Samsung Galaxy Fit2 สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung ที่รองรับการใช้งานทุกไลฟ์สไตล์ แบตเตอรี่ถึกทน กันน้ำ มาพร้อมโหมดออกกำลังกายมากกว่า 90 แบบ พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่เตือนการล้างมือเพื่อป้องกัน COVID-19 นับได้ว่าเป็นสมาร์ทแบนด์ที่ค่อนข้างครบเครื่องทีเดียว ทั้ง ๆ ที่ราคาขายไม่ถึง 2,000 บาท
สเปคของ Samsung Galaxy Fit2
- ขนาดตัวเรือน : 45.59×18.6×11.13 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 24 กรัม
- หน้าปัด : AMOLED กว้าง 1.1 นิ้ว ความสว่างสูงสุด 450 nits ครอบทับด้วยกระจก 3 มิติ
- RAM : 2MB
- ROM : 32MB
- ระบบปฏิบัติการ : Free RTOS
- อุปกรณ์ที่รองรับ : Android 5.0 ขึ้นไป มี RAM 1.5GB และ iOS 9.0 ขึ้นไป
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
- การกันน้ำ : 5ATM (ลึก 50 เมตร)
- แบตเตอรี่ : 159mAh
- สี : Black, Scarlet
- ราคา 1,590 บาท
ดีไซน์
Samsung Galaxy Fit2 ด้วยความที่เป็นสมาร์ทแบนด์น้ำหนักเบาที่ทำจากพลาสติกทำให้มีความเบาเพียง 24 กรัม เพื่อความคล่องตัวต่อการออกกำลังกาย นอกจากนี้ด้วยขนาด 46.59×18.6×11.13 มิลลิเมตร ทำให้ไม่เกะกะอีกด้วย
หน้าจอของ Galaxy Fit2 เป็นหน้าจอกระจกโค้ง 3D ชนิด AMOLED ขนาด 1.1 นิ้ว ที่สามารถทำความสว่างได้ถึง 450 nits นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Home อยู่ใต้หน้าจออีกด้วย
ด้านหลังของตัวเรือนจะมีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับค่าต่าง ๆ อย่างเช่นอัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าความเครียด และการนอนหลับเป็นต้น ส่วนด้านบนเซนเซอร์จะเป็นปุ่มแม่เหล็กสำหรับใช้ชาร์จแบตเตอรี่ โดยจะมีตัวช้วยล็อคอยู่ด้านข้าง
สายรัดข้อมือเป็นสายซิลิโคน ทำให้เมื่อต้องสวมใส่นาน ๆ แล้วจะไม่มีอาการระคายเคือง นอกจากนี้ยังสามารถถอดได้ด้วย
ในกล่องนั้นนอกจากตัวเรือน Samsung Galaxy Fit2 แล้วยังมีที่ชาร์จแบตเตอรี่และหนังสือคู่มือมาให้ด้วย
การเชื่อมต่อ
ก่อนจะทำการเชื่อมต่อสิ่งแรกที่จำเป็นจะต้องมีเลยก็คือแอพ Galaxy Wearable, Galaxy Fit2 Plugin, Samsung Accessory Service และ Samsung Health รวม 4 แอพด้วยกัน (สำหรับมือถือ Samsung จะมีติดมาให้อยู่แล้ว) โดยจะทำการเชื่อมต่อผ่านแอพ Galaxy Wearable
รูปแบบหน้าปัดนาฬิกา
Galaxy Fit2 นั้นมีหน้าปัดให้เลือกเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ในแอพ Galaxy Wearable ในเมนูหน้าปัดนาฬิกาด้านล่าง ซึ่งตัวหน้าปัดแต่ละรูปแบบจะมีสีสันและรูปแบบการแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน ซึ่งเมื่อทำการเลือกในแอพแล้วหน้าจอบน Galaxy Fit2 จะทำการเปลี่ยนหน้าจอไปทันที
โหมดออกกำลังกาย
Galaxy Fit2 มาพร้อมกับโหมดออกกำลังกายถึง 90 แบบ ไม่ว่าจะเป็นการอกอกำลังกายแบบไหนก็ครอบคลุมทั้งหมด ทำให้เป็นสายรัดที่เหมาะกับกลุ่มนักรักการออกกำลังกายเป็นที่สุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมโค้ชเลือกเป้าหมายตามความต้องการได้ ซึ่งในการออกกำลังกายแต่ละครั้งจะมีการบันทึกสถิติไปยังแอพ Samsung Health โดยจะมีการสรุปจำนวนแคลอรี่ที่เฝาผลาญไป, ระยะทาง และสถิติต่าง ๆ ในการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังสามารถกลับมาดูสถิติเดิม และนำไปเปรียบเทียบกับผู้ใช้งานรายอื่น ๆ ได้ด้วย
ตรวจจับการออกกำลังกายแบบอัตโนมัติ
Galaxy Fit2 มาพร้อมฟีเจอร์พิเศษที่ช่วยให้ไม่ต้องมาคอยกดเริ่มโหมดออกกำลังกายให้เสียเวลา เพราะ Galaxy Fit2 มีฟีเจอร์ Automatic Workout Detection ที่คอยตรวจจับการออกกำลังกายให้แบบอัตโนมัติ โดยระบบสามารถตรวจจับการออกกำลังกายได้ 5 แบบคือ วิ่ง, เดิน, ยืดกล้ามเนื้อ, ออกกำลังกายบนสายพาน, และเครื่องกรรเชียงบก จากนั้นระบบก็จะวัดประสิทธิภาพให้ทันทีระหว่างสวมใส่
กันน้ำได้ลึก 5 ATM
Galaxy Fit2 มาพร้อมความสามารถในการกันน้ำระดับ 5 ATM ซึ่งจะกันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร และยังมีโหมด Water Lock ช่วยป้องกันการสัมผัสหน้าจอแบบไม่ตั้งใจระหว่างอยู่ใต้น้ำ
โหมดสุขภาพ
ใน Galaxy Fit2 นอกจากจะสามารถตรวจจับการเต้นของหัวใจได้แล้วยังสามารถตรวจวัดระดับความเครียดและยังสามารถติดตามการนอนของผู้สวมได้อีกด้วย ซึ่งในโหมดวัดระดับความเครียดนี้จะวัดออกมาเป็นคะแนนพร้อมทั้งมีโหมช่วยฝึกหายใจเพื่อลดความเครียดลงได้ด้วย
สำหรับโหมดติดตามการนอนนั้นจะเริ่มทำงานแบบอัตโนมัติ โดยจะทำการบันทึกข้อมูลทั้งหมดในการนอนของผู้สวมทั้งระยะเวลานอน และพฤติกรรมในการนอนต่าง ๆ โดยแบ่งเป็น ตื่น, REM, หลับปานกลาง, หลับลึก จากนั้นก็มีการให้คะแนนพฤติกรรมในการนอน เพื่อให้ผู้ใช้งานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนของตัวเองได้
โหมดล้างมือ
ในช่วงนี้ที่เชื้อไวรัส COVID-19 ยังระบาดไม่หยุด Samsung จึงได้ใส่ฟีเจอร์ใหม่เข้ามาใน Galaxy Fit2 ด้วยนั่นก็คือฟีเจอร์ล้างมือที่จะช่วยเตือนผู้สวมให้ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 โดยตัวระบบจะจับเวลา 25 วินาที ซึ่งเป็นระยะเวลาล้างมือที่เหมาะสมที่สุด จากนั้นจะมีการนับจำนวนครั้งว่าล้างไปแล้วกี่ครั้ง ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งการสั่นเตือนให้ล้างมือผ่านแอพ Galaxy Wearable ได้ด้วย
ตอบข้อความผ่าน Samsung Galaxy Fit2
Galaxy Fit2 นั้นมีความสามารถในการอ่านข้อความภาษาไทยจากข้อความหรือแชทที่ได้รับมาด้วย ซึ่งนอกจากจะอ่านได้แล้วยังสามารถตอยกลับได้อีกด้วย ซึ่งตัวระบบจะมีเซ็ตข้อความสำหรับตอบกลับให้เลือก รวมถึงสามารถเพิ่มหรือแก้ไขข้อความสำหรับตอบกลับได้เองอีกด้วย ช่วยให้ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาตอบข้อความทุกครั้ง เพิ่มความสะดวงสบายได้อย่างมาก
ควบคุมเพลงได้ง่าย
Galaxy Fit2 นั้นสามารถควบคุมการเล่นเพลงรวมไปถึงการเพิ่ม-ลดเสียงได้ทันทีโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสกับตัวมือถือเลย อีกทั้งชื่อเพลงที่แสดงบนหน้าจอยังสามารถแสดงชื่อเป็นภาษาไทยได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยนอีกด้วย
แบตเตอรี่สุดอึด
Galaxy Fit2 นั้นทาง Samsung เคลมมาระบุว่าสามารถใช้งานได้สูงสุด 21 วันเมื่อปิดใช้งานโหมด Automatic Workout Detection และใช้ได้นาน 15 วันถ้าเปิดใช้งานแบบปกติซึ่งจากที่ได้ลองใช้งานมาเกือบ 1 สัปดาห์ เอาไปใช้ตอนออกกำลังบ้าง ตอนนอนบ้าง (เรียกง่าย ๆ ว่าใส่ตลอดเวลายกเว้นตอนอาบน้ำ) รวมถึงเปิดให้การตรวจจับการเต้นของหัวใจเป็นตลอดเวลาแล้วพบว่าเหลืออยู่ 58% จากที่เริ่มมี 100%
สรุป
Samsung Galaxy Fit2 นั้นจากที่ได้ลองใช้มาต้องบอกว่าทำได้ค่อนข้างดีในเรื่องของขนาดและน้ำหนัก เพราะมีความเบาสุด ๆ จนเหมือนไม่มีอะไรอยู่บนข้อมือเลยสักนิด แต่ถึงอย่างนั้นตัวเรือนก็นับว่ามีความทนทานใช้ได้ หน้าจอสีสันสวยสดแถมยังสว่างมากอีกด้วย นอกจากนี้ยังกันน้ำได้ถึง 5ATM ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าเปียกแล้วจะพัง นอกจากนี้ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ถึง 2 สัปดาห์ต่อกาชาร์จ 1 ครั้งยังช่วยให้ไม่ต้องถอดบ่อย ๆ อีกด้วย
ในด้านฟีเจอร์ต่าง ๆ นับให้ให้มาเหลือเกินมาก ทั้งการตรวจจับกิจกรรมแบบอัตโนมัติ การวัดระดับความเครียดและอัตราเต้นของหัวใจพร้อมยังแจ้งเตือนเมื่อพบการเต้นหัวใจที่เป็นอันตรายอีกด้วย รวมไปถึงการเตือนให้คอยล้างมืออีก ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นฟีเจอร์ที่ให้มาเกินราคาค่าตัวอยู่พอสมควร นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมดูแลสุขภาพบน Samsung Health ครบทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีวิธีการดูแลสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมาให้ศึกษาแบบฟรี ๆ พร้อมทั้งมีวีดีโอเทรนนิ่งให้อีกด้วย
ถ้าเพื่อน ๆ สนใจสามารถซื้อ Galxy Fit2 นี้ได้ที่ Samsung Shop และเว็บ Samsung ได้เลยครับ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สีคือสีดำและสี Scarlet (สีที่รีวิว) ในราคา 1,590 บาทเท่านั้น