Xiaomi Mi 11 Lite 5G สมาร์ทโฟนขนาดเล็กแต่ประสิทธิภาพคุ้มค่าเกินราคา มาพร้อมกับชิปเซ็ทตัวใหม่อย่าง Snapdragon 780 จะน่าสนใจมาแค่ไหนไปติดตามกัน
Xiaomi Mi 11 Lite 5G เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กของซีรีส์ Mi 11 ตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 780G ซึ่งเป็นกราฟิกชิประดับกลางรุ่นใหม่ของทาง Qualcomm ซึ่งจะทำให้การใช้งานต่างๆ ของคุณนั้นลื่นไหลไม่มีสระดุด นอกไปจากนั้นแล้ว Xiaomi Mi 11 Lite 5G ยังมาพร้อมกับตัวเครื่องที่มีทั้งความบางและเบากว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางของผู้ผลิตอื่นๆ อีกด้วย
จริงๆ แล้วซีรีส์ Xiaomi Mi 11 Lite นั้นจะมีตัวเครื่องที่รองรับเฉพาะเครือข่าย 4G ออกวางจำหน่ายด้วยทว่าตัวเครื่องที่รอบเฉพาะเครือข่าย 4G นั้นจะมาพร้อมกับชิปเซ็ท Snapdragon 732G เท่านั้น ทั้งนี้ในรุ่น 5ฌนั้นชิปเซ้ทจะรองรับการใช้งานเครือข่าย Wifi ตามมาตราฐาน Wi-Fi 6 อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจของตัว Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นคงหนีไม่พ้นการที่ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับลำโพง 2 ตัวให้เสียงแบบ Stereo ซึ่งหาได้ค่อนข้างยากสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางในตลาดปัจจุบัน Xiaomi Mi 11 Lite 5G จะน่าสนใจมากแค่ไหนไปติดตามกัน
- Xiaomi Mi 11 Lite 5G Specs
- รูปลักษณ์ของตัวเครื่อง
- Android 11 ที่ครอบทับด้วย MIUI 12
- ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อของตัวเครื่อง
- ทดสอบกล้องของ Xiaomi Mi 11 Lite 5G
- ประสิทธิภาพของหน้าจอ Xiaomi Mi 11 Lite 5G
- ประสิทธิภาพของ Mi 11 Lite 5G
- คุณภาพของลำโพงบน Mi 11 Lite 5G
- อายุการใช้งานของแบตเตอรี่
- สรุปผลสำหรับ Xiaomi Mi 11 Lite 5G
Xiaomi Mi 11 Lite 5G Specs
รูปลักษณ์ของตัวเครื่อง
Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นมีความแตกต่างในส่วนของตัวรูปลักษณะเครื่องจากสมาร์ทโฟนระดับกลางเช่น Redmi Note 10 Pro และ Poco X3 NFC พอสมควร อย่างแรกเลยนั้นก็คือเรื่องของน้ำหนักที่ Xiaomi Mi 11 Lite 5G หนักเพียง 159g เท่านั้นนอกไปจากนั้นแล้วตัวเครื่องยังมีความหนาเพียงแค่ 6.81 mm. ซึ่งถือว่าเบามากๆ กับสมาร์ทโฟนในตลาดระดับกลาง
ตัวเครื่อง Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นมาพร้อมกับการใช้กระจก Gorilla Glass 6 ครอบรอบตัว สำหรับในส่วนของทางด้านหน้าตัวเครื่องนั้นหน้าจอจะใช้พื้นที่คิดเป็น 85% ดีไซนหน้าจอจะเป็นการใช้ดีไซน์กล้อง Selfie แบบ punch-hole โดยกล้อง Selfie นั้นจะอยู่ที่ตำแหน่งทางด้านมุมซ้ายของตัวเครื่อง
สำหรับกล้องหลังนั้นตัวเครื่องวางตัวอยู่ทางด้านซ้ายของหลังเครื่องโดยที่ฐานของลเนส์กล้องนั้นจะนูนขึ้นมาจากส่วนอื่นๆ เล็กน้อย
Android 11 ที่ครอบทับด้วย MIUI 12
ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อของตัวเครื่อง
Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นจะรองรับการใช้งาน 2 SIM พร้อมกันซึ่งรองรับกับการใช้งานเครือข่าย 5G ทั้ง 2 SIM ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Bluetooth มาตรฐาน 5.2 สำหรับด้าน Wifi นั้นจะรองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6 และ MU-MIMO ยังไม่หมดแค่เพียงเท่านั้น Xiaomi Mi 11 Lite 5G ยังคงมาพร้อมกับชิปจับสถญญาณดาวเทียมซึ่งรองรับมาตรฐาน GPS (L1+L5), GLONASS, QZSS, Beidou (B1+B2), Galileo (E1+E5a) และ Satellite-based Augmentation System (SBAS)
โมเด็ม Qualcomm X53 บนตัวเครื่องนั้นรองรับความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลของเครือข่าย 5G ในส่วนของการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 3.3 Gb/s นอกไปจากนั้นแล้วด้วยชิป X53 นี้นั้นทำให้ Xiaomi Mi 11 Lite 5G รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 4G มากถึง 17 LTE Bands ซึ่งทำให้ท่านสามารถนำเอาตัวเครื่องไปใช้ในประเทศอื่นๆ ได้อย่างสบายๆ
ทดสอบความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลผ่านเครือข่าย
สำหรับผลการทดสอบการดาวน์โหลดและอัปโหลดข้อมูลผ่านเครือข่ายด้วย Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นพบว่าตัวเครื่องสมาร์ทดาวน์โหลดและอัปโหลดข้อมูลได้ที่ความเร็วมากกว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีราคาใกล้กันอยู่พอสมควร โดยในส่วนของการอัปโหลดข้อมูลผ่านเครือข่าย 5G นั้นสามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้ที่ 891 MBit/s ส่วนการดาวน์โหลดข้อมูลผ่านเครือข่าย 5G นั้นสามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้ที่ 874 MBit/s
ทดสอบความเร็วในการจับสัญญาณดาวเทียม
การเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมเพื่อระบุตำแหน่งที่อยู่ของ Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นผลออกมาพบว่ามีประสิทธิภาพดีเป็นอย่างมากสำหรับสมาร์ทโฟน โดยจากการทดสอบนั้นพบว่าประสิทธิภาพนั้นจะมใกล้เคียงกันกับอุปกรณ์สัญญาณจับดาวเทียมราคาสูงอย่างเช่น Garmin Edge 500 เลยทีเดียว โดยความแตกต่างนั้นจะอยู่ที่ราวๆ 120 m เท่านั้น
คุณภาพการโทรทั้งผ่านเครือข่ายและผ่าน Wi-Fi
สำหรับการใช้งานโทรศัพท์ทั้งผ่านเครอข่ายและ Wi-Fi นั้นพบว่า Xiaomi Mi 11 Lite 5G สามารถทำออกมาได้ดีทั้งคู่ ทว่าข้อตำหนิเดียวของการใช้งานนั้นก็คือคุณควรจะต้องวางตำแหน่ง Xiaomi Mi 11 Lite 5G ให้ใกล้กับหูและปากมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถ้าใช้งาน Speaker Phone แล้วนั้นพบว่าคุณภาพเสียงได้ที่ยินและเสียงที่อีกฝ่ายนึงได้ยินคุณพูดจะมีประสิทธิภาพที่ดีพอควร
หมายเหตุ – Xiaomi Mi 11 Lite 5G เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนระดับกลางไม่กี่เครื่องที่รองรับการโทรผ่านเครือข่าย Wi-Fi แทนการใช้งานเครือข่ายแบบ 5G หรือ 4G ซึ่งการจะใช้งานได้นั้นคุณต้องศึกษาดูก่อนว่าเครือข่ายผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ของคุณรองรับฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ด้วยหรือไม่
ทดสอบกล้องของ Xiaomi Mi 11 Lite 5G
Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นมาพร้อมกับระบบกล้องหลังที่มีเลนส์ 3 เลนส์ประกอบไปด้วยเลนส์หลักความละเอียด 64 MP มีรูรับแสงอยู่ที่ f/1.79 ใช้เซ็นเซอร์รุ่น GW3 ของทาง Samsung, เลนส์ ultra wide-angle ความละเอียด 8 MP รองรับการถ่ายภาพมุมกว้างได้มากสุดถึง 119 องศา และเลนส์สุดท้ายเป็น macro ที่ความละเอียด 2 MP
ในการทดสอบใช้งานถ่ายรูปทั่วไปในช่วงที่มีแสงมากนั้นพบว่าภาพที่ได้มีความสวยงามน่าประทับใจ การจับภาพเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทว่าในการทดสอบถ่ายรูปตอนแบบซูมนั้นค่อนข้างที่จะน่าผิดหวังเล็กน้อยเพราะภาพที่ได้ยังเก็บรายละเอียดได้ไม่ครบ ที่เป็นเช่นนี้นั้นน่าจะมีสาเหตุมาจาก Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นไม่ได้มาพร้อมกับเลนส์ telephoto
นอกไปจากนั้นด้วยความที่ตัวกล้องไม่ได้มาพร้อมกับระบบกันสัน ดังนั้นในการถ่ายภาพในที่ที่มีแสดงน้อยจึงทำให้ภาพสั่นไหวได้ง่ายในเวลากลางคืนหากมือของคุณไม่นิ่งมากพอ ยิ่งไปกว่านั้นกับการถ่ายรูปตอนกลางคืนจะพบว่าภาพนั้นออกมามีคุณภาพต่ำมากหากเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีราคาใกล้เคียงกัน
ปิดการทดสอบกล้องหลักกับการถ่ายวีดีโอที่ตัวเครื่องนั้นรองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K@30FPS ซึ่งผลยังคงออกมาเป็นแบบเดียวกันกับการถ่ายภาพนิ่งที่ตัววีดีโอนั้นจะถ่ายได้ไม่สวยเมื่อใช้ถ่ายในที่ที่มีแสงน้อย นอกไปจากนั้นแล้วด้วยความที่ตัวกล้องไม่ได้มาพร้อมกับระบบกันสั่นทำให้วีดีโอที่ถ่ายในที่ที่มีแสงน้อยนั้นดูค่อนข้างแย่พอสมควร
หมายเหตุ – สำหรับการถ่ายวีดีโอแบบเปิดฟีเจอร์ Ultra wide-angle นั้นคุณภาพของวีดีโอสูงสุดที่ตัวเครื่องสามารถทำได้จะอยู่ที่ความละเอียดระดับ 1080p เท่านั้น แถมยังไม่สามารถสลับระหว่างการถ่ายด้วยเลนส์ Ultra wide-angle กับเลนส์หลักได้
สำหรับกล้องถ่าย Selfie นั้นจะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ความละเอียด 20 MP ซึ่งในการถ่ายภาพนั้นพบว่ามีคุณภาพค่อนข้างดีเมื่ออยู่ในสภาวะที่มีแสง แต่เมื่อเปลี่ยนไปเป็นการถ่ายภาพในที่ที่มีสถาวะแสงน้อยแล้วนั้นพบว่าภาพที่ได้จะค่อนข้างไม่มีคุณภาพโดยจะขาดในส่วนของ Bokeh effect และ sharpness ไปมากพอควร ทั้งนี้ด้าน colour reproduction และ exposure ของภาพนั้นสามารถที่จะทำออกมาได้ดีทั้งในที่ที่มีแสงและแสงไม่มาก
ประสิทธิภาพของหน้าจอ Xiaomi Mi 11 Lite 5G
Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.55 นิ้ว พาเนลที่ใช้เป็น AMOLED ที่รองรับความละเอียดระดับ 2400 x 1080 pixels พร้อมด้วย refresh rate 90 Hz และ 240-Hz touch sampling rate โดยในการทดสอบแสงสว่างสูงสุดที่หน้าจอของ Xiaomi Mi 11 Lite 5G สามารถทำได้นั้นจะเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 800 cd/m²
จุดที่น่าเสียดายก็คือหน้าจอที่ใช้งานบน Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นก็คือมันไม่รองรับการแสดงผลเทคโนโลยี HDR แถมตัวหน้าจอเองนั้นถึงแม้ว่าจะมาพร้อมกับ refresh rate 90 Hz แต่พาเนลหน้าจอนั้นไม่รองรับการปรับ refresh rate โดยอัตโนมัติ(adaptive refresh rate) ทั้งนี้เมื่อทำการเปิดใช้งานเครื่องเป็นครั้งแรก Xiaomi Mi 11 Lite 5G จะมีการตั้งค่า refresh rate มาตรฐานมาให้ที่ 60 Hz ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าเปลี่ยน refresh rate ได้เองผ่านทาง Settings > Display ซึ่งจะมีค่าให้เลือกแค่ระหว่าง 60 Hz และ 90 Hz เท่านั้น
ด้วยที่ Xiaomi Mi 11 Lite 5G ใช้พาเนลหน้าจอแบบ AMOLED นั้นทำให้มันใช้งานได้เป็นอย่างดีในที่ที่มีแสงสว่างจากสภาพแวดล้อมมา จากการทดสอบโดยใช้งานตัวเครื่องกลางแดดแล้วตั้งค่าให้ตัวเครื่องปรับความสว่างแบบอัตโนมัตินั้นพบว่าหน้าจอจะมีความสว่างสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 535 cd/m²
ประสิทธิภาพของ Mi 11 Lite 5G
Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ท Snapdragon 780G ซึ่งเป็นชิปเซ็ทระดับกลางตัวใหม่ของทาง Qualcomm ผลิตภายใต้กระบวนการผลิตที่ระดับ 5 nm เช่นเดียวกันกับ Snapdragon 888 ที่เป็นรุ่นท๊อปของปีนี้ ในส่วนของหน่วยประมวลผลของ Snapdragon 780G นั้นจะมีแกนการประมวลผลทั้งหมด 8 แกนแบ่งออกเป็น Cortex-A78 ความเร็ว 2.4 GHz จำนวน 1 แกน, Cortex-A78 ความเร็ว 2.2 GHz จำนวน 3 แกนและ Cortex-A55 ความเร็ว 1.9 GHz จำนวน 4 แกน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลของหน่วยประมวลผลผ่านทาง Geekbench 5.3 พบว่า Xiaomi Mi 11 Lite 5G สามารถทำคะแนนการทดสอบในส่วนของ single-core ไปได้ที่ 809 คะแนนและการทดสอบแบบ multi-core นั้นทำคะแนนไปได้ที่ 2998 คะแนน โดยผลคะแนนนั้นถือว่าค่อนข้างน่าพอใจเป็นอย่างมากสำหรับชิปเซ็ทระดับกลาง โดยจะตามหลังชิปเซ็ทซีรีส์ 8 อย่าง Snapdragon 870 ในส่วนของการทดสอบแบบ single-core ที่ราวๆ 20% แต่สามารถกับมาเอาชนะได้ในการทดสอบแบบ multi-core ที่ได้คะแนนสูงกว่าราวๆ 4% ด้วยกัน
ทางด้านการประมวลผลทางด้านกราฟิกของ Snapdragon 780 ที่ใช้ชิป Adreno 642 บน Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นต้องบอกเลยว่าผลคะแนนการทดสอบที่ได้ถือว่าสูงกว่าชิปเซ็ทระดับกลางรุ่นอื่นๆ เป็นอย่างมาก สำหรับคะแนนการทดสอบด้วยเอนจิ้น Vulkan นั้นจะอยู่ที่ 2805 ตามหลัง Adreno 650 บนชิปเซ็ท Snapdragon 870 อยู่ที่ราวๆ 20% ส่วนคะแนนการทดสอบด้วยเอนจิ้น OpenCL นั้นจะอยู่ที่ 2809 ตามหลัง Adreno 650 บนชิปเซ็ท Snapdragon 870 อยู่ที่ราวๆ 27%
การทดสอบความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลของแหล่งเก็บข้อมูล
ในส่วนของการโอนถ่ายข้อมูลของ Xiaomi Mi 11 Lite 5G ซึ่งใช้แหล่งเก็บข้อมูลมาตรฐาน UFS 2.2 นั้นพบว่าประสิทธิภาพที่ได้น่าพอใจทั้งการอ่านและเขียนข้อมูล ในส่วนของการอ่านข้อมูลแบบลำดับนั้นจะทำได้เฉลี่ยอยู่ที่ 949.43 MB/s และการเขียนข้อมูลแบบลำดับนั้นจะทำคะแนนเฉลี่ยอยู่ได้ที่ 710.31 MB/s
ด้วยความที่ Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นมาพร้อมกับตัวเลือกการเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลเพิ่มเติมแบบ microSD Card ได้ ดังนั้นแล้วจึงต้องทำการทดสอบกันสักหน่อย โดยในการทดสอบนี้นั้นจะทำการทดสอบร่วมกับ microSD Card รุ่น Toshiba Exceria Pro M501 ทำการทดสอบโดยการโอนถ่ายข้อมูลรูปภาพจากแหล่งเก็บข้อมูลภายในไปยัง microSD Card ทั้งหมด 3 รอบและหาค่าเฉลี่ยความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลออกมา
ผลการทดสอบปรากฎว่าการใช้งาน microSD Card บน Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นทำออกมาได้แค่่เพียง 18.08 MB/s เท่านั้น โดยจำแนกเป็นความเร็วในการเขียนข้อมูลจะอยู่ที่ 40.9 MB/s ส่วนความเร็วในการอ่านข้อมูลจะอยู่ที่ 86.8 MB/s
ประสิทธิภาพในการเล่นเกมของ Xiaomi Mi 11 Lite 5G
ด้านการเล่นเกมนั้นบอกได้เลยว่า Xiaomi Mi 11 Lite 5G สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี โดยในการทดสอบหลายๆ เกมนั้นพบว่าตัวเกมจะสามารถรันได้สบายๆ ที่ 60FPS(แต่ก็มีตกลงไปบ้างในบางฉาก) จะยกเว้นก็เพียงแค่เกม Armajet เท่านั้นที่ทำได้ฌแลี่ยอยู่ที่ 30FPS ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกเพราะผลที่ได้นั้นหากเอาไปเทียบกับสมาร์ทโฟนราคาถูกอย่าง POCO M3 แล้ว Xiaomi Mi 11 Lite 5G กลับสามารถทำเฟรมเรทออกมาได้น้อยกว่า(POCO M3 สามารถที่จะทำเฟรมเรทไปได้สูงสุดมากถึง 60 FPS)
ความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นขณะใช้งาน
Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่สมาร์ทที่สามารถจัดการเรื่องความร้อนสะสมขณะใช้งานตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี โดยจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3DMark – Wild Life แล้วพบว่าตัวเครื่องสามารถทำคะแนนออกมาได้ที่ 3144 คะแนน และได้เปอร์เซ็นต์ความมั่นคงในการใช้งานถึง 99.8%
อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตอยู่เพราะเมื่อทำการทดสอบด้วยการรันโปรแกรม GFXBench กับการทดสอบ Manhattan (OpenGL ES 3.1) แล้วพบว่า Xiaomi Mi 11 Lite 5G ไม่สามารถรักษาความมีเสถียรภาพของการใช้งานได้ สาเหตุอาจจะเป็นที่ Driver ของชิปกราฟิกนั้นยังไม่มีความเสถียรมากเท่าไรกับโปรแกรม GFXBench โดยในอนาคตนั้นน่าจะได้รับการอัปเดทแก้ไขต่อไป
คุณภาพของลำโพงบน Mi 11 Lite 5G
ตามที่ได้บอกไว้ในตอนต้นง่า Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นมาพร้อมกับลำโพง 2 ตัวให้เสียงในรูปแบบ Stereo ดังนั้นแล้วจึงไม่น่าแปลกใจกับผลการทดสอบมากนักที่พบว่าลำโพงของ Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นสามารถให้เสียงดังมากสุดถึง 89 dB(A) ซึ่งถือว่าเสียงดังมากในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาระดับกลาง ที่จะตามหลังอยู่นั้นก็คือ Samsung Galaxy A52 5G แต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
สำหรับการถอดรหัสเสียงผ่านทาง Bluetooth ของ Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นจะรองรับมาตรฐาน SBC, AAC, aptX, aptXHD, LDAC และ LHDC น่าเสียดายที่ตัวเครื่องนั้นดันไม่ให้พอร์ท 3.5 audio jack มาทำให้ในการใช้งานหูฟังนั้นจะต้องเชื่อมผ่านต่อกับชุดหูฟัง USB-C ซึ่งแน่นอนว่าย่อมทำให้ไม่สามารถที่จะฟังเพลงไปและชาร์จไปได้ในเวลาเดียวกัน
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่
Xiaomi Mi 11 Lite 5G มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,250 mAh ซึ่งเป็นขนาดความจุที่เหมือนๆ กันกับสมาร์ทโฟนระดับกลางของผู้ผลิตรายอื่น อย่างไรก็ตาม Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่กำลังไฟฟ้าสูงสุดมากถึง 33W แถมทาง Xiaomi ยังแถมที่ชาร์จที่รองรับการให้กำลังไฟฟ้า 33W มาให้ด้วยในกล่องจำหน่าย
ในการทดสอบการใช้พลังงานของตัวเครื่อง Xiaomi Mi 11 Lite 5G กับสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับชิปเซ็ทระดับกลางรุ่นเก่าอย่าง Snapdragon 765G พบว่า Xiaomi Mi 11 Lite 5G ใช้พลังงานต่ำกว่าเล็กน้อย ทั้งนี้กำลังไฟฟ้าสูงสุดที่ Xiaomi Mi 11 Lite 5G ทำได้นั้นจะอยู่ที่ราวๆ 8.6 W
ด้านอายุการใช้งานของแบตเตอรี่บน Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นถือได้ว่าค่อนข้างที่จะน่าพอใจมากเลยทีเดียว จากการทดสอบเปิดใช้งาน Wi-Fi ตลอดเวลาและตั้งความสว่างของหน้าจอให้อยู่ที่ 150 cd/m² และ refresh rate 90 Hz พบว่า Xiaomi Mi 11 Lite 5G สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 12 ชั่วโมง ทว่าหากใช้งานแบบหนักๆ ต่อเนื่องกันแล้วนั้นพบว่าอายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ราวๆ 4 ชั่วโมง ซึ่งตรงจุดนี้นั้นต้องไม่ลืมว่า Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,250 mAh เท่านั้น
สรุปผลสำหรับ Xiaomi Mi 11 Lite 5G
โดยรวมแล้วนั้น Xiaomi Mi 11 Lite 5G ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาระดับกวางที่ค่อนข้างน่าพอใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม Xiaomi Mi 11 Lite 5G สามารถทำออกมาได้ดีในทุกๆ ด้าน นอกไปจากนั้นแล้วตัวเครื่องยังมีน้ำหนักและความหนาที่น้อยกว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางทั่วไปอีกด้วยต่างหาก
สำหรับจุดด้อยของ Xiaomi Mi 11 Lite 5G นั้นคงหนีไม่พ้นการที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุเพียง 4,250 mAh ซึ่งน้อยกว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางของผู้ผลิตรายอื่นๆ อยู่ และแม้ว่าตัวเครื่องจะใช้พาเนลหน้าจอเป็น AMOLED ทว่าทาง Xiaomi ก็ไม่ได้ทำโหมด Always-on-Display มาให้ ยังไม่หมดเท่านั้นเพราะตัวเครื่อง Xiaomi Mi 11 Lite 5G เองนั้นไม่รองรับมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นใดๆ ซึ่งไม่เหมือนกับผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่จะให่ความสามารถดังกล่าวนี้มาให้ด้วย
ทั้งนี้ Xiaomi Mi 11 Lite 5G จะมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ราวๆ 12,500 บาท ทว่าในเมืองไทยบ้านเรานั้นยังคงไม่มีการเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการ แถมตามข้อมูลนั้นพบว่าตัวเครื่องที่วางจำหน่ายผ่าน Amazon นั้น Out of stock ไปนานแล้วเช่นกัน
ที่มา : notebookcheck