POCO F6 Series สมาร์ทโฟนเกมมิ่งรุ่นใหม่ล่าสุดของ POCO ในซีรี่ส์ F ได้เปิดตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยด้วยคอนเซ็ปต์ HyperPower Evolved ซึ่งสเปคและราคาที่สวนทางกันสุดๆ บอกเลยดีงาม เข้ากับยุคสมัยตอนนี้มาก ด้วยสเปคที่ให้มาแบบจัดเต็มในราคาเริ่มต้นที่หมื่นต้นๆ เท่านั้น โดย POCO F6 Series นั้นจะมีการเปิดตัวออกมา 2 รุ่นย่อยคือ POCO F6 และ POCO F6 Pro และเราก็ได้มาทำรีวิวทั้ง 2 รุ่นเลย ซึ่งการใช้งานต่างๆ จะเป็นอย่างไรนั้นเราไปชมกันได้เลย
สเปคของ POCO F6 Pro
- หน้าจอ : Flow AMOLED, ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด 3200 x 1440 พิกเซล (WQHD+), Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 2160Hz, 3840Hz PWM Dimming, 100% DCI-P3, Dolby Vision, HDR 10+, ความสว่างสูงสุด 4000 nits
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- แรม : 12GB / 16GB ชนิด LPDDR5X
- หน่อยความจำ : 256GB / 512GB / 1TB ชนิด UFS 4.0
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.6, OIS (wide) | Light Fusion 800
- ตัวที่ 2 : 8MP, f/2.2, 119° (ultrawide)
- ตัวที่ 3 : 2MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 16MP, f/2.2 (wide) | OmniVision OV20B
- แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับ 120W Hyper Charge
- ระบบปฏิบัติการ : Xiaomi HyperOS (Android 14)
- การเชื่อมต่อ :
- 5G
- Wi-Fi 7
- Bluetooth 5.3
- GPS: L1+L5 | Galileo: E1+E5a | GLONASS: G1 | QZSS: L1+L5 | NavIC: L5 | Beidou: B1I+B1C+B2a
- NFC
- USB Type-C 2.0
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- 360° Ambient light sensor
- Electronic compass
- Fingerprint sensor
- Flicker sensor
- Gyroscope
- IR blaster
- Proximity sensor
- X-axis linear vibration motor
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : ไม่รองรับ
- ขนาด : 160.86 x 74.95 x 8.21 มม.
- น้ำหนัก : 209 กรัม
- สี : Black, White
- ราคา :
- 12GB + 256GB : 15,990 บาท
- 12GB + 512GB : 17,990 บาท
- 16GB + 1TB : 19,990 บาท
สเปคของ POCO F6
- หน้าจอ : CrystalRes Flow AMOLED, ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล (1.5K), Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 2160Hz, 1920Hz PWM Dimming, 100% DCI-P3, Dolby Vision, HDR 10+, ความสว่างสูงสุด 2400 nits, กระจก Gorilla Glass Victus
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8s Gen 3
- แรม : 8GB / 12GB ชนิด LPDDR5X
- หน่อยความจำ : 256GB / 512GB ชนิด UFS 4.0
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.59 (wide) | Sony IMX882
- ตัวที่ 2 : 8MP, f/2.2, 119° (ultrawide) | Sony IMX355
- กล้องหน้า : 20MP, f/2.2 (wide) | OmniVision OV20B
- แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับ 90W Turbo Charge
- ระบบปฏิบัติการ : Xiaomi HyperOS (Android 14)
- การเชื่อมต่อ :
- 5G
- Wi-Fi 6
- Bluetooth 5.4
- GPS: L1 |GLONASS: G1 | Beidou: B1 | Galileo E1 | QZSS L1
- NFC
- USB Type-C 2.0
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Ambient light sensor
- Electronic compass
- Fingerprint sensor
- Gyroscope
- IR blaster
- Proximity sensor
- X-axis linear vibration motor
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP64
- ขนาด : 160.5 x 74.4 x 7.8 มม.
- น้ำหนัก : 179 กรัม
- สี : Black, Green, Titanium
- ราคา :
- 8GB + 256GB : 12,990 บาท
- 12GB + 512GB : 14,990 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
มาเริ่มกันด้วยดีไซน์ของ POCO F6 Pro ที่เป็นรุ่นท๊อปกันก่อนเลย สำหรับ POCO F6 Pro นั้นจะมาด้วยคอนเซ็ปต์ “ดีไซน์ระดับเรือธงที่สมบูรณ์แบบรอบด้าน” ซึ่งจะมีการใช้ตัวเฟรมเป็นอะลูมิเนียมความแข็งแรงสูงและเสริมด้วยกระจกด้านหลังที่มีพื้นผิวโค้งมนช่วยให้จับได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น ตัวโมดูลกล้องเป็นกระจกดีไซน์โค้งมนพร้อมด้วยวงแวนเลนส์สีทองที่ตัดกับตัวเครื่องสีดำได้เป็นอย่างดี
สำหรับสีสันนั้น POCO F6 Pro จะมีด้วยกัน 2 สีคือสีขาวและดำ โดยทาง POCO ได้นิยามเกี่ยวกับสีตัวเครื่องไว้ดังนี้
Black : ด้านมืดของดวงจันทร์ ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากหินบนดวงจันทร์ มาพร้อมรูปแบบอันมืดมิดที่แผ่พลังงานและเผยความตึงบนพื้นผิว ซึ่งจะปรากฏและเปล่งประกายภายใต้สภาพแสงที่ต่างกัน
White : ด้านสว่างของดวงจันทร์ ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากดวงจันทร์เต็มดวงสุกสกาวทอแสงอยู่เหนือเทือกเขาอันงดงามที่ปกคลุมด้วยหิมะ ปลดปล่อยมนต์เสน่ห์ที่ดูมีชีวิตชีวาแต่แฝงไปด้วยความพิศวง
ในส่วนของหน้าจอนั้นเพื่อให้มีความพรีเมี่ยมจึงมีการใช้นวัตกรรมการออกแบบกระจกไร้ขอบทำให้ตัวเครื่องมีขอบจอที่บางเป็นพิเศษ มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว WQHD+ 120Hz Flow AMOLED DotDisplay ที่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยใช้พลังงานที่ลดลง นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 4000 nits, ค่าลดแสงอยู่ที่ 3840Hz PWM dimming และการถนอมสายตาจาก TÜV Rheinland eye-care ทำให้หน้าจอของ POCO F6 Pro เป็นหน้าจอที่ผู้ใช้สามารถด่ำได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นจากการเล่นเกมและการอ่านหรือดูวิดีโอเป็นเวลานานก็ไม่ต้องกลัวสายตาจะเสียเลย
สำหรับขอบด้านข้างตัวเครื่องนั้นจะมาด้วยดีไซน์ขอบเหลี่ยมแบบลบมุมช่วยให้จับถือได้สบายมือ ปุ่มทั้งหมดจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายจะไม่มีอะไรเลยนอกจากเส้นเสาสัญญาณ ด้านบนจะมีไมโครโฟนตัดเสียงและเซ็นเซอร์อินฟราเรด ส่วนด้านล่างจะมีลำโพง, พอร์ต Type-C, ไมโครโฟน และช่องใส่ซิม (เครื่องนี้เป็นระบบลำโพงคู่ ซึ่งอีกตัวอยู่ตรงลำโพงที่ไว้ใช้สนทนา)
มาต่อกันที่ตัวเริ่มต้นอย่าง POCO F6 กันบ้าง สำหรับ POCO F6 นั้นจะมาด้วยคอนเซ็ปต์ดีไซน์ “ความเป็นหนึ่งเดียว” ด้วยหน้าตาแบบเรียบง่ายไม่มีลวดลายอะไร แต่มีการเล่นเอฟเฟกต์แสงและเงาแบบไดนามิก เพิ่มความหรูหราให้ตัวเครื่องได้อีก นอกจากนี้ยังมาพร้อมเลนส์กล้องที่มีโมดูลขนาดใหญ่ 2 วง และมีแฟลชแบบ Halo ขนาดใหญ่ที่ให้แสงได้สว่างกว่าปกติ ซึ่งสีสันตัวเครื่องนั้นจะมีให้เลือกอยู่ 3 สีคือสีเขียว, สีดำ และสีไทเทเนียม
ในส่วนของหน้าจอนั้น POCO F6 จะได้หน้าจอแบบ CrystalRes เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ ซึ่งจะมอบคุณภาพระดับเรือธงให้ความคมชัดเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อรวมกับหน้าจอ Flow AMOLED DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ก็จะช่วยสร้างประสบการณ์การรับชมระดับพรีเมียมที่ชัดเจนและดื่มด่ำไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือดูวิดีโอหรืออ่านคอนเทนต์ออนไลน์ ซึ่งก็เนื่องมาจากหน้าจอปราศจากการกระพริบ (Flicker Free), แสงสีฟ้าต่ำ (Low Blue Light) และยังเป็นมิตรทางชีวภาพตลอดทั้งวันกับผู้ใช้งาน (Circadian Friendly) อีกด้วย
สำหรับขอบด้านข้างตัวเครื่องนั้นจะมาด้วยดีไซน์ขอบเหลี่ยมแบบลบมุมช่วยให้จับถือได้สบายมือ ปุ่มทั้งหมดจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายจะไม่มีอะไรเลยนอกจากเส้นเสาสัญญาณ ด้านบนจะมีลำโพงตัวเครื่อง, ไมโครโฟนตัดเสียงและเซ็นเซอร์อินฟราเรด ส่วนด้านล่างจะมีลำโพง, พอร์ต Type-C, ไมโครโฟน และช่องใส่ซิม
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการที่ใส่มาใน POCO F6 / F6 Pro นั้นจะเป็น Xiaomi HyperOS ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 14 ซึ่งความน่าสนใจคือใน Xiaomi HyperOS นี้จะมีการใส่ฟีเจอร์ AI เข้ามาด้วยหลายตัวด้วยกันในชื่อ “AIGC” โดยจะมีทั้ง AI Subtitles, AI Portrait, AI album search, AI Expansion, AI Magic Erase Pro เพียงแต่จากที่ POCO ระบุเอาไว้นั้นนอกจาก AI Expansion และ AI Magic Erase Pro ที่เหลือจะมีให้ใช้แค่ช่วง Beta เท่านั้น ซึ่งคงต้องรอการอัปเดตกันต่อไปเท่านั้น
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในเรื่องการใช้งานต่างๆ นั้นทั้ง POCO F6 และ POCO F6 Pro ทำออกมาได้ดี ภาพมีความลื่นไหล สีสันสวยสด ทำให้ไม่ว่าจะเล่นโซเชียลหรือดูคลิปต่างๆ ก็สบายหายห่วง ในเรื่องการจับถือก็นับว่าทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว เนื่องจากตัวตัวเครื่องมีขอบที่โค้งมนทำให้เวลาจับถือจะเข้ามือกว่า ด้วยตัวเครื่องที่บางและเบา ทำให้สามารถจับถือเป็นเวลานานได้โดยไม่เจ็บอีกต่างหาก เรียกได้ว่า POCO ออกแบบตัวเครื่องมาให้พอดีมือผู้ใช้อย่างแท้จริงเลย
ในส่วนของแบตเตอรี่และระบะเวลาในการใช้งานนั้น จากที่ได้เอาไปลองใช้งานมานั้นทั้งคู่สามารถอยู่ได้จนหมดวันแบบสบายๆ หากสามารถจัดการบริหารแบตเตอรี่ได้ โดยตอนที่เราลองใช้นั้นมีทั้งเปิดเกม เปิดกล้อง เล่นโซเชียล แต่ละอย่างนานๆ ทั้งนั้น เปิดจนเครื่องร้อนเลย ซึ่งจากที่เริ่มใช้งานตอนราวๆ 9 โมง จนจบการใช้งานราวๆ 2 ทุ่ม เป็นเวลา 11 ชั่วโมงได้ แบตเตอรี่ลดเหลืออยู่แถวๆ 30% หน่อยๆ ซึ่งบอกเลยว่าสามารถใช้งานได้สบายหายห่วง หรือจะเอามาเล่นเกมระยะยาวก็ยังได้เลย
ในส่วนของการชาร์จนั้นทาง POCO จัดเต็มมาให้แบบไม่มีกั๊ก ใครที่เป็นพวกรอชาร์จนานๆ ไม่ได้ POCO F6 Series ตอบโจทย์พวกคุณแน่นอน เพราะ POCO F6 นั้นจะรองรับการชาร์จที่ 90W ซึ่งทาง POCO เคลมไว้ว่าชาร์จแค่ 35 นาทีก็สามารถชาร์จจาก 2% – 100% ได้เลย ส่วน POCO F6 Pro นั้นจะรองรับการชาร์จที่ 120W ซึ่งทาง POCO เคลมไว้ว่าชาร์จแค่ 19 นาทีก็สามารถชาร์จจาก 2% – 100% ได้เลย เพียงแต่ถ้าจะให้ได้เวลาชาร์จตามที่ POCO ว่าไว้นั้นเราต้องเปิดใช้งานคุณสมบัติ “เพิ่มความเร็วในการชาร์จ” ก่อนนะ นอกจากนี้ระยะเวลาในการชาร์จจะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไม่ว่าจะเป็นการใช้งานระหว่างชาร์จ หรือความร้อนสะสมในตัวเครื่องเป็นต้น
การเล่นเกม
ในเรื่องของการเล่นเกมที่เป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดของ POCO F6 Series เลยก็ว่าได้ ด้วยการใส่ชิปความแรงสูง ให้แรมและรอมปริมาณมาก พร้อมด้วย LiquidCool Technology 4.0 และระบบ IceLoop ทำให้สามารถเอามาใช้เล่นได้ทุกเกมและสามารถเล่นได้นานโดยที่เครื่องจะไม่ดรอปประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากสเปคและระบบระบายความร้อนแล้ว POCO ยังได้ใส่ฟีเจอร์ WildBoost Optimization 3.0 มาเพิ่มเพื่อให้ตัวระบบสามารถรีดประสิทธิภาพจากตัวเครื่องให้ศุงขึ้นได้อีกขั้นด้วย เรียกได้ว่าเป็นการจัดหนักจัดเต็มเพื่อการเล่นเกมเลยจริงๆ
สำหรับชิปประมวลผลนั้นตัว POCO F6 จะมาพร้อมชิป Snapdragon 8s Gen 3 ส่วน POCO F6 Pro นั้นจะมาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 2 ซึ่งในเรื่องของความแรงนั้นจากการลองทดสอบดูทั้งคู่ถือว่าไม่ได้ต่างกันเท่าไร แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างคือเทคโนโลยีในตัวชิปที่ Snapdragon 8s Gen 3 จะใหม่กว่า Snapdragon 8 Gen 2 แต่ถ้าถามว่าส่งผลต่อการเล่นไหมอันนี้ขอบอกเลยว่าไม่ได้แตกต่างกันในระดับที่เห็นได้ชัด
สำหรับเกมที่เราเอามาลองทดสอบนั้นจะมีเกม RoV, PUBG Mobile และ Genshin Imapct ซึ่งจากที่ลองนั้นทุกเกมสามาถรปรับการฟิกเล่นแบบลื่นๆ ได้หมด แต่ที่พิเศษคือเกม PUBG Mobile ที่สามารถเปิดโหมด 120fps เล่นได้ด้วย ซึ่งเมื่อลองเทียบกับเครื่องอื่นที่เปิดไม่ได้แล้วบอกเลยว่าลื่นแบบผิดหูผิดตามาก
การถ่ายภาพ
ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้นเรียกได้ว่าจะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรเนื่องจาก POCO F6 Pro นั้นจะมาพร้อมกล้อง 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์รุ่นใหม่อย่าง Light Fusion 800 มาพร้อมกล้อง Ultrawide และกล้อง Macro ส่วน POCO F6 นั้นจะใช้เป็นกล้อง 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 พร้อมด้วยกล้อง Ultrawide ซึ่งจากที่ได้ลองเอาไปถ่ายภาพมาแล้วนั้นบอกเลยว่า POCO F6 Pro ทำออกมาได้ดีกว่า POCO F6 พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดของภาพ ความคมชัด สีสัน ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน บอกเลยว่าใครที่ต้องการกล้องดีๆ ที่สามารถเอารูปไปใช้ต่อได้สบายแล้ว POCO F6 Pro จะได้เปรียบกว่าเยอะเลย
นอกจากนี้ในเรื่องการบันทึกวิดีโอเองก้เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะ POCO F6 Pro นั้นรองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุดที่ระดับ 8K 24fps ส่วน POCO F6 นั้นรองรับสูงสุดแค่ 4K 60fps เท่านั้น ถ้าต้องการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงแล้วจะเอาไปใช้ต่อ POCO F6 Pro จะค่อนข้างได้เปรียบกว่า ส่วนกล้องหน้าทั้งคู่ทำได้เท่ากันที่ 1080P 60fps ซึ่งในด้านการใช้งานแล้วมันก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้วครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก POCO F6 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก POCO F6
สรุปการรีวิว
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องบอกเลยว่า POCO F6 Series นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อเทสคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยสเปคระดับเรือธงไม่ว่าจะเป็นชิป Snapdragon 8 Series แรม-รอมรุ่นล่าสุด รวมถึงเทคโนโลยีชาร์จเร็วขั้นสุด ในราคาค่าตัวเพียงหมื่นต้นเท่านั้น ซึ่งจะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เอาสมาร์ทโฟนมาใช้เป็นเครื่องเล่นเกม เพราะสามารถเล่นเกมด้วยกราฟิกสูงสุดได้ทุกเกมแบบลื่นๆ หรือถ้าไม่เอาภาพสวยก็สามารถเล่นเกมแบบเฟรมเรทสูงสุดได้อย่างสบายๆ แถมยังไม่ต้องกลัวเรื่องความร้อนจะพังเครื่อดง้วยเพราะตัวเครื่องมาพร้อมระบบระบายความร้อนอย่างดีแถมยังมีฟีเจอร์ที่มาช่วยรีดประสิทธิภาพให้ได้สูงสุดพร้อมทั้งจัดการพลังงานได้อย่างดีด้วยครับ
จุดเด่น
POCO F6 POCO F6 Pro – ดีไซน์มีความเรียบหรู ตัวเครื่องบางและเบา
– ได้หน้าจอ CrystalRes 1.5K เป็นรุ่นแรก
– ชิปประมวลผล Snapdragon 8s Gen3 ที่ได้ CPU Cortex-X4 แบบ Snapdragon 8 Gen 3
– ได้ความจุ 512GB มาในราคาไม่ถึง 15,000 บาท
– ไฟแฟลชแบบ Halo ให้แสงได้สว่างกว่าแฟลชทั่วไป
– ได้ชาร์จเร็ว 90W– ดีไซน์มีความโดดเด่นสะดุดตา ตัวเครื่องบางและเบา
– ได้วัสดุเฟรมเป็นอะลูมิเนียมช่วยเพิ่มความแข็งแรงได้อย่างมาก
– ได้หน้าจอความละเอียด WQHD+ พร้อมด้วยความสว่างที่สูงถึง 4,000 nits
– ได้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่แรงและประหยัดพลังงาน
– ได้แรม 16GB ความจุ 1TB ในราคาไม่ถึง 20,000 บาท
– ได้เซ็นเซอร์กล้องหลักเป็น Light Fusion 800 ที่เป็นเซ้นเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด
– รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 8K 24fps
– ได้ชาร์จเร็ว 120W
ข้อสังเกต
POCO F6 POCO F6 Pro – ตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกทำให้ความแข้งแรงทนทานจะสูงตัว F6 Pro ไม่ได้
– ชิป Snapdragon 8s Gen 3 ความแรงไม่ได้แตกต่างจาก Snapdragon 8 Gen 2 ใน F6 Pro เท่าไร
– เซ็นเซอร์กล้องหลัก IMX882 คุณภาพของรูปจะสู้ Light Fusion 800 ใน F6 Pro ได้ยาก
– กล้อง Ultra Wide 8MP พอเอาไปถ่ายในที่แสงน้อยแล้วคุณภาพหายไปเยอะเลย
– เวลาชาร์จตัวเครื่องจะมีการสะสมความร้อนไว้พอสมควร– ราคา POCO F6 Pro หลุดจากวิสัยของ F Series ไปหน่อย เพราะวัสดุที่ใช้มีราคาสูงขึ้น
– ชิป Snapdragon 8 Gen 2 ความแรงไม่ได้แตกต่างจาก Snapdragon 8s Gen 3 ใน F6 เท่าไร
– กล้อง Ultra Wide 8MP พอเอาไปถ่ายในที่แสงน้อยแล้วคุณภาพหายไปเยอะเลย
– เวลาชาร์จตัวเครื่องจะมีการสะสมความร้อนไว้พอสมควร
ถ้าให้สรุปว่าใครเหมาะกับรุ่นไหนนั้นผมสามารถฟันธงได้เลยครับว่า สำหรับแฟนๆ POCO F Series ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปคเทพๆ มาเพื่อเล่นเกมอย่างเดียว ซื้อแค่ POCO F6 ก็เพียงพอแล้วครับ แต่ถ้าอยากได้วัสดุที่หรูหราขึ้น, กล้องที่ดีขึ้น หรือไม่ก็อยากได้เครื่องความจุสูงๆ ก็ต้องไป POCO F6 Pro แทนครับ
สำหรับผู้ที่สนใจ POCO F6 Series นั้นจะมีราคาและโปรโมชั่นดังต่อไปนี้
POCO F6 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ White
- รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 14,990 (จากราคาปกติ 15,990 บาท) ในระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ที่ Shopee และ mi.com/th เท่านั้น
- รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 16,990 บาท (จากราคาปกติ 17,990 บาท) ในระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ที่ Shopee และ mi.com/th เท่านั้น
- รุ่นความจุ 16GB+1TB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 18,990 บาท (จากราคาปกติ 19,990 บาท) ในระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถึง 31 พฤษภาคม 2567 ที่ mi.com/th และในระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ที่ Shopee
POCO F6 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Green และ Titanium
- รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 11,990 (จากราคาปกติ 12,990 บาท) ในระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ที่ Lazada และ mi.com/th เท่านั้น
- รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 13,490 บาทุ (จากราคาปกติ 14,990 บาท) ในระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ที่ Lazada และ mi.com/th เท่านั้น