OPPO A96 มือถือราคากลางๆ รุ่นใหม่ของ OPPO ที่เปิดตัวมาด้วยคอนเซปต์ “เพิ่มความจุ เต็มความจอย” กับความจุที่ให้มามากถึง 256GB ซึ่งไม่มีใครให้มาได้ในราคาต่ำกว่า 10,000 บาทแบบนี้ นอกเหนือจากความจุที่ให้มาเยอะมากๆ แล้วสเปคที่ให้มายังน่าสนใจไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็นชิป Snapdragon 680 หรือระบบชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC ในราคาขายเพียง 9,999 บาทเท่านั้น นับว่าเป็นตัวที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยเลย
สเปคของ OPPO A96
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.59 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 90Hz แบบ Adaptive, Touch Sampling Rate 180Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680
- แรม : 8GB
- ความจุ : 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.8, AF (wide)
- ตัวที่ 2 : 2MP, f/2.4 (Bokeh)
- กล้องหน้า : 16MP, f/2.0
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.1
- การเชื่อมต่อ :
- 4G LTE
- Wi-Fi 5, Dual-band
- Bluetooth 5.0
- GPS, A-GPS, BDS, GLONASS, GALILEO, QZSS
- USB Type-C
- ช่องหูฟัง 3.5 มม.
- เซ็นเซอร์ :
- Fingerprint (ด้านข้างเครื่อง)
- Facial Recognition
- Geomagnetic sensor
- Optical proximity sensor
- Ambient light sensor
- Accelerometer
- Gravity sensor
- Virtual gyroscope
- Pedometer
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น :
- ป้องกันฝุ่น IP5X
- กันน้ำ IPX4
- ขนาด : 164.4 x 75.7 x 8.4 มม.
- น้ำหนัก : 191 กรัม
- สี : Starry Black, Pearl Pink
- ราคา : 9,999 บาท
ดีไซน์ของ OPPO A96
หน้าจอของ OPPO A96 นั้นเป็นหน้าจอแบบ Punch-hole Display ที่เป็นพาแนล IPS-LCD มีขนาดกว้าง 6.59 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดในระดับ Full-HD+ มีอัตรารีเฟรชสูง 90Hz แถมเป็นแบบ Adaptive ซึ่งจะปรับอัตรารีเฟรชตามการใช้งานด้วย (ถึงจะได้แค่ 60Hz และ 90Hz ก็ตาม) นอกจากนี้ยังมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสที่สูงถึง 180Hz เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าสนใจพอสมควร ส่วนกล้องหน้านั้นจะอยู่ในรูบริเวณมัมซ้ายบนมีความละเอียดอยู่ที่ 16MP ที่ขอบด้านบนจะมีลำโพงอยู่ 1 ตัวสำหรับใช้เป็นทั้งลำโพงสนทนาและลำโพงแบบ Stereo ไปในตัว
ที่ด้านหลังตัวเครื่องนั้นใช้การออกแบบที่เรียกว่า OPPO Glow Design ที่ตกแต่งด้วยเพชรแวววาวขนาดเล็กมากๆ เพิ่มความเป็นประกายโดดเด่นให้กับตัวเครื่อง แถมเมื่อเปลี่ยนมุมมองยังสามารถเปลี่ยนสีได้ด้วย ซึ่งตัว OPPO A96 จะมีทั้งหมด 2 สีคือ Starry Black และ Pearl Pink ซึ่งทาง Specphone เราได้สี Pearl Pink มา โดยความน่าสนใจของสี Pearl Pink คือเมื่อเปลี่ยนมุมมองก็จะเปลี่ยนสีไปด้วยเป็นได้ทั้งสีชมพูและฟ้าเลย นับว่าสวยแบบไม่ซ้ำใครจริงๆ ที่มุมบนซ้ายจะมีโมดูลกล้องนูนขึ้นมาเล็กน้อย โดยภายในจะมีเลนส์กล้องทั้งหมด 2 เลนส์ที่ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก 50MP และเลนส์ depth 2MP พร้อมด้วยไฟแฟลช LED ที่วางอยู่ข้างๆ เลนส์หลัก
สำหรับรอบตัวเครื่องนั้นจะมีปุ่มเปิด-ปิดอยู่ที่ฝั่งขวาพร้อมทำหน้าที่เป็นที่สแกนลายนิ้วมือไปในตัว มีปุ่มปรับระดับเสียงและช่องใส่ซิมอยู่ที่ฝั่งซ้าย (ถาดซิมเป็นแบบ Triple-slot ใส่ซิม 2 ซิมพร้อม microSD ได้เลย) ด้านบนมีรูไมโครโฟนสำหรับตัดเสียง ส่วนด้านล่างจะมีลำโพงอีกตัว, รูไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตชาร์จแบบ Type-C และช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของ OPPO A96 เป็น ColorOS 11.1 ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 11 ซึ่งเอาจริงๆ ก็แปลกใจเล็กน้อยที่เป็น Android 11 ทั้งๆ ที่หลายๆ เครื่องตอนนี้เป็น Android 12 กันแล้ว แต่ก็คาดว่าเพื่อจำกัดค่าตัวให้ไม่เกิน 10,000 บาทนั่นแหละ ในเรื่องของ UI นั้นก็เป็นแบบเรียบง่าย ทุกแอปฯ อยู่ในหน้า Home ทั้งหมด ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้เท่าไหร่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์แปลภาษาแบบรวดเร็วด้วยการใช้ Google Lens ร่วมกับนิ้วมือเพียง 3 นิ้วเท่านั้น และฟีเจอร์ FlexDrop ที่ช่วยให้สามารถสลับการใช้งานระหว่างแอปฯ ได้อย่างลื่นไหล
การใช้งาน OPPO A96
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในเรื่องของการใช้งานต่างๆ นั้น ในด้านการเล่นโซเชียลนั้นไม่ต้องไปสนใจมากนัก เนื่องจากชิป Snapdragon 680 นั้นมีความแรงมากพอที่จะสามารถใช้เล่นแอปฯ โซเชียลต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล ต่อให้เป็นการเปิดหลายแอปฯ พร้อมกันก็ตามอีกทั้งด้วยการที่มีอัตรารีเฟรชถึง 90Hz และมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสถึง 180Hz ยังช่วยให้ภาพมีความลื่นไหลกว่าปกติและสามารถตอบสนองการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว ในเรื่องของการใช้ดูหนังนั้นด้วยหน้าจอแบบ IPS ทำให้ภาพที่ได้อาจจะดูจืดกว่าหน้าจอแบบ AMOLED ก็จริง แต่ก็แลกมาด้วยการบริโภคพลังงานที่น้อยกว่า ช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า สำหรับการใช้ดูหนังแบบสตรีมมิ่งนั้นตัวเครื่องได้รับการรับรอง Winevine ระดับ L1 ทำให้สามารถดูหนังได้เต็มความละเอียดเท่าที่เครื่องจะรับได้ ซึ่งจากที่ได้ลองเอาไปดู Godzilla : Singular Point ตลอด 1 ซีซั่น ต้องบอกเลยว่าสีสันก็นับว่าใช้ได้เลยสำหรับหน้าจอ IPS แถมลำโพงแบบคู่ยังช่วยให้เสียงที่ดัง รายละเอียดเสียงมาครบอีกด้วย นับว่าน่าสนใจทีเดียว
ในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นตัวเครื่อง OPPO A96 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จเร็ว SUPERVOOC ขนาด 33W ซึ่งจากการที่ได้ลองใช้ดูต้องบอกว่าแบตเตอรี่นับว่าอึดใช้ได้ หลังจากที่ดูGodzilla : Singular Point 1 ซีซั่น จำนวน 13 ตอนๆ ละ 24 นาที เริ่มดูตอนแบตเตอรี่ 80% เปิดแสง 50% และเปิดเสียง 70% หลังจากดูจบทั้ง 13 ตอนแบตเตอรี่เหลือ 37% หรือก็คือแบตเตอรี่ลดไปราวๆ 43% ซึ่งนับว่าไม่ได้เยอะมากนักเมื่อมองว่าเป็นการดูแบบสตรีมมิ่งความละเอียด Full-HD+ สำหรับในเรื่องการชาร์จนั้นลองชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือ 10% ในช่วง 10 นาทีแรกแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 25% สำหรับใครที่กำลังรีบๆ ถือว่าเป็นระดับที่เรียกว่าพอใช้ได้อีกระยะหนึ่งแล้ว แต่ถ้ารอสัก 30 นาทีก็จะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 50% เลย ส่วนการชาร์จจนเต็ม 100% นั้นใช้เวลารวมทั้งหมด 1 ชั่วโมง 19 นาที ซึ่งก็นับว่าเป็นระยะเวลาเฉลี่ยของมือถือที่มีแบตเตอรี่ 5,000 mAh แล้ว
การเล่นเกม
ในด้านการเล่นเกมนั้นด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 680 นั้นนับว่าเพียงพอมากกับการใช้เล่นเกมในปัจจุบันนี้ ซึ่งจากที่ได้ลองทั้ง RoV, PUBG New State และ Genshin Impact นั้นต้องบอกเลยว่าเล่นได้หมดนั่นแหละ เพียงแต่ Genshin นี่ถ้าจะเล่นให้ลื่นค่อต้องปรับต่ำหรือไม่ก็ต่ำสุดถึงจะลื่น ถ้าปรับกราฟิกสูงๆ เฟรมเรทจะตกแบบสุดๆ แค่หันไปมาก็ปวดตาแล้ว ส่วน PUBG New State นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าเสียดายที่เปิด 90fps ไม่ได้ แต่ก็สามารถปรับแบบ Ultra เฟรมเรท Ultra เล่นได้นะ (ถ้าจะเอาเฟรทเรท Max จะได้แค่กราฟิก Lite เท่านั้น)
หนึ่งในตัวช่วยที่ทาง OPPO ใส่เข้ามาในมือถือของตัวเองเพื่อคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมก็คือ Game Space ที่ช่วยดึงประสิทธิภาพของตัวเครื่องให้สูงขึ้น สามารถเล่นเกมระดับสูงได้ลื่นขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังช่วยจัดการการแจ้งเตือนต่างๆ ที่อาจจะมารบกวนระหว่างเล่น และยังสามารถถ่ายภาพ/วิดีโอ หรือแม้แต่แชร์ข้อมูลต่างๆ ลงโซเชียลก็ทำได้อย่างง่ายดายเลย
การถ่ายภาพ
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพนั้น OPPO A96 นั้นจะมาพร้อมกับกล้องหลังเพียง 2 ตัวคือกล้องหลักความละเอียด 50MP และกล้อง Bokeh ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าเป็นกล้องความละเอียด 16MP ซึ่งการที่ให้กล้องมาแค่นี้ก็ทำให้การถ่ายภาพถูกจำกัดลงในระดับหนึ่ง ทว่าภาพถ่ายที่ได้นั้นก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว เนื่องจาก AI ของ OPPO นั้นเรียกได้ว่าขั้นเทพ สามารถปรับสีสันของภาพให้ออกมาดูสวยงามได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเอาเข้าแอปฯ แต่งภาพเพิ่ม นอกจากนี้ด้วยการที่มีเลนส์ Bokeh ยัังช่วยให้การถ่ายภาพแบบละลายหลังทำออกมาได้ดีกว่าการใช้โปรแกรมล้วนๆ ทำ เหมาะอย่างยิ่งกันคนที่ชอบการถ่ายภาพแบบบุคคล นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอย่าง Extra HD ที่จะเป็นการถ่ายภาพความละเอียดสูง และ STICKER ที่จะเปป็นการถ่ายภาพพร้อมสติกเกอร์ช่วยเพิ่มสีสันให้กกับภาพถ่ายได้อย่างดีเลย สำหรับการบันทึกวิดีโอนั้นออกจะน่าเสียดายไปหน่อยที่ไม่สามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ได้ แต่ก็เพราะเป็นข้อจำกัดของตัวชิปประมวลผล คงทำอะไรมากนักไม่ได้ ถ้าจะให้พูดถึงกล้องของ OPPO A96 เครื่องนี้ก็คือเป็นกล้องที่เหมาะกับการถ่ายภาพทั่วไปและการถ่ายภาพแบบละลายหลัง แต่ไม่เหมาะกับคนที่ชอบการถ่ายภาพมุมกว้างเพราะเครื่องนี้ไม่มีเลนส์ Ultra-Wide ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้วแค่กล้องที่ให้มาก็นับว่าเหลือเฟือแล้วกับการเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว OPPO A96
สรุปการรีวิว OPPO A96 จากการที่ได้เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่ง ต้องบอกเลยว่าในรุ่น A96 นี้เป็นหนึ่งตัวที่เรียกได้ว่าน่าใช้ทีเดียว ด้วยความจุที่ให้มามากถึง 256GB ชิปประมวลผลที่ทั้งแรงและประหยัดพลังงาน AI กล้องที่แต่งภาพให้เสร็จพร้อมใช้งาน แบตเตอรี่ที่นับว่าค่อนข้างอึดแถมยังชาร์จเร็ว และค่าตัวที่ไม่เกิน 10,000 บาท นับว่าเป็นเครื่องที่คุ้มมากๆ ในช่วงเวลาของแพงแบบนี้เลยทีเดียว ถ้าจะให้ติหลักๆ ก็มีแค่หน้าจอที่เป็น IPS ไม่ใช่ AMOLED กับวิดีโอที่บันทึกได้แค่ 1080p แค่ 2 อย่างนี้เท่านั้นที่น่าเสียดาย แต่ก็อาจจะต้องทำใจเล็กน้อยเพื่อแลกกับราคาที่ไม่เกิน 10,000 บาทและความจุที่มากกว่าปกติ 2 เท่า สำหรับใครที่สนใจอยากดูรายละเอียดและอยากสั่งซื้อ OPPO A96 นี้สามารถเข้าไปดูได้ที่ oppo.com ได้เลย
จุดเด่น
- ดีไซน์และสีสันสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร
- ได้หน้าจอที่มีอัตรารีเฟรช 90Hz และมีอัตราการตอบสนองสูงถึง 180Hz
- ได้ชิป Snapdragon 680 ที่ทั้งแรงและประหยัดพลังงาน
- ได้กล้อง 50MP พร้อมด้วย AI ขั้นเทพ
- ได้ระบบชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC ช่วยให้ใช้เวลาชาร์จน้อยลงไปเยอะ
- เป็นมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาทที่เล่นได้ทุกเกม
ข้อสังเกต
- ได้หน้าจอพาแนล IPS ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ ให้ AMOLED กันแล้ว
- ชิปประมวลผลรองรับการบันทึกวิดีโอแค่ 1080p
- ไม่มีกล้อง Ultra-Wide
- ได้ Android 11 ทั้งๆ ที่มือถือที่เปิดตัวใหม่ในปัจจุบันมาพร้อม Android 12