
Tecno Camon 40 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Tecno ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนกล้องเทพ ดีไซน์หรู และฟีเจอร์ล้ำสมัยในราคาจับต้องได้ นอกจากนี้ใน Camon 40 Pro ยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งานในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ เล่นเกม หรือใช้งานทั่วไป อ่านดูแล้วน่าสนใจใช่ไหมครับ งั้นเราไปดูกันดีกว่าว่า Tecno Camon 40 Pro นั้นเป็นอย่างไรบ้าง
สารบัญ
- ดีไซน์ตัวเครื่อง
- ฟีเจอร์ฟิเศษ
- การถ่ายภาพ
- การเล่นเกม
- การใช้งานทั่วไป
- แบตเตอรี่และการชาร์จ
- สรุปการรีวิว
- สรุปสเปค
ดีไซน์ตัวเครื่อง



สำหรับเรื่องดีไซน์นั้น Tecno Camon 40 Pro มาพร้อมดีไซน์แบบงานศิลป์ที่ได้รับแรงบัลดาลใจในส่วนของแกนข้างจากคอหงส์ พร้อมโดดเด่นด้วยโมดูลกล้องทั้ง 3 ตัว ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะเป็นพื้นผิวแบบด้านที่ช่วยลดรอยนิ้วมือและให้ความรู้สึกพรีเมียมเมื่อถือใช้งาน สำหรับสีสันนั้นจะมีด้วยกัน 3 สีคือ สีกาแล็กซี่แบล็ค (สีดำ), สีเอ็มเมอรัลเลคกรีน (สีเขียวอ่อน) และ สีเกลเชียร์ไวท์ (สีขาวผสมฟ้า) โดยสีที่ทาง Specphone ได้มาทำรีวิวนั้นคือสีกาแล็กซี่แบล็คนั่นเองครับ

ในส่วนของหน้าจอนั้น Tecno Camon 40 Pro มาพร้อมหน้าจอที่มีขอบจอบางเฉียบแบบโค้ง 3D (3D Curved Display) ใช้พาแนลเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2436 x 1080 พิกเซล) ที่รองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz นอกจากนี้ยังได้กล้องหน้าเป็นแบบ Punch-Hole อีกด้วย และที่สำคัญในส่วนของหน้าจอนั้นปกป้องด้วยกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 7i
สำหรับขอบด้านข้างของ Tecno Camon 40 Pro ถูกออกแบบให้บางเฉียบและโค้งรับกับฝ่ามือ มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องและปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ทางด้านขวา และมีปุ่ม One-Tap Button อยู่ทางด้านซ้าย ด้านบนมีไมโครโฟน, แบตเตอรี่ และเซ็นเซอร์อินฟราเรดอยู่ ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องมีช่อง USB Type-C สำหรับชาร์จไฟและถ่ายโอนข้อมูล พร้อมลำโพงและไมโครโฟน นอกจากนี้ยังมีถาดซิมการ์ดที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมด้วย
ฟีเจอร์ฟิเศษ

สำหรับฟีเจอร์พิเศษใน Tecno Camon 40 Pro อย่างแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือปุ่ม One-Tap Button ที่โดดเด่นอยู่ที่ขอบข้างซ้ายของตัวเครื่อง โดยปุ่มนี้จะมีหน้าที่อยู่ 2 อย่างคือเป็นปุ่มเปิดการใช้งานกล้องโหมด FlashSnap และปุ่มสำหรับเปิดการใช้งาน AI ที่ชื่อ Ella แต่หากไม่ชอบก็สามารถปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน โดยสามารถตั้งค่าได้ทั้งหมดดังนี้
- เปิดแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อย เช่น กล้อง, เครื่องคิดเลข, แปลภาษา หรือแอปโซเชียลต่าง ๆ
- เปิด-ปิดเสียง หรือเปลี่ยนโหมดเสียง (เช่น ปิดเสียง, สั่น, เสียงเรียกเข้า)
- เปิดไฟฉายโดยไม่ต้องปลดล็อกหน้าจอ
- ตั้งเวลาหรือตั้งปลุกได้ทันที
- ทำการบันทึกหน้าจอหรือบันทึกเสียงทันที
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ปุ่ม One-Tap Button นี้เป็นปุ่มชัตเตอร์เวลาจะถ่ายภาพได้อีกด้วย

อีกอย่างที่นับว่าเป็นฟีเจอร์พิเศษของตัวเครื่องเลยก็คือฟีเจอร์ AI นั่นเอง โดยตัว Tecno AI นั้นจะมาพร้อม AI ผู้ช่วยที่ชื่อ Ella โดยเราสามารถสั่งการให้ Ella ช่วยทำงานต่าง ๆ ให้ได้ไม่ว่าจะเป็น การแปลการโทร สรุปข้อความให้อ่าน การแก้ไขข้อความ หรือเครื่องมือรูปภาพต่าง ๆ ช่วยลดความซับซ้อนของงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยสำหรับ AI ที่มีใน Tecno Camon 40 Pro จะมีคร่าว ๆ ดังต่อไปนี้
- AI ผู้ช่วยการโทรแบบเต็มรูปแบบ
- ตัดเสียงรบการระหว่างโทรด้วย AI
- แปลภาษาระหว่างโทรด้วย AI
- สรุปการโทรทั้งหมดด้วย AI
- ตอบกลับแบบอัตโนมัติด้วย AI
- AI สตูดิโอ
- AI Eraser 2.0
- ขยายภาพด้วย AI
- เพิ่มภาพคมชัดด้วย AI
- ใบหน้าสมบูรณ์แบบด้วย AI
- เครื่องมือสร้างภาพบุคคล AIGC 2.0
- AI เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
- การเขียนด้วย AI
- เครื่องมือช่วยแปลด้วย AI (รองรับการแปลข้อความ 136 ภาษา | การแปลภาพถ่าย 51 ภาษา | การตีความเสียง 44 ภาษา)
- AI ค้นหา (Circle to Search)
- AI ช่วยสรุปข้อมูล
การถ่ายภาพ

ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้น Tecno Camon 40 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP เซนเซอร์ LYT-700C และกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP ที่มี AI ช่วยแก้ไขความบิดเบี้ยวให้ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 50MP ที่มาพร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติและการติดตามดวงตา ช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจากที่ได้เอาไปลองถ่ายภาพมาแล้วต้องบอกเลยว่าทาง Tecno ทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียว ทั้งความคมชัด การตัดขอบ การละลายหลัง แม้แต่การถ่ายภาพในที่แสงน้อยก็ทำออกมาได้ดีเลยสำหรับกล้องหลักและกล้องหน้า แต่พอเป็นกล้อง Ultra-Wide ที่มีความละเอียดเพียง 8MP ทำให้รายละเอียดที่ออกมาดูดรอปลงไปพอสมควร นอกจากนี้ในที่แสงน้อยก็ให้ภาพที่มืดลงจากปกติอีกด้วย แต่ก็ชดเชยด้วยการที่ขอบรูปไม่เบี้ยวก็ถือว่าพอใช้ได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับปุ่ม One-Tap Button นั้นสามารถใช้เป็นปุ่มชัตเตอร์ได้ด้วยทำให้สามารถถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แต่เนื่องจากตัวปุ่มอยู่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องเลยทำให้พอถือเครื่องเพื่อถ่ายรูปตามปกติ ตัวปุ่ม One-Tap นี้จะไปอยู่ด้านล่างแทน หากไม่หมุนตัวเครื่องเพื่อสลับปุ่มไปข้างบนก็ต้องใช้นิ้วโป้งข้างซ้ายกดแทนซึ่งมันจะดูฝืน ๆ ไปหน่อย แต่หากเปลี่ยนให้ปุ่มไปอยู่ข้างบนตัวกล้องก็จะต่ำลงมาหน่อย ทำให้หากจะใช้งานปุ่ม One-Tap เป็นปุ่มชัตเตอร์จริง ๆ อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกันหน่อย
นอกจากเรื่องปุ่มพิเศษแล้ว ฟีเจอร์ FlashSnap น่าสนใมจและช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ เพราะโหมด FlashSnap นี้จะช่วยให้ถ่ายภาพได้รวดเร็วและแม่นยำในเสี้ยววินาที สามารถเก็บภาพต่อเนื่องหลายเฟรม แล้ว AI จะเลือกเฟรมที่ดีที่สุดให้โดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยหรือภาพที่มีวัตถุมีการเคลื่อนไหวอย่างเช่นการถ่ายสัตว์เลี้ยงเป็นต้นได้ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย
การเล่นเกม

ในเรื่องของการเล่นเกมนั้น Tecno Camon 40 Pro มาพร้อมชิปประมวลผล MediaTek Helio G100 Ultimate ซึ่งเป็นชิปตระกูล Helio G รุ่นใหม่ล่าสุดและเป็นรุ่นท๊อปสุดด้วย ทำให้สามารถเล่นเกมส่วนใหญ่ได้แบบไร้ปัญหาเลย โดยเราได้ทดลองด้วยเกม RoV และ PUBG Mobile ซึ่งตัวเกม RoV นั้นสามารถปรับสูงสุดแล้วเล่นแบบ 60fps ได้แบบลื่นไหลเลย ส่วน PUBG Mobile นั้นสามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ HD 30fps เท่านั้น และเมื่อปรับกราฟิกลงเป็นลื่นไหลก็จะสามารถดันเฟรทเรมขึ้นมาเป็น 45fps ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเสียดายนิดหน่อย เพราะด้วยประสิทธิภาพแล้วน่าจะสามารถดันขึ้นไปถึงระดับ 60fps ได้เลย ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะชิป Helio G100 นั้นเป็นชิปใหม่ทำให้ตัวเกมยังไม่ได้รับการอัปเดตให้รองรับก็ได้ ตรงนี้อาจจะต้องรอดูในอนาคตต่อไปครับ
การใช้งานทั่วไป

ในเรื่องของการใช้งานทั่วไปนั้นอย่างแรกเลยก็คือการจับถือ โดยตัว Tecno Camon 40 Pro นั้นมาด้วยดีไซน์แบบขอบหลังโค้ง และข้อบข้างเองก็มีความโค้งหน่อย ๆ ทำให้เวลาจับถือนั้นมีความเข้ามือดี และด้วยน้ำหนักตัวเพียง 178 กรัม เลยทำให้สามารถถือได้อย่างสบายมือกว่าแบรนด์อื่น ๆ ในเรทราคาเดียวกัน และสำหรับใครที่กลัวทำหล่นก็สบายใจได้เพราะตัวเครื่องได้รับการรับรองการทนต่อการตกจาก SGS ระดับ 5 ดาว รวมถึงได้มาตราฐานทนน้ำ-ทนฝุ่นในระดับ IP68/IP69 อีกด้วยครับ

สำหรับในเรื่องการเล่นโซเชียลนั้นด้วยความที่ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว แถมยังเป็นจอ 120Hz ด้วย ทำให้การเล่นโซเชียลมีความลื่นไหลอย่างมากเลยครับ ส่วนในด้านความบันเทิงนั้นด้วยหน้าจอ AMOLED ที่ให้สีสันสวยสดและลำโพงคู่พลังเสียง Dolby Atmos ทำให้สามารถเปิดหนังหรือฟังเพลงได้สบายครับ แถมด้วยน้ำหนักตัวที่เบาเลยทำให้ถือดูหนังได้นานเลย
แบตเตอรี่และการชาร์จ

ในเรื่องของแบตเตอรี่นั้น Tecno Camon 40 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,200 mAh ที่สามารถใช้งานให้พ้นวันได้สบาย ๆ ด้วยชิปประมวลผลที่สามารถจัดการพลังงานได้ดีและสเปคที่ไม่ได้สูงจนเกินไป ทำให้อัตราการกินพลังงานนั้นไม่ได้สูงมากนักเลยทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานนั่นเอง
สำหรับในเรื่องการชาร์จนั้นตัวเครื่องรองรับการชาร์จที่ความเร็วสูงสุดที่ 45W ซึ่งตัวเครื่องจะมีให้เลือกได้ด้วยว่าจะชาร์จแบบธรรมดา, ชาร์จเร็ว หรือชาร์จอัจฉริยะ โดยการชาร์จแบบเร็วจะเป็นการชาร์จที่เน้นความเร็วเป็นหลักทำให้มีความร้อนสะสมในตัวเครื่องด้วย ส่วนชาณ์จอัจฉริยะนั้นตัว AI จะมาคอยจัดการการชาร์จให้ดีที่สุด โดยจะชาร์จช้ากว่าการชาร์จเร็วเล็กน้อยแต่แลกมาด้วยความร้อนสะสมในตัวเครื่องที่ลดลง ซึ่งนั่นจะทำให้ตัวแบตเตอรี่เสื่อมได้ยากขึ้นด้วย
ในเรื่องระยะเวลาการชาร์จนั้นเราได้ลองชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือ 1% โดยเลือกเป็นโหมดชาร์จเร็ว ใน 10 นาทีแรกจะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 18% และพอครบ 30 นาทีก็จะได้แบตเตอรี่ 50% พอดี ส่วนระยะเวลาชาร์จรวมตั้งแต่ 1% – 100% นั้นจะใช้เวลาไปทั้งสิ้น 64 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 4 นาที พร้อมตัวเครื่องที่ร้อนยิ่งกว่าตอนเล่นเกม แต่หากเลือกเป็นชาร์จอัจฉริยะจะใช้เวลาชาร์จ 1 ชั่วโมง 8 นาที พร้อมตัวเครื่องที่แค่อุ่น ๆ บอกเลยว่าส่วนต่าง 4 นาทีแลกกับความร้อนที่ลดลงอย่างมาก ผมว่าคุ้มที่จะแลกสุด ๆ
สรุปการรีวิว

สรุปการรีวิว Tecno Camon 40 Pro จากที่ได้ลองใช้มาต้องบอกเลยว่าเป็นเครื่องที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนกล้องเทพ ดีไซน์สวย บางเบาแต่ทนทาน ในราคาคุ้มค่าสุด ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนในเรทราคากลาง ๆ นี้
หากสนใจ Tecno Camon 40 Pro สามารถหาเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tecno-mobile.com.th และสามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย Tecno ทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ทางการของ Tecno รวมถึงร้านค้าออนไลน์ชั้นนำในประเทศไทย ในราคาค่าตัว 6,999 บาทเท่านั้น
สรุปสเปคของ Tecno Camon 40 Pro

สเปค | Tecno Camon 40 Pro |
---|---|
หน้าจอ | – AMOLED – ขนาด 6.78 นิ้ว – ความละเอียด 1080 x 2436 พิกเซล – Refresh rate 120Hz – ขอบเขตสี DCI-P3 – กระจก Corning Gorilla Glass 7i – รองรับ Always-On Display |
ชิปประมวลผล | – CPU: MediaTek Helio G100 Ultimate (6nm) – GPU: Mali-G57 MP2 |
แรม | – 8GB (LPDDR4X) – Virtual RAM 8GB |
ความจุ | 256GB (UFS 2.2) |
กล้องหลัง | – Main: 50MP, f/1.9, OIS, PDAF (เซ็นเซอร์ Sony LYT-700C) – Ultra-Wide: 8MP, |
กล้องหน้า | 50MP, f/2.5, PDAF |
แบตเตอรี่ | – ขนาด 5,200 mAh – ชาร์จเร็ว 45W Super Charge |
ระบบปฏิบัติการ | HiOS 15 บนพื้นฐาน Android 15 |
การเชื่อมต่อ | – 4G LTE (Dual-SIM) – Wi-Fi 5 (802.11 a/b/g/n/ac), Dual-band – Bluetooth 5.3 (LE) – GPS, GLONASS, Galileo – NFC – USB Type-C 2.0 |
เซ็นเซอร์ | – เซนเซอร์สนามแม่เหล็กโลก – เซนเซอร์ A+G – เซนเซอร์แสงและระยะ – รีโมทอินฟราเรด – เข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์ |
มาตราฐานความทนทาน | – ป้องกันน้ำ-ฝุ่นระดับ IP68/IP69 – บรองการทนต่อการตกจาก SGS ระดับ 5 ดาว |
ขนาด | 164.44 x 74.32 x 7.31 มม. |
น้ำหนัก | 178 กรัม |
สี | – Emerald Lake Green – Galaxy Black – Glacier White |