ในที่สุด Infinix ก็ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ตโฟนระดับเรือธงของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ Infinix ZERO 8i ซึ่งเปิดตัวมาพร้อมสโลแกน ‘เร็วเต็มสปีด สุดขีดความมัน’ และวางขายในราคาที่จับต้องได้ง่ายสุด ๆ โดยตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีความหรูหราพร้อมให้ความรู้สึกถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วยการออกแบบกล้องหลังตัวเครื่องทรงเหลี่ยมเพชรที่มีกล้องหลังถึง 4 ตัว และกล้องหน้า 2 ตัว โดยจะมีความละเอียดสูงสุดของกล้องหลังถึง 48 MP พร้อมแบตเตอรี่ 4,500 mAh และเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่กำลังไฟถึง 33W ทำให้ Infinix ZERO 8i กลายเป็นสมาร์ตโฟนที่แรงที่สุดในงบไม่เกิน 7,000 บาทไปแล้ว
สเปค Infinix ZERO 8i
- หน้าจอ : IPS-LCD ขนาด 6.85 นิ้ว ความละเอียด 2460 x 1080 พิกเซล (Full HD+) มี Refresh Rate 90Hz และ Touch-sampling Rate 180Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Helio G90T
- แรม : 8GB
- หน่วยความจำ : 128GB
- กล้องหลัง :
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
- กล้องมุมกว้างพิเศษ (Ultrawide) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- กล้องชัด-ลึก (Depth) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้อง AI
- กล้องหน้า :
- กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องมุมกว้างพิเศษ (Ultrawide) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ : 4,500 mAh รองรับ Super Charge 33W
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10 + XOS7.0
- การเชื่อมต่อ : USB Type-C, Bluetooth 5.0, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, A-GPS
- ระบบรักษาความปลอดภัย : ระบบสแกนลายนิ้วมือ, ระบบจดจำใบหน้า
- ขนาด : 168.74 x 76.08 x 9.07 มม.
- น้ำหนัก : 205 กรัม
- สี : Silver Diamond, Black Diamond
- ราคา : 6,590 บาท
- หน้าสเปคเต็ม
จุดเด่น
- ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G90T ที่เป็นชิปเน้นเล่นเกม พร้อม Infinix Dar-link AI Optimizer ช่วยให้เล่นเกมได้ดีขึ้น ลื่นขึ้น กราฟฟิกสวยขึ้นและโหลดข้อมูลได้ไวยิ่งขึ้น
- หน้าจอขนาด Full HD + 6.85 นิ้ว ที่มี Refresh Rate ถึง 90Hz และมี Touch-sampling Rate สูงถึง 180Hz
- ให้แรมมาถึง 8GB เยอะสุดในเรทราคาเดียวกัน
- ระบบชาร์จเร็วขนาด 33W ที่ปกติจะใช้กันมือถือที่ราคาสูงกว่านี้
- ถ่ายภาพในที่มืดได้สว่างจนเหมือนไม่ใช่ที่มืดเลย
- ราคาแค่ 6,590 บาทเท่านั้น
ข้อสังเกตุ
- เครื่องค่อนข้างหนา
- ในหน้า App Drawer มีโฆษณาอยู่ด้านบน
- ภาพถ่ายบางสถานการณ์จะเกิดแสงโอเวอร์ (ถ่ายในโหมด AI CAM)
- ไม่มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนที่ด้านบนตัวเครื่อง
ประสิทธิภาพและการเล่นเกม
ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานนั้นถือเป็นจุดเด่นของ ZERO 8i นี้เลยก็ว่าได้ ด้วยหน้าจอที่มี Refresh Rate สูงถึง 90Hz ช่วยให้การไถหน้าจอมีความสมูทขึ้น และด้วยการที่มี Touch-sampling Rate สูงถึง 180Hz ยังช่วยให้การตอบสนองต่อการสัมผัสทำได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ด้วยชิปประมวลผล MediaTek Helio G90T ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีเทคโนโลยี HyperEngine มาช่วยทำให้เป็นมือถือที่สามารถเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลา และด้วยระบบจัดการพลังงานขั้นเทพยังช่วยให้สามารถเล่นเกมได้อย่างยาวนานอีกด้วย แถมยังมี Infinix Dar-link 1.0 ซึ่งเป็น AI Optimizer ที่จะช่วยพัฒนาระบบการแสดงผลกราฟฟิก, ความไวของหน้าจอสัมผัส และเพิ่มประสิทธิภาพการโหลดข้อมูลให้ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่ง Zero 8i เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Infinix ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI อัจฉริยะที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเล่นเกมได้สนุกและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจากการที่ได้ทดลองเล่นมาทั้ง PUBG Mobile, Call of Duty Mobile, RoV, LOL Wild Rift, รวมถึงเกมกินสเปคอย่าง Genshin Impact แล้ว ต้องยอมรับเลยว่าสามารถเล่นได้ลื่นสุด ๆ fps ไม่มีการตกเลย ซึ่งที่จะเห็นได้ชัด ๆ เลยก็คือ RoV และ LOL Wild Rift ที่ fps ไม่ต่ำว่า 60 fps เลย แถมถึงจะกดสกิลเร็วแค่ไหนเครื่องก็สามารถตอบสนองได้ทันทั้งหมด เรียกได้ว่าใครที่ต้องการซื้อมือถือราคาไม่แพงมากมาเล่นเกมแล้ว Infinix ZERO 8i ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแแล้ว
หลังจากเอาไปเล่นเกมหนัก ๆ มาแน่นอนว่าสิ่งที่ต้องทำก็คือการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh นั้นคงต้องใช้เวลานานพอควรกว่าจะเต็ม แต่ทว่าความกังวลนั้นจะไม่เกิดขึ้นเพราะ ZERO 8i นี้ มาพร้อมระบบชาร์จเร็วแบบ Super Charge ขนาด 33W ที่ช่วยให้สามารถชาร์จจาก 0% – 70% ได้ภายในเวลาสั้น ๆ แค่ 30 นาทีเท่านั้น ทำให้ไม่จำเป็นต้องรอนานก็สามารถเอาไปเล่นต่อได้ทันที
สิ่งที่น่าสนใจคือ ZERO 8i นี้มาพร้อมระบบเสียงแบบ DTS ซึ่งเราสามารถตั้งค่าระบบเสียงให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้หรือจะเปิดโหมด Smart ให้ระบบเป็นผู้จัดการเสียงแทนให้ก็ได้ นอกจากนี้เรายังสามารถปรับแต่ง Equalizer ของเสียงได้ด้วยตนเองอีกด้วย และ Infinix Dar-link 1.0 ซึ่งเป็น AI ที่จะช่วยพัฒนาระบบการแสดงผลกราฟฟิก, ความไวของหน้าจอสัมผัส และเพิ่มประสิทธิภาพการโหลดข้อมูลให้ดียิ่งขึ้นด้วย
การออกแบบ
มาที่การออกแบบตัวเครื่องกันบ้าง โดย Infinix ZERO 8i นั้นถูกออกแบบมาให้มีความหรูหราและทันสมัย โดยจุดเด่นของเครื่องจะอยู่ที่โมดูลกล้องทรงเหลี่ยมเพชร โดยตัวเครื่องจะมีทั้งหมด 2 สีคือ Silver Diamond และ Black Diamond แค่ 2 จุดนี้ก็ทำให้ตัวเครื่องมีความโดดเด่นเหนือใคร ๆ แล้ว แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ถึง 6.85 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ Full HD+ เลยทีเดียว แถมยังมี Refresh Rate ที่สูง และมีอัตราการตอนสนองต่อการสัมผัสที่ไวกว่ารุ่นอื่น ๆ อีกด้วย
สำหรับปุ่มรอบ ๆ ตัวเครื่องนั้นทั้งหมดจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวาของตัวเครื่องเพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม Power ที่ทำหน้าที่เป็นที่สแกนลายนิ้วมืออีกด้วย ส่วนด้านซ้ายที่ไม่มีปุ่มจะมีช่องใส่ซิมอยู่ ซึ่งถาดซิมของเครื่องนี้จะเป็นแบบ Triple-slot หรือก็คือสามารถใส่ 2 ซิมและ MicroSD Card ได้พร้อม ๆ กันนั่นเอง
ที่ด้านล่างของตัวเครื่องนั้นจะมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ที่หายไปจากมือถือระดับบน ๆ แล้ว ช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา พอร์ต USB Type-C และลำโพง 1 ตัว ซึ่งแม้จะมีลำโพงเพียงแค่ตัวเดียว แต่เสียงที่ได้ก็นับว่าดังเอามาก ๆ เลยทีเดียว ไม่จำเป็นต้องไปต่อลำโพงแยกก็ฟังชัด
ที่ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นจะเห็นโมดูลกล้องทรงเหลี่ยมเพชรอย่างเด่นชัด ซึ่งภายในจะมีกล้องอยู่ถึง 4 เลนส์และไฟแฟลช LED 1 ดวง และเมื่อมองถัดลงมาจะมีโลโก้ Infinix อยู่อย่างชัดเจนอีกด้วย
การถ่ายภาพ
ในด้านการถ่ายภาพนั้น ZERO 8i มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 เลนส์ โดยจะเป็นกล้องหลักที่มีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล, กล้องมุมกว้างที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องวัดระยะชัด-ลึกที่มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องสำหรับ AI ซึ่งตัวกล้องหลังนี้สามารถซูมแบบ Optical ได้สูงสุด 2 เท่า และซูมแบบ Digital ได้สูงสุด 10 เท่าด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีโหมดให้เลือกใช้งานหลากหลายมาก ๆ แต่ที่เด่นสุด ๆ ก็คือโหมด Super Night ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพกลางคืนได้เหมือนเป็นตอนกลางวันเลยทีเดียว
สำหรับกล้องหน้าที่เอาไว้ใช้เซลฟี่นั้นจะมีกล้องให้ใช้ด้วยกันทั้งหมด 2 เลนส์คือกล้องหลักที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้องสำหรับถ่ายมุมกว้างที่มีความละเอียดอยุ่ที่ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งที่น่าสนใจคือกล้องหน้านี้เองก็สามารถใช้โหมด Super Night ได้ด้วย ทำให้สามารถเซลฟี่ได้ในทุกช่วงเวลาเลยทีเดียว
ซึ่งจากที่ได้ทดลองถ่ายภาพมาต้องยอมรับเลยว่าการเก็บรายละเอียดของภาพทำได้ดีทีเดียว ทั้งเรื่องสีและการละลายพื้นหลังทำได้ดีกว่ามือถือในเรทเดียวกันหลาย ๆ รุ่นเลย แถมการถ่ายภาพกลางคืนนี้โดยส่วนตัวมองว่าเหนือกว่ามือถือรุ่นอื่น ๆ หลายขุมเลย แต่สิ่งที่บังเอิญไปเจอมาและค่อนข้างเสียดายเล็กน้อยนั่นก็คือการเซลฟี่ในที่ ๆ มีแสงสว่างด้วยโหมดออโต้ (AI CAM) แสงของภาพเซลฟี่นั้นออกโอเวอร์อยู่พอสมควร ทำให้ภาพดูขาวเกินควรจนดูไม่เป็นธรรมชาติ จนถึงขั้นที่หากจะเอาไปโพสลงโซเชียลคงต้องใช้เวลาแต่รูปในระดับหนึ่งเลย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ระบบปฏิบัติการ
Infinix ZERO 8i นั้นมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย XOS7.0 ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ลื่นเอาเรื่องอยู่มากทีเดียว แถมยังมาพร้อมฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้ง Cleaner ที่ช่วยเคลียพื้นที่ให้และอีกหลาย ๆ อย่าง แต่ที่ผมเห็นแล้วรู้สึกแปลก ๆ อยู่ก็คือในหน้า App Drawer นั้นจะมีโฆษณาอยู่ที่ด้านบนด้วย (เป็นไปได้ว่าเพราะมีจุดนี้ทำให้ Infinix สามารถอัดสเปคแรง ๆ ลงมาในมือถือราคาไม่แพงได้)
สรุป
หลังจากที่ได้เอาไปใช้งานมาสัปดาห์กว่า ๆ นั้นต้องบอกเลยว่าเป็น Infinix ZERO 8i เป็นมือถือที่น่าโดนสุด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนที่ชอบใช้งานมือถือเพื่อเล่นเกม เพราะมือถือเครื่องนี้จะเรียกได้ว่าครบครับที่สุดก็ได้ เนื่องจากสามารถตอบสนองได้ทุกเกมอย่างลื่นไหล โดนใช้งบที่ไม่สูงมากนัก ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถซื้อได้ง่าย แถมด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ยังทำให้เป็นจุดสังเกตเวลาเผลอทำหายได้ง่าย ๆ อีกด้วย
ตารางเปรียบเทียบกับมือถือในเรทราคาและสเปคใกล้ ๆ กัน
Brand |
Infinix |
Redmi |
realme |
Model |
ZERO8i |
Note 9s |
Realme 7i |
RRP |
6,590 |
6,999 |
7,499 |
Network |
2G/3G/4G |
2G/3G/4G |
2G/3G/4G |
OS |
10 |
10 |
10 |
CPU |
Helio G90T |
SD720G |
SD662 |
RAM |
8 |
6 |
8 |
ROM |
128 |
128 |
128 |
Screen Size |
6.85 FHD+ 90Hz |
6.67 FHD+ (Hole) |
6.5 HD+ Hole (90Hz) |
Rear camera |
48+8+2MP+AI |
48+8+5+2MP |
64+8+2+2MP |
Front Camera |
16+8MP |
16MP |
16MP |
Battery |
4500 mAh (33W) |
5020 mAh (18W) |
5000 mAh (18W) |
จากตารางเมื่อเอาไปเทียบกับ Remi Note 9s ที่มีราคาใกล้เคียงกันแล้ว สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ ZERO 8i นั้นมีหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก แถมยังได้หน้าจอ 90Hz อีกด้วย ในขณะที่ Redmi Note 9s เป็นหน้าจอแบบ 60Hz เท่านั้น อีกทั้งชิปประมวลผล MediaTek Helio G90T ใน ZERO 8i ยังมีความสามารถในการเล่นเกมที่สูงกว่า Snapdragon 720G ของ Redmi Note 9s เนื่องมาจากชิปกราฟฟิกนั้นมีความเร็วที่สูงกว่านั้นเอง (GPU frequency Helio G90T : 800MHz | Snapdragon 720G : 750MHz)
ตามไป Shop ได้ที่ Shopee link: https://bit.ly/2J85TM3
อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษบน Shopee Flash Sale Day วันที่ 6,8 และ 10 ธันวาคมนี้เท่านั้น พร้อมใช้ร่วมกับคูปองส่วนลดอีก 10% เหลือราคาเพียง 5,338 บาท !
สำหรับใครที่อยาดได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ของ Infinix Thailand ได้เลยนะครับ