Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Gadgets»Accessories Review»รีวิว Mi Band 6 สมาร์ทแบนด์เพื่อสุขภาพในราคาโคตรคุ้ม อัพเกรดใหม่ ไฉไลกว่าเดิม แถมถูกลงด้วย
    Accessories Review

    รีวิว Mi Band 6 สมาร์ทแบนด์เพื่อสุขภาพในราคาโคตรคุ้ม อัพเกรดใหม่ ไฉไลกว่าเดิม แถมถูกลงด้วย

    ACHI-SPBy ACHI-SP28 พฤษภาคม 2021Updated:30 พฤษภาคม 2021
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    Mi Band 6 หรือ Mi Smart Band 6 สมาร์ทแบนด์เพื่อสุขภาพรุ่นใหม่ อัพเกรดเพิ่มเติมให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นวัดค่าอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดเข้ามา อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนหน้าจอให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย เป็นการเติมเต็มในส่วนที่รุ่นก่อนอย่าง Mi Band 5 ขาดไป ในราคาที่ถูกลงเหลือแค่ 1,090 บาทเท่านั้น

    Mi Band 6

    สเปค

    • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.56 นิ้ว ความละเอียด 152×486 พิกเซล
    • แบตเตอรี่ : 125 mAh
    • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
    • เซ็นเซอร์ :
      • Heart Rate
      • SpO2
      • NFC
      • 3-axis Accelerometer Barometer
      • 3-axis Proximity
    • ฟีเจอร์ : กันน้ำ 5ATM (50 เมตร)
    • สี : Black, Orange, Yellow, Olive, Ivory และ Blue (สีของสาย)

    จุดเด่น

    • หน้าจอ AMOLED ใหญ่เต็มตา แถมเปลี่ยนดีไซน์หน้าจอได้ถึง 60 แบบ 
    • มีฟังก์ชั่นการวัดค่าอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) แล้ว
    • วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ (คลาดเคลื่อนไม่เกิน 10)
    • ตรวจจับความเครียดและวัดรอบประจำเดือนได้
    • ฟังก์ชั่นการออกกำลังกายมากถึง 30 ประเภท แถมยังสามารถตรวจจับการออกกำลังกาย 6 ประเภทโดยอัตโนมัติ
    • ตรวจวัดคุณภาพของการนอนหลับและการหายใจ
    • แบตเตอรี่ยาวนาน 14 วัน
    • กันน้ำได้ถึง 5ATM

    จุดสังเกต

    • เมนูเป็นภาษาอังกฤษ (ในอนาคตอาจมีอัพเดตเพิ่ม)

    ดีไซน์

    สำหรับดีไซน์ภายนอกนั้นหากมองผ่าน ๆ จะแยกได้ยากมาก ๆ หากไม่เปิดจอขึ้นมาให้เห็น อาจเข้าใจผิดเป็น Mi Band 5 ได้เลย

    ในเรื่องของหน้าจอคราวนี้นั้นยังใช้เป็นหน้าจอแบบ AMOLED เช่นเดิม แต่มีการเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลให้มีขนาดที่ยาวขึ้นจนเต็มพื้นที่ (Mi Band 5 ส่วนล่างจะเป็นปุ่ม Home) ทำให้มีหน้าจอที่ใหญ่ถึง 1.56 นิ้วเลยทีเดียว

    ที่ด้านหลังนั้นก็มีความแตกต่างจาก Mi Band 5 ด้วยเช่นกัน เนื่องจากการเพิ่มมาของฟังก์ชั่นวัดค่าอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ทำให้เซ็นเซอร์ด้านหลังมีการวางเรียงตัวที่แตกต่างไปจากเดิม

    ตัวสายนั้นเป็นสายซิลิโคนแบบเดียวกับ Mi Band 5 ทำให้สามารถใช้สายร่วมกันได้ แถมยังมีสีสันให้เลือกมากถึง 6 สี ได้แก่ Black, Orange, Yellow, Olive, Ivory และ Blue

    ส่วนในกล่องนั้นจะมีสายชาร์จ (ที่ใช้ร่วมกับ Mi Band 5 ได้) และหนังสือคู่มือเพียงแค่นี้เท่านั้น


    การใช้งาน

    ในเรื่องการใช้งานนั้นก่อนที่จะใช้งานได้มีอยู่ 2 สิ่งที่จำเป็นต้องทำก็คือการเชื่อมต่อ Bluetooth และการเชื่อม Mi Band 6 เข้ากับแอพ Mi Fit โดยการเชื่อมต่อ Bluetooth จะเป็นการเชื่อมต่อแบบปกติ ส่วนการเชื่อมต่อกับแอพ Mi Fit นั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้เลย

    1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Mi Fit จาก Android หรือ iOS
    2. ลงทะเบียนและล็อกอินเข้าสู่ระบบของ Mi Fit พร้อมเปิดบลูทูธของสมาร์ทโฟนเอาไว้
    3. ไปที่แท็บ “ โปรไฟล์ ” เลือก “ เพิ่มอุปกรณ์ ” และเลือก “ แบนด์ ”
    4. จากนั้นระบบจะทำการค้นหา Mi Band 6 อัตโนมัติ เมื่อค้นหาแล้ว ให้เรากดยืนยันที่ตัว Mi Band
    5. เชื่อมต่อเสร็จสิ้นแล้ว ใช้งานได้เลย

    หลังจากเชื่อมต่อเสร็จแล้วเราสามารถตั้งค่าต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่มีลวดลายต่าง ๆ ให้เลือกมากถึง 60 แบบ, การแจ้งเตื่อนต่าง ๆ, การติดตามสุขภาพ รวมถึงการตั้งค่าทั่ว ๆ ไป (บางอย่างต้องไปตั้งค่าในแบนด์เท่านั้น อย่างเช่นความสว่างและระยะเวลาหมดเวลาหน้าจอ)

    ที่หน้าแรกของแอพ Mi Fit จะมีการแสดงค่าต่าง ๆ โดยสรุปทั้งค่า PAI, ระดับความเคลียด, ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด, การติดตามการนอนหลับ รวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจด้วย นอกจากนี้ยังแสดงระยะการเดิน / วิ่ง / ปั่นจักรยาน ออกมาเป็นหน่วย กิโลเมตรอีกด้วย (ใช้งานร่วมกับ GPS ของเครื่อง)

    หน้าที่สองของตัวแอพจะเป็นหน้าที่เอาไว้แชร์การออกกำลังกายหรือการนอนกับเพื่อน ๆ หรือครอบครัวได้

    สำหรับฟังก์ชั่นที่นอกเหนือจากฟังก์ชั่นหลัก ๆ แล้วตัว Mi Band ยังสามารถใช้เป็นปุ่มชัดเตอร์กล้อง หรือใช้ควบคุมเพลงได้อีกด้วย

    เวลาชาร์จ Mi Band นั้นหลังจากที่เอาแถบแม่เหล็กไปติดที่ด้านหลังแล้วหน้าจอจะเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นหน้าจอที่จะแสดงอยู่แค่ 2 อย่างคือเวลาและปริมาณแบตเตอรี่เท่านั้น (ตัวอย่างโต)

    ในเรื่องของข้อความต่าง ๆ ที่เป็นภาษาไทยนั้นก็เรียกได้ว่าปกติ ไม่มีปัญหาเรื่องตัวอักษรเลย แต่ด้วยหน้าจอที่ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ทำให้อาจจะดูยากนิดหน่อย


    สรุปจุดที่แตกต่างจาก Mi Band 5

    หน้าจอแสดงผล : ใน Mi Band 6 นี้จะเป็นหน้าจอแบบเต็มตัว ซึ่งต่างจาก Mi Band 5 ที่ไม่ถึงกับเต็มตัว เนื่องจากพื้นที่ด้านล่างส่วนหนึ่งกลายเป็นปุ่ม Home นั่นเอง

    เซ็นเซอร์ SpO2 : ใน Mi Band 6 นั้นมีเซ็นเซอร์วัดค่า SpO2 ในเลือด ซึ่งใน Mi band 5 ไม่มี อีกทั้งตัวเซ็นเซอร์นี้ยังทำให้ตำแหน่งการวางเซ็นเซอร์ด้านหลังเปลี่ยนไปด้วย

    ราคาที่ถูกลง : ใน Mi Band 6 นี้เปิดตัวมาด้วยราคาเพียง 1,090 บาทเท่านั้น ส่วน Mi band 5 นั้นมีราคา 1,190 บาท ซึ่งการที่ได้ฟีเจอร์เพิ่มในราคาที่ถูกลงเป็นอะไรที่ดีเอามาก ๆ

    Mi Band 6 Xiaomi
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ACHI-SP

    Related Posts

    เปิดตัว Marshall Middleton II ลำโพงบลูทูธพกพารุ่นใหม่ เบสแน่นขึ้นเสียงกระหึ่มรอบทิศ ฟังได้ต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง

    2 กรกฎาคม 2025

    เปิดตัว Xiaomi Mijia Pro AC แอร์ตั้งพื้นรุ่นใหม่ ประหยัดไฟลง 40% มาพร้อม HyperOS ในราคา 20,xxx

    2 กรกฎาคม 2025

    Xiaomi 16 Ultra อาจมาพร้อมเซ็นเซอร์กล้อง SmartSens รุ่นใหม่แทน Sony LYT-900

    1 กรกฎาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เปิดสเปค Infinix Hot 60i ได้ชิป Helio G81 Ultimate แบตอึดขึ้นและชาร์จไวกว่าเดิม พร้อมกล้อง 50MP

    3 กรกฎาคม 2025

    ลือ Apple สั่งหยุดการพัฒนา iPad จอพับได้ชั่วคราว

    3 กรกฎาคม 2025

    FaceTime ใน iOS 26 จะหยุดชั่วคราวทันที หากตรวจพบภาพโป๊เปลือยระหว่างการสนทนา

    3 กรกฎาคม 2025

    เปิดตัว HONOR MagicPad 3 แท็บเล็ตจอใหญ่ 13.3 นิ้ว 3.2K, 165Hz ชิป Snapdragon 8 Gen 3 แบตอึด 12,450mAh

    3 กรกฎาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X