Samsung Galaxy Watch Ultra และ Galaxy Watch 7 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ที่เปิดตัวมาด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่ครบครันมากยิ่งขึ้น แต่ในครั้งนี้จะออกแนว Extreme มากยิ่งขึ้นด้วยการเปิดตัว Galaxy Watch Ultra เพิ่มเข้ามา ซึ่งในบทความนี้เราจะทำการรีวิวทั้งคู่ไปพร้อม ๆ กันเลย แต่ก่อนหน้านั้นเราไปดูสเปคของแต่ละตัวกันก่อนดีกว่า
สเปคของ Samsung Galaxy Watch Ultra
- ขนาดตัวเรือน : 47.4 x 47.1 x 12.1 มม.
- น้ำหนัก : 60.5 กรัม
- สี : Titanium Silver, Titanium Gray, Titanium White
- วัสดุ : Titanium Grade 4, กระจก Sapphire Crystal
- มาตรฐานความทนทาน : 10ATM+IP68 / MIL-STD-810H
- หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 1.5 นิ้ว ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Exynos W1000
- แรม : 2GB
- ความจุ : 32GB
- แบตเตอรี่ : 590mAh
- ระบบปฏิบัติการ : Wear OS Powered by Samsung
- การเชื่อมต่อ :
- LTE
- Bluetooth 5.3 (A2DP, AVRCP, HFP, HSP)
- Wi-Fi 802.11a/b/g/n 2.4GHz+5GHz
- GPS, Glonass, Beidou, Galileo
- NFC
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Barometer
- Bioelectrical Impedance Analysis Sensor
- Electrical Heart Sensor
- Gyro Sensor
- Geomagnetic Sensor
- Infrared Temperature Sensor
- Light Sensor
- Optical Heart Rate Sensor
- ราคา : 23,900 บาท
สเปคของ Samsung Galaxy Watch 7
- ขนาดตัวเรือน :
- 40 มม. : 40.4 x 40.4 x 9.7 มม.
- 44 มม. : 44.4 x 44.4 x 9.7 มม.
- น้ำหนัก :
- 40 มม. : 28.8 กรัม
- 44 มม. : 33.8 กรัม
- สี :
- 40 มม. : Green, Cream
- 44 มม. : Green
- วัสดุ : Armor Aluminum, กระจก Sapphire Crystal
- มาตรฐานความทนทาน : 5ATM+IP68/MIL-STD-810H
- หน้าจอ :
- 40 มม. : Super AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว ความละเอียด 432 x 432 พิกเซล
- 44 มม. : Super AMOLED ขนาด 1.5 นิ้ว ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Exynos W1000
- แรม : 2GB
- ความจุ : 32GB
- แบตเตอรี่ :
- 40 มม. : 300mAh
- 44 มม. : 425mAh
- ระบบปฏิบัติการ : Wear OS Powered by Samsung
- การเชื่อมต่อ :
- Bluetooth 5.3 (A2DP, AVRCP, HFP, HSP)
- Wi-Fi 802.11a/b/g/n 2.4GHz+5GHz
- GPS, Glonass, Beidou, Galileo
- NFC
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Barometer
- Bioelectrical Impedance Analysis Sensor
- Electrical Heart Sensor
- Gyro Sensor
- Geomagnetic Sensor
- Infrared Temperature Sensor
- Light Sensor
- Optical Heart Rate Sensor
- ราคา :
- 40 มม. : 10,900 บาท
- 44 มม. : 12,900 บาท
ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Watch Ultra
ในส่วนดีไซน์ของ Galaxy Watch Ultra นั้นเรียกได้ว่าออกแบบมาให้ดูคงทนแข็งแรงสุด ๆ ด้วยบอดี้ขนาดใหญ่บึกบึน ตัวเรือนสร้างจากไทเทเนียมเกรด 4 และมีกระจกหน้าจอเป็น Sapphire Crystal ทำให้สามารถใส่ลุยไปได้ทุกที่ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ส่วนหน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 47 มม. หรือ 1.5 นิ้ว มีความละเอียดอยู่ที่ 480 x 480 พิกเซล รองรับฟีเจอร์ Always On Display ด้วย แต่ที่พิเศษคือตัว AOD นี้จะมี Night Mode ที่จะเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นสีแดง ซึ่งเป็นโทนสีที่ช่วยถนอมสายตาได้มากที่สุดเวลามองในที่มืด
สำหรับปุ่มนั้นตัว Galaxy Watch Ultra นั้นจะอยู่ฝั่งขวาและมีทั้งหมด 3 ปุ่ม คือปุ่ม Home และปุ่ม Back ที่มีในทุกรุ่น และปุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นปุ่มพิเศษที่มีชื่อว่า Quick Button ซึ่งตัวปุ่มนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าโหมดออกกำลังกายได้รวดวเร็วขึ้น และยังสามารถตั้งค่าให้ทำอย่างอื่นได้ด้วย แต่ความพิเศาของปุ่มนี้คือสามารถตั้งเป็น Emergency Siren สำหรับใช้ส่งเสียงขอความช่วยเหลือได้ด้วย
ส่วนที่ฝั่งซ้ายจะมีลำโพงสำหรับใช้ส่งเสียงอยู่ด้วย ส่วนไมโครโฟนนั้นเรียกได้ว่ามีรอบตัวทั้งซ้ายและขวาเลย
ที่ด้านหลังตัวเรือนนั้นจะมี BioActive Sensor สำหรับใช้วัดค่าต่าง ๆ อยู่ อีกทั้งยังมีปุ่ม Quick Release สำหรับใช้ถอดเปลี่ยนสายอีกด้วย
มาที่ตัวสายกันบ้าง โดยตัวสายที่มาในกล่องจะเป็นสายซิลิโคนสำหรับกิจกรรมทางน้ำ แต่ตัวสายก็สามารถเอาไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ได้เช่นกัน สำหรับสายนั้น Galaxy Watch Ultra จะมีให้ซื้อเพิ่มอีก 3 สายคือสายสำหรับการวิ่งเทรล 2 แบบ (แบบหนักและเบา) และสายพีคฟอร์มที่เป็นแบบอเนกประสงค์ ซึ่งสายแต่ละแบบจะมีราคาเท่ากันที่ 2,390 บาทครับ
ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Watch 7
มาต่อกันที่ Galaxy Watch 7 ที่เป็นรุ่นมาตราฐานกันบ้าง โดย Galaxy Watch 7 นั้นจะมาด้วยดีไซน์ที่เรียกได้ว่าไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก คือตัวเรือนเป็นวงกลมมินิมอล ที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส ทุกสถานการณ์ โดยตัวเรือนจะมีขายทั้งหมด 2 สีคือสีเขียวและสีครีม (สีครีมมีให้เลือกแค่ในรุ่น 40 มม. เท่านั้น)
สำหรับตัวเรือนของ Galaxy Watch 7 นั้นจะมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุ Armor Aluminum ทำให้ตัวเครื่องมีความทนทานมากยิ่งขึ้น และใช้กระจกเป็น Sapphire Crystal เช่นเดิม ซึ่งตัวเรือนจะมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 40 มม. และ 44 มม. โดยจะใช้หน้าจอ Super AMOLED เหมือนกัน แต่จะต่างกันที่ขนาดคือ 1.3 นิ้ว และ 1.5 นิ้ว ตามลำดับ อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์ Always On Display อีกด้วย
สำหรับปุ่มด้านข้างนั้นจะมีทั้งหมด 2 ปุ่มคือปุ่ม Home และปุ่ม Back โดยมีไมโครโฟนอยู่ตรงกลางระหว่างปุ่ม
ที่ด้านซ้ายของตัวเรือนเยื้องลงมาข้างล่างจะมีลำโพงขนาดเล็กอยู่ด้วย และที่ด้านหลังของตัวเรือนจะมี BioActive Sensor สำหรับใช้วัดค่าต่าง ๆ อยู่
สำหรับตัวสายนั้นที่ให้มาจะเป็นสายซิลิโคนที่ค่อนข้างนุ่ม ทำให้สวมใส่ได้ค่อนข้างสบาย ซึ่งตัวสายนี้หากไม่ชอบสามารถเปลี่ยนได้ด้วยเช่นกัน โดยการกดปุ่ม Quick Release ที่อยู่ด้านบนของตัวสาย สำหรับตัวสายนั้นจะมีให้เลือกทั้งแบบซิลิโคน, สายผ้า, สายสแตนเลส สนนราคาอยู่ที่ 1,490 – 1,990 บาทครับ
วัสดุและความทนทาน
สำหรับในเรื่องวัสดุและความทนทานนั้นทั้ง Galaxy Watch Ultra และ Galaxy Watch 7 นั้นผ่านมาตราฐาน MIL-STD-810H มาเหมือนกัน และทนน้ำ-ทนฝุ่นระดับ IP68 เหมือนกันด้วย แต่จุดที่แตกต่างกันก็คือระดับความลึกที่ตัวเรือนสามารถลงไปได้ โดย Galaxy Watch Ultra สามารถลงน้ำได้ลึกถึง 10ATM (100 เมตร) ส่วน Galaxy Watch 7 นั้นลงน้ำได้ลึก 5ATM (50 เมตร) ทำให้สามารถใส่ลงไปว่ายน้ำได้แบบสบาย ๆ เลย ทว่า Galaxy Watch Ultra นั้นจะพิเศษกว่าหน่อยตรงที่มีการรับประกันว่าสามารถใช้งานที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 9,000 เมตรได้ด้วย
การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
ในการเชื่อมต่อ Galaxy Watch Ultra | Watch 7 กับสมาร์โฟนนั้นจะต้องเชื่อมต่อกับแอปฯ Galaxy Wearable ก่อน ซึ่งถ้าหากเป็นสมาร์ทโฟนของ Samsung จะมีการติดตั้งมาให้อยู่แล้ว แต่หากเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นอาจต้องไปหาโหลดแอปฯ เพิ่มอีกที อีกทั้งยังอาจไม่สามารถใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชั่นอีกด้วย
สำหรับการตั้งค่าต่าง ๆ นั้นสามารถตั้งค่าได้ผ่านทาง Galaxy Wearable เลยไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน Face Watch, การจัดหน้าจอแอปฯ, การปรับแต่ง Tile และการปรับแต่งแผงด่วน ซึ่งตัว Face Watch นั้นจะมีให้เลือกค่อนข้างเยอะแล้ว แต่ถ้าคิดว่าไม่พอก็สามารถโหมดเพิ่มได้อีกด้วยนะ
และหากต้องการจะควบคุมดูแลสุขภาพก็จะต้องมีการใช้แอปฯ Samsung Health ร่วมด้วย ซึ่งตัวแอปฯ นี้จะมีการบันทึกค่าต่าง ๆ ที่ตรวจวัดผ่าน Galaxy Watch เอาไว้ทั้งหมด และหากใครที่ไม่รู้วิธีการออกกกำลังกาย แอปฯ Samsung Health ก็สามารถช่วยได้เช่นกันเนื่องจากมีการรวบรวมคลิปสำหรับออกกกำลังกายเอาไว้ด้วย
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ
ต้องบอกเลยว่าฟีเจอร์ด้านสุขภาพคราวนี้จะไม่ธรรมดาเหมือนที่แล้ว ๆ มา เพราะมีการผนวกรวม Galaxy AI เข้ามาช่วยในการประมวลผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดระดับความเครียด, วัดออกซิเจน หรือตรวจจับการนอนเป็นต้น และที่พิเศษกว่าเดิมก็คือตอนนี้สามารถตรวจจับความดันเลือดและ ECG ได้อีกด้วย เพียงแต่ในการจะใช้งานฟีเจอร์นี้นั้นจะมีการตั้งค่าครั้งแรกก่อนด้วยการปรับเทียบกับเครื่องวัดความดันของจริง
สำหรับฟีเจอร์ตรวจจับการนอนนั้นก้เรียกได้ว่า Advance ยิ่งขึ้นเพราะได้ AI มาช่วยทำให้สามารถตรวจจับการนอนได้แม่นยำขึ้น ช่วยวิเคราห์การนอนแล้วช่วยแนะนำพัฒนาการนอนให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถตรวจจับการกรนระหว่างนอน พร้อมทั้งช่วยบันทึกเสียงกรนเอาไว้ใช้ตอนไปปรึกษษแพทย์ได้อีกด้วย
ความเหนือยิ่งกว่าคือ AI สามารถช่วยคำนวนพลังงานของร่างกาย (Energy) ออกมาเป็นคะแนน (Energy Score) ได้อีกด้วย ผ่านการวิเคราะห์ปัจจัยหลักทั้ง 4 อย่าง การนอนหลับ, กิจกรรม, อัตราการเต้นของหัวใจขณะหลับ (SHR) และ ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจขณะหลับ (SHRV) ช่วยให้สามารถสรุปสภาพร่างกายในแต่ละวันได้ด้วย
หนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนที่มักเกิดอุบัติเหตุล้ม, ตกบันได, โดนชน ฯลฯ Galaxy Watch Ultra | Watch 7 ก็มีฟีเจอร์ Fall Detection มาช่วย หากภายใน 1 นาทีไม่มีการขยับเขยื้อนหรือไร้การตอบสนองตัว Galaxy Watch จะทำการโทรออกไปยังเบอร์ SOS ที่ตั้งไว้ทันที
มาที่การออกกำลังกายกันบ้าง โดย Galaxy Watch Ultra | Watch 7 จะรองับโหมดออกกกำลังกายมากกว่า 100 รูปแบบซึ่งใน Galaxy Watch Ultra นั้นจะมีโหมด Multi Sport สำหรับคนที่ออกกกำลังหรือเล่นกีฬาต่อเนื่องพร้อมกันหลาย ๆ อย่างเช่นไตรกีฬาเป็นต้น และด้วยความที่มี GPS ย่านความถี่แบบคู่ ทำให้สามารถใช้นำทางในเมืองได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
แบตเตอรี่และการชาร์จ
สำหรับตัวแบตเตอรี่นั้น Galaxy Watch Ultra จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 590mAh ซึ่งทาง Samsung เคลมว่าหากปิด AOD สามารถใช้งานได้ยาวนานสุดถึง 80 ชั่วโมง แต่ถ้าเปิด AOD จะสามารถใช้งานได้นาน 60 ชั่วโมง และหากเปิด Exercise Power Saving Mode ตอนออกกำลังกายจะสามารถใช้งานได้นานสุด 48 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามจากการที่ได้ลองใช้งานจริงในรูปแบบธรรมดาไม่ได้ใช้งานโหมดออกกำลังกาย เปิด AOD มีการแจ้งเตือนในชีวิตประจำวันและมีการวัดการนอนใน 24 ชั่วโมงแบตเตอรี่จะลดไป 20% ทำให้ถ้ารวมระยะเวลาแล้วสามารถใช้งานได้เกิน 100 ชั่วโมงอีก แต่หากมีการการใช้งานโหมดออกกกำลังกายด้วยแบตเตอรี่จะลดลงเร็วกว่านั้นเหลืออยู่ราว ๆ 50% – 60% ขึ้นอยู่กับระยะเวลาใช้งานโหมดออกกำลังกายและจำนวนการแจ้งเตือนในแต่ละวัน
ส่วน Galaxy Watch 7 นั้นจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 300mAh และ 425mAh ตามลำดับ ซึ่งทาง Samsung เคลมว่าหากปิด AOD สามารถใช้งานได้ยาวนานสุดถึง 40 ชั่วโมง แต่ถ้าเปิด AOD จะสามารถใช้งานได้นาน 30 ชั่วโมง ซึ่งจากที่ได้ลองใช้งานมานั้นหากใช้งานแบบทั่ว ๆ ไป ไม่ได้มีการออกกำลังกายหรือออกกำลังกายเบา ๆ แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้เกือบ 3 วันเลยทีเดียว แต่ถ้ามีการออกกำลังกายแบบจริงจังเพิ่มข้ามา แบตเตอรี่จะลดลงเร็วกว่าเดิมเหลืออยู่ราว ๆ 46% ขึ้นอยู่กับระยะเวลาใช้งานโหมดออกกำลังกายและจำนวนการแจ้งเตือนในแต่ละวัน
สำหรับการชาร์จนั้น Galaxy Watch Ultra | Watch 7 จะรองรับการชาร์จแบบไร้สาย 10W โดยที่ตัวแทนชาร์จจะให้มาเป็นหัว USB-C เลย เพียงแต่ในปีนี้ทั้ง Galaxy Watch Ultra และ Galaxy Watch 7 นั้นไม่รองรับฟีเจอร์ Wireless PowerShare ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะ BioActive Sensor แบบใหม่ที่มีจำนวนเยอะขึ้นจนทำให้รูปร่างด้านหลังเปลี่ยนไปจนตัวนาฬิกาไม่สามารถสัมผัสกับแทนชาร์จได้
ความรู้สึกหลังสวมใส่
ความรู้สึกหลังจากที่ได้เอาไปใช้งานมานั้นต้องบอกเลยว่าตอนที่สวม Galaxy Watch Ultra ครั้งแรกนั้นเรียกได้ว่าไม่ชินเลยทีเดียว เนื่องจากน้ำหนักตัวเรือนนั้นค่อนข้างมากทำให้รู้สึกเหมือนมีน้ำหนักถ่วงแขนหน่อย ๆ อยู่ตลอด อีกทั้งยังเคยชินกับน้ำหนักของ Galaxy Watch ปกติมากกว่าด้วย แต่ทว่าในระหว่างใส่ใช้งานนั้นตัว Galaxy Watch Ultra นั้นให้ความรู้สึกมั่นใจในการสวมใส่มากกว่า ด้วยร่างกายที่บึกบึนทำให้ไม่ต้องห่วงว่าจะเผลอไปกระแทกอะไรแล้วจะพัง แต่ทว่าด้วยหน้าตาที่เน้นความทนทานมากกว่าทำให้อาจไม่สามารถใส่งานได้ในทุกโอกาส ต่างกับ Galaxy Watch 7 ที่มีดีไซน์แบบมินิมอลสามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาสมากกว่า
ส่วนในเรื่องการใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ นั้นต้องบอกเลยว่าฟีเจอร์ที่ให้มานั้นเยอะกว่าปกติมากทีเดียว แถมยังตรวจจับได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้นกว่าแต่ก่อนอีกด้วย แต่ที่น่าสนใจเลยก็คือทั้ง Galaxy Watch Ultra | Watch 7 นั้นสวามารถตรวจวัด ECG ได้ด้วย ทำให้ช่วยสามารถมอนิเตอร์คนที่เป็นโรคหัวใจได้ด้วยอันนี้เป็นหนึ่งในจุดที่ค่อนข้างชอบเลยทีเดียว
สรุปการรีวิว
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาทั้ง Galaxy Watch Ultra และ Galaxy Watch 7 ไปลองใช้งานมาระยะหนึ่งนั้น ต้องบอกเลยว่าครั้งนี้ทาง Samsung จัดเต็มให้ Galaxy Watch มากเลย อีกทั้งตอนนี้ยังไปเจาะกลุ่มสาย Extreme ที่ต้องการสมาร์ทวอทช์สายถึกทนอีกด้วย ทำให้กลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้นพอสมควร ใครที่เป็นสายลุย สายแอดเวนเจอร์ หรือสาย Extreme ต้องไป Galaxy Watch Ultra เลยครับ แต่ถ้าไม่ได้เป็นสายลุยขนาดนั้น เน้นฟีเจอร์ออกกกำลังกายแบบปกติ สามารถใส่ออกงานเท่ ๆ ได้ก็ต้อง Galaxy Watch 7 เลยครับลงตัวสุดแล้วครับ
สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดและฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ที่เว็บ samsung.com และสามารถไปลองจับถือได้แล้วที่ Samsung Shop ทุกสาขา
หมายเหตุ ค่าต่าง ๆ ที่ตรวจวัดได้นั้นไม่สามารถเอาไปใช้ทางการแพทช์ได้ มีไว้เพื่อดูสุขภาพและการออกกำลังกายแบบคร่าว ๆ เท่านั้นนะครับ