Samsung Galaxy S25 Ultra สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของ Samsung ที่เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นด้าน AI พร้อมด้วยชิปประมวลผลที่แรงที่สุดอย่าง Snapdragon 8 Elite For Galaxy และกล้องที่ได้รับการปรับปรุงด้วย ProVisual Engine ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยจากที่ได้ลองถือมาเป็นระเวลาหนึ่ง เราจะมาเล่าให้ฟังว่า Samsung Galaxy S25 Ultra นั้นมีดีอย่างไร
สารบัญ
ดีไซน์ตัวเครื่อง
ในเรื่องดีไซน์ตัวเครื่องเรามาเริ่มกันที่หน้าจอก่อนเลย โดยในส่วนของหน้าจอนั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง Galaxy S24 Ultra แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.9 นิ้ว และได้กระจกหน้าเป็น Corning Gorilla Glass Armor 2 ซึ่งจะมีความทนทานที่สูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน สำหรับส่วนอื่น ๆ ที่เหมือนเดิมคือพาแนลหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X ที่รองรับ Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz แบบ Adaptive ตั้งแต่ 1 – 120Hz พร้อมด้วยกล้องหน้าแบบ Punch Hole ความละเอียด 12MP
สำหรับด้านหลังเครื่องในด้านดีไซน์นั้นเรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกันรุ่นก่อนหน้าที่มาแบบเรียบ ๆ ไม่มีลวดลายอะไร มีแค่กล้องที่วางอยู่ในตำแหน่งเดิมทั้งหมด แต่เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนแล้วตัวเลนส์จะมีความนูนที่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
ในส่วนของสีสันนั้นตัว Galaxy S25 Ultra จะมีอยู่ทั้งหมด 7 สี เป็นสีพื้นฐาน 4 สีคือ Titanium Silverblue, Titanium Black, Titanium Whitesilver, Titanium Gray และสีพิเศษอีก 3 สีคือ Titanium Jetblack, Titanium Jadegreen, Titanium Pinkgold และสีที่ทางทีมงานได้รับมาทำรีวิวก็คือสี Titanium Silverblue ครับ
ทั้งนี้ต้องขอบอกเอาไว้เลยครับว่า Galaxy S25 Ultra สีพิเศษทั้ง 3 นั้นจะหาซื้อได้ผ่านทางเว้บไซต์ samsung.com/th เท่านั้น และต้องใช้เวลารอของนานกว่าสีปกติด้วยครับ
สำหรับขอบรอบตัวเครื่องนั้นครัง้นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์จากรุ่นเดิมที่มีความโค้งมนมาเป็นขอบเหลี่ยมเต็มตัว ส่วนวัสดุก็ยังเป็นไทเทเนียมเช่นเดิม แต่จะมีความบางที่ลดลงจากเดิมที่ 8.6 มม. เหลือ 8.2 มม. สำหรับปุ่มนั้นจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายจะโล่งไม่มีอะไร ที่ด้านบนจะมีไมโครโฟน 1 ตัว ส่วนที่ด้านล่างนั้นจะมีช่องใส่ซิม, ลำโพงตัวเครื่อง, ไมโครโฟน และช่องเก็บปากกา S Pen แต่สิ่งที่ดีงามขึ้นก็คือทาง Samsung ย้ายรูจิ้มซิมไปไว้ห่าง ๆ รูไมโครโฟนแล้ว ทำให้โอกาสที่จะจิ้มผิดจนไมโครโฟนฟังน้อยลงไปด้วย
สำหรับตัวปากกา S Pen นั้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนใน Galaxy S24 Ultra แล้วตัวปากกาจะมีความยาวที่เพิ่มมากขึ้นเล็กน้อยจากตัวกดปากกาที่มีความหนาขึ้น แต่ด้วยความที่มีการตัด Bluetooth ออก ทำให้แบตเตอรี่ในตัวปากกาหายไปด้วย และทำให้ไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ Air Command ได้แล้วนั่นเอง
Galaxy AI
สำหรับ Galaxy AI ใน Galaxy S25 Ultra นั้นจะมีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ที่มีอยู่เดิมเข้ามา โดยที่เพิ่มเข้ามาหลัก ๆ เลยจะเป็น Gemini ซึ่งจะมีการใช้ชื่อว่า Galaxy AI Assistant ซึ่งจะให้ Gemini AI มาทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ทำให้เราสามารถสั่งการเครื่องได้โดยไม่ต้องแตะเลยสักนิด และด้วยการที่ใช้ Gemini ในการทำงานทำให้สามารถรองรับได้ถึง 45 ภาษา รวมไทยด้วย นอกจากนี้ทาง Samsung ยังให้ใช้ Gemini Advance ได้ฟรีอีก 6 เดือนด้วย ซึ่งความเจ๋งของ Gemini ใน Galaxy S25 Ultra คือตัว AI สามารถเรียกและใช้งานแอปฯ ของ Samsung ที่อยู่ในเครื่องเราได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีก 1 ฟีเจอร์ที่ใช้ AI มาช่วยในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้เรา นั่นก็คือ Now Brief ที่อยู่บน Now Bar ใน One UI 7 โดยฟีเจอร์ Now Brief นี้จะเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยสรุปข้อมูลต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น สภาพอากาศ, ตารางนัดหมาย, เป้าหมายสุขภาพที่เราตั้งเอาไว้ ไปจนถึงเพลงแนะนำบน Spotify เลยก็มี
สำหรับฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาและน่าจะเป็นฟีเจอร์ที่น่าจะโดนใจสาย VLOG หรือสายถ่ายวิดีโอก็คือ Audio Eraser โดยฟีเจอร์นี้จะให้ตัว AI มาลบเสียงที่เราไม่ต้องการออกไป ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูด, เสียงเพลง หรือเสียงรบกวน ทำให้เราสามารถนำวิดีโอนั้นไปใช้งานต่อได้เลยต่อให้เราจะถ่ายในสภาพที่มีเสียงรบกวรก็ตาม
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นหนึ่งในจุดชูโรงของ One UI 7 เลยก็คือ Best Face ซึ่งฟีเจอร์นี้จะให้เราเลือกใบหน้าที่ดีที่สุดจากในบรรดาภาพถ่ายที่เราถ่ายมา โดยตัว AI จะเป็นคนเลือกฝบหน้าที่ดูดีที่สุดในจำนวนหนึ่งก่อนให้เราเลือก แล้วพอเลือกไดตัว AI ก็จะช่วยแก้ไขหน้าในภาพให้เลย ทำให้หลังจากนี้ต่อให้ถ่ายออกมาหน้าตาดูพิลึกยังไงก็หายห่วงเพราะ AIสามารถช่วยแก้ให้ได้
สำหรับฟีเจอร์เดิมอย่าง Writing Assist, Summary หรือ Translate ต่าง ๆ ก็ได้มีการปรับปรุงเพิ่มด้วยเช่นกัน โดยใน Writing Assist นั้นจะทำการรวมทุกฟีเจอร์อย่างการปรับรูปแบบข้อความ, การสรุปความ, การตรวจคำสะกดและไวยกรณ์ ฯลฯ แล้วให้ AI ช่วยจัดการทั้งหมด ส่วน Summary กับ Translate นั้นก็ทำได้ดียิ่งขึ้นด้วยภาพาที่รองรับมากขึ้นจากเดิม 16 ภาษา เพิ่มเป็น 20 ภาษาแล้ว
ประสิทธิภาพ
สำหรับในเรื่องประสิทธิภาพตัวเครื่องนั้นอย่างแรกเลยก็คือเรื่องการเล่นเกม โดยตัวเครื่องที่มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite For Galaxy นั้นเรียกได้ว่าสุดแล้วจริง ๆ ตัวชิปนั้นสามารถรัยเกมหนัก ๆ ทุกเกมได้อย่างสบาย นอกจากนี้ตัว Game Booster เองก็มีการปรับปรุ่งเพิ่มด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้ชิป Snapdragon 8 Elite ใน Galaxy S25 Ultra นั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั้นก็ต้องขอบคุณระบบระบายความร้อนใหม่ที่ใส่มา เพราะทาง Samsung ได้ืำการขยายขนาดของ Vapor Chamber ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 40% และเมื่อรวมกับความแรงของชิปประมวลผล ทำให้ความร้อนที่เกิดระหว่างเล่นลดลงไปพอสมควรเลย
สำหรับเกมที่เราเอามาลองเล่นนั้นจะมีเกม RoV, PUBG Mobile และ Genshin Imapct ซึ่งทุกเกมเราได้ลองเล่นโดยการปรับกราฟิกให้สูงที่สุดทุกเกม ผลคือสามารถเล่นได้ทุกเกมแบบลื่น ๆ เลย นอกจากนี้เกม PUBG Mobile ยังสามารถเล่นแบบ 120FPS ได้อีกด้วย อีกทั้งความร้อนสะสมระหว่างเล่นเกมก็น้อยลงด้วยเช่นกันเมื่อเทียบกับ Galaxy S24 Ultra
ในเรื่องการใช้งานอื่น ๆ นั้น ส่วนของการจับถือบอกเลยว่ารู้สึกดีขึ้นเยอะ แม้ขนาดตัวเครื่องจะไม่ได้ต่างไปจากเดิมเท่าไร แต่น้ำหนักตัวเครื่องนั้นมีการลดลงมาเล็กน้อย ทำให้สามารถถือเครื่องได้นานขึ้น (ตัวผมถือ Galaxy S24 Ultra ของตัวเองและ Galaxy S25 Ultra ที่เป็นเครื่องรีวิวพร้อมกัน แต่ก็หยิบ Galaxy S25 Ultra ขึ้นมาเล่นบ่อยกว่า เพราะมันสบายมือมากกว่า) สำหรับในส่วนของความบันเทิงอย่างการเล่นโซเชียลหรือการดูหนังเองก็เนียกได้ว่าทำได้ดีเหมือนเดิม เพราะสีสันของหน้าจอมีความสวยสด และมีความสว่างมากพอที่จะสู้แดดเมืองไทยได้สบาย อีกทั้งตัวลำโพงก็ดังพอที่จะสู้เสียงรอบข้างได้สบาย
กล้องถ่ายภาพ
สำหรับกล้องถ่ายภาพนั้นหลัก ๆ แล้วจะใช้กล้องชุดเดิมจากรุ่นก่อนหน้าคือกล้องหลักความละเอียด 200MP กล้อง Telephoto 10MP กล้อง Periscope 50MP และกล้องหน้า 12MP แต่จะมีการอัปเกรดกล้อง Ultra-Wide ใหม่เป็นกล้องความละเอียด 50MP ซึ่งจากที่ได้เอาไปลองถ่ายมาบอกเลยว่าภาพดูดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพซูมที่มีความคมชัดขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว ใครที่เป็นสายคอนเสิร์ตน่าจะถูกใจไม่น้อย เพราะตอนนี้สามารถซูมไปถึงเวทีแบบชัด ๆ ได้แล้วนั่นเอง นอกจากนี้ด้วยฟีเจอร์ Virtual Aperture เมื่อใช้ร่วมกับ Expert RAW ก็จะช่วยมอบประสบการในการถ่ายภาพแบบกล้อง DSLR บนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
สำหรับการถ่ายวิดีโอเอง ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะ Galaxy S25 Ultra นั้นสามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดที่ 8K 30FPS พร้อมด้วยฟีเจอร์พิเศษ Galaxy Log ที่จะมาช่วยในการเก็นแสงและเงาให้มากขึ้นและยังสามารถปรับแต่สีในวิดีโอได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพไป ซึ่งฟีเจอร์นี้นั้นในค่าตั้งต้นจะสามารถใช้ได้แค่ในโหดม Pro เท่านั้น แต่สามารถไปตั้งค่าให้สามารถใช้งานในโหมดปกติได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Audio Eraser มาช่วยลบเสียงรบกวนต่าง ๆ ในวิดีโอด้วย บอกเลยจากที่ลองมาโดนใจทำสายคอนเทนต์แน่นอน
ตัวอย่างภาพถ่าย
แบตเตอรี่
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น Galaxy S25 Ultra จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh เท่าเดิม และมาพร้อมระบบชาร์จเร็วสูงสุด 45W เท่ารุ่นก่อน ๆ แต่สิ่งที่พิเศษกว่ารุ่นก่อน ๆ คือตัวชิปประมวลผลที่ใช้พลังงานน้อยกว่า ทำให้แบตเตอรี่ลดลงช้ากว่ารุ่นก่อน ๆ ซึ่งถ้าใช้งานแบบเบา ๆ ไม่ได้เล่นเกมโหด ๆ หรือเล่นกลางแดดที่ต้องเปิดแสงสว่างสุด ๆ ตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ถึงวันที่ 2 แบบสบาย ๆ แต่ถ้ามีการใช้งานแบบหนัก ๆ หรือจริงจังขึ้นมา ตัวเครื่องก็สามารถยื้อแบตเตอรี่จนหมดวันได้สบาย ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณระบบระบายความร้อนใหม่ที่ระบายความร้อนได้ดีขึ้นด้วย เลยทำให้ตัวเครื่องร้อนน้อยลง สงผลให้แบตเตอรี่ลดช้าลงด้วยนั่นเอง
สำหรับการชาร์จนั้นต้องยอมรับว่าแอบแปลกใจนิดหน่อย เพราะถึงแม้จะใช้ระบบชาร์จตัวเดียวกันกับรุ่นก่อน ๆ แต่ Galaxy S25 Ultra กลับใช้เวลาชาร์จน้อยกว่า โดยเราได้ลองจับเวลาชาร์จดูแล้วตอนแบตเตอรี่เหลือ 10% ในเวลาแค่ 20 นาทีแบตเตอรี่ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 50% แล้ว และเมื่อชาร์จจนเต็มจะใช้เวลาเพียง 58 นาทีเท่านั้น ถ้าเป็นรุ่นก่อน ๆ จะใช้เวลาเกิน 1 ชั่วโมงมานิดหน่อย ซึ่งก็คาดว่าเป็นเพราะความร้อนสะสมระหว่างชาร์จน้อยลงนั่นเอง แต่ก็ต้องขอบอกเอาไว้ด้วยว่าความเร็วในการชารืจนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการใช้งานของคน ๆ นั้นด้วยนะครับ
สรุปการรีวิว
สรุปการรีวิว Samsung Galaxy S25 Ultaer จากที่ได้เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่ง อันนี้ต้องบอกเลยว่าคราวนี้ Samsung ทำถึงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวเครื่องที่ทนทานขึ้น น้ำหนังเบาลง ชิปประมวลผลที่แรงแบบสุด ๆ การระบายความร้อนที่ดีขึ้น กล้องที่ซูมไกล ๆ แล้วคมชัดขึ้น และ AI ที่มากความสามารถมากขึ้น ตอบโจทย์สมาร์ทโฟนเรือธง Android ที่ดีที่สุดในปีนี้แล้ว แค่คราวนี้น่าจะตอบโจทย์กับสายคอนมากขึ้น ด้วยความสามารถซูมจากที่นั่งไปหน้าเวทีได้แบบชัด ๆ แล้ว
สำหรับคนที่สนใจ Samsung Galaxy S25 Ultra นั้น ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกัน 3 ความจุและมีราคาดังต่อไปนี้
- รุ่น 12GB / 256GB ราคา 46,900 บาท
- รุ่น 12GB / 512GB ราคา 52,900 บาท
- รุ่น 12GB / 1TB ราคา 62,900 บาท
โดยสามารถหาซื้อได้ที่ samsung.com, Samsung Shop และตัวแทนจำหน่ายต่าง ๆ ได้เลยครับ
สเปคตัวเครื่อง
| สเปค | Samsung Galaxy S25 Ultra |
|---|---|
| สี | – Titanium Silverblue – Titanium Black – Titanium Gray – Titanium Whitesilver – Titanium Jetblack (สีพิเศษ) – Titanium Jadegreen (สีพิเศษ) – Titanium Pinkgold (สีพิเศษ) |
| วัสดุ | – กระจก Gorilla Armor 2 – เฟรมไทเทเนียม |
| หน้าจอแสดงผล | – Dynamic AMOLED 2X – ขนาด 6.9 นิ้ว – ความละเอียด WQHD+ (3120 x 1440 พิกเซล) – Refresh Rate 1-120Hz – ความสว่างสูงสุด 2,600 nits |
| ชิปประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 8 Elite For Galaxy |
| แรม | 12GB / 16GB (LPDDR5X) |
| พื้นที่เก็บข้อมูล | 256GB / 512GB / 1TB (UFS 4.0) |
| กล้องหลัง | – Main : 200MP, f/1.7, OIS – Ultrawide : 50MP, f/1.9, 120˚ – Telephoto 3x : 10MP, f/2.4, OIS – Periscope 5x : 50MP, f/3.4, OIS |
| กล้องหน้า | 12MP, f/2.2 |
| แบตเตอรี่ | 5000mAh |
| ระบบชาร์จ | 45W (PPS) |
| ชาร์จไร้สาย | 15W (Qi2) |
| ระบบปฏิบัติการ | One UI 7 (Android 15) |
| การเชื่อมต่อ | – 5G UWB – Wi-Fi 7 (802.11a/b/g/n/ac/ax/be) – Bluetooth 5.4 – GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS – NFC – USB Type-C 3.2 Gen 1 |
| คุณสมบัติพิเศษ | – S Pen – Galaxy AI – ลำโพงคู่ Tuned by AKG – Samsung DeX – ทนน้ำทนฝุ่น IP68 |
| ขนาด | 162.8 x 77.6 x 8.2 มม. |
| น้ำหนัก | 218 กรัม |
| ราคา | – รุ่น 12GB + 256GB ราคา 46,900 บาท – รุ่น 12GB + 512GB ราคา 52,900 บาท – รุ่น 16GB + 1TB ราคา 62,900 บาท |
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุปสเปค Samsung Galaxy S25/ S25+/ S25 Ultra มีอะไรใหม่ ราคาเท่าไหร่บ้าง
เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 vs S25+ vs S25 Ultra ต่างกันยังไง ซื้อรุ่นไหนดีปี 2025
เทียบสเปค Samsung Galaxy S25 Ultra vs S24 Ultra ต่างกันยังไง ซื้อรุ่นไหนดีในปี 2025
เทียบสเปค Samsung Galaxy S25 Ultra vs S23 Ultra ซื้อใหม่ดีไหมปี 2025
เทียบสเปค Samsung Galaxy S25 Ultra vs iPhone 16 Pro Max ต่างกันยังไง ซื้อรุ่นไหนดีปี 2025
