังกล่าวจะฉีกไปจากเคส UAG รุ่นเดิม ๆ คือมาในดีไซน์เรียบ ๆ แต่ก็ยังคงกันกระแทกได้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากบริเวณขอบมุมท่ียังคงความเป็น UAG เหมือนรุ่นก่อนหน้า
UAG Plyo น่าจะเหมาะกับสาว ๆ หรือคนที่ชอบเคสเรียบ ๆ น้ำหนักเบา แต่ยังคงได้ความถึกทน กันหล่น กันกระแทกได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้สนนราคาอยู่ที่ 1,390 บาท
ด้วยความที่เป็นเคสสำหรับ iPhone X ก็ต้องยอมรับว่ามีความเป็นลูกรักอยู่หน่อย ๆ เพราะ UAG ไม่ได้วางจำหน่ายเคส iPhone X แค่เพียง 2 รุ่น แต่วางจำหน่ายด้วยกันถึง 6 รุ่นด้วยกัน มีทั้งรุ่นคลาสสิคอันเป็นเอกลักษณ์ของ UAG อย่าง Plasma, Pathfinder และยังมีรุ่นฝาพับ หรือใส่บัตรได้อย่าง Metropolis กับ Trooper วางจำหน่ายอีกด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 1,390 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้านขาย Accessories ทั่วไป หรือในร้าน iStudio ก็ได้เช่นกันครับ