[Review] Honor 8X มือถือจอใหญ่เต็มตา กล้องคู่ เสริมพลังด้วย AI ราคา 7,990 บาท

ปีนี้นับเป็นปีที่ Honor เข้ามาทำตลาดในไทยแบบจริงจัง โดยมือถือแต่ละรุ่นที่เข้ามาก็เรียกว่ามีจุดเด่นกันแทบทั้งนั้น เสริมด้วยสิ่งที่ทำให้ตลาดแตก ทั้งด้วยความคุ้มค่าของสเปคต่อราคา และรูปลักษณ์ที่โดดเด่นไม่แพ้มือถือรุ่นท็อป รวมไปถึงรุ่นใหม่ล่าสุดในรีวิวบทความนี้ นั่นคือ Honor 8X ด้วยเช่นกันครับ

สำหรับ Honor 8X จัดเป็นมือถือรุ่นคุ้มค่าที่อัดแน่นมาด้วยฟีเจอร์ซึ่งช่วยเสริมการทำงานให้กับส่วนต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบ AI ของกล้องถ่ายรูป จอแสดงผลคุณภาพสูงที่มาพร้อมฟังก์ชันถนอมสายตา ไปจนถึงเทคโนโลยี GPU Turbo ที่ช่วยให้การเล่นเกมเป็นไปได้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ก่อนที่เราจะไปชมรีวิวและหน้าตาของ Honor 8X กันแบบเต็ม ๆ เรามาดูสเปค Honor 8X เครื่องนี้กันก่อนเลย

Review Honor 8X Red SpecPhone 19

สเปค Honor 8X

    • ชิปประมวลผล Kirin 710 มี 8 คอร์ประมวลผล ความเร็ว 2.2 GHz (4 คอร์ Cortex-A73) และ 1.7 GHz (4 คอร์ Cortex-A53)
    • ชิปกราฟิก Mali-G51 MP4 พร้อมเทคโนโลยี GPU Turbo
    • แรม/พื้นที่เก็บข้อมูลที่มีให้เลือก:
      • 4GB/64GB (เครื่องที่รีวิว
      • 4GB/128GB
  • หน้าจอ FullView Display 2.0 ขนาด 6.5 นิ้ว LTPS-LCD ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) อัตราส่วนจออยู่ที่ 19.5:9
  • จอสามารถแสดงสีได้ครอบคลุมถึง 85% ของมาตรฐาน NTSC และมาพร้อมโหมดถนอมสายตาที่ได้การรับรองโดย TÜV Rheinland
  • Android 8.1 Oreo ครอบมาด้วย EMUI 8.2
  • กล้องหลังคู่
    • กล้องหลัก AI Camera ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล f/1.8 ระบบโฟกัสแบบ PDAF
    • กล้องรองความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ใช้เก็บข้อมูลระยะความลึก
  • กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0
  • รองรับ 4G VoLTE พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมถึงสามารถเพิ่ม MicroSD ได้ (ถาดแบบแยก)
  • แบตเตอรี่ 3750 mAh
  • ช่องชาร์จไฟแบบ Micro USB และยังมีช่องเสียบแจ็กหูฟังขนาด 3.5 mm. อยู่
  • มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบสแกนใบหน้าสำหรับการปลดล็อกหน้าจอ
  • ราคา Honor 8X เริ่มต้นที่ 7,990 บาท

จากสเปค จะเห็นว่ามีการนำฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์เข้ามาเสริมจุดเด่นให้ตนเองขึ้นไปอีก ตัวอย่างเช่น หน้าจอที่ใหญ่เต็มตาอยู่แล้ว ก็เสริมด้วยคุณภาพของการแสดงผล ส่วนชิปประมวลผลกับชิปกราฟิกที่อาจจะดูเบาไปนิดสำหรับการเล่นเกม แต่ก็เสริมด้วยเทคโนโลยี GPU Turbo ที่จะช่วยให้การเล่นเกมเป็นไปได้อย่างไหลลื่นมากขึ้น รวมถึงแบตเตอรี่ที่ให้มาอย่างจุใจ เหมาะกับผู้ที่มองหามือถือจอใหญ่ ใช้งานได้ครบครัน และใช้ได้หมดวันแบบไม่ต้องกังวลเลยทีเดียวครับ

ดีไซน์ หน้าตา

Review Honor 8X Red SpecPhone 9

Honor 8X มีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอเลยครับ เพราะมันใหญ่เต็มตาเต็มเครื่องมาก ๆ ด้วยขอบจอบางเฉียบ อย่างขอบล่างของจอก็มีความบางสุดเพียง 4.25 มิลลิเมตรเท่านั้นเอง ซึ่งนับว่าเป็นการทะลายข้อจำกัดในด้านการออกแบบและการผลิตสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบันได้ข้อหนึ่งเลย โดยเทคโนโลยีที่ Honor เลือกใช้ก็คือเทคโนโลยี Chip on Film (COF) ซึ่งเป็นการปรับเอาชิปควบคุมจอสัมผัสจากที่ปกติจะอยู่ตรงส่วนล่างของจอ ให้ไปอยู่บนแผ่นเดียวกับตัวจอแทน ส่งผลให้สามารถลดความหนาของขอบล่างจอลงได้ครับ

ส่วนขอบกระจกของหน้าจอก็จะเป็นลักษณะโค้งแบบ 2.5D ให้สัมผัสที่ลื่นไหล ไม่มีส่วนที่บาดมือระหว่างจับถือเลย

Review Honor 8X Red SpecPhone 18

อัตราส่วนหน้าจอคิดเป็นกว่า 91% ของตัวเครื่องเลยทีเดียว ทำให้มันเหมาะกับการใช้รับชมภาพยนตร์ที่เป็นอัตราส่วน 21:9 มากกว่าจอแบบ 16:9 รวมถึง 18:9 ที่เป็นอัตราส่วนยอดนิยมในปัจจุบัน ภาพที่ได้จากจอก็คมชัด สีสันสวยงาม ใช้งานกลางแจ้งได้สบายมาก

แต่อย่างที่เห็นในภาพด้านบนครับ คือจริง ๆ มันก็ยังคงมีรอยบาก (notch) หรือที่เรียกกันว่าติ่งจออยู่ด้วยเช่นกัน ยังดีที่ขนาดของมันจัดว่าทำมาแบบพอดีตัวมาก ๆ โดยภายในนั้นก็จะมีลำโพงสนทนา กล้องหน้า และเซ็นเซอร์วัดแสงกับวัดระยะห่างตามปกติครับ อย่างไรก็ตาม ในเมนูการตั้งค่าเครื่อง ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะถมพื้นที่ข้าง ๆ รอยบากจอด้วยสีดำได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะช่วยลดปัญหาการรบกวนสายตาลงได้บ้างเหมือนกัน

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็คือโหมดถนอมสายตา (Eye Comfort) ที่หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยเจอกับในมือถือ แท็บเล็ตเครื่องอื่นมาบ้างแล้ว กับการที่ระบบจะปรับภาพให้มีการปล่อยแสงสีฟ้าออกมาน้อยลง ส่งผลให้ภาพติดเหลืองมากขึ้น เพื่อป้องกันอาการเมื่อยล้าของดวงตา แต่สำหรับตัวระบบของโหมดถนอมสายตานี้ ได้ผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland อย่างเป็นทางการด้วย ก็เป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับการใช้งานจริงได้เป็นอย่างดี

Review Honor 8X Red SpecPhone 3

ฝาหลังบอกเลยว่าสีสันมันสวยสดบาดใจมากครับ โดยโครงสร้างหลักของตัวเครื่องก็เป็นโลหะตามปกตินี่แหละ แต่ฝาหลังจะมีกระจก 2.5D Aurora Glass ปิดอยู่ด้วย แถมยังมีการออกแบบให้ภายในเนื้อกระจกมีความแตกต่างกัน โดยในส่วนที่เป็นแถบของกล้องหลังไปจนถึงชื่อ Honor จะมีลักษณะเหมือนเป็นพื้นผิวสากอยู่ภายใน แล้วส่วนล่างจะเป็นกระจกที่มีการทำลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Honor เอง โดยตัวกระจกนั้นได้รับการเคลือบมาถึง 15 ชั้น ช่วยให้เกิดเฉดสีที่แวววาว สะท้อนเฉดสีได้หลากหลายมุมมอง

Review Honor 8X Red SpecPhone 8

ตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ถือว่าอยู่ในจุดที่กำลังพอดี ๆ ครับ ไม่สูงไม่ต่ำไป

6

ปุ่มกดและพอร์ตมีดังนี้

  • ด้านบน: ช่องรับเสียงของไมค์ช่วยตัดเสียงรบกวน
  • ด้านล่าง: ช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 mm. / ช่องรับเสียงของไมค์สนทนา / ช่อง Micro USB / ลำโพง
  • ด้านซ้าย: ถาดใส่ 2 ซิม และ 1 MicroSD
  • ด้านขวา: ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power

ส่วนอุปกรณ์ที่มีให้มาในกล่องก็จะเป็นของใช้จำเป็นทั่วไป ได้แก่ อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ (5V 2A) สายชาร์จแบบ Micro USB หูฟัง เคส เข็มจิ้มถาดซิม

ซอฟต์แวร์ของ Honor 8X

1 1

ระบบปฏิบัติการก็จะเป็น Android 8.1 Oreo ที่ครอบมาด้วย ENUI 8.2 ครับ จัดว่าเป็นเวอร์ชันที่ค่อนข้างล่าสุดกันทั้งคู่เลย ดูแววแล้วก็คาดว่าน่าจะได้รับการอัพเกรดเป็น Android 9.0 ในอนาคต เรื่องของ UI หน้าจอต่าง ๆ หากว่าเคยใช้งาน หรือกำลังใช้งานมือถือ Honor อยู่แล้ว (รวมถึง Huawei ด้วย) ก็สามารถใช้งานได้แบบแทบไม่ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมครับ เนื่องจากรูปแบบการจัดวางเมนูต่าง ๆ จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

พื้นที่เก็บข้อมูลจะมีความจุตามสเปคคือ 64 GB โดยหลังจากเปิดเครื่องขึ้นมาใช้งานครั้งแรกจะเหลือให้ใช้ได้ประมาณ​ 53 GB ทั้งยังสามารถเพิ่ม MicroSD ไปพร้อมกับการใส่ 2 ซิมได้อีก ตรงจุดนี้ถือว่าถูกใจผมมาก ๆ เลยครับ เพราะผมไม่ต้องตัดสินใจเลือกแล้วว่าจะใส่ซิมคู่ หรือใส่ซิม+MicroSD

ด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ขอบบางเฉียบแบบ FullView ทำให้ Honor 8X เหมาะจะใช้ในการดูหนังบนเครื่องมาก ๆ โดยเฉพาะใครที่เป็นสาวก Netflix ก็หมดห่วงได้เลย เนื่องจาก Honor 8X ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน Winevine ที่ระดับ L1 ทำให้สามารถรับชมภาพยนตร์จาก Netflix ได้ที่ความละเอียดระดับสูงสุด (HD ขึ้นไป) แบบไม่ต้องกังวล

กล้องถ่ายรูป

Review Honor 8X Red SpecPhone 6

กล้องหลังก็ยังคงมาในคอนเซ็ปท์กล้องคู่เช่นกัน โดยกล้องตัวบนจะใช้สำหรับเก็บระยะความตื้นลึกของวัตถุในภาพ เพื่อนำไปใช้ประมวลผลจากการถ่ายภาพในโหมด Portrait และโหมด Aperture ส่วนกล้องตัวล่างก็คือกล้องหลักความละเอียด 20 ล้านพิกเซล โดยกล้องทั้งสองตัวจะนูนขึ้นจากฝาหลังพอสมควรเลย แนะนำว่าควรหาเคสที่นูนเกินกว่าความหนาของกล้องหลังเล็กน้อย เพื่อป้องกันปัญหารอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นกับกระจกปิดหน้าเลนส์ครับ

การประมวลผลภาพด้วย AI

4

การนำ AI มาช่วยประมวลผลทั้งก่อนและหลังถ่ายภาพ กลายเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่ง AI จะทำหน้าที่คล้ายกับในรุ่นอื่นครับ ถ้าหากเปิดใช้งาน เมื่อผู้ใช้แพนกล้องไปยังวัตถุหรือบริเวณที่จะถ่ายภาพ AI ก็จะพยายามตรวจจับว่าน่าจะเป็นซีนถ่ายภาพในลักษณะใด เช่น ซีนถ่ายท้องฟัา ซีนถ่ายอาหาร ซีนถ่ายตัวอักษร จากนั้นมันก็จะพยายามปรับแต่งภาพให้เหมาะสม เช่น เร่งสีท้องฟ้า เร่งสีใบไม้ให้สดใสขึ้น เป็นต้น ช่วยลดระยะเวลาในการแต่งรูปของผู้ใช้งานลงได้พอสมควรเลย

อย่างไรก็ตาม จากที่ผมรีวิวมา กลับพบว่าบางภาพที่ AI ตรวจจับและแต่งภาพให้มันก็ใส่สีสันมาให้มากเกินไปนิดนึง ตรงจุดนี้ แอปกล้องเองก็มีตัวเลือกมาให้ผู้ใช้งานสามารถปิดหรือเปิดการทำงานของ AI ได้ตั้งแต่ก่อนถ่ายได้อย่างง่ายดายแบบไม่ต้องเข้าไปเมนูลึก ๆ อีกต่อไป

นอกจากนี้ หลังจากจัดเก็บภาพลงในเครื่องแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเข้าไปปิด/เปิด การแต่งภาพของ AI หลังถ่ายมาแล้วได้จากในแกลเลอรี่ได้อีกด้วย อย่างในภาพชุดด้านบน เป็นภาพที่ผมแคปมาให้เห็นความแตกต่างระหว่างภาพที่ถ่ายมาโดยภาพซ้ายจะเป็นภาพที่เปิดการทำงานของ AI ส่วนภาพขวาของแต่ละชุดก็คือผมเลือกปิด AI ไป จะเห็นว่าความสดใส สีสันของภาพมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด (การปิด/เปิดการแต่งภาพของ AI ในแกลเลอรี่ จะทำได้เฉพาะภาพที่ถ่ายมาโดยมีการเปิด AI ในตอนถ่ายเท่านั้น)

การละลายหลังด้วยความสามารถของกล้องคู่3

ส่วนภาพที่ผู้ใช้เลือกถ่ายมาจากโหมด Portrait และ Aperture ระบบจะมีการบันทึกข้อมูลระยะของแต่ละวัตถุในภาพเอาไว้ ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสและปรับความเบลอของพื้นหลังได้ อย่างในภาพด้านบน ผมเลือกถ่ายด้วยโหมด Portrait (ในโหมด Portrait จะมีตัวเลือกให้ผู้ใช้เบลอแสงไฟเบื้องหลังให้เป็นลักษณะโบเก้ได้ด้วย) จากนั้นผมเปิดภาพจากในแกลเลอรี่ แล้วเลื่อนเพื่อปรับระดับความเบลอของพื้นหลังซึ่งมีการอ้างอิงโดยใช้ค่ารูรับแสงจำลองที่มีให้ปรับตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16 เลยทีเดียว ส่วนภาพขวาสุดก็คือผลลัพธ์สุดท้าย ซึ่งผมเลือกค่ารูรับแสง f/4.5 ครับ

โหมด Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืน

อีกฟีเจอร์ที่อยู่ในแอปกล้องก็คือโหมด Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืนครับ โดยหลักการทำงานแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือระบบจะเปิดหน้ากล้องค้างไว้ให้นานกว่าการถ่ายปกติ ช่วยให้สามารถเก็บแสงสว่างมาได้มากขึ้น พร้อมทั้งมีการประมวลผลภาพเพื่อลด noise รบกวน และเพิ่มความคมชัดให้กับภาพถ่าย ซึ่งโหมดนี้ก็มักจะพบอยู่ในมือถือรุ่นราคาหลักหมื่นอัพ แต่ Honor ก็จับมาใส่ Honor 8X ตัวนี้ด้วย แถมผลลัพธ์ก็จัดว่าไม่แย่ซะด้วย ลองชมตัวอย่างภาพได้จากแกลเลอรี่ด้านล่างนี้เลยครับ

Honor 8X : Night Shotซึ่งภาพที่ได้จากโหมด Night จะมีความคมชัด มีดีเทล และความสว่างที่มากกว่าการถ่ายด้วยโหมด Auto แบบเห็นได้ชัด แต่ถ้าลองซูมดูแต่ละส่วนใกล้ ๆ จะพบว่าระบบทำการประมวลผลภาพเพื่อทำการลด noise จนรายละเอียดบางส่วนในภาพหายไปเลย เช่น พื้นผิววัตถุ ซึ่งถือว่าอยู่ในจุดที่ยอมรับได้ครับ เพราะภาพที่ได้ออกมาจัดว่าอยู่ในระดับที่เอาไปแชร์ได้โดยไม่ต้องอายใครเลย

ส่วนวิธีในการถ่ายด้วยโหมด Night นั้น ผู้ถ่ายจะต้องมือนิ่งมาก ๆ อาจจะพาดแขนไว้กับวัตถุอื่น หรือใช้ขาตั้งกล้องช่วย เนื่องจากจะต้องถือเครื่องค้างไว้ประมาณ 4 วินาที

สำหรับภาพอื่น ๆ จากกล้องหลังสามารถรับชมได้จากแกลเลอรี่ด้านล่างนี้เลย

Honor 8X: Camera Roll

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

2 1

เนื่องด้วยเฟิร์มแวร์ที่ทางเราได้รับมารีวิวยังไม่ใช่ตัวสมบูรณ์ ผมเลยพบข้อจำกัดบางส่วนในการทดสอบประสิทธิภาพ เช่น ผมไม่สามารถติดตั้งแอป CPU-Z, AnTUTU และ GeekBench ได้ ไม่ว่าจะทั้งจาก Play Store หรือแม้กระทั่งจะนำไฟล์ apk มาติดตั้งก็ตาม รอบนี้ผมเลยปรับการทดสอบตรงส่วนนี้นิดหน่อยครับ อย่างข้อมูลชิปประมวลผลก็เลือกใช้ AIDA64 แทน จะขาดก็แต่ผลทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของทั้งระบบเท่านั้นเอง

สำหรับชิปประมวลผล Kirin 710 นั้น หากถ้าจะเทียบรุ่นกับชิปของฝั่ง Qualcomm ก็คงอยู่ในกลุ่มใกล้เคียงกับ Snapdragon 660 หรือ Snapdragon 636 ครับ นั่นคือสามารถใช้งานทั่วไปได้ดีพอตัว ส่วนการเล่นเกมก็อยู่ในระดับที่ทำได้ แต่อาจจะต้องปรับกราฟิกลงมานิดหน่อย ด้านประสบการณ์การใช้งานทั่วไปจัดว่าไหลลื่นในระดับที่สมาร์ทโฟนที่ดีควรจะเป็นเลยครับ แรม 4 GB ก็เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไปได้สบาย ๆ

ส่วนการเชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G ในไทย เท่าที่ผมทดสอบกับทั้งซิมทรูและซิม AIS แล้ว พบว่าไม่สามารถจับคลื่นแบบ CA ได้เลย (สัญลักษณ์ 4G เฉย ๆ ไม่มี +) ส่วนความเร็วก็ได้สูงสุดตามภาพด้านบนครับ อย่างไรก็ตาม Honor 8X เครื่องที่ทางเรารีวิวนี้อาจจะยังไม่ตรงกับเครื่องขายจริง 100% ยังไงก็คงต้องตรวจสอบกันอีกครั้งนะ

ด้านการใช้งานแบตเตอรี่ ต้องบอกว่าเป็นจุดที่ทำได้ดีมาก สามารถใช้งานอย่างเต็มที่ได้เต็มวันแบบไม่ต้องกลัวว่าแบตจะหมด ด้วยทั้งจากแบตเตอรี่ความจุถึงกว่า 3750 mAh ประกอบกับสเปคที่ไม่ได้กินไฟมากนัก ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

5

ในแง่ของการเล่นเกมบน Honor 8X ผมทดสอบด้วยการเปิดเกมผ่านแอป Game Suite ซึ่งมีตัวเลือก Game acceleration ที่ช่วยให้การเล่นเกมมีประสิทธิภาพดีขึ้น ส่วนเกมที่ทดสอบเกมแรกคือ ROV ผลคือสามารถปรับกราฟิกระดับ HD ได้ แต่ไม่มีตัวเลือกของโหมดเฟรมเรตสูงมาให้ใช้งาน ทำให้เฟรมเรตระหว่างเล่นจะคงที่อยู่ตรง 30 fps ตลอดเวลา กราฟิกโดยรวมระหว่างเล่นก็ไหลลื่นดีครับ อยู่ในระดับที่น่าพอใจเลย

ส่วนอีกเกมก็คือ PUBG Mobile ซึ่งเมื่อเปิดเกมมาครั้งแรก ตัวเกมก็แจ้งว่าระดับกราฟิกที่เหมาะสมกับเครื่องคือระดับกลาง ส่วนพอเข้าไปเล่นจริง การแสดงผลโดยรวมก็อยู่ในระดับที่ดี แต่ผมพบปัญหาเกมกระตุกเวลายิงปืน ซึ่งบางครั้งทำให้ผมเสียจังหวะในการหันปืนตามคู่ต่อสู้ได้เหมือนกัน ดังนั้น หากต้องการความแน่นอน อาจจะปรับระดับกราฟิกลงซักเล็กน้อยจะดีกว่าครับ เพื่อความลื่นไหล

Overall

Review Honor 8X Red SpecPhone 20

Honor 8X นับว่าเป็นมือถือจอใหญ่อีกรุ่นที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งด้านของดีไซน์ที่โดดเด่น สเปคที่ให้มากำลังดี เสริมด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมการใช้งาน ทั้งพลัง AI ระบบ GPU Turbo และอีกหลาย ๆ สิ่งที่กล่าวไปแล้วในรีวิวข้างต้น ซึ่งหากใครที่กำลังมองหามือถือจอใหญ่ สเปคโอเค ราคาคุ้มค่า แถมดีไซน์ยังสวยงามในระดับใกล้เคียงกับมือถือรุ่นท็อป ๆ ก็เตรียมจัด Honor 8X กันได้เลย รับรองว่าเต็มตาตรึงใจแน่นอน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก