Redmi 12 5G สมาร์ทโฟนตัวคุ้มรุ่นใหม่ของ Xiaomi ร่างจำแลงของ Redmi Note 12R 5G ที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งความน่าสนใจของรุ่นนี้ก็คือชิปประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 ที่มีความแรงระดับเดียวกับ Snapdragon 6xx เลยทีเดียวแถมยังมีราคาค่าตัวที่ไม่ได้แรงเกินไปด้วย ทำให้เป็นหนึ่งตัวที่น่าจะมีใครหลาย ๆ คนให้ความสนใจ วันนี้เราเลยจะมารีวิว Redmi 12 5G เครื่องนี้ให้ดูกัน
สเปคของ Redmi 12 5G
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.79 นิ้ว, ความละเอียด 2460 x 1080 พิกเซล (FHD+), Refresh Rate 90Hz AdaptiveSync, Touch sampling Rate 240Hz, ความสว่างสูงสุด 550 นิต, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 3
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 4 Gen 2
- แรม : 4GB / 8GB ชนิด LPDDR4X
- หน่อยความจำ : 128GB / 256GB ชนิด UFS 2.2 รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.8 (wide)
- ตัวที่ 2 : 2MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 5MP, f/2.2
- แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
- ระบบปฏิบัติการ : MIUI 14 บนพื้นฐานของ Andrpid 13
- การเชื่อมต่อ :
- 5G Dual SIM
- Wi-Fi 5
- Bluetooth 5.0
- GPS / AGPS(L1), Glonass, Beidou, Galileo(E1)
- NFC
- USB Type-C
- ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
- เซ็นเซอร์ :
- Fingerprint sensor (ด้านข้าง)
- Ambient Light Sensor
- E-Compass
- Accelerometer
- IR Blaster
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP53
- ขนาด : 168.6 x 76.28 x 8.17 มม.
- น้ำหนัก : 199 กรัม
- สี : Midnight Black, Sky Blue, Polar Silver
- ราคา : 5,999 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
ดีไซน์ตัวเครื่องนั้นมาด้วยฝาหลังแบบกระจกพรีเมียมที่มีสีสันอันโดดเด่นไม่เหมือนใคร หรือที่ทาง Xiaomi เรียกว่า Crystal Glass Design ซึ่งสีสันตัวเครื่องจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ Midnight Black, Sky Blue, Polar Silver และที่เราได้มาก็คือสี Polar Silver บอกเลยว่าสวยใช้ได้ทีเดียว โดยบนหลังเครื่องจะมีการวางเลนส์กล้องเป็นแนวตั้งและมีไฟแฟลชอยู่ด้านข้างทำเป็นรูปสามเหลี่ยม และมีโลโก้ Redmi อยู่ที่ด้านล่างเครื่อง
หน้าจอเป็นจอแบบ Punch Hole ขอบหนาเล็กน้อย มีพื้นที่แสดงผลขนาด 6.79 นิ้ว ที่ความละเอียด FHD+ รองรับอัตรารีเฟรช 90Hz แบบ AdaptiveSync ในรูที่อยู่ตรงกลางหน้าจอจะมีกล้องหน้าอยู่ เหนือขึ้นไปจะเป็นลำโพงสำหรับใช้สนทนาอยู่ และเมื่อมองเยื้องไปทางขวาเล้กน้อยจะเป็นจุดวางเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เอาไว้
ของตัวเครื่อจะมาด้วยดีไซน์ขอบเหลี่ยมตามสมัยนิยม โดยที่ปุ่มทั้งหมดจะถูกรวมเอาไว้ที่ด้านข้างเครื่องทั้งปุ่มปรับเสียงและปุ่มเปิด-ปิด ซึ่งตัวปุ่มเปิด-ปิดนี้จะทำหน้าที่เป็นจุดสแกนลายนิ้วมือด้วย ส่วนฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมแบบ Hybrid ที่ต้องเลือกระหว่างซิม 2 หรือ MicroSD Card ที่ด้านบนจะมีเซ็นเซอร์อินฟาเรดและช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่ ส่วนด้านล่างจะมีลำโพงตัวเครื่อง, พอร์ต USB Type-C และรูไมโครโฟนอยู่
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของ Redmi 12 5G จะมาพร้อม MIUI 14 ที่มีพื้นฐานบน Android 13 ตั้งแต่แกะกล่อง โดยตัว MIUI นี้จะมีดีไซน์ที่เรียบง่าย มาพร้อมแอปฯ ปรับแต่งและดูแลรักษาเครื่องครบครัน นอกจากนี้ยังไม่มี AppDrawer ทำให้เวลาโหลดแอปฯ ต่าง ๆ ลงมาติดตั้งแล้วตัวแอปฯ ทั้งหมดจะถูกรวมเอาไว้ที่หน้าจอ ซึ่งตรงนี้ถ้ามีการโหลดแอปณ เยอะ ๆ อาจจะต้องมาคอยจัดระเบียนมันหน่อย แต่ถ้าไม่ชอบหรืออยากตกแต่ UI ก็สามารถโหลดธีมมาเพิ่มได้ โดยจะมีทั้งแบบฟรีและเสียเงินให้เลือก สำหรับฟีเจอร์เพิ่มแรมหรือ Extended RAM นั้นตัวระบบจะมีค่าตั้งต้นมาให้ที่ 2GB ซึ่งตรงนี้แนะนำให้ไปเพิ่มเป็น 4GB เลยเพื่อความลื่นไหลที่ดียิ่งขึ้น
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในด้านการใช้งานต่าง ๆ นั้นตัวชิปประมวลผลนั้นแรงเกินพออยู่แล้ว และเมื่อรวมเข้ากับความเร็วของ 5G และหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชที่ 90Hz และอัตราตอบสนองที่ 240Hz แล้ว ก็ช่วยให้การเล่นโซเชียลมีความลื่นไหลกว่ารุ่นก่อน ๆ อีกทั้งด้วยความบางเพียง 8.17 มม. และหนักเพียง 199 กรัม ก็ทำให้การจับถือนาน ๆ สบายมือขึ้นเยอะ ในเรื่องความบันเทิงอย่างการดูหนังหรือดูซีรี่ส์ก็นับว่าไม่เลวด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว ก็ทำให้สามารถรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มตา เพียงแต่จะน่าเศร้าก็ตรงที่มีลำโพงเพียงตัวเดียวทำให้อรรถรสการฟังไม่ค่อยเต็มที่เสียเท่าไร ตรงนี้คงต้องไปพึ่งหูฟังไม่ก็ลำโพงเสริมเอา
สำหรับแบตเตอรี่นั้นตัวเครื่องจะมีแบตเตอรี่อยู่ที่ 5000mAh ซึ่งตอนที่ลองเอาไปใช้นั้นบอกเลยว่าถึกจัด ใช้งานทั้งวันตกเเบตแบตเตอรี่เหลือมากกว่า 40% เสียอีก (เล่น Facebook, Tiktik อยู่บ่อย ๆ และมีเล่นเกมบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ) ส่วนเรื่องการชาร์จนั้นตัวเครื่องรองรับการชาร์จเร็ว 18W แต่ในกล่องจะให้อะแดปเตอร์ชาร์จขนาด 22.5W มา โดยเราได้เริ่มชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือ 1% แล้วเครื่องบังคับปิดตัว ใน 10 นาทีแรกจะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 12% และถึง 50% ภายในเวลา 45 นาที และเมื่อรวมระยะเวลาชาร์จจาก 1% – 100% จะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 56 นาที ซึ่งก็ถือว่าเป็นระยะเวลาชาร์จปกติของเครื่องที่ชาร์จ 18W
การเล่นเกม
สำหรับการเล่นเกมนั้นเป็นอะไรที่คอ่นข้างน่าสนใจ โดยชิป Snapdragon 4 Gen 2 นั้นเป็น่ชิประดับเริ่มต้น แต่ความแรงนั้นก็นับว่าไม่ธรรมดา เพราะในหลาย ๆ เกมสามารถปรับตั้งค่าได้มากกว่าเครื่องที่ใช้ชิป Snapdragon 6xx เสียอีก แต่มันจะมาติดก็ตรงที่แรมที่ให้มามีเพียง 4GB ทำให้ตอนระหว่างเล่นจะมีอาการกระตุกกับเฟรมเรทตก ซึ่งตรงนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการเพิ่มแรมขึ้นอีก 4GB ก็จะทำให้อาการกระตุกลดน้อยลง สำหรับเกมที่เราเอามาทดลองนั้นจะมี RoV, PUBG Mobile, Asphalt 9
สำหรับผลที่ได้คือเกม RoV นั้นก่อนปรับแรมให้กลายเป็น 4GB + 4GB นั้นจะมีจังหวะที่เกมกระตุและเฟรทเรทตกเหลือแถว ๆ 30FPS อยู่บ่อย ๆ แล้วไม่เพิ่มกลับมาด้วย แต่พอเพิ่มแรมเข้าไปเฟรมเรทจะเกาะอยู่าแถว ๆ 58 – 61FPS และจะร่วงลงมาแถว ๆ 45FPS ชั่วคราวตอนจังหวะตะลุมบอน ส่วนเกม PUBG Mobile นั้นสามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ HD เฟรมเรท สูง แต่ถ้าปรับกราฟิกเป็น ดี ก็จะสามารถเพิ่มเฟรมเรทขึ้นมาเป็น Ultra ได้ จะบอกว่าใช้เล่นเกมได้แต่เน้นเล่นฆ่าเวลามากกว่าจะเล่นแบบจริงจัง
การถ่ายภาพ
ในเรื่องการถ่ายภาพนั้นตัวเครื่องจะมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 2 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าจะเป็นกล้องเซลฟี่ความละเอียด 2MP มาพร้อมโหมดกลางคืนและโหมดบันทึกภาพเคลื่อนไหว ซึ่งโหมดทั้งหมดที่ให้มานั้นเรียกได้ว่าครบครันต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว ซึ่งจากการที่เอาไปลองช้งานมานั้นหากเป็นช่วงที่แสงเพียงพอภาพที่ได้จะมีความคมชัด ตัดขอบได้ดี รวมถึงสามารถถ่ายภาพดอกไม่ในระยะใกล้ได้โดยไม่ต้องพึ่งเลนส์มาโครเลย
รวมถึงสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยพร้อมรายละเอียดก็ทำออกมาได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งขาตั้งกล้อง เพียงแต่หากแสงเพี้ยนก็จะพา White Balance เพี้ยนไปด้วย ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยอาจจะลำบากนิดหน่อย นอกจากนี้หากแสงน้อยตัวระบบจะมีดีเลย์ตอนบันทึกภาพทำให้หากไม่อยู่กับที่ภาพที่ได้จะเบลออย่างแน่นอน เพราะตอนที่ลองคือลองกดถ่ายภาพในขณะที่กำลังเคลื่อนที่ช้ามาก ๆ ผลคือภาพที่ได้เบลอเละเลย ดังนั้นจึงอยากแนะนำอย่างยิ่งในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยว่าต้องยืนอยู่กับที่จะดีที่สุ่ด
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว Redmi 12 5G
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องยอมรับว่า Redmi 12 5G เป็นเครื่องที่ทำออกมาได้เหมาะสมกับราคาค่าตัวพอสมควร ถึงจะมีการจำกัดสเปคเพื่อกดราคาลงมา แต่ในด้านการใช้งานก็ครบอคลุมทุกความต้องการในชีวิตประจำวันแล้ว ซึ่งถ้าถามว่าเครื่องนี้เหมาะกับให้ใครใช้ก็ต้องบอกว่าเหมาะกับการซื้อให้เด็กไว้ใช้พกไปโรงเรียน, ซื้อให้พ่อ-แม่-ผู้สูงอายุที่ชอบเล่นโซเชียลและไว้ติดต่อหากัน หรือไม่ก็คนที่ต้องการเครื่องราคาไม่แพงไว้ใช้ติดต่อหรือเล่นโซเชียลเป็นหลักมากกว่า
จุดเด่น
- ดีไซน์เรียบง่าย สีสันโดดเด่น
- ได้หน้าจอใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว
- ชิปประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 ตัวแรกในไทย
- กล้องตัดขอบและละลายหลังได้เนียน
- แบตเตรี่อึดจัดใช้งานได้เกินวันสบาย ๆ
- มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
- ราคาค่าตัวที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ง่าย ๆ
- ติดฟิล์มและให้เคสมาพร้อมในกล่องไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม
ข้อสังเกต
- ให้แรมมาแค่ 4GB ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้เล่นเกม ต้องไปแปลงความจุมาเพิ่ม
- มีลำโพงแค่ตัวเดียว
- White Balance กล้องเพี้ยนได้ง่าย
- เวลาถ่ายภาพในที่แสงน้อยจะมีชัตเตอร์ดีเลย์ทำให้ถ่ายภาพเคลื่อนไหวไม่ได้
- ไม่สามารถหาซื้อร้านทั่วไปได้ ต้องซื้อผ่านศูนย์ AIS, TRUE, dtac เท่านั้น
โดยผู้ที่สนใจนั้น Redmi 12 5G จะมีเพียงแค่รุ่นแรม 4GB + 128GB และมีให้เลือก 3 สีคือ ได้แก่ Midnight Black, Sky Blue และ Polar Silver ในราคาเพียง 5,999 บาท ที่ร้านค้าของผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, TRUE และ dtac ในราคาเริ่มต้นที่ 3,199 บาทเท่านั้น