ถ้าพูดถึงแบรนด์ ASUS แล้ว หลายคนคงนึกถึง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เช่น Motherboard การ์ดจอเป็นแน่ แต่ถ้าหากพูดถึงสมาร์ทโฟนของทาง ASUS แล้วละก็หลายคนคงนึกถึง Zenfone แน่นอน ในตอนแรกที่ประสบความสำเร็จในซีรีย์ Zenfone 4 5 และ 6 ที่มีจุดเด่นตรงราคาถูกแต่สเปคที่ได้รับคุ้มค่า เป็นรุ่นแจ้งเกิดของ ASUS เลยทีเดียวเชียว
ถัดมาสู่ Generation ที่สองของซีรีย์ Zenfone หรือ Zenfone 2 ยังคงจุดเด่นเดิมคือราคาไม่สูงแต่ได้สเปคที่แรง จนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และ Generation ล่าสุดอย่าง Zenfone 3 ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง คือการหันมาใช้ CPU จากทาง Qualcom (ก่อนหน้านี้ใช้ Intel เป็นหลัก) และการใช้วัสดุตัวเครื่องที่เป็นโลหะ และกระจก งานประกอบดี ตัวเครื่องที่สวยงาม ดึงดูดความสนใจไม่น้อย
ASUS Zenfone Zoom S เป็นโทรศัพท์มือถือที่เปิดตัวในปี 2017 ตามหลัง Zenfone 3 ในตอนแรก ASUS Zenfone Zoom S (ZE553KL) นั้นได้ชื่อว่า Zenfone 3 Zoom แต่พอเข้าไทยก็ได้ชื่อว่า Zenfone Zoom S มือถือกล้องคู่พลังซูมออปติคอล 2.3 เท่า และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh โดย ASUS Zenfone Zoom S (ZE553KL) เป็นมือถือรุ่นที่ 2 ต่อจาก Zenfone Zoom รุ่นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่มีความบางมากกว่า ดูจากภายนอกคร่าว ๆ แล้ว ทำให้นึกถึง ASUS Zenfone 3 รุ่นที่วัสดุเป็นโลหะ กล้องคู่ และสีที่เหมือนกันเลยละครับ
สเปค ASUS Zenfone Zoom S (ZE553KL)
- CPU Qualcomm Snapdragon 625 Octa-core ความเร็ว 2.0GHz
- GPU Adreno 506
- Ram 4GB
- Rom 64GB (เพิ่ม Micro SD ได้สูงสุด 2TB)
- หน้าจอ 5.5นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 AMOLED display with 2.5D contoured Corning Gorilla Glass 5
- วัสดุ aluminum-alloy
- กล้องหลังคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิเซล
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
- Android 6.0 with ZenUI 3.0
- น้ำหนัก 170 กรัม
- ราคา 16,990 บาท
ภายในกล่องของ ASUS Zenfone Zoom S ก็ให้อุปกรณ์มาไม่ขาดตกบกพร่อง ประกอบไปด้วย ตัวเครื่อง ASUS Zenfone Zoom S อะแดปเตอร์ 5V – 2A, สาย USB Type-C สาย USB-OTG หูฟังพร้อมจุกยาง 2 ขนาด และคู่มือการใช้งาน
จุดเด่น
- แบตอึดมากๆ ถึง 5000 mAh และยังชาร์จให้เครื่องอื่นได้อีก
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบาเพียง 170 กรัม แม้ว่าจะให้แบตเตอรี่มาถึง 5000 mAh
- งานประกอบแน่นหนา
- สเปคแรงพอตัว ใช้งานได้ลื่น เล่นเกมได้ดี
- ภาพถ่ายในที่แสงน้อย ถ่ายได้ภาพสว่างมาก
- มีลูกเล่นปรับแต่งกล้องได้มากมาย
- กล้องโฟกัสไวมาก
ข้อสังเกต
- ปุ่มไม่มีไฟทำให้การใช้งานในที่มืดจะมีการกดไม่โดนปุ่มบ้าง
- ซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot ต้องเลือกระหว่างซิม 2 กับ Micro SD Card
- WiFi ที่ให้มายังเป็นแค่ Wireless n น่าจะให้มาเป็น Wireless ac
- ซอฟต์แวร์กล้องยังไม่สมบูรณ์(รอ Android 7.0)
- กล้องหลังนูนจากตัวเครื่องเล็กน้อย
บทสรุป
ASUS Zenfone Zoom S เป็นสมาร์ทโฟนที่มีจุดเด่นเรื่องกล้องที่มีลูกเล่นแพรวพราวและเลนส์คู่ สามารถทำหน้าชัดหลังเบลอได้ และถ่ายภาพในที่มืดได้ออกมาสว่าง ในส่วนของซอฟต์แวร์กล้องจะต้องรออัปเดต Android 7.0 ซักเล็กน้อยเพื่อให้ซอฟต์แวร์กล้องนั้นสมบูรณ์ จึงมีบางฟีเจอร์ที่เราไม่สามารถทดสอบให้ได้ แบตเตอรี่ที่อึดสามารถใช้งานแบบไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดระหว่างวันหรือเปล่า แม้ว่าตัวเครื่องจะมีแบตเตอรี่มาให้มากถึง 5000 mAh แต่ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 170 กรัมเท่านั้น หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ และสีสันสวยงามเหมาะกับการนำไปใช้งานหลายรูปแบบ สเปคตัวเครื่องที่ลงตัวแม้ว่าจะไม่แรงที่สุดในระดับราคานี้ แต่แบตเตอรี่และการจัดการพลังงานนั้นไม่ได้เป็นรองใครแม้แต่น้อย(เหนือกว่าด้วยซ้ำ) ใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่กล้องลูกเล่นเยอะ และแบตเตอรี่อึด จัดได้เลยกับ ASUS Zenfone Zoom S ในราคาหมื่นกลางๆ ครับ รับรองว่าตอบโจทย์แน่นอน
BEST CAMERA SMARTPHONE
Design
ASUS Zenfone Zoom S ถ้าจะให้คำนิยามการออกแบบสั้น ๆ มันก็คือ ASUS Zenfone 3 รุ่นตีบวก ตัวเครื่องเป็นโลหะ และกล้องเลนส์คู่ ที่เห็นได้แบบชัดเจน และแม้ว่าตัวเครื่องจะมีแบตเตอรี่ถึง 5000 mAh แต่มีน้ำหนักเพียง 170 กรัม เป็นโทรศัพท์มือถือที่แบตเตอรี่ความจุเยอะแต่เบามาก!!
รายละเอียดต่าง ๆ ด้านหน้า หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ในส่วนของความละเอียดหน้าจอระดับ Full HD เรียกได้ว่าเหมาะสมกับหน้าจอ 5.5 นิ้ว ให้ความคมชัด และที่สำคัญไม่กินทรัพยากรของเครื่องมากเกินไป ตามมาด้วยกระจก Gorilla Glass 5 แบบ2.5D ตามสมัยนิยม
สีสันหน้าจอนั้นหน้าจอของ ASUS Zenfone Zoom S จะออกไปทางสดจัดจ้านตามสไตล์จอแบบ AMOLED ทำใหการภาพและดูวิดีโอได้อย่างดี ด้านบนของหน้าจอ มีไฟแจ้งเตือน กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์วัดแสง ด้านล่างของหน้าจอ ปุ่ม Back Home Recent app เป็นปุ่มแบบ Hard Key ที่ดันไม่มีไฟใต้ปุ่มซะงั้น
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีช่องใส่ซิมแบบ Hybrid slot รองรับ Micro SD ได้สูงสุด 2 TB ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ปุ่ม Power ดีไซน์แบบ Zen design ด้านบนมีไมค์ตัดเสียงรบกวน ด้านล่างช่องเสียบหูฟัง 3.5 ไมโครโฟน USB Type-C ลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ด้านหลัง มุมบนซ้ายจะเป็นกล้องเลนส์คู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพ และ 12 ล้านพิกเซล สำหรับซูม ในส่วนบริเวณกล้องจะพบว่ามีกระจกนูนออกมาจากเครื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถัดลงมาเซ็นเซอร์วัดสี RGB แฟลช์ LED Dual Tone เซ็นเซอร์วัดแสง Laser Auto-Focus ถัดไปอีกนิดจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือซึ่งทำงานได้เร็วมาก ๆ และด้านล่างของตัวเครื่องจะมีโลโก้ ASUS ตัวเครื่องเป็นวัสดุโลหะ ทำจาก Aluminum-Alloy
เวลาตอนใช้งานปกติการจับถือเครื่องนั้นทำได้ดี สำหรับคนที่ใช้มือถือหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วอยู่แล้วการจับถือคงไม่เป็นปัญหาอะไรแต่สำหรับคนที่ใช้มือถือหน้าจอที่เล็กกว่านี้อาจจะรู้สึกขาด ๆ เกิน ๆ ได้ การจับถือตัวเครื่องตอนเวลาเล่นเกมที่ต้องใช้ตัวเครื่องแบบแนวนอน พบว่าบางจังหวะมือเราอาจจะไปบังลำโพงจนเสียงนั้นเบาลงไป แต่ก็แก้ไขได้ด้วยการเลื่อนมือลงไปอีกนิด
ในภาพรวมในส่วนของการดีไซน์ ASUS Zenfone Zoom S หน้าตาโดยรวมไม่ได้แตกต่างจาก ASUS Zenfone 3 มากเท่าไหร่นัก จะแตกต่างกันตรงบริเวณที่วางกล้อง และที่เสียบหูฟัง 3.5 ในเรื่องการจับถือก็ได้อย่างที่กล่าวไปข้างต้น แต่สำหรับผมก็ต้องมีการปรับตัวกันบ้าง (กลัวลื่นหลุดมือ) อีกข้อสังเกตหนึ่งคือเวลาเรามีเหงื่อออกที่มือเครื่องจะเป็นรอยนิ้วมือและ สกปรกเร็วมาก แต่ด้วยวัสดุโลหะทำให้ทำความสะอาดง่ายเช่นกัน
Software
ASUS Zenfone Zoom S มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 ครอบทับด้วย ZenUI 3.0 (รองรับการอัพเกรดเป็น Android 7.0) ตัวไอคอนมีความใหญ่ ใช้งานง่าย พร้อมจุดเด่นเรื่องเสียงและการจัดการพลังงาน
ASUS Zenfone Zoom S มาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น ตัวจัดการโทรศัพท์มือถือ ที่จะรวมเอาการทำงานในหลาย ๆ ด้านมาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ การใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต 3G 4G ,การปรับแต่งการใช้งานของแบตเตอรี่ ,การเร่งความเร็วของเครื่อง ,การตั้งค่าการแจ้งเตือน ,การจัดการที่เก็บข้อมูล ,ความปลอดภัย และสิทธิการเข้าถึงส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง เป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นที่ใช้ได้งานสะดวกอีกแอพพลิเคชั่นหนึ่ง
Hi-Res Audio เป็นมาตรฐานที่เคลมว่าเสียงที่บันทึกมีความละเอียดสูงกว่า Audio CD อุปกรณ์ต้องรองรับความละเอียดที่ 24-bit 96 kHz ขึ้นไป และรองรับความถี่ที่ 40 kHz ขึ้นไป หรือที่รู้จักกันในชื่อไฟล์ WAV และ FLAC เป็นไฟล์เสียงที่มีคุณภาพสูงมาก ใครที่เคยเล่นเครื่องเสียงหูฟังคงจะคุ้นเคยกับไฟล์เหล่านี้เป็นอย่างดี Hi-Res Audio ขึ้นชื่อเรื่องความเทพของคุณภาพไฟล์ แต่แลกมากับขนาดที่ใหญ่ จึงได้รับความนิยมเท่า MP3 ที่คุณภาพด้อยกว่าแต่ไฟล์ก็มีขนาดเล็กกว่าเช่นกัน
แรกเริ่มเดิมทีนั้น เทคโนโลยี Hi-Res Audio จะมีใน สมาร์ทโฟนและเครื่องเล่นจากทาง Sony เท่านั้น (เพราะ Sony เป็นหนึ่งในผู้พัฒนา ) แต่หลังจากมาตรฐานนี้เป็นยอมรับและแพร่หลาย ปัจจุบันก็ได้ถูกนำมาใส่ในสมาร์ทโฟนค่ายอื่น ๆ บ้างแล้วแต่ราคาก็สูงเหมือนกัน สำหรับใครที่ชื่นชอบเทคโนโลยี Hi-Res Audio ASUS Zenfone Zoom S ได้รองรับไม่แพ้รุ่นแพงสูง ๆ แล้ว แต่หูฟังที่นำมาใช้นั้นต้องรองรับด้วยเช่นกันถึงจะได้ประสิทธิภาพเต็มที่
DTS Headphone X เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยจัดการเรื่องทิศทางของเสียง ทำให้เสียงมีมิติสมจริง และสามารถปรับEQ เหมาะกับการดูหนังหรือเล่นเกมที่มีทิศทางเสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงที่ชอบฟังเสียงร้องเป็นหลักอาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ น่าจะถูกใจกับตัวชิปเสียงที่มีมาให้มากกว่า DTS Headphone X สามารถใช้ร่วมกับหูฟังที่มีสายหรือหูฟัง Bluetooth ไร้สายด้วยเช่นกัน
Camera
ในส่วนของกล้องที่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ ASUS Zenfone Zoom S นั้นมีลูกเล่นมากมายแพรวพราวให้ได้ใช้งาน ด้วยจุดเด่นคือระบบกล้องและเลนส์คู่แบบ SuperPixel รูรับแสงขนาด f/1.7 พิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน เซ็นเซอร์ SONY IMX362 (เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.55 นิ้ว) ตัวซอฟต์แวร์กล้องทำงานได้เร็ว ไม่มีพลาด
กล้องของ ASUS Zenfone Zoom S ทั้ง 2 ตัว มีความยาวโฟกัสแตกต่างกัน โดยตัวเครื่องจะทำการเลือกกล้องที่ดีที่สุดในการใช้งานขณะนั้น รองรับ Optical Zoom 2.3 เท่า และ Digital Zoom 12 เท่า กล้องหลัก SuperPixel รูรับแสง f/1.7 พิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน เซ็นเซอร์ในการถ่ายภาพ Color Correction Sensor ระบบออโต้โฟกัส 0.03 วินาที TriTech ประกอบได้ด้วย Dual Pixel PDAF Sensor (เซ็นเซอร์ตรวจจับการโฟกัสแบบ PDAF) ระบบโฟกัสเลเซอร์ OIS แบบ 4 แกน และ EIS แบบ 3 แกน รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K
กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิเซล รูรับแสง f/2.0 มีโหมดมาให้ใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดบิวตี้ที่ปรับได้ละเอียดทำเอาผมจำตัวเองแทบไม่ได้ และกล้องหน้าพาโนราม่า และการถ่ายวีดีโอแบบสโลโมชั่น เป็นต้น
สิ่งที่ผมประทับใจมากกล้องของ ASUS Zenfone Zoom S คือฮาร์ดแวร์ที่ครบครันและความเร็วของซอฟต์แวร์ โดยในโหมด Auto เหมาะสำหรับการถ่ายภาพทั่วไป เรียกได้ว่าถ่าย ๆ ไปก็ออกมาดูดีได้ การโฟกัสทำได้เร็วในที่แสงปกติและทำออกมาได้ดีเรียกได้ว่าหยิบมาถ่ายได้ทันไม่มีพลาด การถ่ายตอนกลางคืน หรือที่แสงน้อย จะพบว่ามี Noise เข้ามากวนใจบ้าง แต่ภาพที่ออกมานั้นสว่างมาก
ส่วนคนที่เป็นมือโปร โหมด Manual ก็มีมาให้ปรับตั้งค่ากันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น ชัตเตอร์สปีด ที่สูงสุดถึง 32วินาที ISO สูงสุดถึง 12800 อีกหนึ่งในโหมดการถ่ายภาพที่ผมชื่นชอบคือหน้าชัดหลังเบลอ เรียกได้ว่าเบลอได้ถูกใจผมมาก ด้วยผลของรูรับแสง f/1.7 ทดลองถ่ายกับวัตถุที่มีความแตกต่างกับฉากหลังแล้วทำงานได้ดี และโหมด HDR Pro ทำให้ภาพถ่ายออกมาสว่างขึ้นแม้ว่าจะถ่ายย้อนแสงก็ตาม
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังและกล้องหน้าของ ASUS Zenfone Zoom S
Performance
ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625 ใน ASUS Zenfone Zoom S ถึงจะเป็น CPU ตัวกลาง แต่ไม่ได้ทำให้การใช้งานสะดุดแต่อย่างไร ทดสอบโดยเล่นเกม ROV ทำได้ลื่นไหล มีกระตุกให้เห็นน้อยมาก ๆ และตอน All 5 VS. 5 ไม่มีอาการแลคให้หัวร้อนอย่างแน่นอน (ถ้าแลคผมว่าน่าจะเป็นที่ Network คุณเองมากกว่า) เกมอื่น ๆ เล่นได้สบายหายห่วง ในส่วนคะแนน AnTuTu Benchmark อยู่ที่ระดับ 60,000 กลาง ๆ ไม่ได้แรงระดับ Snapdragon 8xx แต่ก็แลกมากับการประหยัดพลังงานที่ดีนั่นเอง
การใช้งาน Social Network ได้พริ้ว ๆ ไม่มีการกระตุก หรือรอนาน แต่อย่างใด การท่องเว็ปไซต์ทำได้ลื่นไหลเรียกได้ว่าแพ้แค่รุ่นใหญ่กว่านี้ แต่จริง ๆ แล้วอย่าลืมว่าช้าแค่ 1-2 วินาที เรารอได้ การดูรูปความละเอียดสูงมาก ๆ ไม่มีการรอประมวลผลเมื่อทำการซูมแบบใกล้ ๆ (ทดสอบกับรูปความละเอียด 6000 x 4000 ขนาด 20 MB )
RAM ที่ให้มามากถึง 4GB ทำให้การเปิดแอพไว้เป็นจำนวนมากไม่ทำให้เครื่องกระตุกและสามารถกลับไปใช้งานต่อได้ทันทีโดยไม่มีการโหลดใหม่ ยกเว้นแต่บางแอพนั้นมีการเขียนคำสั่งเอาไว้ว่าให้เริ่มใหม่หรือ login ใหม่เมื่อมีการปิดแอพ
ลำโพงเทคโนโลยี SonicMaster พร้อม NXP แอมป์ที่ติดมากับเครื่อง ให้เสียงที่ดังมาก เมื่อเปิดสุดไม่มีเสียงแตกหรือแหบพร่า แต่มีเสียงที่ Flat หรือแบน เสียงที่ได้นั้นไม่มีความโดดเด่นด้านไหนเป็นพิเศษเรียกว่ากลาง ๆ อย่างไรก็ดีเสียงร้องหรือเสียงคนพูดชัดเจนมากเป็นพิเศษ ฟังแล้วไม่อุดอู้พอฟังแก้ขัดไปได้ สมกับเป็นโทรศัพท์มือถือ
หูฟังที่แถมมา น้อยคนที่จะสนใจในส่วนนี้แต่ในเมื่อ ASUS Zenfone Zoom S มีเทคโนโลยีเรื่องเสียงที่ดีมาให้ด้วย ผมเองก็ลองซักหน่อยละกันนะครับ เสียงที่ได้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ได้โด่นเด่นอะไรมาก เสียงแหลมไม่ได้เยอะจนฟังแล้วติดประกายแต่ก็ไม่ได้แหบแห้งฟังแล้วไม่เพราะ เสียงเบส มีให้รู้สึก แต่ไม่มากหรือ Impact เท่าไหร่ เสียงร้อง ถ้าเทียบกับเสียงดนตรีจะรู้สึกว่าเสียงนักร้องถอยหลังลงไปนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับกลบเสียงร้อง ไมโครโฟนเสียงชัดเจนดี เรียกได้ว่าระดับหูฟังแถมแล้วละก็ ทำได้ดีเลยทีเดียว
ในส่วนของแบตเตอรี่ ASUS Zenfone Zoom S ให้ความจุมาที่ 5,000 mAh ใช้งานยาวนานเหลือ ๆ อย่างแน่นอน หรือถ้าคุณมีน้ำใจแบ่งปันคนอื่นก็สามารถใช้สาย USB-OTG แล้วให้อีกเครื่องมาเสียบชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย ทดสอบเล่นเกม ROV ติดต่อกัน 6 เกม หรือประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง พบว่าแบตเตอรี่ลดไปประมาณ 20 เปอร์เซ็น เรียกได้ว่าอึดแบบสุด ๆ
ระบบชาร์จไฟ ภายในกล่องได้แถมอะแดปเตอร์ขนาด 5V 2A ตัวปลั๊กไฟเป็นแบบขากลม ทำให้การใช้งานเสียบชาร์จนั้นมีความหลวมสำหรับปลั๊กไฟบางรุ่น(จริง ๆ ถ้าขาแบนจะดีกว่าสำหรับประเทศไทย) โดยหากชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100 เปอร์เซ็น จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงตามที่เคลมไว้ อุณหภูมิระหว่างชาร์จไม่ได้สูงมากจนน่ากลัวเรียกว่าอุ่น ๆ หรือถ้ากังวลกับเวลาชาร์จไฟนาน ผมแนะนำว่าก่อนนอนหลับให้ชาร์จทิ้งไว้จะดีกว่า ตื่นมาก็พร้อมไปอีกวัน ตัวอะแดปเตอร์มีระบบตัดไฟเมื่อเต็มอยู่แล้วครับ
ระบบชาร์จไฟด่วน ASUS BoostMaster ชาร์จไฟ 10 นาที จาก 0 เปอร์เซ็น ทำให้โทรศัพท์ได้ยาวถึง 5 ชั่วโมง ฟีเจอร์นี้จะทำให้คุณได้ไปต่ออีกซักนิด แต่ถ้าถึงขั้นใช้จนหมดได้ละก็ ผมเองก็นับถือใจคุณจริง ๆ แหละครับ อย่าลืมว่าการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 เปอร์เซ็นนั้นจะทำให้เกิดความร้อนสูงอาจทำให้เกิดความเสียหายระยะยาวได้ ฉะนั้นแล้วหากคุณต้องทำแบบนั้นจริง ๆ ผมแนะนำว่าแค่เปิด สแตนบาย รอรับสายหรือรอแชทเข้าและที่สำคัญอย่าพยายามเล่นมันซักพักเลยจะดีกว่านะครับ