Sudio Nio หูฟังไร้สายทรง EarBuds จาก Sudio ที่มีจุดเด่นคือการสวมใส่ที่สบาย, การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว และขนาดกระทัดรัด พกพาสะดวก ในราคาแค่ 2,xxx บาทเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็ได้มาอยู่ในมือทีมงาน Specphone กันเป็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลังจากที่ได้ลองใช้มาครบสัปดาห์ เราจะมาเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไรบ้าง แถมตอนนี้ถ้าซื้อหูฟัง Sudio ก็จะได้แถม Care Kit ที่เป็นชุดทำความสะอาดมาให้ด้วยแบบฟรี ๆ แถม Specphone เรายังมีส่วนลดเพิ่มให้เพื่อน ๆ ด้วยนะ

หูฟัง Sudio Nio

หูฟัง Sudio Nio เป็นหูฟังไร้สายตัวเล็กสุดของ Sudio และเป็นหูฟังทรง EarBuds เพียงตัวเดียวเท่านั้นด้วย โดยตัวหูฟัง Sudio นี้นั้นมาพร้อมคอนเซปต์ “ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ครบทุกประสิทธิภาพการใช้งาน” ด้วยการใช้งานที่หลากหลายทั้งฟังเพลง, เล่นเกม, หรือแม้กระทั่งออกกำลังกายก็ทำได้ แถมยังขนาดเล็กพกพาง่ายอีก เป็นหูฟังที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ซึ่งก่อนอื่นก็ต้องพูดถึงตัวกล่องกันก่อน

โดยตัวกล่องของ Nio นั้นจะมาในขนาดไม่ใหญ่มาก บนหน้ากล่องมีรูปตัวหูฟังพร้อมทั้งชื่ออย่างชัดเจน โดยตัวรูปบนกล่องหูฟังจะมีสีตามสีของตัวหุฟังจริงที่อยู่ข้างใน ช่วยให้แยกสีได้อย่างง่ายดาย โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีคือ NIO WHITE, NIO BLACK, NIO GREEN และ NIO SAND ส่วนด้านข้างและด้านหลังของกล่องจะเป็นการบอกฟีเจอร์เด่น ๆ ของ Sudio Nio นั่นเอง

เมื่อเปิดกล่องออกมาแล้วก็จะพบกับเคสชาร์จอยู่ที่ครึ่งบนของกล่องและมีกล่องอุปกรณ์อยู่ที่ครึ่งล่าง โดยตัวหูฟังจะถูกใส่มาในเคสชาร์จตั้งแต่แรกเลย ในกล่องอุปกรณ์นั้นจะมีทั้งคู่มือ, ผ้าเช็ดทำความสะอาด, สายชาร์จ และซิลิโคนหูฟังอยู่ ซึ่งซิลิโคนหูฟังนั้นจะถูกใส่มาในกล่องเล็กอีกชั้นหนึ่ง โดยในกล่องนี้จะมีให้มาทั้งหมด 4 ขนาด อยู่ที่ตัวหูฟัง 1 และในกล่องแยกอีก 3

ที่ตัวเคสจะมีพอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C อยู่ที่ด้านข้าง และมีปุ่มรีเซ็ตการเชื่อมต่ออยู่ที่ด้านล่างของเคส ซึ่งการรีเซ็ตนี้แค่กดค้างไว้เพียง 5 วินาทีก็สามารถรีเซ็ตการเชื่อมต่อได้แล้ว

Sudio Nio ใช้การเชื่อมต่อไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth 5.0 ที่ใช้งานได้กับทั้งสมาร์ทโฟน Android และ iOS การใช้งานไม่มีอะไรซับซ้อนมาก ไม่ต้องลงแอพเพิ่ม ใช้การสั่งงานผ่านการทัชบนตัวหูฟังทั้งสองข้าง ซึ่งคำสั่งที่ว่านี้ถูกเซ็ตมาแล้วแบบตายตัว ไม่สามารถไปปรับเปลี่ยนได้ ระยะการเชื่อมต่ออยู่ที่ประมาณ 10 เมตร

แบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้งและเมื่อรวมกับแบตเตอรี่ในเคสแล้วจะสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 20 ชั่วโมง (เคสจะชาร์จได้ประมาณ 4 รอบ)

เรื่องการพูดคุยนั้น Nio มาพร้อมเทคโนโลยี Adaptive dual-microphone ที่ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกเมื่อต้องคุยโทรศัพท์ ซึ่งจากที่ได้ลองใช้มาถึงแม้จะไปยืนอยู่ข้างถนนก็ตาม เสียงที่ได้ก็มีความคมชัด ไม่มีเสียงอย่างอื่นแทรกเลย ส่วนในเรื่องของการฟังเพลงนั้นโทนเสียงที่ได้จาก Nio จะเป็นเสียงเบสและเสียงแหลมที่ค่อนข้างเด่น เวลาฟังเพลงแล้วเสียงกลองกับเสียงร้องจะชัดโดดออกมาเลย ทำให้การฟังดูมีมิติมากขึ้น นอกจากนี้ด้วยความสามารถในการกันน้ำระดับ IPX4 ทำให้สามารถใส่ไปออกกำลังกายได้ด้วย (อย่าเอาไปใส่ว่ายน้ำเชียวหละ)

ในด้านการเล่นเกมนั้นด้วยการที่ Nio ใช้ Bluetooth 5.0 ทำให้อาการดีเลย์ของเสียงมีน้อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ซึ่งเมื่อได้เอาไปลองเล่นเกมแนว FPS อย่าง Call of Duty Mobile หรือ PUBG Mobile แล้ว เสียงที่ได้ยินเวลายิงปืนจะมาช้ากว่าภาพเล็กน้อย (อารมณ์เหมือนเสียงมาช้า 1 จังหวะ) ซึ่งหากไม่ได้ใส่ใจมากนักก็ถือว่าไม่มีปัญหาอะไร
อุปกรณ์ทำความสะอาด Care Kit

Care Kit คืออุปกรณ์ทำความสะอาดที่ทาง Sudio วางขาย ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถทำความสะอาดหูฟังไร้สายของเราได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้ที่เราต้องคอยรักษาความสะอาดอย่างยิ่ง นอกจากจะช่วยให้สะอาดแล้วยังช่วยให้คุณภาพเสียงคงคุณภาพเหมือนเเดิมได้อีกด้วย เนื่องจากเวลาเราใช้งานหูฟังก็จะต้องมีขี้หูไปติดอยู่ที่ตัวลำโพง ทำให้เสียงที่ออกมาดรอปลงไป ดังนั้นการคอยทำความสะอาดจะช่วยให้คุณภาพเสียงยังคงเดิมเหมือนตอนที่ซื้อมานั่นเอง โดย Care Kit นั้นภายในกล่องจะประกอบไปด้วย ผ้าเช็ดฝุ่น, คู่มือการใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด, ก้านทำความสะอาด 2 ก้าน, ขนแปรงทำความสะอาด และฟองน้ำสำหรับทำความสะอาด
คำเตือน!! ชุดทำความสะอาด Care Kit นั้นจะต้องใช้คู่กับน้ำสะอาดเท่านั้น ห้ามใช้กับแอลกอฮอร์, น้ำยาทำความสะอาด หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการขัดใด ๆ

สำหรับหูฟัง Sudio และชุดทำความสะอาด Care Kit นี้จากที่ได้ลองใช้ทั้งสองมาแล้วนั้นในส่วนของหูฟังถือว่าทำได้ดีกับราคาที่วางขายเพียง 2,400 บาท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง การสวมใส่ หรือแม้กระทั่งการพกพา ส่วน Care Kit ที่เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดนั้นถือว่าเป็นของที่ใช้ได้สะดวกเอามาก ๆ เลย เนื่องจากไม่ต้องมาคอยหาน้ำยามาเช็ด แค่ใช้น้ำสะอาดที่หาจากไหนก็ได้มาเช็ดก็พอ และด้วยขนาดกล่องที่ไม่ใหญ่ทำให้พกพาง่ายอีกด้วย
หูฟังไร้สาย Sudio รุ่น Nio นี้วางขายในราคา 2,400 บาท สามารถซื้อได้ผ่านเว็บไซต์ sudio.com เท่านั้น โดยในปัจจุบันนี้ Sudio กำลังจัดโปรโมชั่น ซื้อหูฟัง Sudio แถมฟรีชุดทำความสะอาด Care Kit ไปเลย และสำหรับแฟน ๆ Specphone เราก็มีโค๊ดโปรโมชั่นลดราคาให้อีกด้วย โดยจะได้รับส่วนลดถึง 15% เลยทีเดียว เพียงแค่กรอกโค๊ด SPECPH เข้าไปตอนซื้อเท่านั้น