ปัจจุบัน สมาร์ตวอทช์นับเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่ผู้ใช้สมาร์ตโฟนหลาย ๆ คนนิยมหามาใช้งานคู่กัน ด้วยคุณสมบัติที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงดีไซน์ที่บางรุ่นก็สามารถใช้เป็นนาฬิกาเรือนหลักในชีวิตประจำวันได้เลย อย่างในบทความนี้เราก็มีสมาร์ตวอทช์อีกรุ่นที่น่าสนใจในราคาสุดคุ้มมาฝากกันครับ นั่นคือ HONOR MagicWatch 2 รุ่นหน้าปัด 46 มม. ที่ทำออกมาได้ลงตัวทั้งด้านฟังก์ชันและดีไซน์เลย
HONOR MagicWatch 2 รุ่นหน้าปัด 46 มม. มาพร้อมกับสเปคและคุณสมบัติที่น่าสนใจคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- ชิปเซ็ต Kirin A1
- พื้นที่เก็บข้อมูลในตัว 4 GB (แบ่งให้ใช้ใส่ไฟล์เพลงได้ 2 GB)
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.39″ ความละเอียด 454 x 454 รองรับการแสดงหน้าจอแบบ Always-on
- แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 14 วันต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
- Bluetooth 5.1
- ใช้งานได้ทั้งกับมือถือ Android และ iOS (แต่บน iOS จะใช้งานฟังก์ชันได้ไม่เต็มที่)
- มีลำโพงและไมค์ในตัว สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้ ฟังเพลงได้
- เชื่อมต่อกับหูฟัง Bluetooth เพื่อฟังเพลงที่เก็บในหน่วยความจำได้
- รองรับการวัดการออกกำลังกายได้ 15 โหมด วัดการเต้นของหัวใจได้ตามต้องการ
- สามารถวัดระดับความเครียด บันทึกระดับ VO2Max ได้
- มี GPS ในตัว
- มีระบบผู้ช่วยแนะนำในการออกกำลังกาย
- กันน้ำได้ลึก 50 เมตร
- ถอดเปลี่ยนสายได้ ใช้สายหน้ากว้าง 22 มม.
- ราคา 5,990 บาท
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องนอกจากตัวนาฬิกาแล้ว ก็จะมีเอกสารคู่มือต่าง ๆ แท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก และก็สาย USB-C to USB-A สำหรับใช้ชาร์จแบตเตอรี่ครับ ไม่แถมอะแดปเตอร์มาให้ แต่ก็สามารถใช้อะแดปเตอร์ชาร์จไฟของมือถือ รวมถึงสายชาร์จอื่นมาใช้ได้เช่นกัน ขอแค่เป็นหัว USB-C เพื่อเสียบกับแท่นชาร์จเท่านั้น
การชาร์จก็ง่ายมากครับ แค่วางด้านหลังของตัวเรือนลงไปบนแท่น ถ้าตรงจุดแล้วก็จะมีแรงแม่เหล็กช่วยดูดให้ตัวเรือนติดลงไปเอง ส่วนระยะเวลาการใช้งานตามสเปคระบุว่าได้สูงสุด 14 วัน เท่าที่ผมลองใช้งานมา พบว่าตัวนาฬิกามีการใช้แบตเตอรี่วันละประมาณ 6-10% แล้วแต่การตั้งค่าและการใช้งาน เช่นถ้าเปิดใช้งานระบบตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจตลอดเวลา หรือตั้งค่าเปิดหน้าจอทิ้งไว้นาน ๆ อัตราการใช้แบตเตอรี่ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ขั้นต่ำอย่างน้อยก็ใช้ได้ราว 10 วันแบบค่อนข้างแน่นอนครับ
ส่วนพอเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดก็จะมีแจ้งเตือนให้ทราบด้วย เพื่อให้สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้ทัน การชาร์จไฟเข้าก็เร็วพอตัวเลย
ตัวหน้าปัดของ HONOR MagicWatch 2 จะเป็นรูปวงกลม ด้านหน้าเป็นกระจกคลุมไปจนถึงบริเวณขอบตัวเรือน ทำให้การลากนิ้วจากขอบเรือนเพื่อสั่งการเป็นไปได้ราบรื่น แต่ในการใช้งานก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังซักนิดนึงครับ
บริเวณขอบหน้าปัดจะใช้วัสดุเป็นสแตนเลสสตีล 316L ที่ใช้ในอุตสาหกรรมด้านอากาศยาน มีจุดเด่นในด้านความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี ซึ่งตรงขอบก็จะมี Tachymeter มาให้ใช้ประโยชน์กันได้ด้วย
ส่วนปุ่มเม็ดมะยมก็มีให้มาด้วยกัน 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนมีขีดสีแดงอยู่ตรงกลาง เป็นปุ่มที่ไว้ใช้สำหรับเปิดหน้ารวมแอปของตัวเครื่องขึ้นมา รวมถึงยังใช้เป็นปุ่ม Home เพื่อกลับมายังหน้าปัดบอกเวลาหลัก ส่วนปุ่มล่างจะใช้เป็นปุ่มลัดสำหรับเข้าไปยังแอปต่าง ๆ ตามที่ผู้ใช้ตั้งค่าไว้ ซึ่งค่าเริ่มต้นคือไว้ใช้สำหรับเข้าไปที่แอปเริ่มการออกกำลังกาย
หน้าจอ AMOLED ของ HONOR MagicWatch 2 ทำออกมาได้สวยงาม หน้าปัดขนาด 46 มม. ก็มองเห็นได้ชัดเจนดีเมื่อใช้กับ watchface ต่าง ๆ ที่มีให้เลือก สีสันสดใส จุดที่เป็นสีดำ ส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันยังดำไม่ค่อยสนิทนัก
ส่วนมุมในการมองหน้าปัด มุมที่ดีที่สุดคือมุมตรงครับ หากมองเฉียงเยอะหน่อยอาจจะมองจอได้ไม่ชัดนัก เนื่องจากแสงสะท้อนที่บริเวณกระจก ส่วนถ้าใช้งานกลางแจ้งก็อาจต้องป้องมือซักเล็กน้อย เพื่อให้สามารถดูรายละเอียดได้ครบถ้วนที่สุด
พลิกมาด้านล่างก็จะพบกับกลุ่มเซ็นเซอร์และไฟ LED สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกที่จะปิด เปิดการทำงานตลอดเวลา หรือจะเปิดให้วัดแบบ Smart ที่ระบบจะตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อปรับความถี่ในการวัดให้เหมาะสมก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำเกินค่าที่กำหนดไว้ได้ด้วย
ผิวสัมผัสที่ใช้ก็เป็นพลาสติกที่ไม่ทำให้ระคายเคืองผิว แถมยังมีน้ำหนักเบาด้วย ทำให้ตัวเรือนโดยรวมมีน้ำหนักเพียง 41 กรัม ใส่ใช้งานตลอดวันก็ไม่เมื่อยข้อมือแต่อย่างใด
สายที่ให้มาในกล่อง สำหรับรุ่นสีดำ Chacoal Black ก็จะเป็นสาย TPU สีดำครับ ผิวสัมผัสเนียนดีมาก จะข้อมือใหญ่หรือเล็กขนาดไหนก็ใส่ได้แน่นอน แถมยังสามารถถอดสายเปลี่ยนได้ง่ายมาก ส่วนสายเปลี่ยนแทนก็ขอแค่มีหน้ากว้าง 22 มม. แล้วก็ตัวล็อกเป็นแบบสลักก็ใช้ได้แล้ว (ง่ายสุดคือมองหาสายสำหรับ HONOR MagicWatch หรือของแบรนด์ใกล้เคียงกันก็ได้)
การจับคู่ HONOR MagicWatch 2 กับมือถือก็สามารถทำได้ผ่านแอป Huawei Health ครับ ซึ่งถ้าใครที่ใช้งานมือถือ Android แบรนด์อื่น ๆ อาจจะต้องติดตั้ง Huawei Mobile Service (HMS) รุ่น 4.0 ขึ้นไปด้วย โดยจะลำบากนิดนึง เพราะ HMS ที่มีให้โหลดใน Play Store ดันเป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้งานร่วมกับแอป Health ถ้าอยากจะให้ใช้งานได้ก็ต้องอาศัยโหลดไฟล์ HMS v.4 แบบ .apk จากเว็บอื่นมาติดตั้งแทน (ส่วนถ้าเอาไปใช้กับ iPhone ก็ติดตั้งแค่แอป Health ตัวเดียวเลย)
สำหรับการจับคู่ก็ไม่ยากครับ เพียงเลือกรุ่นของนาฬิกาให้ถูก จากนั้นก็รอให้อุปกรณ์เชื่อมต่อกันผ่านทาง Bluetooth แล้วก็จะมีการตั้งค่าเกี่ยวกับการแจ้งเตือนอีกนิดหน่อยก็เป็นอันเสร็จสิ้น ใช้งานได้ทันที
การเปลี่ยนหน้า watchface สามารถทำได้ทั้งจากที่ตัวนาฬิกาเอง ซึ่งจะมีติดตั้งมาให้แล้วบางส่วน และก็ทำผ่านทางแอป Health ที่จะมีหน้าปัดมาให้โหลดเพิ่มเรื่อย ๆ ด้วย
ฟังก์ชันการวัดอัตราการเต้นของหัวใจก็สามารถทำได้เร็วและมีความแม่นยำพอสมควร หากต้องการประหยัดแบตเตอรี่หน่อยก็เลือกเป็นโหมด Smart จากในแอป Health ก็ได้ครับ
ส่วนการจับเกี่ยวกับการออกกำลังกายก็ทำได้ถึง 15 รูปแบบ จะวิ่ง เดิน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือกิจกรรมแบบผสมก็รองรับหมดเลย แถมยังมีหลักสูตรช่วยในการฝึกซ้อมมาให้ ซึ่งนอกเหนือจากการแสดงข้อมูลแนะนำการฝึกแล้ว ยังมีเสียงเทรนเนอร์พูดออกมาได้ด้วยนะ เหมาะกับคนที่ใช้งานหูฟัง Bluetooth ระหว่างออกกำลังกายมากทีเดียว
ในการฟังเพลงจาก HONOR MagicWatch 2 ก็รองรับทั้งจากไฟล์เพลงในตัวเรือนเอง ที่สามารถตั้งค่าเลือกได้ว่าจะให้เสียงออกทางลำโพง หรือให้ไปออกทางหูฟัง รวมถึงยังสามารถใช้เป็นรีโมทควบคุมการเล่นเพลงของตัวมือถือก็ได้เช่นกัน
เสียงจากลำโพงภายในของ HONOR MagicWatch 2 ก็จัดอยู่ในกลุ่มมือถือลำโพงเดี่ยวครับ เน้นเสียงกลางให้คมชัดเป็นหลัก เหมาะกับการใช้พูดคุยโทรศัพท์มากกว่า เสียงออกมาค่อนข้างดังเลย
การนำเพลงเข้าไปเก็บไว้ใน HONOR MagicWatch 2 ก็ต้องทำผ่านแอป Health อีกเช่นเคยครับ โดยจะอยู่ในเมนูย่อยว่า Music ซึ่งเมื่อเปิดเข้ามาแล้วก็จะมีข้อมูลระบุว่าเหลือเนื้อที่ให้ใช้งานได้อีกเท่าไหร่ อย่างในภาพด้านบนคือผมใส่เพลงไปแล้ว 1 เพลง ยังเหลือเนื้อที่อีก 2,296 MB
ไฟล์เพลงที่ HONOR MagicWatch 2 รองรับก็จะมีเพียงแค่ MP3 เท่านั้น ถ้าเฉลี่ยว่าไฟล์เพลงแต่ละไฟล์มีขนาดประมาณ 4 MB ก็เท่ากับว่าจะสามารถใส่ไฟล์เพลงได้ราว ๆ 575 เพลง นอกจากนี้ยังมีระบบจัด playlist ให้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการไปออกกำลังแต่ไม่อยากพกมือถือไปด้วย ขอแค่มี HONOR MagicWatch 2 กับหูฟัง Bluetooth ซักคู่ ก็สามารถออกกำลังไป ฟังเพลงไป แถมยังเก็บข้อมูลได้ครบอีกด้วย
อีกหนึ่งข้อสงสัยที่อาจมีหลายคนคิดอยู่ก็คือการแสดงผลภาษาไทย เท่าที่ทดสอบ HONOR MagicWatch 2 สามารถแสดงข้อความภาษาไทยได้ดีตามภาพด้านบนครับ จะมีเรื่องสระกับวรรณยุกต์ด้านบนที่ค่อนข้างอยู่ชิดตัวอักษรนิดนึง แต่ก็ยังสามารถอ่านได้ง่ายอยู่
HONOR MagicWatch 2 นับเป็นอีกหนึ่งสมาร์ตวอทช์ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัวสมกับราคาเลยครับ ด้วยหน้าตาภายนอกที่เหมาะกับการใช้ในแทบทุกโอกาส ฟังก์ชันภายในที่ครบครันทั้งด้านการบอกเวลา การเป็นผู้ช่วยในการออกกำลังกาย ความบันเทิง การติดต่อสื่อสาร และที่สำคัญคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานเป็นสิบวัน ทำให้ผู้ใช้แทบไม่ต้องคอยกังวลเรื่องแบตเตอรี่ในแต่ละวันเหมือนกับสมาร์ตวอทช์หลาย ๆ รุ่นในปัจจุบัน
สำหรับตอนนี้ HONOR MagicWatch 2 รุ่นหน้าปัด 46 มม. จะมีด้วยกัน 2 สี คือสีดำ+สายดำ Charcoal Black แบบในรีวิวราคา 5,990 บาท และก็สีเงิน+สายน้ำตาล Flax Brown ราคา 6,490 บาท รวมถึงยังมีรุ่นหน้าปัด 42 มม. ในราคา 5,490 บาทออกมาด้วย ใครสนใจก็ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เพจ Honor Thailand ได้เลยครับ