HUAWEI Y5 Prime 2018 เป็นอีกหนึ่งน้อง (เกือบ) เล็กใน Y Series รุ่นปี 2018 โดยก่อนหน้านี้ HUAWEI ได้วางจำหน่าย HUAWEI Y9 2018 และ HUAWEI Y7 Pro 2018 ซึ่งก็มีกระแสตอบรับดีมาก ด้วยความที่ Y Series ของ HUAWEI แม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่ก็ให้ฟีเจอร์ รวมถึงสเปคที่ใช้งานได้เป็นอย่างดี
สเปค HUAWEI Y5 Prime 2018
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 8.0 [Android 8.1]
- หน้าจอขนาด 5.45 นิ้ว FullView อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด HD+
- ชิปประมวลผล Mediatek MT6739 Quad-c0re ความเร็ว 1.5GHz
- RAM 2 GB
- ความจุ 16 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256 GB
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม Selfie Toning Flash
- แบตเตอรี่ 3,020 มิลลิแอมป์
- ขนาดตัวเครื่อง 5 x 70.9 x 8.3 มม
- น้ำหนัก 142 กรัม
- สีที่วางจำหน่าย ทอง , ดำ ,น้ำเงิน
- ราคาเปิดตัว 3,990 บาท
Design/ การออกแบบ
สำหรับ HUAWEI Y5 Prime 2018 จัดเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น มีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอแบบอัตราส่วน 18:9 ขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียด HD+ ทำให้ขนาดตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่เท่ากับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.5 นิ้ว แต่ขนาดตัวเครื่องนั้นมีขนาดพอ ๆ กับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5 นิ้วแบบอัตราส่วน 16:9 การจับถือ การใช้งานจึงสะดวกและคล่องตัว ในขณะเดียวกันก็มีพื้นที่แสดงคอนเท้นต่าง ๆ มากกว่า โดยเฉพาะการรับชมภาพยนตร์ หน้าจอ 18:9 จะมีขอบดำบริเวณด้านบนและด้านล่างน้อยกว่าหน้าจอแบบเก่า
กระจกหน้าจอของ HUAWEI Y5 Prime 2018 เป็นกระจกหน้าจอแบบปกติ ไม่ได้เป็นแบบ 2.5D ทำให้สามารถติดฟิล์มกันรอย หรือกระจกกันรอยได้เต็มหน้าจอ ไม่มีพื้นที่เหลือบริเวณขอบเหมือนกระจกโค้ง 2.5D
พื้นที่บริเวณด้านบนหน้าจอ นอกจากกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ก็จะเป็นตำแหน่งของลำโพงสำหรับสนทนา และลำโพงหลักของตัวเครื่อง เวลาที่เปิดเพลง, เล่นเกม หรือรับชมภาพยนตร์ เสียงก็จะออกจากลำโพงด้านหน้าเพียงที่เดียว ข้อดีของการออกแบบลักษณะนี้ ทำให้เวลาที่เล่นเกม ไม่เกิดปัญหามือบังช่องลำโพง รวมถึงการวางตัวเครื่องไว้บนโต๊ะ เสียงจากลำโพงก็ยังออกตามปกติ
วัสดุจะแยกออกเป็นสองส่วน บริเวณเฟรมของตัวเครื่องจะใช้วัสดุเป็นโลหะ ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน ส่วนฝาหลังเป็นพลาสติกที่ออกแบบมาให้มีสัมผัสและหน้าตาคล้ายโลหะ โดยรวมในส่วนของวัสดุตัวเครื่องกับราคา 3,990 บาท ถือว่าทำออกมาได้ดี เพราะสมาร์ทโฟนระดับราคาเดียวกัน บางรุ่นยังใช้วัสดุเป็นพลาสติกล้วนอยู่เลย ด้านงานประกอบก็ทำได้ตามมาตรฐานของ HUAWEI คือแข็งแรง แน่นหนา ไม่มียวบยาบ
ด้านหลังมาพร้อมกับดีไซน์แบบเรียบ ๆ รายละเอียดต่าง ๆ ตรงบริเวณฝาหลังมีเพียงกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กับแฟลช LED และโลโก้ HUAWEI เท่านั้น ตัวฝาหลังออกแบบมาให้มีความโค้งบริเวณขอบเล็กน้อย ทำให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวก เข้ากับมือได้เป็นอย่างดี
Software/ ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ EMUI เวอร์ชัน 8.0.0 ที่มีพื้นฐานบน Android 8.1 Oreo หน้าตา UI เป็นแบบเดียวกับสมาร์ทโฟน HUAWEI รุ่นอื่นที่ใช้ EMUI 8.0 ลักษณะการใช้งานจะเป็นหน้าจอหลักเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีการแยกหน้า App Drawer เหมือนกับ Pure Android เวลาดาวน์โหลดแอปพลิเคชันก็จะติดตั้งไว้ที่หน้าโฮม
อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจ คือการจับภาพหน้าจอ โดยปกติการจับภาพหน้าจอสมาร์ทโฟน Android จะใช้การกดปุ่ม Power + ปุ่มลดเสียงพร้อมกัน ซึ่งไม่สะดวกในบางสถานการณ์ แต่สามารถเปิดฟีเจอร์การจับภาพหน้าจอด้วยสามนิ้วได้
วิธีการเปิดตั้งค่าให้เข้าไปที่ ระบบ > การควบคุมแบบเคลื่อนไหว > การถ่ายภาพหน้าจอด้วยสามนิ้ว
เวลาต้องการจับภาพหน้าจอ เพียงแค่ใช้สามนิ้วรูดลงที่หน้าจอ ตัวเครื่องก็จะทำการบันทึกภาพ Screenshot ให้ทันที วิธีนี้สะดวกและรวดเร็วกว่าการจับภาพหน้าจอแบบปกติพอสมควรเลยล่ะครับ
Camera/ กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลังมีความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED จำนวน 1 ดวง สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับ Selfie Toning Flash หรือแฟลชที่สามารถปรับระดับความแรงของแสงได้ ไม่ใช่แค่ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น แต่ยังสามารถใช้ในการถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงปกติได้อีกด้วย
เมนูกล้องถ่ายภาพแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ หน้ากล้องถ่ายภาพ, โหมดกล้อง (ปัดไปทางซ้าย) และการตั้งค่ากล้อง (ปัดไปทางขวา)
โหมดกล้องถ่ายภาพหลัก ๆ ก็จะเป็นโหมด Auto และมีโหมด Beauty หรือโหมดหน้าสวย กับโหมด HDR ไว้ให้เลือกใช้ (มีเฉพาะกล้องหลัง)
ข้อสังเกตของกล้องเวลาถ่ายภาพอาจจะต้องให้เวลาในการโฟกัสสักหน่อย โดยเฉพาะในที่แสงน้อย ตอนถ่ายแนะนำให้กลั้นหายใจระหว่างกดชัตเตอร์ จะทำให้ภาพไม่สั่น ไม่เบลอ ส่วนการถ่ายภาพในที่แสงปกติ ส่วนตัวเมื่อเทียบกับราคา 3,990 บาท ก็ถือว่ารับได้ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
Performance/ ประสิทธิภาพ
ชิปประมวผล MediaTek MT6739 Quad core ความเร็ว 1.5 GHz, Ram 2 GB และความจุ 16 GB (รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256 GB) เป็นถาดซิมแบบ 3 Slot คือสามารถใส่ได้ทั้งซิม 1, ซิม 2 และ MicroSD Card ไม่ต้องแชร์ช่องใส่ซิม 2 เหมือนสมาร์ทโฟนที่ใช้ถาดซิมแบบ Hybrid Slot
สเปคสามารถใช้งานทั่วไป เช่น เล่นอินเทอร์เน็ต, โซเชียล (Facebook, LINE) หรือจะเล่นเกมเบา ๆ ที่ไม่ค่อยกินสเปคเท่าไหร่ เช่น Subway Surfers, Candy Crush ส่วนเกมยอดนิยมอย่าง ROV ผมก็ได้ทดสอบเช่นกัน ได้ผลตามนี้
- ROV การตั้งค่า: ปิด HD, พาติเคิล: ต่ำสุด, การแสดงผล: ต่ำสุด
ผลการทดสอบเมื่อเล่นเกม ROV จะทำเฟรมเรตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 24 – 25 fps แต่ถ้ามีการไฟท์ 5 – 5 เฟรมเรทอาจลงมาประมาณ 22 fps ได้ครับ
ด้านแบตเตอรี่ มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุถึง 3,020 mAh กับสเปคที่ใช้เป็น CPU รุ่นประหยัดพลังงาน หน้าจอความละเอียด HD+ ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน ผมทดสอบด้วยการใส่ซิม AIS 4G สลับกับ Wi-Fi ที่ทำงาน แบตเตอรี่จาก 100% เมื่อผ่านไปประมาณ 6 ชั่วโมง ลดเหลือ 71% (ถ่ายภาพไป 25 ภาพ,อัพเดตแอป Google Play และเล่น ROV 2 เกม) เมื่อตรวจสอบจากหน้าแบตเตอรี่ ระบุว่าสามารถใช้งานได้อีก 17 ชั่วโมงเลยทีเดียว
Overall
ภาพรวมของ HUAWEI Y5 Prime 2018 สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กจาก HUAWEI กับราคาค่าตัวเบา ๆ เพียง 3,990 บาท ส่วนตัวผมมองว่าทำออกมาได้ตามมาตรฐานของ HUAWEI และให้สเปคกับฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับราคาดังกล่าว โดยเฉพาะหน้าจอแบบ FullView อัตราส่วน 18:9 ทำให้แสดงคอนเท้นได้มากกว่า ทั้งการแชท, โซเชียล หรือแม้แต่การรับชมภาพยนตร์และการเล่นเกม
HUAWEI Y5 Prime 2018 มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีดำ (เครื่องรีวิว), สีทอง และสีน้ำเงิน ข้อสังเกตคือบริเวณด้านหน้าตัวเครื่อง หากเป็นตัวเครื่องสีดำกับสีน้ำเงิน ด้านหน้าจะเป็นสีดำ ส่วนตัวเครื่องสีทอง ด้านหน้าจะเป็นสีขาว สามารถหาซื้อได้ที่ HUAWEI Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของทาง HUAWEI ครับ