ข่าวลือที่น่าสนใจสำหรับแฟนๆ แท็บเล็ตขนาดเล็กของ Apple เมื่อมีรายงานล่าสุดจาก Bloomberg ระบุว่า Apple กำลังพัฒนา iPad mini เจเนอเรชันใหม่ (ส่วนปัจจุบันรุ่นที่ 7 เปิดตัวในปี 2024 คือรุ่นล่าสุดในตอนนี้) จะมาพร้อมกับการอัปเกรดดีไซน์ครั้งสำคัญ และจะมีคุณสมบัติกันน้ำได้ คล้ายกับที่มีใน iPhone มานานหลายปี และถือว่าเป็นครั้งแรกของ iPad mini ที่จะกันน้ำได้อีกด้วย
สำหรับรุ่นปัจจุบันที่วางขายอยู่ในตอนนี้ก็คือ iPad mini 7 ที่มีราคาสำหรับรุ่น WiFi เริ่มต้น 17,900 บาท (Shopee/ Lazada) และรุ่น Cellular เริ่มต้น 23,900 บาท (Shopee/ Lazada) แต่ถ้าสั่งซื้อช่องทางออนไลน์จะมีส่วนลดเพิ่มเติมอีก
เปรียบเทียบ Xiaomi Pad mini vs iPad mini 7 ซื้อรุ่นไหนดี มีสเปคต่างกันแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง
iPad mini รุ่นใหม่ในปี 2026 อาจกันน้ำได้
หากข่าวลือนี้เป็นจริง ก็จะถือเป็นครั้งแรกของกลุ่มของ iPad ทั้งหมด ที่ได้รับการกันน้ำและฝุ่นอย่างเป็นทางการ แม้ว่าในปัจจุบัน iPhone จะมีมาตรฐานการกันน้ำระดับ IP68 (สามารถทนการจมอยู่ใต้น้ำลึกสูงสุด 6 เมตร นาน 30 นาที) แต่จนถึงปัจจุบันนี้ iPad ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น iPad Pro, iPad Air หรือ iPad mini ต่างก็ไม่มีการรับรองมาตรฐาน IP ใดๆ อย่างเป็นทางการ การเพิ่มคุณสมบัตินี้เข้ามาจะทำให้ iPad mini มีความทนทานและเหมาะกับการใช้งานได้ทุกสถานที่มากขึ้น
รายงานยังได้เจาะลึกถึงเทคโนโลยีที่ Apple อาจนำมาใช้ โดยระบุว่า Apple ได้สร้างระบบลำโพงใหม่สำหรับ iPad mini ที่ใช้เทคโนโลยีแบบสั่นสะเทือน (Vibration-based technology) ที่จะช่วยให้สามารถนำรูลำโพงออกจากตัวเครื่องได้ และเมื่อนำออกไปได้ก็จะช่วยลดจุดเสี่ยงที่น้ำจะสามารถเข้าไปในตัวเครื่องได้ แต่ก็เป็นรูปแบบที่แตกต่างจาก iPhone ที่ยังคงใช้กาวและซีลยางเพื่อป้องกันน้ำบริเวณรูลำโพงและจุดอื่นๆ อยู่
นอกเหนือจากคุณสมบัติกันน้ำแล้ว iPad mini รุ่นต่อไปคาดว่าจะได้รับการอัปเกรดใหม่ทั้งด้านหน้าจอ โดยอาจเปลี่ยนไปใช้จอแสดงผลแบบ OLED ที่จะช่วยให้การแสดงผลสีดำได้ดำสนิทและมีคอนทราสต์ที่ดีขึ้น คาดว่าการอัปเกรดทั้งจอ OLED และคุณสมบัติกันน้ำนี้ อาจมาถึงอย่างเร็วที่สุดภายในปี 2026 หรือปีหน้าที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม การอัปเกรดครั้งใหญ่นี้อาจต้องแลกมากับราคาที่สูงขึ้น เป็นไปได้ว่า Apple อาจปรับราคา iPad mini รุ่นใหม่นี้ให้สูงขึ้นจากเดิม ปัจจุบันเริ่มต้นที่ 17,900 บาท โดยอาจเพิ่มอีกประมาณ 100 ดอลลาร์ก็ราวๆ 3,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
ที่มา: macrumors
