Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Phone Review»รีวิว Redmi 12 5G สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มาพร้อมชิป Snapdragon 4 Gen 2 ตัวแรกในไทย กับค่าตัวแค่ 5,999 บาทเท่านั้น
    Phone Review

    รีวิว Redmi 12 5G สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มาพร้อมชิป Snapdragon 4 Gen 2 ตัวแรกในไทย กับค่าตัวแค่ 5,999 บาทเท่านั้น

    ACHI-SPBy ACHI-SP1 กันยายน 2023
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    Redmi 12 5G

    Redmi 12 5G สมาร์ทโฟนตัวคุ้มรุ่นใหม่ของ Xiaomi ร่างจำแลงของ Redmi Note 12R 5G ที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งความน่าสนใจของรุ่นนี้ก็คือชิปประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 ที่มีความแรงระดับเดียวกับ Snapdragon 6xx เลยทีเดียวแถมยังมีราคาค่าตัวที่ไม่ได้แรงเกินไปด้วย ทำให้เป็นหนึ่งตัวที่น่าจะมีใครหลาย ๆ คนให้ความสนใจ วันนี้เราเลยจะมารีวิว Redmi 12 5G เครื่องนี้ให้ดูกัน

    • สเปค
    • ดีไซน์
    • ระบบปฏิบัติการ
    • การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
    • การเล่นเกม
    • การถ่ายภาพ
    • สรุปการรีวิว

    สเปคของ Redmi 12 5G

    • หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.79 นิ้ว, ความละเอียด 2460 x 1080 พิกเซล (FHD+), Refresh Rate 90Hz AdaptiveSync, Touch sampling Rate 240Hz, ความสว่างสูงสุด 550 นิต, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 3
    • ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 4 Gen 2
    • แรม : 4GB / 8GB ชนิด LPDDR4X
    • หน่อยความจำ : 128GB / 256GB ชนิด UFS 2.2 รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
    • กล้องหลัง :
      • ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.8 (wide)
      • ตัวที่ 2 : 2MP, f/2.4 (depth)
    • กล้องหน้า : 5MP, f/2.2
    • แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
    • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 14 บนพื้นฐานของ Andrpid 13
    • การเชื่อมต่อ :
      • 5G Dual SIM
      • Wi-Fi 5
      • Bluetooth 5.0
      • GPS / AGPS(L1), Glonass, Beidou, Galileo(E1)
      • NFC
      • USB Type-C
      • ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
    • เซ็นเซอร์ :
      • Fingerprint sensor (ด้านข้าง)
      • Ambient Light Sensor
      • E-Compass
      • Accelerometer
      • IR Blaster
    • มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP53
    • ขนาด : 168.6 x 76.28 x 8.17 มม.
    • น้ำหนัก : 199 กรัม
    • สี : Midnight Black, Sky Blue, Polar Silver
    • ราคา : 5,999 บาท

    ดีไซน์ตัวเครื่อง

    ดีไซน์ตัวเครื่องนั้นมาด้วยฝาหลังแบบกระจกพรีเมียมที่มีสีสันอันโดดเด่นไม่เหมือนใคร หรือที่ทาง Xiaomi เรียกว่า Crystal Glass Design ซึ่งสีสันตัวเครื่องจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ Midnight Black, Sky Blue, Polar Silver และที่เราได้มาก็คือสี Polar Silver บอกเลยว่าสวยใช้ได้ทีเดียว โดยบนหลังเครื่องจะมีการวางเลนส์กล้องเป็นแนวตั้งและมีไฟแฟลชอยู่ด้านข้างทำเป็นรูปสามเหลี่ยม และมีโลโก้ Redmi อยู่ที่ด้านล่างเครื่อง

    หน้าจอเป็นจอแบบ Punch Hole ขอบหนาเล็กน้อย มีพื้นที่แสดงผลขนาด 6.79 นิ้ว ที่ความละเอียด FHD+ รองรับอัตรารีเฟรช 90Hz แบบ AdaptiveSync ในรูที่อยู่ตรงกลางหน้าจอจะมีกล้องหน้าอยู่ เหนือขึ้นไปจะเป็นลำโพงสำหรับใช้สนทนาอยู่ และเมื่อมองเยื้องไปทางขวาเล้กน้อยจะเป็นจุดวางเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เอาไว้

    ของตัวเครื่อจะมาด้วยดีไซน์ขอบเหลี่ยมตามสมัยนิยม โดยที่ปุ่มทั้งหมดจะถูกรวมเอาไว้ที่ด้านข้างเครื่องทั้งปุ่มปรับเสียงและปุ่มเปิด-ปิด ซึ่งตัวปุ่มเปิด-ปิดนี้จะทำหน้าที่เป็นจุดสแกนลายนิ้วมือด้วย ส่วนฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมแบบ Hybrid ที่ต้องเลือกระหว่างซิม 2 หรือ MicroSD Card ที่ด้านบนจะมีเซ็นเซอร์อินฟาเรดและช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่ ส่วนด้านล่างจะมีลำโพงตัวเครื่อง, พอร์ต USB Type-C และรูไมโครโฟนอยู่


    ระบบปฏิบัติการ

    ระบบปฏิบัติการของ Redmi 12 5G จะมาพร้อม MIUI 14 ที่มีพื้นฐานบน Android 13 ตั้งแต่แกะกล่อง โดยตัว MIUI นี้จะมีดีไซน์ที่เรียบง่าย มาพร้อมแอปฯ ปรับแต่งและดูแลรักษาเครื่องครบครัน นอกจากนี้ยังไม่มี AppDrawer ทำให้เวลาโหลดแอปฯ ต่าง ๆ ลงมาติดตั้งแล้วตัวแอปฯ ทั้งหมดจะถูกรวมเอาไว้ที่หน้าจอ ซึ่งตรงนี้ถ้ามีการโหลดแอปณ เยอะ ๆ อาจจะต้องมาคอยจัดระเบียนมันหน่อย แต่ถ้าไม่ชอบหรืออยากตกแต่ UI ก็สามารถโหลดธีมมาเพิ่มได้ โดยจะมีทั้งแบบฟรีและเสียเงินให้เลือก สำหรับฟีเจอร์เพิ่มแรมหรือ Extended RAM นั้นตัวระบบจะมีค่าตั้งต้นมาให้ที่ 2GB ซึ่งตรงนี้แนะนำให้ไปเพิ่มเป็น 4GB เลยเพื่อความลื่นไหลที่ดียิ่งขึ้น


    การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ

    ในด้านการใช้งานต่าง ๆ นั้นตัวชิปประมวลผลนั้นแรงเกินพออยู่แล้ว และเมื่อรวมเข้ากับความเร็วของ 5G และหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชที่ 90Hz และอัตราตอบสนองที่ 240Hz แล้ว ก็ช่วยให้การเล่นโซเชียลมีความลื่นไหลกว่ารุ่นก่อน ๆ อีกทั้งด้วยความบางเพียง 8.17 มม. และหนักเพียง 199 กรัม ก็ทำให้การจับถือนาน ๆ สบายมือขึ้นเยอะ ในเรื่องความบันเทิงอย่างการดูหนังหรือดูซีรี่ส์ก็นับว่าไม่เลวด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว ก็ทำให้สามารถรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มตา เพียงแต่จะน่าเศร้าก็ตรงที่มีลำโพงเพียงตัวเดียวทำให้อรรถรสการฟังไม่ค่อยเต็มที่เสียเท่าไร ตรงนี้คงต้องไปพึ่งหูฟังไม่ก็ลำโพงเสริมเอา

    สำหรับแบตเตอรี่นั้นตัวเครื่องจะมีแบตเตอรี่อยู่ที่ 5000mAh ซึ่งตอนที่ลองเอาไปใช้นั้นบอกเลยว่าถึกจัด ใช้งานทั้งวันตกเเบตแบตเตอรี่เหลือมากกว่า 40% เสียอีก (เล่น Facebook, Tiktik อยู่บ่อย ๆ และมีเล่นเกมบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ) ส่วนเรื่องการชาร์จนั้นตัวเครื่องรองรับการชาร์จเร็ว 18W แต่ในกล่องจะให้อะแดปเตอร์ชาร์จขนาด 22.5W มา โดยเราได้เริ่มชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือ 1% แล้วเครื่องบังคับปิดตัว ใน 10 นาทีแรกจะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 12% และถึง 50% ภายในเวลา 45 นาที และเมื่อรวมระยะเวลาชาร์จจาก 1% – 100% จะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 56 นาที ซึ่งก็ถือว่าเป็นระยะเวลาชาร์จปกติของเครื่องที่ชาร์จ 18W


    การเล่นเกม

    สำหรับการเล่นเกมนั้นเป็นอะไรที่คอ่นข้างน่าสนใจ โดยชิป Snapdragon 4 Gen 2 นั้นเป็น่ชิประดับเริ่มต้น แต่ความแรงนั้นก็นับว่าไม่ธรรมดา เพราะในหลาย ๆ เกมสามารถปรับตั้งค่าได้มากกว่าเครื่องที่ใช้ชิป Snapdragon 6xx เสียอีก แต่มันจะมาติดก็ตรงที่แรมที่ให้มามีเพียง 4GB ทำให้ตอนระหว่างเล่นจะมีอาการกระตุกกับเฟรมเรทตก ซึ่งตรงนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการเพิ่มแรมขึ้นอีก 4GB ก็จะทำให้อาการกระตุกลดน้อยลง สำหรับเกมที่เราเอามาทดลองนั้นจะมี RoV, PUBG Mobile, Asphalt 9

    สำหรับผลที่ได้คือเกม RoV นั้นก่อนปรับแรมให้กลายเป็น 4GB + 4GB นั้นจะมีจังหวะที่เกมกระตุและเฟรทเรทตกเหลือแถว ๆ 30FPS อยู่บ่อย ๆ แล้วไม่เพิ่มกลับมาด้วย แต่พอเพิ่มแรมเข้าไปเฟรมเรทจะเกาะอยู่าแถว ๆ 58 – 61FPS และจะร่วงลงมาแถว ๆ 45FPS ชั่วคราวตอนจังหวะตะลุมบอน ส่วนเกม PUBG Mobile นั้นสามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ HD เฟรมเรท สูง แต่ถ้าปรับกราฟิกเป็น ดี ก็จะสามารถเพิ่มเฟรมเรทขึ้นมาเป็น Ultra ได้ จะบอกว่าใช้เล่นเกมได้แต่เน้นเล่นฆ่าเวลามากกว่าจะเล่นแบบจริงจัง


    การถ่ายภาพ

    ในเรื่องการถ่ายภาพนั้นตัวเครื่องจะมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 2 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าจะเป็นกล้องเซลฟี่ความละเอียด 2MP มาพร้อมโหมดกลางคืนและโหมดบันทึกภาพเคลื่อนไหว ซึ่งโหมดทั้งหมดที่ให้มานั้นเรียกได้ว่าครบครันต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว ซึ่งจากการที่เอาไปลองช้งานมานั้นหากเป็นช่วงที่แสงเพียงพอภาพที่ได้จะมีความคมชัด ตัดขอบได้ดี รวมถึงสามารถถ่ายภาพดอกไม่ในระยะใกล้ได้โดยไม่ต้องพึ่งเลนส์มาโครเลย

    รวมถึงสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยพร้อมรายละเอียดก็ทำออกมาได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งขาตั้งกล้อง เพียงแต่หากแสงเพี้ยนก็จะพา White Balance เพี้ยนไปด้วย ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยอาจจะลำบากนิดหน่อย นอกจากนี้หากแสงน้อยตัวระบบจะมีดีเลย์ตอนบันทึกภาพทำให้หากไม่อยู่กับที่ภาพที่ได้จะเบลออย่างแน่นอน เพราะตอนที่ลองคือลองกดถ่ายภาพในขณะที่กำลังเคลื่อนที่ช้ามาก ๆ ผลคือภาพที่ได้เบลอเละเลย ดังนั้นจึงอยากแนะนำอย่างยิ่งในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยว่าต้องยืนอยู่กับที่จะดีที่สุ่ด

    ตัวอย่างภาพถ่าย


    สรุปการรีวิว Redmi 12 5G

    สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องยอมรับว่า Redmi 12 5G เป็นเครื่องที่ทำออกมาได้เหมาะสมกับราคาค่าตัวพอสมควร ถึงจะมีการจำกัดสเปคเพื่อกดราคาลงมา แต่ในด้านการใช้งานก็ครบอคลุมทุกความต้องการในชีวิตประจำวันแล้ว ซึ่งถ้าถามว่าเครื่องนี้เหมาะกับให้ใครใช้ก็ต้องบอกว่าเหมาะกับการซื้อให้เด็กไว้ใช้พกไปโรงเรียน, ซื้อให้พ่อ-แม่-ผู้สูงอายุที่ชอบเล่นโซเชียลและไว้ติดต่อหากัน หรือไม่ก็คนที่ต้องการเครื่องราคาไม่แพงไว้ใช้ติดต่อหรือเล่นโซเชียลเป็นหลักมากกว่า

    จุดเด่น

    • ดีไซน์เรียบง่าย สีสันโดดเด่น
    • ได้หน้าจอใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว
    • ชิปประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 ตัวแรกในไทย
    • กล้องตัดขอบและละลายหลังได้เนียน
    • แบตเตรี่อึดจัดใช้งานได้เกินวันสบาย ๆ
    • มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
    • ราคาค่าตัวที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ง่าย ๆ
    • ติดฟิล์มและให้เคสมาพร้อมในกล่องไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม

    ข้อสังเกต

    • ให้แรมมาแค่ 4GB ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้เล่นเกม ต้องไปแปลงความจุมาเพิ่ม
    • มีลำโพงแค่ตัวเดียว
    • White Balance กล้องเพี้ยนได้ง่าย
    • เวลาถ่ายภาพในที่แสงน้อยจะมีชัตเตอร์ดีเลย์ทำให้ถ่ายภาพเคลื่อนไหวไม่ได้
    • ไม่สามารถหาซื้อร้านทั่วไปได้ ต้องซื้อผ่านศูนย์ AIS, TRUE, dtac เท่านั้น

    โดยผู้ที่สนใจนั้น Redmi 12 5G จะมีเพียงแค่รุ่นแรม 4GB + 128GB และมีให้เลือก 3 สีคือ ได้แก่ Midnight Black, Sky Blue และ Polar Silver ในราคาเพียง 5,999 บาท ที่ร้านค้าของผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, TRUE และ dtac ในราคาเริ่มต้นที่ 3,199 บาทเท่านั้น

    Redmi Redmi 12 5G Review Xiaomi
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ACHI-SP

    Related Posts

    ผล AnTuTu ชิป XRing O1 ใน Xiaomi 15S Pro มาแล้ว เฉือน SD8 Elite

    22 พฤษภาคม 2025

    หลุดภาพ สเปค Redmi Pad 2 แท็บเล็ตรุ่นเน้นคุ้ม คาดเปิดตัวปลายปีนี้

    21 พฤษภาคม 2025

    Xiaomi เผยข้อมูลชิป XRING 01 ที่พัฒนาเองเป็นครั้งแรก เตรียมเปิดตัวปลายเดือนนี้

    16 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    Q1’25 ตลาดหูฟังไร้สายยังโตต่อเนื่อง AirPods ยังครองเบอร์ 1 ส่วนแบ่งตลาด

    22 พฤษภาคม 2025

    ผล AnTuTu ชิป XRing O1 ใน Xiaomi 15S Pro มาแล้ว เฉือน SD8 Elite

    22 พฤษภาคม 2025

    สเปค Infinix GT 30 Pro มือถือเกมมิ่งพร้อมชิป Dimensity 8350 Ultimate ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,990 บาท

    21 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดีในปี 2025 ตัวช่วยลดปัญหากลิ่นอับ และเชื้อราในบ้าน

    21 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X