HUAWEI Freebuds 5 หูฟังไร้สายแบบ TWS รุ่นใหม่จากทาง HUAWEI ที่มาพร้อมสโลแกน “ปลุกเสียงดนตรีในสไตล์ที่เป็นคุณ” ด้วยหูฟังไร้สายแบบ Open-Fit ที่ดีไซน์โค้งมนไร้รอยต่อ สวมใส่สบาย มาพร้อมระบบลดเสียงรบกวนรอบข้าง ได้คุณภาพเสียงระดับ Hi-res รองรับ L2HC และ LDAC เรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่จัดเต็มมากรุ่นหนึ่งเลยทีเีดยว โดยจากที่ได้เอาไปลองใช้งานมาระยะหนึ่งเราจะเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
สเปคของ HUAWEI Freebuds 5
- รูปแบบ : Open-Fit
- ขนาด :
- หูฟัง : 32.4 x 17.6 x 22.8 มม.
- เคส : 66.6 x 50.1 x 27.3 มม.
- น้ำหนัก :
- หูฟัง : 5.4 กรัม
- เคส : 45 กรัม
- ไดร์เวอร์ : Dynamic LCP 11 มม.
- ความถี่ : 16 Hz ถึง 40 kHz
- เทคโนโลยีเสียง : Dynamic EQ / ANC / Call noise cancellation
- แบตเตอรี่ :
- หูฟัง : 42 mAh
- เคส : 505 mAh
- เซ็นเซอร์ : Accelerometer / Infrared sensor / Hall sensor / Touch sensor
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2 / USB Type-C
- มาตราฐาน IP : IP54
ดีไซน์
สำหรับดีไซน์นั้นหลังแกะกล่องออกมาจะเจอกับเคสเด่นๆ อยู่กลางกล่องเลย โดยตัวเคสจะมาในรูปวงรี มีพื้นผิวเป็นแบบด้าน ช่วยให้ตัวเคยดูมีความหรูหรา และไม่มีรอยนิ้วมือติดให้เห็นอย่างแน่นอน โดย Freebuds 5 นั้นจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ Coral Orange, Silver Frost และ Ceramic White สำหรับสีที่ทาง Spepchone เราได้มานั้นจะเป็นสี Coral Orange ซึ่งบอกเลยว่าเป็นสีที่ไม่ค่อยได้เห็นในหูฟังเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นแบบมีสายหรือไร้สายก็ตาม น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนที่อยากมีความแตกต่าง
กลับมาที่ตัวเคส โดยตัวฝาเคสจะเป็นแบบเปิดขึ้น ที่ด้านหน้าจะมีโลโก้ HUAWEI อยู่ ถัดลงมาเล็กน้อยในส่วนของตัวเคส จะมีไป LED แสดงสถานะอยู่ โดยจะแสดงสถานะแบตเตอรี่ว่ามีเท่าไร (จะมีสีเขียว, เหลือ และแดง) ที่ด้านข้างฝั่งขวาจะจะมีปุ่มสำหรับใช้เชื่อมต่ออยู่ ส่วนด้านหลังเคสจะมีการออกแบบให้เรียบช่วยให้สามารถวางเรียบไปกับพื้นได้ ไม่มีการกลิ้บไปกล้องมาแน่ เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อการใช้งานโดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความงดงามไป
เมื่อเปิดฝาขึ้นมาก็จะเจอกับตัวหูฟังที่มีดีไซน์แปลกตาอย่างมาก ด้วยดีไซน์แบบเส้นโค้งไร้รอยต่อที่ได้แรงบัลดาลใจจากการดีไซน์แบบ Prince Rupert’s Drop หยดน้ำของเจ้าชายรูเพิร์ต หรือเรียกอีกอย่างว่า “ลูกอ๊อดแก้ว” ที่สร้างขึ้นในระหว่างการพัฒนาและทดสอบ Kunlun Glass ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับวงการหูฟังไร้สายได้เป็นอย่างดี
จากที่ HUAWEI ว่าไว้นั้นตัวหูฟังได้รับการปรับแต่งอย่างปราณีตผ่านการจำลองตามหลักสรีรศาสตร์ ออกแบบให้สมมาตรพอดีกับหูของเราอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อเพิ่มความสบายและใส่ได้แน่นหนาไม่ต้องกลัวหลุด เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ตัวหูฟังจะสั้นกว่า 0.3 มม. และก้านหูจะเอียง 32° เพื่อความพอดีที่มากขึ้น มีเส้นโค้ง Double-C ของ HUAWEI FreeBuds 5 ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการการออกแบบนี้สามารถใส่หูฟังเข้าไปในหูได้อย่างสบายและอย่างไม่ระคายเคืองในหูแม้ว่าคุณจะสวมใส่หูฟังเป็นเวลานานก็ตาม
นอกจากการออกแบบให้เป็นไปตามสรีรศาสตร์แล้วตัวหูฟัง Freebuds 5 นั้นยังรองรับมาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP54 อีกด้วย ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าต่อให้เราใส่ไปออกกำลังกายหรือต้องลุยฝน ตัวหูฟังก็จะไม่พังจากการที่น้ำเข้าภายในอย่างแน่นอน
การเชื่อมต่อและการตั้งค่าต่างๆ
ในเรื่องของการเชื่อมต่อนั้นตัว Freebuds 5 นั้นจะมาพร้อม Bluetooth เวอร์ชั่น 5.2 ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อมีความรวดเร็ว ดีเลย์น้อย ซึ่งในการจะเชื่อมต่อไม่ว่าจะครั้งแรกหรือครั้งไหนๆ ก็จำเป็นต้องกดปุ่มด้านข้างค้เางไว้อย่างน้อย 2 วินาที ชื่อหูฟังถึงจะขึ้นมาในลิสเชื่อมต่อ
ในการจะใช้งานหูฟัง HUAWEI ให้ได้อย่างสมบูรณ์นั้นจำเป็นต้องโหลดแอปฯ AI Life มาติดตั้ง ซึ่งใน App Store นั้นจะมีให้โหลดได้เลย แต่ทางฝั่ง Android นั้นจำเป็นต้องไปโหลดเป็นไฟล์ APK มาติดตั้งแยก ซึ่งจะโหลดเฉพาะตัวแอปฯ มาติดตั้ง หรือจะโหลด HUAWEI AppGallery มาติดตั้งก่อน แล้วค่อยไปโหลด AI Life ใน AppGallery อีกทีก็ได้ ซึ่งวิธีหลังถึงจะหลายขั้นตอนหน่อย แต่เวลาอัปเดตแอปฯ จะทำได้ง่ายกว่า ซึ่งเมื่อโหลดแอปฯ มาแล้ว และทำการเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับอุปกรณ์แล้ว จะมีชื่อหูฟัง Freebuds 5 ปรากฎขึ้นมาในหน้าแรกของแอปฯ ทันที
เมื่อเข้าไปในหน้าหลักของตัวหูฟังแล้วจะปรากฎการตั้งค่าต่างๆ ขึ้นมาให้ ไม่ว่าจะเป็นสถานะแบตเตอรี่, ศูนย์ความคุมการเชื่อมต่อ, การตั้งค่าการตัดเสียง, การตั้งค่าคุณภาพเสียงและเอฟเฟ็กต์ และอื่นๆ
โดยในส่วนของหัวข้อการตัดเสียงนั้นตัวระบบจะมีให้เลือกโหมดตามการใช้งานดังนี้
- โหมดไดนามิก เป็นโหมดออโต้ที่จะปรับการตัดเสียงตามสภาพแวดล้อมในขณะนั้น
- โหมดสบาย เป็นโหมดสำหรับใช้ในสถานที่ๆ มีเสียงรบกวนน้อย
- โหมดทั่วไป เป็นโหมดสำหรับใช้ในสถานที่ๆ มีเสียงรบกวนดัง
ส่วนในหัวข้อคุณภาพเสียงและเอฟเฟ็กต์นั้นจะเป็นหัวข้อที่จะให้ปรับรุปแบบเสียงว่าจะเน้นเบส, เน้นเสียงแหลม หรือเน้นเสียงร้อง แต่ถ้าไม่พอใจก็สามารถตั้งค่า EQ เพิ่มตามสไตล์ตนเองได้อีก
ในเรื่องคำสั่งนั้นเราสามารถตั้งค่าได้ตามความชอบในหัวข้อ ท่าทางสัมผัส ซึ่งทางระบบจะตั้งค่าเริ่มต้นมาให้ดังนี้
- แตะสองครั้ง
- เมื่อมีสายเรียกเข้า : รับ / วางสาย
- ในเวลาปกติ : เล่น / หยุดเพลง
- แตะค้าง
- เมื่อมีสายเรียกเข้า : ปฏิเสธสาย
- ในเวลาปกติ : เปิด / ปิด ตัดเสียงรบกวน
- ปัดนิ้ว : เพิ่ม / ลด เสียง
ระบบเสียง, ไมโครโฟน และแบตเตอรี่
ในเรื่องของระบบเสียงนั้น Freebuds 5 จะมาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 10 มม. สำหรับขับเสียงโทนต่ำ ทํางานร่วมกับไดอะแฟรมคอมโพสิตโพลีเมอร์ที่ขับเคลื่อนเสียงโทนแหลม ควบคู่ไปกับตัวแปลงสัญญาณเสียง LDAC ทำให้ได้เสียงเบสแบบเน้นๆ เป็นลูกๆ เลย และที่พิเศษคือ Freebuds 5 ตัวนี้นั้นได้รับการรับรองจาก Hi-Res และ HWA Audio Wireless อีกด้วย
จากการที่ได้เอาไปลองใช้นั้นในเรื่องของการสวมใส่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหูฟังที่ใส่สบายหูตัวหนึ่งเลย อีกทั้งยังมีการบาลานส์น้ำหนักออกมาได้ดี ไม่มีการถ่วงหู รวมถึงไม่หลุดเวลาเคลื่อนไหวร่างกายแรงๆ อีกด้วย อีกทั้ง HUAWEI ยังมีการให้ซิลิโคนมาเพิ่มสำหรับปรับให้ตัวหูพอดีกับหูของคนที่มีหูใหญ่ แถมยังกันลื่นยิ่งขึ้นได้ด้วย
สำหรับเรื่องเสียงนั้นบอกเลยว่าถ้าเดิมๆ ไม่มีการปรับอะไร เสียงเบสจะเด่นมากๆ ถ้าเพลงที่ฟังมีเบสที่หนักอยู่แล้วจำทำให้เสียงเบสหนักเกินไปจนไม่สบายหูเลยทีเดียว ซึ่งตอนที่ลองฟังนั้นมีทั้งเพลงไทย, สากล และญี่ปุ่น โดยเพลงไทยและสากลนั้นถึงไม่ต้องไปปรับค่าอะไรก็ฟังสบายอยู่แล้ว ส่วนเพลงญี่ปุ่นนั้นโดยแนวจะเป็นเพลงที่เน้นเบสค่อยข้างหนัก ทำให้ฟังไม่ค่อยสบายหูเท่าไร ต้องไปปรับรูปแบบเสียงให้เป็นแบบเน้นเสียงร้อง จะทำให้เสียงที่ได้มีความกลมกล่อมใมากยิ่งขึ้น (เพลงแนวอื่นๆ ก็เช่นกัน ถ้าปรับเป็นแบบเน้นเสียงร้องแล้วจะฟังสบายขึ้น) นอกจากนี้ตัวหูฟังยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ด้วย ทำให้เวลาถอดหูฟังแล้วไม่ต้องกลัวว่าเพลงจะขาดช่วงไป
ในเรื่องของการตัดเสียงรบกวนนั้นตัว Freebuds 5 นั้นจะมาพร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนถึง 3 ตัว ที่ทำงานควบคู่กับอัลกอริทึมการตัดเสียงรบกวน ANC 3.0 และอัลกอริทึม Deep Neutral Network (DNN) ทำให้ช่วยตัดเสียงรบกวนโดยรอบได้หลากหลายสถานกาณณ์ตามแต่ AI จะคำนวนได้ ซึ่งตอนที่ลองนั้นเราลองในหลายๆ สถานที่ไม่ว่าจะเป็นในห้องเงียบๆ, ในรถระหว่างเดินทาง, ในห้างที่มีผู้คนพลุดพล่าน และริมถนน ผลที่ได้ก็คือเมื่อเปิดโหมดตัดเสียงระหว่างฟังเพลงแล้วก็ใช่ว่าจะเงียบสนิทจริงๆ เพราะแม้ขณะที่อยู่ในห้องเงียบๆ แล้วมีเสียงคุยเราก็ยังพอจะได้ยินเสียงคุยนั้นอยู่บ้าง เวลาอยู่ในที่ๆ มีเสียงๆ ระบบตัดเสียงก็ไม่ได้ตัดเสียงได้สนิท ราวๆ ว่าลดเสียงรอบข้างลงเพื่อให้ฟังเพลงได้ชัดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มเสียงเพลงมาสู้เสียงจากรอบข้าง ทั้งนี้การที่ไม่สามารถตัดเสียงได้สมบูณณ์ก็เนื่องมาจากตัวหูฟังที่เป็นรูปแบบ Earbuds นั่นเอง ถ้าต้องการการตัดเสียงแบบสนิทจริงๆ ต้องไปใช้หูฟังที่เป็น In Ear แทน
ในเรื่องของแบตเตอรี่และระยะเวลาในการใช้งานนั้นทาง HUAWEI เคลมว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง เรียกได้ว่ายาวนานสะใจกันเลย โดยจะแบ่งระยะเวลาออกเป็นดังนี้
- เปิด ANC
- ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 3.5 ชั่วโมง
- ใช้งานร่วมกับเคสชาร์จจะสามารถใช้งานได้สูงสุด 20 ชั่วโมง
- ปิด ANC
- ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 5 ชั่วโมง
- ใช้งานร่วมกับเคสชาร์จจะสามารถใช้งานได้สูงสุด 30 ชั่วโมง
นอกจากระยะเวลาใช้งานจะยาวนานแล้ว Freebuds 5 ยังมีฟีเจอร์ชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จจนเต็มได้ภายในเวลาเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น อีกทั้งเมื่อใส่เคสชาร์จไปแค่ 2 นาทีก็สามารถเอามาใช้ฟังเพลงต่อได้อีกถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
สรุปการรีวิว HUAWEI Freebuds 5
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอา HUAWEI Freebuds 5 ไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นหูฟังที่ค่อนข้างคุ้มกับราคาค่าตัวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่ที่สบาย เสียงที่ดี ขนาดที่พกพาได้ง่าย รวมถึงสีสันที่แหวกแนวไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ใครที่กำลังหาหูฟังเสียงดีๆ ใส่สบาย สามารถใส่นานๆ ได้โดยไม่ปวดหู Freebuds 5 คือตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมากเลย
สำหรับคนที่สนใจ HUAWEI Freebuds 5 นั้นจะมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 5,299 บาท ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดรวมถึงสั่งซื้อได้ที่ huawei.com/th หรือจะไปซื้อที่ HUAWEI Brand Shop โดยตรงเลยก็ได้เช่นกัน
โดยตอนนี้จะมีโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ HUAWEI FreeBuds 5 ราคาพิเศษเพียง 3,999 บาท จากราคาปกติ 5,299 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 – 8 พฤษภาคม 2566 ที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada รับฟรี กระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท และ ร่ม Huawei มูลค่า 390 บาท สำหรับลูกค้า 100 ท่านแรกเท่านั้น และนอกจากนี้ยังมีส่วนลดมูลค่า 100 บาท เมื่อใช้ร่วมกับคูปอง สามารถ กดสั่งซื้อได้ที่นี่ https://bit.ly/40EfNah