Moto G6 Plus เป็นสมาร์ทโฟนจากทาง Moto ที่ออกมาแทนที่ Moto G5s Plus และ Moto G5 Plus ครั้งนี้กลับมาด้วยหน้าตารูปลักษณ์ที่มีความหรูหรามากขึ้นกว่าเดิม ด้วยฝาหลังที่เป็นกระจก หน้าจอแบบ 18:9 Full view และ กล้องหลังคู่ตามสมัยนิยม ช่วงประมาณปีที่แล้ว ผมได้รีวิวตัว Moto G5 Plus ไป ในตอนนั้นผมว่าผมก็ชอบนะ กลับมาในปีนี้ที่ผมได้ Moto G6 Plus มารีวิวบ้าง ส่วนตัวผมว่ามันก็เปลี่ยนไปเยอะ มีความหรูหราขึ้น พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน และลดความดิบลงไปเมื่อเทียบจากรุ่นก่อน
รายละเอียดสเปค Moto G6 Plus
- หน้าจอ LCD IPS ขนาด 5.9 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 18:9 ความละเอียด Full HD+ 2160 x 1080 พิกเซล
- ขนาดตัวเครื่อง 159.9 × 75.5 × 7.99 มม. น้ำหนัก 165 กรัม
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 630 Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟฟิก Adreno 508
- RAM 4 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB และรองรับ microSD สูงสุด 256 GB
- กล้องหลังคู่ ความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.7
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- รองรับ Dual SIM แบบ Triple Slot
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- การเชื่อมต่อไร้สาย 4G LTE, Wi-Fi AC, Bluetooth 4.2
- แบตเตอรี่ความจุ 3200 mAh พร้อมกับฟีเจอร์ Turbo Charge
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo
- ราคา 9,990 บาท
อุปกรณ์ที่มีมาในกล่องประกอบไปด้วย สาย USB Type-C , อะแดปเตอร์ Turbo Charger (แบบไม่กินที่) , หูฟัง In-Ear , เข็มจิ้มซิม, เคส TPU แบบใส, ฟิล์มกันรอย และ คู่มือการใช้งาน
Design / การออกแบบ
ดีไซน์ของ Moto G6 Plus ด้านหน้าก็ดูเหมือน ๆ กับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 18:9 ทั่วไป แต่พอดูด้านหลังแล้วพบว่า นี่ละคือเอกลักษณ์ของ Moto อย่างพื้นที่เลนส์กล้องที่ไม่เหมือนใคร และวัสดุที่เปลี่ยนมาใช้กระจกก็ทำให้ตัวเครื่องดูหรูหราเพิ่มมากขึ้นด้วย
ด้านหน้าประกอบไปด้วย หน้าจอขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ตามสมัยนิยม สีสัน จัดว่าดีตามสไตล์จอ IPS ส่วน Feeling Touchscreen ทำมาได้ดี ลื่น ตามนิ้วดีมาก
ด้านบนของหน้าจอประกอบไปด้วย กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ลำโพงหลักของตัวเครื่อง และ LED Flash สำหรับกล้องหน้า
ด้านล่างของหน้าจอประกอบไปด้วย ไมโครโฟน และปุ่ม Home พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ในส่วนนี้มีของสังเกตเล็กน้อย อย่างเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทำงานได้เร็ว แต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยแม่นยำเท่าไหร่ พอเจอมือที่มีเหงื่อไปสักหน่อยก็เริ่มสแกนไม่ติดแล้ว
ด้านบนของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และ ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot
ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ช่อง USB Type-C และ ช่องหูฟัง 3.5
ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วย กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล พร้อม Dual LED Flash และ โลโก้ Moto วัสดุด้านหลังจะเป็นกระจกแบบเงา และ ที่ขอบของตัวเครื่องจะเป็นกระจกโค้งแบบ 2.5 D ทำให้การจับถือถนัดมือมากยิ่งขึ้น
สำหรับดีไซน์ด้านหลัง เลนส์กล้องหลังที่นูนออกจากตัวเครื่องอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ Moto ที่พอใช้งานจริงแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด วัสดุตัวเครื่องที่เป็นกระจก ทำให้เป็นรอยนิ้วมือง่ายเมือนเดิม และ ต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น
Software / ระบบปฏิบัติการ
Moto G6 Plus มาพร้อมกับ Android 8.0 ที่เป็นแบบ Pure Android หรือมีการปรับแต่งน้อยมาก หน้าตา UI ไม่ได้มีการปรับแต่ง เหมือนกับของทางต้นตำหรับอย่าง Google ซึ่งสำหรับใครที่ชอบก็คือชอบไปเลย เพราะลื่น และโล่งดีไม่มีแถม ส่วนถ้าใครที่ไม่ชอบก็อาจจะไม่ถูกใจ และ ไม่ชอบเลย เพราะมันโล่งมาก ไม่มีอะไรให้เล่นเลย
นอกจากนี้ยังรองรับการปลดล็อคด้วยใบหน้าด้วย และสิ่งที่รู้สึกได้ใน Pure Android 8.0 คือ มันมีความสมบูรณ์ มีลูกเล่น มีระบบช่วยเหลือ มีความน่าใช้มากขึ้น จากที่เมื่อก่อนไม่มีอะไรเลย
สิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากที่ Google ให้มา ที่เห็นได้ชัดๆ เลยคือ แอปพลิเคชัน Moto ที่ด้านในประกอบไปด้วย Moto Key, Moto Action, Moto Screen และ Moto Voice โดยผมจะขอนำเสนอสักสองตัวอย่างที่ผมใช้งานจริงละกันครับ
- Moto Action เป็นวิธีการสั่งงานเครื่องในสไตล์ของ Moto เช่น การนำทางมือเดียว การเขย่าเครื่องสองครั้งเพื่อเข้าไฟฉาย และ การใช้สามนิ้วแตะค้างไว้ที่หน้าจอเพื่อบันทึกภาพหน้าจอ เป็นต้น
- Moto Display เป็นฟีเจอร์ที่คล้ายๆ กับ Always On Display แต่จะแตกต่างกันที่ของ Moto จะไม่แสดงหน้าจอตลอดเวลา แต่จะแสดงตอนที่เราสัมผัสเครื่อง โดยจะแสดงเวลา และการแจ้งเตือนแบบย่อ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Software ในด้านเสียงด้วย อย่าง Dolby Audio ที่สามารถปรับเสียงได้หลายรูปแบบ แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะมันจะทำให้เสียคาแรคเตอร์ของหูฟังที่ใช้ไป
Camera / กล้องถ่ายภาพ
Moto G6 Plus มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล f/1.7, LED flash รองรับการถ่ายภาพแบบ HDR พาโนรามา และ ภาพบุคคล (หน้าชัดหลังเบลอ) การถ่ายภาพในสภาพแสงปกติทำได้ดีมาก ทำงานเร็ว ถ่ายออกมาแล้วรายละเอียดของภาพครบ แต่อาจจะต้องระวังเรื่องของแสงที่ดูฟุ้งมากเกินไปสักเล็กน้อย สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยก็ทำได้ดี ภาพที่ได้มีความสว่าง แต่อาจจะมี Noise บ้าง เป็นปกติ โดยรวมถือว่ากล้องถ่ายภาพทำมาได้ดีเลย โดยสามารถดูได้จากตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่างนี้ได้เลย
ด้วยความที่มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ ทำให้เวลาเราถ่ายรูปวัตถุที่แยกกับฉากหลังแบบชัดเจน จะเหมือนกับว่าเปิดโหมดหน้าชัดหลังเบลออยู่ตลอดทั้งๆ ที่ใช้ Auto และ ยิ่งถ้าเปิดโหมดภ่ายภาพบุคคลเข้าไปอีก จะยิ่งทำให้ละลายฉากหลังเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่มีข้อสังเกตว่าการตัดขอบยังทำได้ไม่ค่อยเนียนสักเท่าไหร่
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash ภาพถ่ายที่ได้ก็ถือว่าดีใช้ได้ มีความชัดดี โหมด Beauty ที่ให้มาเป็นแบบอัตโนมัติ ไม่สามารถปรับเองได้ ทำงานออกมาได้ดี หน้าเนียนกำลังดี เหมือนกับว่าเน้นไปที่การลบริ้วรอยบนหน้า และ ทำให้หน้าขาวขึ้นกว่าปกติมากกว่า ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ชายนะผมว่า
การถ่ายวิดีโอกล้องหลังรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30 fps และกล้องหน้าที่ 1080p 30 fps สำหรับงานวิดีโอยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ ยังรู้สึกว่าจับโฟกัสช้าในบางวัตถุ ทำให้วิดีโอที่ถ่ายออกมามีความเบลอเยอะ ถึงแม้ว่าจะใช้ Touch Focus ช่วยแล้วก็ยังไม่รู้สึกว่าดีขึ้น และ Noise ค่อนข้างเยอะ จึงสรุปว่างานวิดีโอยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่
ตัวอย่างภาพถ่าย
Performance / ประสิทธิภาพ
Moto G6 Plus มาพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon 630 RAM 4 GB หน้าจอความละเอียด Full HD เมื่อดูจากสเปคที่ให้มาจัดว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ใช้งานทั่วไปได้สบาย ไม่รู้สึกว่าเครื่องทำงานช้าเลย ทั้งที่เป็นชิปเน้นการประหยัดพลังงาน
การเล่นเกมทดสอบกับ PUBG Mobile เล่นได้ลื่นในการปรับตั้งค่ากราฟฟิกแบบดี ส่วนการตั้งค่ากราฟฟิกแบบสมดุล ผมว่ามันรู้สึกกระตุกเกินไป และไม่รองรับโหมดเฟรมเรตสูง ส่วนเกมถัดมาอย่าง ROV ได้ตั้งค่าแบบปรับทุกอย่างสูงสุด และ ปิดภาพ HD พบว่าเล่นได้ลื่นจังหวะ Frame Drop ไม่มีเลย เกาะ 29-30 fps ตลอด แต่ไม่มีโหมดเฟรมเรตสูงมาให้ และคะแนน AnTuTu อยู่ที่ 88,000 ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
RAM ที่ให้มา 4 GB ใช้งานได้อย่างเหลือเฟือ สังเกตได้จากเวลาเล่น Facebook แล้วเลื่อน Timeline ไปเรื่อยๆ เป็นระยะเวลานานๆ จะพบว่าไม่มีอาการเครื่องอืดลง จากอาการเหมือน RAM บวม ซึ่งจะพบในเครื่องรุ่นที่มี RAM น้อยกว่านี้ นอกจากนี้เวลาสลับแอพไปมาก็ไม่รู้สึกเลยว่ามีการโหลดใหม่
แบตเตอรี่ที่ให้มา 3200 mAh เมื่อดูจากตัวเลขจะรู้สึกว่าก็กลางๆ แต่พอนำไปใช้งานพบว่า มันก็อึดดีนะ อยู่ได้ครบวันแน่นอน ส่วนหนึ่งคิดว่ามาจาก CPU ที่เป็นรุ่นประหยัดพลังงานด้วยส่วนหนึ่ง โดยได้ทำการทดสอบเล่นเกม PUBG Moblie พบว่า 1 ตา แบตเตอรี่ลดไปประมาณ 10-12% และทดสอบเปิดเพลงผ่านหูฟังทิ้งไว้คืนนึง พบว่าแบตเตอรี่ลดไปประมาณ 20%
สำหรับที่ชาร์จที่แถมมาให้จะเป็นแบบ Turbo Charge ที่มีดีไซน์ไม่กินที่ปลั๊กตัวอื่นแล้ว ส่วนความเร็วในการชาร์จพบว่าภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมมง ชาร์จได้ประมาณ 60% ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
ความร้อนที่เกิดขึ้นมีน้อยมาก แทบจะไม่มีความร้อนมากวนใจเลย ยกเว้นตอนชาร์จแบตเตอรี่กับตัว Turbo Charge ที่จะอุ่นๆ บ้าง สำหรับลำโพงที่มากับเครื่อง ให้เสียงที่ดีใช้ได้ คือไม่ได้มีแต่เสียงกลาง-แหลม พอจะมีเสียงเบสให้ได้ยินบ้าง
Overall
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับรีวิว Moto G6 Plus สมาร์ทโฟน Pure Android หน้าจอใหญ่ แบตอึด ชาร์จเร็ว กล้องคู่ แน่นอนว่าจุดเด่นของรุ่นนี้คือความเป็น Pure Android ที่มากับความ Pure และ ผ่านการปรับแต่งน้อย แต่ก็ยังให้ฟีเจอร์ความสามารถอื่นๆ ที่ควรจะมีมาครบ และ ความลื่นไหลที่เชื่อมั่นได้ ไม่ว่าจะใช้เล่น Facebook เข้าเว็บไซต์ หรือเล่นเกม ก็ทำได้อย่างหายห่วง อาจจะไม่ได้แรงเท่าตัวที่มีสเปคสูงกว่านี้ แต่แลกมาด้วยการประหยัดพลังงานที่ดี และ เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ดีไซน์ที่เรียบหรู ดุดัน ตามสไตล์ Moto สำหรับกล้องถ่ายภาพ ทำได้น่าประทับใจ ส่วนงานวิดีโอยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แบตเตอรี่ที่อึดใช้ได้ สรุป Moto G6 Plus เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ ในรุ่นราคาต่ำกว่า 10,000 บาทเลยก็ว่าได้
ข้อดี
- หน้าจอใหญ่
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
- กล้องถ่ายภาพที่ไว้ใจได้
- Pure Android
- มีอะแดปเตอร์แบบชาร์จเร็วแถมมาในกล่อง ไม่ต้องซื้อแยก
ข้อสังเกต
- งานวิดีโอที่ยังทำได้ไม่ค่อยดี
- เลนส์กล้องหลังที่นูนออกจากตัวเครื่อง
- ในสเปคเท่ากัน บางรุ่นราคาถูกกว่านี้