หลังจากที่ Infinix ได้ทำการเปิดตัว Infinix HOT 10 Play ไปในวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ได้มาอยู่ในมือทีมงาน Specphone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัว HOT 10 Play นั้นมาพร้อมสโลแกน “เล่นได้ลื่น สนุกได้นาน” ทำให้มีการใส่สเปคมาให้แบบจัดเต็มในราคาที่คุ้มค่า ทั้งหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.82 นิ้ว ชิปประมวลผล Helio G35 และแบตเตอรี่ที่เยอะถึง 6,000 mAh ทำให้มือถือที่ราคาแค่ 3,599 บาทสามารถเล่นเกมได้แถมยังเล่นได้นานด้วยก่อนที่จะต้องไปชาร์จใหม่
สเปค Infinix HOT 10 Play
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.82 นิ้ว, ความละเอียด HD+ (1640 x 720 พิกเซล, 263 ppi), อัตราส่วน 20.5:9
- ชิปประมวลผล :
- MediaTek Helio G25 (2+32GB)
- MediaTek Helio G35 (4+64GB)
- แรม : 2GB / 4GB
- หน่วยความจำ : 32GB / 64GB (eMMC 5.1)
- กล้องหลัง :
- กล้องหลักความละเอียด 13MP f/1.8
- กล้อง AI
- กล้องหน้า : ความละเอียด 8MP f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10 ครอบทับด้วย XOS 7
- แบตเตอรี่ : 6,000 mAh
- การเชื่อมต่อ :
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
- Bluetooth 5.0
- GPS
- microUSB 2.0
- USB OTG
- ช่องหูฟัง 3.5 มม.
- เซ็นเซอร์ :
- Fingerprint (ด้านหลังเครื่อง)
- Accelerometer
- Proximity
- Compass
- ขนาด : 171.8 x 78 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก : 207 กรัม
- สี : Obsidian Black, Morandi Green, Aegean Blue และ 7 Degree Purple
- ราคา :
- 2,899 บาท (2+32GB)
- 3,599 บาท (4+64GB)
- หน้าสเปคเต็ม (2+32GB)
- หน้าสเปคเต็ม (4+64GB)
ข้อดี
- หน้าจอที่ใหญ่มาก ๆ ถึง 6.82 นิ้ว
- Helio G35 ใช้เล่นเกมได้หลากหลายมาก
- AI Beauty ในกล้องเซลฟี่แต่งหน้าได้เนียนมาก ๆ
- แบตเตอรี่เยอะมาก ๆ ถึง 6,000 mAh
ข้อสังเกต
- กล้องหลังที่ใช้ถ่ายได้จริง ๆ มีตัวเดียว
- พอร์ตชาร์จยังเป็ฯ microUSB อยู่
- ไม่มีชาร์จเร็ว ซึ่งด้วยแบตเตอรี่ขนาด 6,000 mAh ทำให้ต้องใช้เวลาชาร์จนานมากถ้าเผลอใช้จนหมด
ดีไซน์ Infinix HOT 10 Play
ในเรื่องของการดีไซน์นั้นจุดที่เด่นที่สุดของ HOT 10 Play เครื่องนี้ก็คือหน้าจอนั่นเอง โดยตัวหน้าจอนั้นเป็นหน้าจอที่มีความใหญ่ถึง 6.82 นิ้ว ใช้พาแนลเป็น IPS-LCD ที่มีความละเีอยดระดับ HD+ ด้วยอัตราส่วนหน้าจอที่มีมากถึง 20.5:9 ทำให้ได้อารมณ์คล้านการดูหนัง IMAX เลย โดยในหลุมรูปหยดน้ำนั้นจะมีกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่อยู่ และถัดขึ้นไปข้างบนจะมีลำโพงที่ใช้สำหรับสนทนาและใช้เป็นลำโพงปกติอยู่
ที่ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมดีไซน์ที่สะดุดตาใช้ได้ ด้วยเทคนิคการไล่ระดับสีเกิดเป็นเอฟเฟกต์ลายเส้นทำมุมฉากที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามมุมที่มอง ทำให้มีความโดดเด่นอยู่พอสมควร ส่วนกล้องหลังนั้นวางอยู่ในโมดูลที่มุมซ้ายของเครื่องที่ภายในประกอบไปด้วยกล้องหลักและกล้อง AI พร้อมด้วยดวงไฟแฟลชแบบ LED ถัดลงมาเล้กน้อยจะเป็นที่สแกนลายนิ้วมือ
บริเวณรอบตัวเครื่องนั้นที่ด้านบนจะไม่มีอะไรอยู่เลย ส่วนทางฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิด-ปิดอยู่ ส่วนทางฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมแบบ Triple-slot ที่สามารถใส่ซิมได้ 2 ซิม พร้อมทั้งใส่ microSD Card ในเวลาเดียวกันได้ ส่วนที่ด้านล่างของเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม., พอร์ต microUSB และไมโครโฟนสำหรับสนทนาอยู่ (ลำโพงไปรวมกับลำโพงที่ใช้สนทนา)
ระบบปฏิบัติการและการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการของ Infinix HOT 10 Play นั้นใช้เป็นระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย XOS 7 ซึ่งหน้าตาจะเป็นแบบพื้นฐานของ Infinix ที่จะมีลักษณะเรียบ ๆ พร้อมด้วยโฆษณาในหน้ารวมแอพ (น่าจะใส่มาแลกกับราคาเครื่องที่ถูกลงมาก) ซึ่งตัว XOS 7 นี้มีฟีเจอร์ที่สามารถจัดการกับแรมและหน่วยความจำได้ด้วยหากพื้นที่ใช้งานเหลือน้อย
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ HOT 10 Play มีนั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 2 รูปแบบคือสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้า โดยลายนิ้วมือสามารถเก็บได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ส่วนใบหน้านั้นจะเก็บได้แค่ใบหน้าเดียวเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย
ในมือถือ Infinix นั้นจะมาพร้อมระบบเสียงแบบ DTS ที่เราสามารถเข้าไปปรับตั้งค่าเองได้ตามที่ต้องการ หรือจะใช้ Preset ที่ระบบทำไว้ให้แล้วก็ได้ โดย Preset ที่ระบบทำไว้จะมีแบบอัตโนมัติ, สำหรับฟังเพลง, สำหรับดูหนัง และสำหรับเล่นเกม ซึ่งหากไม่พอใจก็สามารถปรับ Equalizer เองได้เช่นกัน
ความน่าสนใจอย่างนึงของมือถือ Infinix ก็คือแอพที่ชื่อ Boomplay ที่เป็นแอพสำหรับฟังเพลงคล้าย ๆ JOOX ที่จะมีเพลงให้เลือกฟังมากมาย ถึงเพลงทั้งหมดจะเป็นของต่างชาติก็ตาม
อย่างหนึ่งที่มือถือสมัยนี้หาไม่ได้แล้วก็คือวิทยุ FM ซึ่งในมือถือ Infinix นั้นยังมีอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีเสาร์สัญญาณในตัว ต้องต่อหูฟังเพื่อใช้ทำหน้าที่แทนเสารับสัญญาณ ซึ่งจากที่ลองใช้งานดู บางคลื่นก็เสียงชัดแจ๋วเลย แต่บางคลื่นก็ฟังไม่ได้เลย อย่างเช่นในรูปจะฟัง FM91 Trafficpro ก็ฟังไม้ได้ JS100 เองก้ฟังไม่ได้ ทำให้ต้องมานั่งดูกันอีกทีว่าคลื่นไหนที่ฟังได้บ้าง ถือว่าลำบากอยู่พอตัว
ในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นด้วยการที่มีแบตเตอรี่ถึง 6,000 mAh หากเป็นการใช้งานทั่วไปสามารถอยู่ได้ถึง 2 วันสบาย ๆ และถ้าเอามาใช้เล่นเกมด้วยก็สามารถอยู่จนหมดวันได้เลย แต่ปัญหาใหญ่ของเครื่องนี้คือแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่มาก แต่ไม่มีระบบชาร์จเร็ว ซึ่งถ้าเผลอใช้จนหมดทำให้ต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงกว่าแบตเตอรี่จะเต็ม ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ชาร์จตอนกลางคืนระหว่างนอนจะดีที่สุด และไม่ควรใช้จนเกือบหมดด้วย เนื่องจากหากต้องใช้เวลาฉุกเฉินขึ้นมาจะมีปัญหาเอาได้
การเล่นเกมบน Infinix HOT 10 Play
ในเรื่องการเล่นเกมบน Infinix HOT 10 Play นั้น ด้วยการที่ใช้ชิปเล่นเกมราคาประหยัดอย่าง Helio G35 ทำให้สามารถเล่นเกมได้หลากหลาย แถมด้วยตัวเครื่องยังมี Game Mode ที่ช่วยจัดการการแจ้งเตือนให้ แถมยังช่วยเรื่องการจัดการสัญญาณให้คงที่อีกด้วย
สำหรับเกมที่ใช้ทดสอบคือ RoV และ PUBG Mobile ซึ่งจากที่ได้ลองเล่นมานั้นในเกม RoV หากเราอยู่เดี่ยว ๆ ไม่ได้ไปสู้กับใครจะได้ fps อยู่ระหว่าง 56 – 59 แต่ถ้าเป็นช่วงตะลุมบอนหนัก ๆ fps จะร่วงลงเหลือแค่ 33fps เท่านั้น แต่แค่นี้ก็ยังลื่นพอที่จะเล่นได้สบาย ๆ แล้ว ส่วน PUBG Mobile นั้นสามารถปรับค่าได้แค่ Smooth เฟรมเรท Medium เท่านั้น ซึ่งจากการที่ได้ลองเล่นดูแล้วจะมีจังหวะกระตุกเบา ๆ ที่บางครั้งอาจส่งผลต่อการเล่นของเราได้ในระดับหนึ่ง
กล้องถ่ายภาพของ Infinix HOT 10 Play
ในเรื่องการถ่ายภาพนั้น HOT 10 Play มาพร้อมกล้องหลังคู่ AI 13MP ส่ใวนกล้องหน้าก็จะเป็นกล้องเซลฟี่ความละเอียด 8MP ซึ่งตัวระบบ AI ที่ Infinix ทำขึ้นมานั้นค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ทั้งรายละเอียดและความคมชัดนั้นเรียกว่าทำได้ดีจนไม่นึกว่าจะเป็นมือถือราคาไม่ถึง 4,000 บาทเลย ส่วนกล้องเซลฟี่นั้นเรียกได้ว่าทำเอาหน้านี่เนียนแบบไร้ริ้วรอยเลยทีเดียว แถมยังมีโหมดที่ถ่ายแบบซูมเข้าไปที่หน้าได้อีกด้วย ช่วยให้สามารถเซลฟี่ได้โดยที่ไม่ต้องไปกังวลเรื่องฉากด้านหลังเลย
ตัวอย่างภาพ
สรุปการรีวิว Infinix HOT 10 Play
สรุปการรีวิว Infinix HOT 10 Play จากที่ได้ลองใช้มานั้นถือว่าเป็ฯมือถือราคาถูกที่น่าสนใจตัวหนึ่งเลย ทั้งหน้าจอที่ใหญ่มาก ๆ ชิปที่ใช้เล่นเกมได้ แถมแบตเตอรี่ยังเยอะอีก ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่ที่ต้องใช้เวลาชาร์จนานมาก ๆ ก็ตาม แต่ก็ยังนับว่าเป็นหนึ่งในมือถือที่น่าซื้อสำหรับคนที่ต้องการมือถือจอใหญ่ ๆ มาไว้ใช้งานอย่างยิ่ง และด้วยการที่ขายผ่าน Lazada ทำให้สามารถหาจังหวะซื้อเครื่องในราคาที่ถูกกว่าเดิมได้อีกด้วย อีกทั้งหากใครที่ไม่ได้อยากเอามาเล่นเกม แต่อยากเอาไว้ใช้ดูหนังหรือละคร แต่งบน้อยมาก ๆ แถมรุ่น HOT 10 Play ก็ยังมีตัวเลือกเป็นรุ่น 2+32GB ที่มีราคาแค่ 2,899 บาทให้เลือกอีกด้วยนะ