รีวิว Redmi Note 12 Pro 5G สมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมกล้องระดับเรือธง ดีไซน์แบบพรีเมี่ยม ในราคาเพียง 12,990 บาท

Redmi Note 12 Pro 5G สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ของ Xiaomi ผู้มาพร้อมสเปคระดับเรือธง ได้เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วด้วยราคาที่เรียกได้ว่าเข้าถึงได้ง่ายมากเมื่อเทียบกับสเปคที่ให้ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้เลยก็คือการที่ตัวเครื่องมาพร้อมกล้องระดับเรือธงด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX766 ที่มักเจอในรุ่นระดับเรือธง ได้ชิปประมวลผลระดับกลางอย่าง Dimensity 1080 พร้อมด้วยงานประกอบที่เรียกได้ว่าเนี๊ยบ ในราคาเพียงหมื่นต้นๆ เท่านั้น สำหรับใครที่อยากรู้ว่าการใช้งานเป็นอย่างไร เราไปดูกันได้เลย

• สเปค
• ดีไซน์
• ระบบปฏิบัติการ
• การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
• การเล่นเกม
• การถ่ายภาพ
• สรุปการรีวิว

สเปคของ Redmi Note 12 Pro 5G

• หน้าจอ : Flow AMOLED, ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, ความสว่างสูงสุด 900 nits, รองรับช่วงสี DCI-P3, รองรับ Dolby Vision, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
• ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 1080
• แรม : 6GB / 8GB ชนิด LPDDR4x
• หน่อยความจำ : 128GB / 256GB ชนิด UFS 2.2
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.88, OIS (wide) | เซ็นเซอร์ Sony IMX766
  • ตัวที่ 2 : 8MP, f/2.2, 119° (ultrawide)
  • ตัวที่ 3 : 2MP, f/2.4 (macro)
• กล้องหน้า : 16MP, f/2.45
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W Turbo Charge
• ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 14
• การเชื่อมต่อ :
  • 5G Dual mode
  • Wi-Fi 6
  • Bluetooth 5.2
  • GPS L1 | Glonass G1 | BDS B1I | Galileo E1
  • NFC
  • USB Type-C 2.0
• เซ็นเซอร์ :
  • Fingerprint sensor (ด้านข้าง)
  • AI Face Unlock
  • Proximity sensor
  • Ambient light sensor
  • Accelerometer
  • Electronic compass
  • IR blaster
  • Gyroscope
• ขนาด : 162.9 x 76 x 7.98 มม.
• น้ำหนัก : 187 กรัม
• สี : Polar White, Midnight Black, Sky Blue
• ราคา :
  • 6GB / 128GB : 9,999 บาท
  • 8GB / 256GB : 12,990 บาท

ดีไซน์ตัวเครื่อง

ในด้านดีไซน์นั้น Xiaomi ออกแบบ Redmi Note 12 Pro 5G ออกมาให้ดูพรีเมี่ยมไม่เหมือนวมาร์ทโฟนระดับกลางเลยด้วยการใส่ฝาหลัง ทำให้ตัวเครื่องมีความโดดเด่นขึ้นอยบ่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยรอยนิ้วมือที่ติดหลังเครื่องได้ง่ายและชัดขึ้น นอกจากนี้ยังทำตัวเครื่องมาได้ค่อนข้างบาง ทำให้ตัวเครื่องเวลาจับถือเบาสบายมือขึ้น สำหรับสีสันนั้นตัวเครื่องจะมีให้เลือก 3 สีคือสีขาว Polar White, สีดำ Midnight Black และสีฟ้า Sky Blue ซึ่งในที่นี้เราได้สีดำ Midnight Black มา สำหรับตัวโมดูลกล้องนั้นจะมีรูปทรงสี่เหลี่ยมยกสูงขึ้นจากหลังเครื่องเล็กน้อย มีการจัดวางเลนส์กล้องเป็นรูปสามเหลี่ยม และมีไฟแฟลชอยู่ที่มุมขวาล่าง

ในส่วนของหน้าจอนั้นเป็นหน้าจอแบบ Punch hole พาแนล AMOLED ที่มีขนาดหน้าจอแสดงผลที่ 6.67 นิ้ว มีความละเอียดระดับ FHD+ และมีอัตรารีเฟรชที่ 120Hz พร้อมด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5 และด้วยการที่เป็นจอแบบ Punch hole ทำให้ตัวเครื่องมีขอบจอที่บางมาก

สำหรับขอบเครื่องนั้นจะเป็นขอบแบบเหลี่ยมตามพิมพ์นิยม โดยจะมีปุ่มทั้งหมดรวมกันที่ฝั่งขวาไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิด-ปิด ที่ทำหน้าที่เป็นที่สแกนลายนิ้วมือ ส่วนด้านซ้ายจะไม่มีอะไรอยู่เลย สำหรับด้านบนนั้นจะมีลำโพงตัวเครื่อง, ช่องหูฟัง 3.5 มม.ม รูไมโครโฟนสำหรับตัดเสียง และ IR Blaster ส่วนที่ด้านล่างจะมีลำโพงอีกตัว, พอร์ต USB Type-C, รูไมโครโฟน และช่องใส่ซิม

ระบบปฏิบัติการ

สำหรับระบบปฏิบัติการนั้นนับว่าเป็นอะรไที่ค่อนข้างพิเศษ เนื่องจาก Redmi Note 12 Pro 5G นั้นจะมาพร้อม Android 12 รุ่นพิเศษที่ครอบทับด้วย MIUI 14 เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งถึงแม้จะเป็น Android 12 แต่ก็จะมีฟีเจอร์บางอย่างที่มีใน Android 13 ด้วย (ถึงจะมาไม่ครบก็ตาม) สำหรับตัว UI นั้นจะเป็นดีไซน์แบบเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟน Xiaomi / Redmi ทุกรุ่น ซึ่งเน้นที่คววามเรียบง่ายเป็นหลัก นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบด้วยไม่ว่าจะเป็นธีมหรือฟอนต์ตัวอักษร

การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ

สำหรับประสบการณ์การใช้งานของ Redmi Note 12 Pro 5G นั้นบอกเลยว่าลื่นหัวแตกไม่ว่าตจะเป็นการสัมผัสหรือการเปิดแอปฯ ต่างๆ ก็ทำได้ลื่นไหล แต่ที่เด่นหน่อยจะเป็นเรื่องความบันเทิง เนื่องจากตัวเครื่องมาพร้อมลำโพงคู่ระบบเสียง Dolby ทำให้ได้อรรถรสในการรับชมดีพอสมควร แถมเสียงยังดังด้วย เพียงแต่ด้วยการวางตำแหน่งของลำโพงที่เมื่อถือแนวนอนตัวลำโพงในฝั่งซ้ายจะอยู่มนจุดที่ถูกมือปิดเอาไว้ ทำให้เสียงที่ออกมาอู้อี้เล็กน้อย

สำหรับแบตเตอรี่และระบบชาร์จนั้นตัวเครื่องที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh นั้นสามารถใช้งานได้ตลอดวันสบายๆ แต่ถ้ามีการเปิดเกมจะลดค่อนข้างเร็ว ทำให้อาจจะต้องมีการชาร์จระหว่างวันบ้าง ซึ่งเมื่อพูดถึงระบบชาร์จแล้วตัวเครื่องจะมาพร้อมระบบชาร์จ 67W Turbo Charge ซึ่งจากที่ได้ทดลองนั้นเราลองชาร์จตอบแบตเตอรี่เหลือ 1% ใน 10 นาทีแรกแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาถึว 30% และเมื่อผ่านไปเพียง 30 นาทีจะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมามากถึง 78% เลยทีเดียว และเมื่อรวมเวลาชาร์จจาก 1% – 100% จะใช้เวลาราวๆ 54 นาที ซึ่งนับว่าค่อนข้างเน็วทีเดียว แต่สิ่งที่ตามาก็คือความร้อนที่ขึ้นมาสูงพอสมควร ทำให้ไม่แนะนำให้ชาร์จไปเล่นไปเท่าไร

การเล่นเกม

ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นตัวเครื่องที่มาพร้อมชิปประมวลผล Dimensity 1080 หน้าจอ AMOLED 120Hz ที่มีอัตราการตอบสนองสูง 240Hz และลำโพงคู่นั้นบอกเลยว่าทำให้สามารถเล่นเกมได้สนุกพอสมควร แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือการปรับค่ากราฟิกที่บางเกมไม่สามารถปรับสูงมากๆ ได้ อย่าง RoV ที่ไม่สามารถปรับการแสดงผลเป็นระดับสูงมากได้ ซึ่งทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะตัวชิปประมวลผลยังไม่ได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับตัวเกมก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลตือความลื่นแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Game Turbo มาช่วยเสริมและเพิ่มลูกเล่นให้กับการเล่นเกมได้มากขึ้นอีกด้วย (โดยเฉพาะฟีเจอร์เปลี่ยนเสียงนี่ช่วยได้เยอะเวลาอยากเปิดไมค์แต่ไม่อยากเผยตัวตน) แต่สิ่งที่เจอหลังเล่นเกมไปได้ระยะหนึ่งก็คทอความร้อนที่ขึ้นค่อนข้างเร็ว ถึงจะไม่ได้ขึ้นจนสูงมากแต่ก็ทำให้รู้สึกในระดับลำคาญมือพอสมควร

การถ่ายภาพ

ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้นตัวเครื่องตะมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 เลนส์ที่ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก 50MP, เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ซึ่งจุดที่ทาง Xiaomi เน่นสุดๆ เลยก็คือเซ็นเซอร์กล้องหลังที่ใช้เป็น Sony IMX766 ที่มักจะเจอแต่ในเครื่องรดับเรือธงเท่านั้น แถมด้วยระบบกันสั่นที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้นิ่งขึ้น และ Xiaomi Imaging Engine อัลกอริทึม AI ที่จะมาช่วยประมวลผลภาพให้ ซึ่งจากที่ได้เอาไปลองถ่ายมาทั้งกลางวันและกลางคืนแล้วบอกเลยว่าในเรื่องของการเก็บรายละเอียดทำออกมาได้ดีอย่างมาก แต่จุดที่ทำให้งงก็คือในบางครั้งตัว AI ประมวลผลภาพออกมาแล้วการวัดแสงหรือสีสันจะมีเพี้ยนๆ ไปบ้าง ทำให้อาจจะต้องถ่ายหลายช็อตหน่อยกว่าจะได้ภาพที่ต้องการ

ตัวอย่างภาพถ่าย

สรุปการรีวิว Redmi Note 12 Pro 5G

สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องบอกว่า Redmi Note 12 Pro เป็นเครื่องที่น่าสนในเมื่อมองที่สเปคและราคา ถึงจะมีบางจุดที่ต้องใช้พิจารณาบ้าง แต่ก็เป็นเครื่องที่ใช้ได้เลยทีเดียว ในด้านการใช้งานก็ทำออกมาได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือสเปคเทพๆ ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ ในราคาที่เข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือวัยทำงาน หรือคนที่มีการเปลี่ยนเครื่องใหม่ทุกปี ซึ่งสำหรับคนที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ mi.com/th โดย Redmi Note 12 Pro 5G นั้นโดยทั่วไปจะขายเฉพาะรุ่น 8GB / 256GB เท่านั้น แต่ทว่าจะมีรุ่นพิเศษ 6Gb / 128GB ขายเฉพาะที่ AIS เท่านั้นในราคา 9,999 บาทด้วย

จุดเด่น

• ดีไซน์มีความพรีเมี่ยมเกินหน้าเกินตาเครื่องในเรทราคาเดียวกัน
• ตัวเครื่องมีความบางเบา ทำให้พกพาง่าย และถือแล้วสบายมือ
• ได้ชิปประมวลผล Dimensity 1080
• มาพร้อมความจุ 256GB ตั้งแต่ต้นเลย
• ได้เซ็นเซอร์กล้อง Sony IMX766 ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่นเรือธง
• มาพร้อมชาร์จเร็ว 67W Turbo Charge ที่ใช้เวลาชาร์จแค่ 30 นาทีก็ได้แบตมา 78% แล้ว

ข้อสังเกต

• ความร้อนขึ้นค่อนข้างเร็ว
• AI กล้องมีความเพี้ยนเล็กๆ ทำให้ภาพมีสีหรือแสงเพี้ยนจนต้องถ่ายหลายครั้ง
• เปิดกล่องมาด้วย Android 12 อยู่ ถึงจะเป็นรุ่น S ที่ได้ฟีเจอร์บางอย่างมาจาก Android 13 ก็ตาม แต่ก็ยังไม่ใช่ Android 13 อยู่ดี