ที่ผ่านมา เรามักจะเห็นมือถือแต่ละรุ่นในตลาดเลือกที่จะแข่งกันด้วยเรื่องของการอัดสเปคมาแรงในราคาที่ถูกลงเรื่อยๆ แต่ในปัจจุบัน ต้องบอกว่าสเปคมือถือมันแรงเกินพอที่จะใช้งานธรรมดาทั่วไปอยู่แล้ว ทำให้เรื่องการอัดสเปคมาถึงจุดอิ่มตัว จะรุ่นราคาไม่แพง ก็สามารถทำงานทั่วไปได้แบบไม่มีปัญหา ไม่ค้าง ไม่แฮงค์บ่อยเหมือนเมื่อก่อน เราเลยได้เห็นมือถือรุ่นต่างๆ ออกมาแข่งฟีเจอร์และดีไซน์กันมากขึ้น อย่างเช่น Acer เองที่ออกมาเน้นด้านฟีเจอร์และดีไซน์ที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าแต่ละช่วงของผลิตภัณฑ์ตนเองกว่าเดิม อย่างในรุ่นล่าสุดที่เรารีวิวครั้งนี้ครับ กับ?Acer Liquid Jade?ที่เปิดมาในช่วงราคาไม่ถึงหมื่น เรามาดูกันเลยว่าจะเจ๋งสมราคา และน่าใช้งานขนาดไหน
สเปค Acer Liquid Jade
- ชิปประมวลผล MediaTek MT6582 quad-core ความเร็ว 1.3 GHz ชิปกราฟิก Mali-400MP2
- แรม 2 GB
- หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720
- รอม 16 GB รองรับการเพิ่ม MicroSD
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- รองรับ 2 ซิม
- มีทั้งรุ่นที่รองรับ 3G 850/2100 MHz กับ 900/2100 MHz
- Android 4.4 KitKat
- แบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh
- ระบบเสียง Dolby DTS HD
- ราคา 8,990 บาท
- สเปค Acer Liquid Jade เต็มๆ
ในแง่ของสเปคนั้น Acer Liquid Jade ก็ถือว่ามาในระดับสมราคาครับ ชิปควอดคอร์ความแรงพอประมาณ อยู่ในระดับใช้งานทั่วไปได้ดี ที่เด่นก็คือได้แรม 2 GB จอใหญ่ 5 นิ้วคมชัด กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะเทียบเท่ากับมือถือแบรนด์จีนหลายๆ ตัวเลย แต่ Acer ก็ยังมีภาษีที่ดีกว่าตรงความเป็นอินเตอร์แบรนด์ การรับประกันก็มีศูนย์บริการที่ใกล้บ้านมากกว่า ส่วนถ้าให้ประเมินว่าสเปค Acer Liquid Jade สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง ที่ได้ชัวร์ๆ เลยก็คือใช้งานทั่วไป เปิดแอพ เล่นเว็บ เล่น Facebook, LINE, IG ซึ่งก็เป็นแอพพลิเคชันพื้นฐานที่สมาร์ทโฟนทั่วไปในปัจจุบันควรจะทำได้ดีอยู่แล้ว จะเล่นเกมก็พอได้อยู่เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เกมที่มีกราฟิก 3D สูงๆ การสลับแอพ การเรียกใช้งานก็ทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว เพราะมีแรมถึง 2 GB ที่เหลือเฟือสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน
ต่อไปเรามาดูในด้านดีไซน์ หน้าตาตัวเครื่อง Acer Liquid Jade กันบ้างครับ
ข้อดี
ข้อสังเกต
บทสรุป
BEST Display
Design
เรื่องดีไซน์นั้น ถือเป็นจุดเด่นของ Acer Liquid Jade เลยทีเดียว ด้วยการออกแบบให้ออกมามีความโค้งมนเข้ารูป ดูลักษณะแล้วเหมือนหยกเนื้องามที่อยู่ในมือผู้ใช้ เน้นความโค้งเว้าให้แตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปในตลาดที่ดูแล้วก็เป็นแท่งสี่เหลี่ยมๆ คล้ายกันไปหมด ไล่ตั้งแต่ขอบมุมเครื่องที่โค้งรับกับการจับถือ ดูแล้วให้ความรู้สึกเป็นมิตร ช่องลำโพงสนทนาก็ใช้เป็นวงกลมแทนที่จะเป็นแถบสี่เหลี่ยมยาวๆ เหมือนมือถือทั่วไป
ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นที่เห็นได้ชัดสุดของ Acer Liquid Jade ก็คือหน้าจอครับ ด้วยขนาด 5 นิ้วที่ถือว่ากำลังพอดีๆ ของมือถือที่ทำมาให้สมดุลกันทั้งเรื่องการใช้งานที่กำลังพอดีไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอพ เล่นเกม อ่านเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ และการพกพาที่ตัวเครื่องไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถพกใส่กระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อได้แบบไม่ล้นออกมาจนเกินไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งานมือถือจริงๆ
แต่ก็ใช่ว่าจะมีดีแค่ขนาดหน้าจอเท่านั้น แต่ตัวเนื้อจอจริงๆ ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเลยทีเดียว เพราะ Acer Liquid Jade เลือกใช้พาเนล IPS ที่มีข้อดีในเรื่องของการแสดงสีสันที่ค่อนข้างตรง สวยงาม ดูมีมิติ ให้มุมมองภาพที่กว้าง ประกอบกับการปรับสีสันจากโรงงานของทาง Acer เองก็ทำได้ดี ทำให้ภาพที่ออกมาจากจอ 720p ของ Acer Liquid Jade ออกมาดูดีมาก เนื้อภาพดูสวยเนียน สีสันสดใสแต่ไม่เกินจริง ความสว่างของจอก็อยู่ในระดับพอดีๆ จะติดก็เรื่องแสงสะท้อนจากกระจกจอที่อาจจะทำให้ลำบากเล็กน้อยเวลาใช้งานกลางแจ้ง แต่ถ้าติดฟิล์มช่วยลดแสงสะท้อนหน้าจอเข้าไป ก็น่าจะช่วยได้พอสมควรเลยทีเดียว น่าเสียดายที่อาจจะเห็นจากภาพถ่ายได้ไม่ชัดเท่าไร แนะนำว่าลองไปจับๆ เล่นๆ จากเครื่องเดโมหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายก็จะดีครับ จะได้เห็นเลยว่าจอสวยขนาดไหน เผลอๆ นี่เทียบจอ iPhone ได้เลยด้วยซ้ำไป ส่วนถ้าให้เทียบในช่วงราคาเดียวกัน บอกเลยว่าจอ Acer Liquid Jade นี่สวยกินขาดทุกรุ่นสบายๆ
ส่วนถ้าถามถึงความประทับใจแรกที่ได้จับ Acer Liquid Jade ของผม ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องหน้าจอครับ (เพราะตอนแรกเครื่องปิดอยู่ เลยไม่เห็นภาพไงล่ะ) แต่คือเรื่องน้ำหนักตัวเครื่อง เพราะมันเบามากๆๆ กับน้ำหนักเพียงแค่ 110 กรัม ซึ่งเบากว่า iPhone 5s เสียอีก เรียกว่าประทับใจตั้งแต่แรกจับเลยก็ได้ ไม่ว่าเรื่องน้ำหนัก เรื่องรูปร่างที่โค้งมนเข้ามือพอดีๆ ต้องบอกว่ามันลงตัวไปซะหมดเลย กับเจ้า Acer Liquid Jade ตัวนี้ ส่วนภาพด้านล่างนี้ก็มาเทียบขนาดกันซะหน่อย ระหว่าง Acer Liquid Jade จอ 5 นิ้ว กับ iPhone 6 จอ 4.7 นิ้ว จะเห็นว่าตัวเครื่อง Liquid Jade ใหญ่กว่า iPhone 6 นิดเดียวเอง แต่ได้จอที่ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด
ฝาหลัง Acer Liquid Jade นั้นก็เลือกใช้วัสดุเป็นพลาสติกผิวมันวาว ซึ่งให้น้ำหนักเบา เลยทำให้น้ำหนักตัวเครื่องทั้งหมดเบาไปด้วยนั่นเอง แต่น่าเสียดายตรงที่ไม่สามารถแกะฝาออกมาได้นะครับ ทำให้เหล่าช่องใส่ซิมและการ์ดหน่วยความจำไปอยู่ด้านข้างแทน โดยจะไปรวมอยู่เป็นถาดเดียวกันที่ฝั่งซ้ายของเครื่อง (หันจอเข้าหาตัว) ซึ่งสามารถใช้เล็บแงะออกมาได้เลย เมื่อแงะออกมาก็จะพบถาดที่มีช่องว่างสองช่อง ซึ่งตัวถาดนี้ก็มีความพิเศษอยู่ เพราะมันสามารถเลือกใส่ได้สองแบบ ดังนี้
– ใส่นาโนซิมช่อง 1 และใส่ MicroSD ที่ช่องล่าง (แบบในภาพด้านขวา)
– ใส่นาโนซิมช่อง 1 และใส่นาโนซิมอีกใบแทน MicroSD (วางแนวขวางแบบเดียวกับซิม 1)
ซึ่งการออกแบบมาลักษณะนี้ ทำให้เราต้องเลือกกันซักหน่อยว่าจะใช้งานสองซิมหรือใช้งานซิมเดียว+เพิ่มหน่วยความจำเข้าไป จุดนี้จะว่าดีก็ดีตรงที่สามารถเลือกใช้งานได้ตามต้องการ แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยคือไม่สามารถใช้งานเป็นสองซิม+MicroSD ได้เลย ตรงข้อนี้ก็คงต้องตัดสินใจกันดีๆ หน่อยล่ะนะ
ส่วนจุดอื่นๆ ที่น่าสนใจบนฝาหลัง Acer Liquid Jade อีกก็เช่นกล้องหลังที่นูนขึ้นมาจากฝาหลังอย่างเป็นได้ชัด ยังดีที่มีขอบอะลูมิเนียมช่วยกันการขูดขีดหรือกระแทกกระจกเลนส์เอาไว้อยู่ ตรงนี้ที่ต้องนูนขึ้นมาก็เป็นผลมาจากข้อจำกัดของชุดกล้องที่ใหญ่เกินความบางของเครื่องนั่นเองครับ ซึ่งมักจะพบในมือถือหลายๆ รุ่นที่เน้นทำออกมาให้บางกันเป็นประจำอยู่แล้ว พอลงมาดูด้านล่างก็จะพบกับลำโพงหลักของเครื่องที่มีการเจาะช่องฝาหลังเป็นวงกลม ตรงกลางโป่งนูนขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับมีโลโก้ของระบบเสียง DTS HD เอาไว้อีก เห็นโลโก้แบบนี้ก็สบายใจได้เลย ว่ามันมาพร้อมระบบเสียงระดับคุณภาพแน่นอน ซึ่งเท่าที่ฟังในระหว่างการรีวิว พบว่าเวลาฟังจากหูฟังนี่เสียงดีเลยล่ะ ตัวซอฟต์แวร์ก็สามารถปรับแต่งเสียงได้หลากหลาย ส่วนการฟังจากลำโพงเครื่องก็ถือว่าธรรมดาๆ ครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะระบบเสียงเหล่านี้ในมือถือ มักจะให้ผลการใช้งานร่วมกับหูฟังเป็นหลักกันแทบทั้งนั้น
ปิดท้ายด้วยเรื่องปุ่มกดและพอร์ต Acer Liquid Jade เลือกวางปุ่ม Power ไว้ที่มุมบนขวาของจอ (หันจอเข้าหันตัว) ส่วนปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงจะอยู่ที่ด้านขวา ช่องเสียบหูฟังอยู่ด้านบน ส่วนช่อง MicroUSB จะอยู่ด้านล่างของเครื่อง ยังไงก็ชมภาพมุมต่างๆ ของตัวเครื่อง Acer Liquid Jade ได้จากแกลเลอรี่ด้านล่างนี้ครับ
Software
ในด้านของซอฟต์แวร์ Acer Liquid Jade ก็ใช้เป็น Android 4.4.2 KitKat ที่ครอบทับมาด้วย UI ของ Acer เอง ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่หมดจดในหลายๆ จุด จากเดิมที่มักจะใช้เป็นอินเตอร์เฟสเดิมๆ ของ Android คราวนี้ก็มาพร้อมความใหม่สดทั้งในส่วนของไอคอน, ตัวอักษร, กรอบเฟรมต่างๆ รวมถึงสีสันที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว แน่นอนว่าสีหลักที่เน้นก็จะเป็นสีเขียวในแบบของ Acer เอง สำหรับพื้นที่การใช้งาน จาก 16 GB ก็จะเหลือให้ใช้เกือบๆ 15 GB ถือว่าโอเคมากทีเดียวครับ ถ้าไม่ได้เป็นคนชอบลงเกม, หนังหรือเพลงเยอะๆ ส่วนตัวผมว่า 16 GB ก็พอสำหรับการใช้งานแล้ว ไม่ต้องใส่ MicroSD แต่ใช้งานเป็นสองซิมก็ยังได้สบายๆ เลย
ส่วนในด้านประสบการณ์การใช้งานจริงบน Acer Liquid Jade ต้องบอกว่าน่าประทับใจเลยครับ ทั้งในด้านความลื่นไหล รูปแบบหน้าตาการทำงาน แอพที่ติดตั้งมาให้ก็ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดี ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Liquid Jade สามารถทำงานได้ดีก็เป็นเพราะแรมที่ให้มาถึง 2 GB ซึ่งเหลือเฟือสำหรับการใช้งาน รวมถึงด้านของซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งออกมาได้ดีจริงๆ
Camera
ต่อกันด้วยเรื่องกล้องถ่ายรูปบ้าง Acer Liquid Jade มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล ตัวซอฟต์แวร์กล้องก็สามารถปรับเลือกโหมดการทำงานได้หลากหลาย การใช้งานก็ทำได้ง่าย โหมดออโต้ก็สามารถทำงานได้ดีครับ รวมๆ แล้วถือว่าโอเคเลยสำหรับเรื่องกล้องใน Acer Liquid Jade ส่วนตัวอย่างภาพถ่าย ก็ตามแกลเลอรี่ด้านล่างนี้ครับ (ภาพถ่ายกลางคืนถือว่าโอเคเลยนะ)
Performance
ด้านของการทดสอบประสิทธิภาพ Acer Liquid Jade ก็ทำได้ในระดับกลางๆ ครับ คะแนนออกมาไม่สูงมากนัก แต่ก็อยู่ในระดับที่สามารถใช้งานทั่วไปได้ดี เล่นเกมได้พอประมาณ ส่วนประสบการณ์การใช้งานจริงนั้นก็อย่างที่กล่าวไปแล้วในฝั่งของซอฟต์แวร์คือทำงานได้ดี ไหลลื่นมากๆ คงจะเพราะด้วยแรมที่ให้มา 2 GB และซอฟต์แวร์ระบบที่ทำออกมาได้ดี ด้านของความร้อนระหว่างการใช้งานก็ไม่สูงมากนัก ช่วงโหลดหนักสุดก็คือตัวเครื่องอุ่นๆ ขึ้นมาเล็กน้อย รวมๆ แล้วถือว่าโอเคเลยกับการใช้งาน Acer Liquid Jade แบบจริงจังในหนึ่งวัน
สำหรับการใช้งานแบตเตอรี่ ก็พบว่าสามารถใช้งานได้หนึ่งวันตามเกณฑ์ของสมาร์ทโฟน ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มา 2100 mAh ซึ่งจัดว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับสมาร์ทโฟนในยุคนี้ รับรองว่าถ้าใครกำลังมองหามือถือสำหรับใช้งานจริงๆ พกพาได้สะดวก Acer Liquid Jade ตอบสนองความต้องการได้แน่นอนครับ