HUAWEI Watch GT 4 สมาร์ทวอทช์ระดับเรือธงรุ่นใหม่ของ HUAWEI ในซีรี่ส์ Watch GT คราวนี้มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่หรูหราและทันสมัย สร้างขึ้นมาสําหรับมืออาชีพต้องการใช้งานแบบเน้นประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และมีสไตล์ โดย Watch GT 4 จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 ขนาดคือ 41 มม. และ 46 มม. และที่ทางทีมงาน Specphone ได้มานั้นจะเป็นรุ่น 46 มม. นั่นเอง โดยหลังจากที่ได้เอาไปลองใช้งานมานั้นจะเป็นอย่างไรเชิญรับชมกันได้เลย
สเปคของ HUAWEI Watch GT 4
- ขนาดตัวเรือน :
- รุ่น 46 มม. : 46 มม. × 46 มม. × 10.9 มม.
- รุ่น 41 มม. : 41.3 มม. × 41.3 มม. × 9.8 มม.
- ขนาดสายรัดข้อมือ :
- รุ่น 46 มม. : 140-210 มม.
- รุ่น 41 มม. : 120-190 มม.
- น้ำหนัก :
- รุ่น 46 มม. : 48 กรัม (ไม่รวมสายรัด)
- รุ่น 41 มม. : 37 กรัม (ไม่รวมสายรัด)
- วัสดุ :
- ตัวเรือน : สแตนเลส
- สาย :
- สายรัดยางสีดํา
- สายสแตนเลสสตีลสีเทา
- สายรัดคอมโพสิตสีเขียว
- สายหนังสีน้ําตาล
- หน้าจอ : AMOLED ความละเอียด 466 × 466 พิกเซล
- รุ่น 46 มม. : ขนาด 1.43 นิ้ว 326 PPI
- รุ่น 41 มม. : ขนาด 1.32 นิ้ว 352 PPI
- ปุ่มกด : ปุ่มโฮม (Rotating Crown) และปุ่มด้านข้าง
- แบตเตอรี่ :
- รุ่น 46 มม. : 524 mAh
- รุ่น 41 มม. : 323 mAh
- อายุแบตเตอรี่ :
- รุ่น 46 มม. : สูงสุด 14 วัน
- รุ่น 41 มม. : สูงสุด 7 วัน
- การชาร์จ : การชาร์จแบบไร้สาย 5V-9V / 2A
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2, GPS, NFC
- เซ็นเซอร์ :
- เซ็นเซอร์ Accelerometer
- เซ็นเซอร์ Gyroscope
- เซ็นเซอร์ Magnetometer
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคอล
- เซ็นเซอร์บารอมิเตอร์
- เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ
- ระบบปฏิบัติการ : Android 8.0 หรือใหม่กว่า / iOS 13.0 หรือใหม่กว่า
- ระดับการกันน้ำ : 5 ATM, IP68
- ลำโพง : รองรับ
- ไมโครโฟน : รองรับ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สำหรับตัวกล่องที่ใส่ Watcg GT 4 มานั้นจะมีการระบุชื่อและสีชัดเจนซึ่งจะเห็นไ้ตั้งแต่หน้ากล่องเลยทีเดียวว่าเป็นรุ่นอะไรและเป็นสายสีอะไร โดยภายในกล่องจะมีดังนี้
- ตัวเรือน HUAWEI Watch GT 4
- แท่นชาร์จ (รวมสายชาร์จ)
- คู่มือเริ่มต้นฉบับย่อและข้อมูลความปลอดภัยและใบรับประกัน
ดีไซน์
ในเรื่องของดีไซน์ตัวเรือน Watch GT 4 นั้นจะมาพร้อมหน้าปัดให้เลือก 2 ขนาดคือ 41 มม. และ 46 มม. โดยรุ่น 41 มม. นั้นจะมีการออกแบบตัวเรือนออกมาเป็นรูปวงกลม ส่วนรุ่น 46 มม. นั้นจะออกแบบตัวเรือนเป็นรูปแปดเหลี่ยม ซึ่งที่เราได้มารีวิวก็คือรุ่น 46 มม. ดังนั้นเราจะทำการพูดถึงแค่รุ่น 46 มม. เท่านั้นนะครับ
โดยตัวเรือนจะใช้วัสดุเป็นสแตนเลสมีความเงางาม และยังให้ความรู้สึกหรูหราในตัวด้วย นอกจากนี้ยังมีการสลักลวดลายเป็นเลขนาทีแบบเดียวกับนาฬิการาคาแพงๆอีกต่างหาก ตัวหน้าปัดจะเป็หนน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ที่มีความละเอียด 466 x 466 พิกเซล ทำให้สามารถแสดงผลหน้าปัดด้วยสีสันที่สวยสดได้ แถมตัวหน้าปัดเองยังให้เลือกมากกว่า 25,000 แบบ สามารถเลือกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับในแต่ละวันของผู้ใช้ได้ หรือจะเลือก Custom เองก็ได้ด้วย
สำหรับปุ่มต่างๆ บนตัวเรือนนั้นทั้งหมดจะอยู่ที่ด้านขวาโดยจะมีปุ่มพาวเวอร์แบบเม็ดมะยมที่สามารถหมุนได้ สำหรับใช้เลื่อนหน้าเมนูและซูมเข้าออกเพื่อค้นหาแอปฯ และเมื่อกดค้างไว้จะเป็นการรีสตาร์ท และเปิด/ปิดตัวเครื่อง ส่วนปุ่มด้านล่างจะเป็นปุ่มสำหรับเข้าโหมดออกกำลังกาย
ถัดจากปุ่มลงมาจะมีช่องเล็กๆ อยู่ 2 ช่อง ซึ่งช่องนี้จะเป็นลำโพงสปีกเกอร์สำหรับสนทนาหรือฟังเพลง
ที่ด้านหลังจะมีเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าออกซิเจนในเลือด, ค่าความเครียด รวมไปถึงคุณภาพการหลับนอน เป็นต้น
ตัวสายของรุ่น 46 มม. ที่เราได้มาจะเป็นสายถักสีเขียวที่มีวัสดุราวๆ 90% ของสายทำมาจากไนลอนรีไซเคิลจากทะเล โดยตัวสายนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายๆ หากไม่พอใจหรือเบื่อสีก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนได้
การเชื่อมต่อ
ในการจะใช้งานตัว Watch GT 4 นั้นจำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก่อน ซึ่งตรงนี้จะถูกบังคับให้เชื่อมต่อตั้งแต่เปิดเครื่องอยู่แล้ว จึงไม่ต้องห่วงว่าจะพลาดใช้งานโดยไม่ได้เชื่อมต่อ โดยตัว Watch GT 4 นั้นรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทุกระบบปฏิบัติการผ่านการเชื่อมต่อกับแอปฯ HUAWEI Health โดยในระบบ iOS จะสามารถโหลดผ่าน App Store ได้เลย แต่สำหรับ Android แล้วจะต้องโหลดเป็นไฟล์ APK มาติดตั้งเอง
สำหรับการเชื่อมต่อ Watch GT 4 กับแอปฯ HUAWEI Health นั้นเมื่อติดตั้งแอปฯ และเข้าไปที่หน้าแรกแล้วให้เลือกไปที่หน้าอุปกรณ์ กดที่มุมบนขวา แล้วกดเพิ่มอุปกรณ์ โดยตรงนี้จะรอให้แอปฯ ตรวจจับเจอหรือจะใช้วิธีสแกน QR Code บน Watch GT 4 ก็ได้ หลังจากนั้นก็ทำตามขั้นตอนที่แอปฯ แนะนำต่อไปเรื่อยๆ จนเสร็จ
พอจับคู่เสร็จแล้วตัวแอปฯ จะพามาหน้าสรุปข้อมูลตัวสมาร์ทวอทช์ทันที โดยในหน้านี้จะมีการแสดงรูปตัวเรือนและปริมาณแบตเตอรี่ไว้อย่างชัดเจน ถัดลงมาจะเป๋นหัวข้อสำหรับตั้งค่าหน้าปัด และอื่นๆ
สิ่งที่จะแสดงบนแอปฯ HAUWEI Health นั้นในหน้าแรกจะเป็นการแสดงค่าด้านสุขภาพต่างๆ ที่ตัวสมาร์ทวอทช์สามารถวัดได้ ในหน้าถัดมาจะเป็นหน้าสำหรับการออกกำลังกาย โดยตัวแอปฯ จะมีข้อมูลการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเราเสมือนมีโค๊ชมาคอยแนะนำอยู่ข้างๆ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะหนัก-เบาในระดับไหน
ฟีเจอร์ต่างๆ
ในด้านฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใส่มาใน HUAWEI Watch GT 4 นั้นบอกเลยว่าจัดเต็มมากไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือการติดตามสุขภาพ และยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย
สิ่งที่เป็นหนึ่งในจุดโชโรงของ Watch GT 4 ก็คือโหมดออกกำลังกายที่มีมากกว่า 100 โหมด และยังมีโหมดใหม่เช่นฟุตบอล บาสเก็ตบอล และพาเดล เพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งความน่าสนใจของโหมดออกกำลังกายนี้นอกจากการรองรับกีฬาที่หลากหลายแล้วยังสามารถรู้ได้ด้วยว่าสิ่งที่ทำนี้อยู่กลางแจ้ง อยู่ในร่ม หรือใช้เครื่องออกกำลังกายได้ ซึ่งข้อมูลแบบเรียลไทม์นี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์สูงสุดจากทุกการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังได้ความสะดวกสบายของการนำทางด้วยเสียงขณะวิ่งได้อีกด้วย
สิ่งที่นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทวอทช์ HAUWEI เลยก็คือการตั้งเป้าหมายรายวันผ่าน Activity Rings 2.0 โดยจะมีการตรวจจับทุกการเคลื่อนไหวของเราแบบนาทีต่อนาที ซึ่งเมื่อบรรลุเป้าหมายทั้งสามวงแหวนแล้วจะได้รับเหรียญรางวัลอีกด้วย (หรือก็คือสามารถใช้เหรียญรางวัลที่ได้เก็บเป็นสถิติเพื่อเพิ่มกำลังใจในการออกกำลังกายก็น่าจะได้อยู่นะ)
สำหรับการติดตามสุขภาพต่างๆ นั้นนอกจากจะมีการตรวจวัดอัตาาการเต้นของหัวใจที่แม่งยำแล้ว ยังสามารถตรวจจับความเครียด, ตรวจจับการนอน และตรวจระดับออกซิเจนในเลือด ได้อย่างแม่นยำด้วยระบบ HUAWEI TruSeen™ 5.5+ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถตรวจเช็คสุขภาพได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ในการตรวจจับการนอนจะมีการใช้ระบบ HUAWEI TruSleep™ 3.0 มาช่วยวิเคราะห์การนอนของเราอีกด้วย โดยจะบอกทั้งการนอนหลับลึก / หลับตื่น แล้ววิเคราะห์ออกมาเป็นคะแนนการนอนให้เห็นแบบชัดๆ เลย
นอกจากฟีเจอร์ตรวจจับสุขภาพแล้วยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการบอกทิศทาง, การนำทางด้วยสัญญาณ GNSS, บอกระดับความสูง หรือบอกข้างขึ้น-ข้างแรม เรียกได้ว่าอรรถประโยชน์แบบสุดๆ
แต่สิ่งที่ทำให้เซอร์ไพรส์ที่สุดก็คือตอนนี้ HUAWEI Watch GT 4 รองรับการใช้งานภาษาไทยได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเมนูต่างๆ ค่าการแสดงผล หรือแม้แต่แอปข้อความต่างๆ ก็สามารถแสดงผลเป็นภาษาไทยได้แล้ว บอกเลยงานนี้ดีสุดๆ แล้วจริงๆ
สำหรับในเรื่องแบตเตอรี่และการชาร์จนั้นตัว Watch GT 4 นั้นทาง HUAWEI เคลมว่าสามารถใช้งานได้สูงสุด 14 วัน ใช้งานปปกติได้ 8 วัน และถ้ามีการเปิดใช้งาน Always on Display จะสามารถใช้งานได้ 4 วัน โดยระยะเวลาการใช้งานที่ทาง HUAWEI เคลมไว้จะมีเงื่อนไขดังนี้
แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นาน 14 วันตามลักษณะการใช้งานต่อไปนี้ :
- โทรผ่านบลูทูธ 30 นาทีต่อสัปดาห์
- เล่นเสียง 30 นาทีต่อสัปดาห์
- เปิดใช้งานการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ
- เปิดใช้งาน HUAWEI TruSleepTM ในเวลากลางคืน
- ออกกําลังกาย 90 นาทีต่อสัปดาห์ (เปิดใช้งาน GPS)
- เปิดใช้งานการแจ้งเตือนข้อความ (50 ข้อความ SMS, 6 สายและนาฬิกาปลุก 3 ครั้งต่อวัน)
- เปิดหน้าจอ 200 ครั้งต่อวัน
แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นาน 8 วันตามลักษณะการใช้งานต่อไปนี้ :
- โทรผ่านบลูทูธ 30 นาทีต่อสัปดาห์
- เล่นเสียง 30 นาทีต่อสัปดาห์
- เปิดใช้งานการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ
- เปิดใช้งาน HUAWEI TruSleepTM ในเวลากลางคืน
- เปิดใช้งานการตรวจสอบความเครียด
- เปิดใช้งานการวิเคราะห์จังหวะคลื่นชีพจรและเปิดใช้งานคุณสมบัติการรับรู้การหายใจขณะหลับ
- การออกกําลังกาย 180 นาทีต่อสัปดาห์ (เปิดใช้งาน GPS)
- เปิดใช้งานการแจ้งเตือนข้อความ (50 ข้อความ SMS, 6 สายและนาฬิกาปลุก 3 ครั้งต่อวัน)
- เปิดหน้าจอวันละ 30 นาที
แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นาน 4 วันเนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานต่อไปนี้ :
- เปิดใช้งาน Always On Display
- โทรผ่าน Bluetooth 30 นาทีต่อสัปดาห์
- เล่นเสียง 30 นาทีต่อสัปดาห์
- เปิดใช้งานการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ
- เปิดใช้งาน HUAWEI TruSleepTM ในเวลากลางคืน
- เปิดใช้งานการตรวจสอบความเครียด
- การวิเคราะห์จังหวะของคลื่นชีพจรและคุณสมบัติการรับรู้การหายใจขณะหลับเปิดใช้งาน
- การออกกําลังกาย 180 นาทีต่อสัปดาห์ (เปิดใช้งาน GPS)
- เปิดใช้งานการแจ้งเตือนข้อความ (50 ข้อความ SMS, 6 สายและนาฬิกาปลุก 3 ครั้งต่อวัน)
- เปิดหน้าจอวันละ 30 นาที
อายุการใช้งานแบตเตอรี่จริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งาน
สำหรับในเรื่องการชาร์จนั้นจะเป็นการชาร์จผ่านแท่นชาร์จแบบไร้สายขนาด 5V-9V / 2A โดยทาง HUAWEI เคลมว่าจะใช้เวลาชาร์จราวๆ 100 นาที เมื่อชารืจที่อุณหภูมิ 25 องศา ซึ่งตอนที่ลองในอุณหภูมิตามแบบบ้านเราก็ใช้เวลาราวๆ นั้นเช่นกัน ซึ่งเอาจริงๆ ถ้ารีบก็ชาร์จสัก 10-15 นาทีก็อยู่ได้พ้นวันสบายๆ แล้ว
สรุปการรีวิว HUAWEI Watch GT 4
สรุปการรีวิว HUAWEI Watch GT 4 จากที่ได้เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องยอมรับเลยว่าครั้งนี้ HUAWEI ปล่อยของดีออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ดูหรูเกินราคาแถมยังน้ำหนักเบา ฟีเจอร์ตรวจจับสุขภาพที่แม่งยำและชาญฉลาด มีคู่มือออกกำลังกายแนะนำในตัว และที่สำคัญคือรองรับการใช้งานภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งหมดนี้ด้วยราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 6,990 บาท ทำให้มันดูไม่แพงเลยสักนิด สำหรับคนที่สนใจตอนนี้ HUAWEI Watch GT 4 เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าผ่านหน้าเว็บไซต์ huawei.com, Shopee และ Lazada
ซึ่งถ้าถามว่าแล้วมันไม่มีข้อเสียเลยหรือก็ต้องตอบว่ามันก็มี แต่น้อยมากหรือจะบอกว่ามีแค่ข้อเดียวก็ได้ตรงที่มันไม่เฟรนลี่กับผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android ทุกคนนิดหน่อยตรงที่ต้องติดตั้งแอปฯ แบบ APK ซึ่งหลายๆ คนทำไม่เป็นหรือไม่ก็กลัวการติดตั้งแอปฯ จากนอกสโตร์นั่นเอง