Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Phone Review»รีวิว OPPO Find N มือถือพับได้รุ่นแรกของ OPPO จับถือเข้ามือ มาพร้อมสเปคระดับเทพ แต่ไม่ได้ขายในไทย
    Phone Review

    รีวิว OPPO Find N มือถือพับได้รุ่นแรกของ OPPO จับถือเข้ามือ มาพร้อมสเปคระดับเทพ แต่ไม่ได้ขายในไทย

    ACHI-SPBy ACHI-SP7 กุมภาพันธ์ 2022
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    OPPO Find N
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    OPPO Find N

    OPPO Find N มือถือพับได้เครื่องแรกของ OPPO ที่ไม่ได้วางจำหน่ายในไทย แต่ในเมื่อเราได้ตัวเคื่องมาแล้วก็ไม่รอช้า รีบเอามารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันทันที โดย OPPO Find N นั้นด้วยการที่เป็นเครื่องรอมจีนทำให้ไม่สามารถใช้งาน 5G ได้ แถมไม่มี Google Play ติดตั้งมาให้ด้วย แต่จากที่ได้เอาไปลองใช้มาก็นับว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย ซึ่งสำหรับใครที่สงสัยว่าใช้งานได้อย่างไร ก็ต้องบอกเลยว่าเครื่องนี้มี GMS นะเออ แค่หา Google Play มาติดตั้งเพิ่มเข้าไปก็พอ ซึ่งใครที่อยากรู้ว่า OPPO Find N นั้นเป็นอย่างไรเราไปดูกันได้เลย

    • สเปค
    • ดีไซน์
    • ระบบปฏิบัติการ
    • การใช้งานต่างๆ
      • การใช้งานทั่วไป
      • การเล่นเกม
      • การถ่ายภาพ
    • สรุปรีวิว

    สเปคของ OPPO Find N

    • หน้าจอ :
      • หน้าจอนอก : AMOLED, ขนาด 5.49 นิ้ว, ความละเอียด 1972 x 988 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 60Hz, กระจก Gorilla Glass Victus
      • หน้าจอใน : Foldable LTPO AMOLED, ขนาด 7.1 นิ้ว, ความละเอียด 1920 x 1792 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 120Hz, HDR10+
    • ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888 5G
    • แรม : 8GB / 12GB
    • ความจุ : 256GB / 512GB
    • กล้องหลัง :
      • ตัวที่ 1 : 50 MP, f/1.8, OIS (wide)
      • ตัวที่ 2 : 13 MP, f/2.4, 2x optical zoom (telephoto)
      • ตัวที่ 3 : 16 MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide)
    • กล้องหน้า :
      • กล้องหน้าด้านนอก : 32 MP, f/2.4
      • กล้องหน้าด้านใน : 32 MP, f/2.4
    • แบตเตอรี่ : 4,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W SuperVOOC, รองรับการชาร์จไร้สาย 15W และชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ 10W
    • ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 12
    • การเชื่อมต่อ :
      • 5G (ใช้ในไทยไม่ได้)
      • Wi-Fi 6
      • Bluetooth 5.2 รองรับ code aptX HD
      • GPS
      • NFC
      • USB Type-C 2.0
      • USB OTG
    • เซ็นเซอร์ :
      • Fingerprint (ด้านข้างตัวเครื่อง)
      • Accelerometer
      • Dual Gyroscope
      • Proximity
      • Compass
      • Color Spectrum
    • ขนาด :
      • พับ : 132.6 x 140.2 x 8.0 มม.
      • กาง : 132.6 x 73.0 x 15.9 มม.
    • น้ำหนัก : 275 กรัม
    • สี : Black, White, Purple

    จุดเด่น

    • ขนาดตัวเครื่องตอนพับกำลังพอดีมือสุดๆ
    • วัสดุตัวเครื่องให้ความพรีเมี่ยมแบบสุดๆ
    • มีลำโพงคู่ที่ให้เสียงกระหึ่มมาก
    • ได้ชิปประมวลผลระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 888
    • มีระบบชาร์จเร็ว SuperVOOC ขนาด 33W ที่ใช้เวลาชาร์จ 30 นาทีก็ได้แบตเตอรี่มาถึง 50% แล้ว

    ข้อสังเกต

    • ไม่มีขายในไทย
    • ไม่รองรับ 5G ในไทย
    • หน้าจอนอกมี Refresh Rate แค่ 60Hz
    • AI กล้องเวลาถ่ายภาพในที่แสงน้อยบางครั้งจะเพี้ยนๆ
    • เวลาเปิดเกมแล้วพับหน้าจออัตราส่วนภาพจะเพี้ยนๆ
    • อัตราส่วนแอปฯ ตั้งค่าพื้นฐานมาให้ที่ 4:3 ทำให้แอปฯ ไม่เต็มหน้าจอ ต้องไปตั้งค่าด้วยมือทีละแอปฯ

    ดีไซน์ตัวเครื่องของ OPPO Find N

    สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องนั้นในส่วนของหน้าจอ Find N จะมีทั้งหมด 2 หน้าจอเป็นหน้าจอด้านนอกที่เป็นจอพาแนล AMOLED ขนาด 5.49 นิ้ว ที่ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass Victus ส่วนหน้าจอด้านในที่เป็นจอแบบพับได้นั้นมีขนาด 7.1 นิ้วและเป็นพาแนล AMOLED เช่นกัน แต่จะต่างกับจอนอกตรงที่มีค่า Refresh Rate สูงถึง 120Hz เลยทีเดียว สำหรับความละเอียดหน้าจอนั้นทั้ง 2 จอมีความละเอียดระดับ Full-HD+ เช่นเดียวกัน สำหรับตำแหน่งกล้องหน้านั้นหน้าจอนอกจะวางอยู่ตรงกลางหน้าจอเลย ส่วนหน้าจอด้านในจะวางอยู่ตรงมุมบนซ้าย โดยกล้องหน้านั้นเป็นแบบ Punch hole เหมือนๆ กัน และมีความละเอียด 32 MP เช่นเดียวกันด้วย

    สำหรับที่ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นตัวโมดูลกล้องจะเป็นอะไรที่โดดเด่นมาก มีความโค้งนูนขึ้นมาจากตัวเครื่อง ภายในจะมีกล้องอยู่ 3 ตัววางเรียงกันเป็นแนว ซึ่งดีไซน์ด้านหลังนี้มีความคล้าย OPPO Find X3 มาก ต่างกันที่ขนาดและการจัดเรียงกล้องเท่านั้น พื้นผิวด้านหลังเครื่องมีความสากนิดๆ ช่วยให้ตัวเครื่องไม่ลื่นหลุดจากมือง่าย แถมให้ให้ความเรียบหรูโดยไม่ต้องมีอะไรเยอะ

    สำหรับรอบตัวเครื่องนั้นที่ด้านข้างของตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับระดับเสียงแและปุ่มเปิด-ปิดที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ โดยปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ที่ตัวเครื่องซีกซ้าย ส่วนปุ่มเปิด-ปิดเครื่องจะอยู่ที่ซีกขวา ที่ด้านบนจะมีขีดเสารับสัญญาณและไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนอยู่ ส่วนด้านล่างนั้นจะมีลำโพง 2 ตัว, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตชาร์จ USB Type-C และช่องใส่ซิมอยู่ โดยถาดใส่ซิมของเครื่องนี้จะเป็นแบบ Dual slot สำหรับใส่ซิม 2 ซิม ไม่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้

    ที่แกนพับจะมีข้อความสลักเอาไว้ด้วยว่า “DESIGN FOR FIND” โดยการพับหน้าจอของ Find N เครื่องนี้จะแตกต่างจากมือถือพับได้เครื่องอื่นๆ เนื่องจากจะไม่มีรอยพับบนหน้าจอแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเรียบเนียนสุดๆ ทั้งนี้ก้เป็นเพราะลักษณะการพับที่ OPPO ออกแบบมาจนเหมือนกับการพับกระดาษแบบไม่ได้รีดขอบ ทำให้ไม่เกิดรอยใดๆ ที่จุดพับเลย


    ระบบปฏิบัติการของ OPPO Find N

    ระบบปฏิบัติการของ OPPO Find N นั้นคือ ColorOS 12 ที่พัฒนาขึ้นมาบน Android 11 ซึ่งการที่เป็นเครื่องจีน ทำให้ภาษาต่างๆ เป็นภาษาจีนซะส่วนมาก ถึงแม้จะตั้งค่าเครื่องให้เป็นภาษาไทยกก็ตาม แต่ก็มีหลายๆ แอปฯ ที่เป็นภาษาจีน ซึ่งตอนที่เปิดเครื่องขึ้นมาจะไม่มี Google Play ติดตั้งมาให้ ต้องไปหาโหลดมาลงเพิ่มเอง ซึ่งก็ทำได้ไม่ยาก นอกจากนี้ด้วยการที่เป็น ColorOS 12 ทำให้มีความสามารถในการแบ่งหน้าจอและการเปิดหน้าจอแบบป็อปอัพตามสมัยนิบมด้วยนั่นเอง ซึ่งมันเป็นประโยชน์มากเมื่อกางหน้าจอออกให้กว้าง ช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่หน้าจอขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่ เพียงแต่ด้วยอัตราส่วนที่ไม่เหมือนใครของหน้าจอด้านใน ทำให้หลายๆ แอปฯ จะมีการแสดงผลที่ออกมาเพี้ยนๆ หน่อย เนื่องจากตัวระบบตั้งค่าพื้นฐานให้แสดงแบบ 4:3 ทำให้ภาพที่แสดงไม่เต็มหน้าจอ ต้องไปตั้งค่าเพิ่มเอาเอง แถมยังต้องตั้งค่าทีละแอปฯ ด้วย

    UI ของหน้าจอนอก

    UI เมื่อกางหน้าจอ


    การใช้งานต่างๆ

    การใช้งานทั่วไป / โซเชียล / ดูหนัง

    ในด้านการใช้งานทั่วไปนั้นเรียกได้ว่าทำได้ดี ถึงจะมีจุดที่น่าเสียดายอยู่บ้างก็ตาม โดยในเรื่องการโทรนั้นถึงแม้ตัวเครื่องจะไม่สามารถใช้ 5G ได้ แต่ก็สามารถโทรผ่าน 4G ด้วย VoLTE ได้ ในด้านการเล่นโซเชียลนั้นเมื่อเปิดแอปฯ มา การแสดงผลหน้าแอปฯ จะมาในรูปแบบ 4:3 ซึ่งไม่เต็มหน้าจอ ต้องไปตั้งค่าเพิ่มทีหลัง แต่ในด้านความลื่านนั้นเรียกได้ว่าลื่นตามากโดยเฉพาะหน้าจอในที่มีค่า Refresh Rate ถึง 120Hz ส่วนการใช้ดูหนังหรือดูคลิปต่างๆ นั้นก็เรียกได้ว่าน่าสนใจ ด้วยการทีเป็นหน้าจอพับทำให้สามารถพับหน้าจอแบบ 90 องศาเพื่อตั้งหน้าาจอขึ้นมาใช้ดูหนังได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมใดๆ แถมด้วยลำโพงคู่ก็ให้เสียงที่ดังพอจะใช้ดูในห้องกว้างๆ ได้สบาย เพียงแต่จุดที่น่าสเียดายก็คือลำโพงตัวเครื่องที่อยู่ฝั่งเดียวกันทำให้ไม่ได้เสียงแบบสเตอริโอ อีกทั้งตัวเครื่องถึงแม้จะได้ Vinewide ระดับ L1 แต่ก็ไม่สามารถติดตั้งแอปฯ Netflix ได้

    ในเรื่องการจับถือนั้นเมื่อพับตัวเครื่อง ด้วยขนาดหน้าจอแค่ 5.49 นิ้ว ทำให้ตัวเครื่องเรียกได้ว่ากระชับมือมากๆ และเมื่อกางแล้วตัวเครื่องก็ไม่ได้หนักเนื่องจากตัวเครื่องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำให้มีสมดุลที่ค่อนข้างดี ส่วนเรื่องการชาร์จนั้นด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh และระบบชาร์จขนาด 33W นั้นใช้เวลารวมทั้งหมด 70 นาทีในการชาร์จจาก 0% ให้เต็ม 100% แต่ที่น่าสนใจก็คือในช่วง 10 นาทีแรกนั้นสามารถชาร์จจาก 0% ให้ขึ้นมาเป็น 18% ได้เลย และสามารถชาร์จจาก 0% ให้ขึ้นมาเป็น 50% ได้ในเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น เรียกไ้ว่าใครที่กำลังรีบๆ แต่แบตเตอรี่ดันหมดหรือจะหมด ก็สามารถชาร์จด้วยเวลาสั้นๆ เพื่อใช้ต่อแบบชั่วคราวได้เลย


    การเล่นเกม

    ในด้านการเล่นเกมนั้นด้วยชิืปประมวลผล Snapdragon 888 นั้นทำให้ตัวเครื่องสามารถเล่นเกมได้ทุกเกมแบบลื่นๆ เลย ซึ่งจากที่ได้ลองทั้ง RoV, PUBG New State Genshin Impact และ Asphalt 9 ก็สามารถเล่นได้ลื่นๆ เลย นอกจาก Genshin Impact แล้วสามารถปรับสูงสุดเล่นได้เลย ส่วน Genshin Imapct นั้นสามารถปรับสุดได้แต่ไม่แนะนำ เนื่องจากตัวครื่องที่มีความบางและหน้าจอพับได้ที่ไม่รุ้จะทนความร้อนสุงไ้ดไหมนั้นมีราคาแพง ถ้าเกิดพังขึ้นมาคงต้องมีน้ำตาไหลกันแน่ๆ สำหรับการจับถือนั้นหน้าจอนอกค่อนข้างจับได้ลำบากอยู่พอสมควรเนื่องจากตัวเครื่องที่ค่อนข้างหน้านั่นเอง แถมหน้าจอยังเล็กด้วย (ใครที่มือเล็กๆ อาจจะชอบก็ได้) ส่วนหน้าจอด้านในที่มีขนาดใหญ่นั้นด้วยการที่เป็นหน้าจอทรงจัตุรัสทำให้การจับต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร

    เปิดเกมแล้วพับหน้าจอ

    การรถ่ายภาพ

    ในด้านการถ่ายภาพนั้นกล้องหลังของ Find N มีทั้งหมด 3 ตัวซึ่งประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 50 MP, กล้อง telephoto ความละเอียด 16 MP และกล้อง ultrawide ความละเอียด 13 MP ส่วนกล้องหน้าที่อยู่บนหน้าจอนอกและในนั้นมีความละเอียด 32 MP เหมือนกันทั้งคู่ โดยกล้องของ OPPO นั้นจะมี AI ให้เปิดใช้งานด้วย ซึ่งตัว AI นี้สามารถจับประเภทภาพได้ค่อนข้างเร็ว แต่ทว่าการถ่ายภาพในที่แสงน้อยนั้นบางครั้ง AI ก็จะประมวลผลออกมาไม่ค่อยปกติสักเท่าไร เหมือนมีการแอบใส่ฟิลเตอร์โดยไม่บอกเรา ซึ่งสำหรับคนที่อยากได้ภาพแบบปกติแล้วการปิก AI ตอนถ่ายภาพกลางคืนเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

    สำหรับรูปภาพที่ได้จากกล้องของ Find N นั้นทั้งสีสัน การตัดขอบ ความลึก มิติ สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดี เพียงแต่กล้องหน้านั้นหากอยู่ในที่ๆ มีแสงเยอะมากๆ บางครั้งภาพที่ได้จะมีแสงโอเวอร์เกิน จำเป็นต้องเอาไปเข้าแอปฯ เพื่อแต่งต่อ อาจจะเรียกไ้ดว่าไม่ค่อยอเนกประสงค์สำหรับคนที่ชื่นชอบการเซลฟี่เท่าไร นอกจากนี้ในเรื่องของการซูมนั้นในกล้อง telephoto มี Optical zoom 2 เท่า ซึ่งอาจจะดุไม่เท่าไร แต่ทว่าตัวกล้องสามารถซูมได้สูงสุดถึง 20 เท่า ซึ่งจากที่ได้ลองแล้วน่าสนใจพอสมควรเนื่องจากรายละเอียดของภาพที่ได้จากการซูม 20 เท่านั้นค่อนข้างคมชัด เห้นรายละเอียดได้ครบถ้วนเลยทีเดียว เรียกได้ว่ากล้องของ Find N เครื่องนี้ถึงจะดูไม่ค่อยสุดแต่ก็เกินพอมากๆ ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน

    • ปิด AI
    • เปิด AI

    ตัวอย่างภาพถ่าย

    • 50 MP
    • 0.6x
    • 1x
    • 2x
    • 5x
    • 10x
    • 20x
    • normal mode
    • night mode

    สรุปการรีวิว OPPO Find N

    สรุปการรีวิว OPPO Find N จากที่ได้เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่งนั้น นับว่าเป็นมือถือพับได้ที่ค่อนข้างน่าสนใจ ขนาดตัวเครื่องก็เรียกได้ว่าเหมาะมือ ทำให้ถือแล้วสบายมือสุดๆ ตัวเครื่องให้ความรู้สึกเรียบหรูแบบผู้ใหญ่โดยไม่ต้องมีอะไรมาตกแต่งเยอะแยะ แบตเตอรี่ก็นับได้ว่าอึดพอสมควรเพราะถ้าไม่ได้เอาไปเล่นเกมแบบต่อเนื่องก็สามารถอยู่ได้ทั้งวันแบบสบายๆ แถมยังชาร์จเร็วอีกด้วย เพียงแต่ด้วยการที่ไม่มีขายในไทยทำให้ไม่สามารถใช้ 5G ได้และไม่สามารถติดตั้ง Netflix ได้ ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่น่าเสียดายสุดๆ แล้ว สำหรับคนที่อยากไ้รายละเอียดตัวเครื่งอเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ oppo.com ได้เลย


    บทความที่เกี่ยวข้อง

    มือถือ OPPO รุ่นไหนดี
    เลือกซื้อมือถือ OPPO รุ่นไหนดี!! 5 มือถือ OPPO สเปคดี 2021
    OPPO OPPO Find N Review
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ACHI-SP

    Related Posts

    รวมโทรศัพท์ติดโปร AIS ล่าสุดทุกรุ่นปี 2568 มีส่วนลดค่าเครื่องติดโปรเท่าไหร่บ้างเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ

    15 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ติดโปรทรูล่าสุดปี 2568 ทุกรุ่นทุกยี่ห้อมีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจทรู

    14 พฤษภาคม 2025

    รีวิว Alldocube iPlay 50 mini และ iPlay 60 Pad Pro แท็บเล็ตตัวคุ้มที่มาขายไทยอย่างเป็นทางการ

    7 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    วิธีเปลี่ยนรหัสเฟสบุ๊คทำยังไง ถ้าลืมรหัสเฟสบุ๊คเก่าต้องทำยังไงบ้างในโทรศัพท์แบบง่ายๆ ปี 2025

    16 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์ฝรั่ง Netflix น่าดูในปี 2025 เนื้อเรื่องสนุกๆ หลากหลายแนวที่ไม่ควรพลาด!

    16 พฤษภาคม 2025

    Xiaomi เผยข้อมูลชิป XRING 01 ที่พัฒนาเองเป็นครั้งแรก เตรียมเปิดตัวปลายเดือนนี้

    16 พฤษภาคม 2025

    ลือ Samsung เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ในแอปรูปภาพ ด้วยการใช้ Galaxy AI

    16 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X