Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Gadgets»Accessories Review»เทียบหูฟัง HUAWEI FreeBuds 3 กับ Apple AirPods 2 ทั้งหน้าตา การใช้งาน และเสียงที่ได้
    Accessories Review

    เทียบหูฟัง HUAWEI FreeBuds 3 กับ Apple AirPods 2 ทั้งหน้าตา การใช้งาน และเสียงที่ได้

    ZeroSystemBy ZeroSystem16 มกราคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    กระแสการใช้งานหูฟังไร้สายแบบ true wireless (TWS) กลายเป็นที่นิยมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ด้วยทั้งด้านประสิทธิภาพที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นมา สวนทางกับราคาที่มีแนวโน้มถูกลง แม้กระทั่งฝั่งของ AirPods จาก Apple เองก็ยังมีราคาปลีกที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นพอสมควร แต่ก็จะมีหูฟัง TWS อีกรุ่นที่มาแรงมาก ๆ ในช่วงที่ผ่านมา นั่นคือ HUAWEI FreeBuds 3 ที่จัดเต็มด้านฟีเจอร์มาก ๆ โดยจุดเด่นก็คือมีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกมาให้ มีชิปช่วยจัดการด้านการเชื่อมต่อโดยเฉพาะ เป็นต้น

    ซึ่งจากที่ทางเราได้รับหูฟัง HUAWEI FreeBuds 3 มาทดสอบ ก็เลยลองหยิบมาใช้งานเทียบกับ Apple AirPods 2 ที่ผมมีใช้งานส่วนตัวดูซักหน่อยครับ โดยตอนนี้แม้ว่าราคาของ AirPods 2 จากทาง Apple จะอยู่ที่ 5,990 บาท ซึ่งสูงกว่า HUAWEI FreeBuds 3 อยู่พอสมควร (4,990 บาท) แต่ในช่วงนี้เราก็เริ่มเห็นร้านค้าปลีกหลาย ๆ ราย จับ AirPods 2 มาลดราคาเหลือจนมาชนกับ FreeBuds 3 อยู่บ้างเหมือนกัน ดังนั้นก็น่าจะทำให้ทั้งสองรุ่นนี้เป็นคู่เปรียบเทียบที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟัง TWS ในช่วงราคาประมาณครึ่งหมื่นได้อยู่เหมือนกัน

    เริ่มเทียบกันตั้งแต่เคสเลยแล้วกันครับ รูปทรงของทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ฝั่งของ FreeBuds 3 จะค่อนข้างคล้ายตลับแป้งมาก ๆ รูปทรงกลมมนไปแทบทุกจุด ส่วนฝั่งของ AirPods 2 จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน ถ้าให้เทียบขนาดโดยรวม เคสของ AirPods 2 จะเล็กกว่าอยู่นิดนึง

    ปุ่มสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อหูฟังกับมือถือจะวางในตำแหน่งที่ต่างกันครับ โดยของ FreeBuds 3 จะวางอยู่ตรงสันด้านข้าง ถ้าเป็นรุ่นสีดำจะสังเกตยากนิดนึง ส่วนของ AirPods 2 จะอยู่ด้านหลัง บริเวณใต้ข้อพับของฝาปิด

    ลักษณะการเปิด/ปิดฝาของทั้งสองรุ่นจะเป็นแบบเดียวกันครับ คือใช้ข้อพับเป็นตัวเชื่อม สามารถเปิด/ปิดโดยใช้มือเดียวได้สะดวก โดยจะมีแรงแม่เหล็กอ่อน ๆ คอยดูดฝาเอาไว้ เพื่อไม่ให้ฝาเปิดเองโดยไม่ได้ตั้งใจ

    พอร์ตสำหรับชาร์จไฟให้กับทั้งสองรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันอยู่ โดยของ HUAWEI FreeBuds 3 จะใช้เป็นพอร์ต USB-C ในขณะที่ของ AirPods 2 จะเป็น Lightning ซึ่งทั้งสองก็เป็นพอร์ตชาร์จหลักสำหรับสมาร์ทโฟนของทั้งสองค่ายเองอยู่แล้ว ดังนั้นจึงสามารถใช้สายชาร์จมือถือในการชาร์จได้เลย

    แต่ FreeBuds 3 จะได้เปรียบอยู่นิดนึง เพราะตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สายได้เลย ต่างจากฝั่ง AirPods 2 ที่ในไทยต้องเลือกซื้อรุ่นที่มาพร้อมเคสชาร์จไร้สายด้วย ซึ่งราคาก็บวกจากรุ่นปกติถึง 1,500 บาทเลยทีเดียว ดังนั้น HUAWEI FreeBuds 3 จึงมีข้อได้เปรียบในการชาร์จไฟที่ยืดหยุ่นมากกว่าอยู่เล็กน้อย

    ส่วนเรื่องระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ถ้าตามสเปคที่ผู้ผลิตระบุก็ได้แก่

    Apple AirPods 2

    • ใช้ฟังเพลงได้นานสุด 5 ชั่วโมง
    • ใช้ฟังเพลงได้นานกว่า 24 ชั่วโมง (เมื่อมีเคสชาร์จ)

    HUAWEI FreeBuds 3

    • ใช้งานได้นานสุด 4 ชั่วโมง
    • ใช้งานได้นานกว่า 20 ชั่วโมง (เมื่อมีเคสชาร์จ)

    เมื่อนำมาใช้งานจริง เท่าที่พบคือทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานได้พอ ๆ กันครับ แต่ของ AirPods 2 จะมีระยะเวลาใช้งานรวมที่ยาวนานกว่า ซึ่งก็เป็นจุดที่เข้าใจได้ เพราะฝั่งของ FreeBuds 3 นั้นมีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนด้วย

    เมื่อเปิดฝาเคสขึ้นมา ก็จะพบหูฟังวางอยู่ในลักษณะคล้าย ๆ กันเลย มีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่เป็นจุดอยู่ตรงกลาง ส่วนการหยิบหูฟังขึ้นมา ส่วนตัวผมรู้สึกว่า AirPods 2 จะหยิบขึ้นมาได้ง่ายกว่า ในขณะที่ FreeBuds 3 จะต้องใช้ปลายนิ้วคีบที่บริเวณก้านหูฟัง ซึ่งผิวพลาสติกนั้นค่อนข้างลื่น เลยทำให้หยิบขึ้นมาได้ยากกว่านิดหน่อย

    ขนาดของหูฟังทั้งสองรุ่นจะค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก ต่างกันที่ก้านของ FreeBuds 3 จะยาวและอวบกว่าเล็กน้อย ส่วนช่องตะแกรงที่ให้เสียงออกมา และตำแหน่งของเซ็นเซอร์จะคล้ายกันพอสมควร

    หูฟังทั้งสองรุ่น รองรับการสั่งงานด้วยการแตะเบา ๆ สองครั้งที่หูฟังได้ทั้งสองข้างเหมือนกันเลยครับ แต่รายละเอียดสำหรับการตั้งค่าจะแตกต่างกัน ซึ่งจะมีการพูดถึงในส่วนของการรีวิวซอฟต์แวร์ตรงท้ายบทความ

    ปลายก้านหูฟังของทั้งสองจะมีการออกแบบที่แตกต่างกันอยู่ครับ โดย FreeBuds 3 จะเป็นปลายปิด แบบมีช่องรับเสียงขนาดเล็กทางด้านหน้า เพื่อให้สามารถรับเสียงพูดได้สะดวก ส่วนของ AirPods 2 จะออกแบบมาเป็นตะแกรงที่ด้านล่างสุดเลย ทำให้ทิศทางในการรับเสียงจะกว้างกว่า FreeBuds 3 เล็กน้อย

    ด้านของประสิทธิภาพการรับเสียงจากไมโครโฟนของหูฟังทั้งสองรุ่น เท่าที่ทดสอบก็ถือว่าทำได้อยู่ในระดับที่ดีทั้งคู่ครับ แต่เสียงจาก AirPods 2 จะค่อนข้างคมชัดกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถึงขั้นต่างกันมากมาย

    ความรู้สึกตอนที่ใช้งาน

    AirPods 2: ใส่แล้วสบาย ส่วนโค้งมนเข้ากับช่องหูพอดี ไม่หลุดง่าย

    FreeBuds 3: ตอนใส่ครั้งแรก ตรงบริเวณขอบพลาสติกของช่องเสียงจะบาดใบหูเล็กน้อย แต่พอใส่ไปซักพัก อาการก็หายไปเอง ส่วนเมื่อใช้ไปซักพัก ด้วยความที่ผิวพลาสติกค่อนข้างลื่น เลยทำให้หูฟังอาจลื่นหลุดได้เหมือนกัน

    เสียงที่ได้ (จากความเห็นส่วนตัว)

    AirPods 2: เสียงโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เบสบวมไปหน่อย

    FreeBuds 3: เสียงครบ อิมแพคแน่นกว่า เบสไม่บวม สเตจเสียงและเนื้อเสียงดีกว่า AirPods 2

    ทั้งสองรุ่น ใช้ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมได้สบาย มีดีเลย์บ้างเล็กน้อยตามแบบหูฟังไร้สาย

    ระบบช่วยตัดเสียงรบกวน ANC

    AirPods 2: ไม่มี (ถ้าอยากได้ต้องซื้อ AirPods Pro)

    FreeBuds 3: ใช้งานจริงได้ดีเกินคาด สามารถตัดเสียงรบกวนขณะอยู่บนเครื่องบิน รถบัส หรือเดินริมถนนได้สบาย

    ด้านของซอฟต์แวร์ ฝั่ง HUAWEI FreeBuds 3 เองก็สามารถนำไปใช้งานกับมือถือรุ่นอื่น ๆ ได้ โดยการติดตั้งแอป AI Life (เฉพาะ Android) แล้วก็สามารถจัดการด้านการเชื่อมต่อ การปรับแต่งต่าง ๆ ได้ทันที เช่น

    • ตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ของหูฟังแต่ละข้างและเคสชาร์จ
    • ปรับเปลี่ยนคำสั่งเมื่อผู้ใช้แตะสองครั้งที่หูฟังแต่ละข้าง โดยคำสั่งที่มีให้ใช้ก็ได้แก่
      • เล่น/ข้ามไปเพลงถัดไป
      • เล่น/หยุดเพลง
      • เรียกใช้งานผู้ช่วย (Google Assistant)
      • เปิด/ปิดระบบตัดเสียงรบกวน
      • ไม่ตั้งค่าคำสั่งใด ๆ

    ที่น่าเสียดายก็คือไม่มีหูฟังข้างไหนเลยที่รองรับการแตะสองครั้งเพื่อย้อนกลับไปเล่นเพลงก่อนหน้านี้เลยครับ มีแต่ข้ามไปเพลงถัดไปทั้งนั้น

    ส่วนในภาพสุดท้ายก็คือตัวปรับระดับของฟังก์ชันช่วยตัดเสียงรบกวน โดยผู้ใช้สามารถเลื่อนจุดวงกลมเพื่อปรับระดับได้ตามต้องการ

    แต่อันที่จริงแล้วหูฟัง FreeBuds 3 ยังมีลูกเล่นเสริมอื่นอีก เช่น หยุดเล่นเพลงอัตโนมัติเมื่อดึงหูฟังออกจากหู รวมถึงหน้าจอป๊อปอัพเมื่อเปิดฝาตลับหูฟังขึ้นมา เพื่อแสดงปริมาณแบตเตอรี่ ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้จะทำงานเมื่อใช้ FreeBuds 3 ร่วมกับมือถือ HUAWEI ที่ใช้ EMUI 10 ขึ้นไปเท่านั้น (แถมยังไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอป AI Life ด้วย เพราะระบบจะฝังมาใน EMUI 10 เลย)

    สำหรับใครที่ต้องการนำ FreeBuds 3 ไปใช้กับอุปกรณ์ฝั่ง iOS ก็ทำได้เช่นกันครับ แต่จะไม่สามารถปรับตั้งค่าอะไรได้เลย เนื่องจากแอป AI Life ไม่มีเวอร์ชันสำหรับ iOS ดังนั้นหากต้องการตั้งค่าการสั่งงาน ตั้งค่าระบบตัดเสียงรบกวน ก็ต้องจับคู่ FreeBuds 3 เข้ากับมือถือ Android ซักเครื่องก่อน ปรับแต่งให้เรียบร้อย แล้วค่อย unpair เพื่อไปจับคู่กับอุปกรณ์ iOS อีกที

    ส่วนฝั่งของ AirPods 2 เมื่อจับคู่กับอุปกรณ์ iOS ก็เสมือนเป็นคู่ตรงข้ามกันกับ FreeBuds 3 ที่จับคู่กับมือถือ HUAWEI (EMUI 10) เลยครับ การเชื่อมต่อรวดเร็วพอกัน มีป๊อปอัพแสดงปริมาณแบตเตอรี่ให้ รวมถึงมีเมนูปรับตั้งค่าจากในการตั้งค่าของระบบได้เลย

    โดยของ AirPods 2 จะมีจุดที่สามารถตั้งค่าได้ก็เช่น รูปแบบการสั่งงานเมื่อแตะสองครั้งที่หูฟังแต่ละข้าง (สามารถย้อนไปเพลงก่อนหน้าได้) มีตัวเปิด/ปิดระบบตรวจจับการใช้งาน และก็มีตัวตั้งค่าได้ว่าจะให้ใช้ไมโครโฟนที่อยู่ในหูฟังข้างใดบ้าง

    รวม ๆ แล้ว HUAWEI FreeBuds 3 เอง ถ้าให้มาเทียบกับ Apple AirPods 2 ส่วนตัวผมมองว่า FreeBuds 3 มีภาษีหลาย ๆ ด้านที่เหนือกว่าอยู่ เช่น

    • เสียงดีกว่า แน่นกว่า
    • มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC ที่ใช้งานได้จริง ๆ
    • รองรับการชาร์จไร้สาย

    ซึ่งจุดเด่นในบางข้อ ก็เป็นจุดที่น่าจะถูกใจผู้ที่กำลังมองหาหูฟัง TWS เสียงดีเพื่อใช้ในการดูหนังฟังเพลงอยู่พอดี

    ส่วนฝั่งของ AirPods 2 แม้ว่าจะด้อยในด้านคุณภาพเสียงกว่าเล็กน้อยก็ตาม แต่หนึ่งในจุดที่ทำได้ดีเสมอก็คือความเร็ว ความคล่องตัวในการเชื่อมต่อ เมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ iOS ซึ่งเป็นจุดแข็งของ environment จาก Apple มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว

    Huawei
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    แนะนำ 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดีในปี 2025 ตัวช่วยลดปัญหากลิ่นอับ และเชื้อราในบ้าน

    21 พฤษภาคม 2025

    20 อันดับความแรงการ์ดจอ 2025 ทั้ง NVIDIA และ AMD ที่แรงที่สุดช่วงกลางปีนี้มีรุ่นไหนบ้าง

    26 เมษายน 2025

    แนะนำ 10 Powerbank Magsafe แบตสำรองแบบแม่เหล็กยี่ห้อไหนดี ชาร์จไวได้ พกพาสะดวกในปี 2025

    24 เมษายน 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เช็คราคาเปลี่ยนแบต iPad ทุกรุ่นในปี 2025 แต่ละรุ่นมีราคาแบตและค่าบริการเท่าไหร่ เปลี่ยนที่ไหนได้บ้างเช็คเลย!

    23 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 10 โทรศัพท์เล่นเกมไม่เกิน 10000 บาทปี 2025 สเปคแรง เล่นเกมได้ไหลลื่นในราคาคุ้มๆ

    23 พฤษภาคม 2025

    ทุบสถิติโลก! realme GT 7 ทำลายสถิติ Guinness World Record ดูหนังมาราธอนต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ไร้สะดุด!

    23 พฤษภาคม 2025

    เปิดตัว Xiaomi 15S Pro และ Pad 7 Ultra ใช้ชิปที่ Xiaomi ออกแบบเองเป็นครั้งแรก

    23 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X