Acer เป็นแบรนด์ที่เราได้ยินชื่อกันมาอย่างยาวนานในฐานะผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ และสักระยะแล้วที่ Acer ได้รุกเข้ามายังตลาดของมือถือสมาร์ทโฟน โดยล่าสุดได้มีมือถือทั้งที่เป็นระบบปฎิบัติการ Android และ Windows ออกมาให้เรานั้นได้เลือกซื้อไปใช้งาน ราคาของมือถือ Acer นั้นอยู่ในเกณฑ์ที่คนทั่วไปก็สามารถจับต้องได้อย่างไม่ลำบากเท่าไรนัก และเรื่องของสเปคที่ทาง Acer ใส่มาให้นั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะกับการใช้งานในแต่ละวัน และวันนี้ผมจะมารีวิวมือถือรุ่นใหม่จาก Acer ที่มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android นั่นก็คือ Acer Liquid Z530S มือถือสุดคุ้มในราคาเพียง 7,990 บาทเท่านั้น ซึ่งสเปคของ Acer Liquid Z530S นั้นจะประกอบไปด้วย
สเปคของ Acer Liquid Z530S
- หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียดแบบ HD
- ซีพียู MediaTek MT6753 แบบ Octa Core ความเร็ว 1.3 GHz
- แรม 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB
- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชแบบ LED
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- ระบบปฎิบัติการ Android 5.1 Lollipop
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
- รองรับการใช้งาน 4G
- แบตเตอรี่ความจุ 2,490 mAh
- ราคา 7,990 บาท
- สเปคของ Acer Liquid Z530S แบบเต็ม
กล่องของ Acer Liquid Z530S นั้นจะเป็นกล่องกระดาษแบบเรียบง่าย เมื่อเปิดกล่องออกมาจะเห็น Acer Liquid Z530S นอนอยู่ภายใน ซึ่งที่น่าสนใจนั่นคือ Acer Liquid Z530S ใส่เคสแบบ Flip Case หรือเคสฝาพับมาให้ตั้งแต่เปิดกล่องเลย และเมื่อเช็คดูดีๆ แล้วจะเห็นว่าไม่ใช่เคสแต่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเครื่องเลย ซึ่งเมื่อได้ลองเช็คดูอุปกรณ์ที่มีมาให้ภายในกล่องก็พบว่า Acer ได้ใส่ฝาหลังตัวเครื่องมาให้อีกหนึ่งชิ้น ซึ่งผมได้เปลี่ยนมาใส่เคสแบบที่ทาง Acer แถมมาให้แทนเพื่อความสะดวกในการรีวิว Acer Liquid Z530S เครื่องนี้ โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกประทับใจมากกับฝาหลังดีไซน์สวยๆ ที่ทาง Acer จัดมาให้ ไม่ใช่เคสแบบบ้านๆ ที่หลายๆแบรนด์นั้นเลือกใช้มาเป็นของแถมเมื่อซื้อตัวเครื่อง และภายในกล่องยังมีอุปกรณ์พื้นฐานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ , สาย Micro USB และหูฟังขนาด 3.5 มม. และมาพูดถึงเรื่องแรกนั่นคือเรื่องของดีไซน์ของตัวเครื่องกันก่อนเลยดีกว่าครับ
จุดเด่น
– แรม 3 GB
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– มีฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้จริง
– การเชื่อมต่อต่างๆ ทำได้รวดเร็ว
– Android เวอร์ชั่น 5.1
ข้อสังเกต
– แบตเตอรี่ไม่พอกับการใช้งานหนักๆ
– ใช้งาน MicroSD ไม่ได้
บทสรุป
BEST PRICE
Design
Acer Liquid Z530S มาพร้อมกับดีไซน์โค้งมนดูทันสมัย เปลี่ยนอารมณ์จากมือถือรุ่นอื่นๆ ที่มีดีไซน์แบบสี่เหลี่ยม ซึ่งเมื่อได้สัมผัสตัวเครื่องแล้วรู้สึกดีมากๆเลย ด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นหน้าจอ IPS ขนาดความกว้าง 5 นิ้ว ซึ่งสีสันของหน้าจอนั้นสดใสตามสไตล์ของจอ IPS ที่มีมุมมองกว้างถึง 178 องศา ความละเอียดของภาพที่ออกมานั้นจัดว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ เนื่องจากความละเอียดอยู่ในระดับ HD เท่านั้น จึงสามารถถ่ายทอดออกมาได้เท่านี้
แต่เพียงเท่านี้ก็ถือว่าใช้งานทั่วๆ ไปได้อย่างสบายๆ แล้ว นอกจากนี้ Acer Liquid Z530S ยังมาพร้อมกับ Bluelight Shield ที่จะช่วยตัดแสงสีฟ้าออกจากหน้าจอ ทำให้เราสามารถใช้งาน Acer Liquid Z530S ในที่แสงน้อยได้นานยิ่งขึ้น โดยไม่รู้สึกปวดตาเมื่อต้องเพ่งสายตามองที่หน้าจอเป็นเวลานานๆ ซึ่งจุดนี้สังเกตได้ว่ามือถือแบรนด์ต่างๆ นั้นเริ่มใส่ใจในเรื่องของสุขภาพของผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ และ Acer ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกันที่ใส่ฟีเจอร์นี้เข้ามา
ด้านบนของหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งจุดนี้นั้นต้องบอกว่าน่าเสียดายนิดหน่อยที่ทาง Acer ไม่ได้ใส่แฟลชมาให้ดังนั้นหากถ่ายภาพในพื้นที่แสงน้อยก็อาจจะเกิดปัญหาขัดใจขึ้นมาได้เหมือนกัน และที่ตรงกลางจะเป็นลำโพงสนทนาโทรศัพท์ซึ่ง Acer ใช้ดีไซน์แบบทรงกลมครอบทับด้วยวงแหวนสีเงิน ดูใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยๆ นอกจากนั้นยังมีไฟ LED ที่จะติดขึ้นมาเมื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ หรือมีการแจ้งเตือนใหม่ๆ เข้ามา และยังมีเซนเซอร์วัดสภาพแสงเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ใส่ไว้ในด้านบนของหน้าจอ พร้อมกับเซนเซอร์ปิดหน้าจออัตโนมัติ
ด้านล่างของหน้าจอนั้นจะเป็นตำแหน่งของปุ่มควบคุมหลักที่จะมาในรูปแบบ On Screen หรือสัมผัสบนหน้าจอโดยตรงนั่นเอง ซึ่งปุ่มควบคุมจะซ่อนตัวเองเมื่อเรานั้นเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งก็แล้วแต่ผู้ผลิตแอพต่างๆ ว่าจะกำหนดให้แถบควบคุมที่ว่านี้ซ่อนตัวเองหรือไม่ ถัดลงมาเล็กน้อยจะเป็นตำแหน่งของโลโก้ Acer โดดเด่นอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่องด้านหน้า
ด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของปุ่ม Power ที่ใช้ในการเปิด/ปิดเครื่อง รวมไปถึงเปิดหน้าจอในขณะที่เครื่องนั้นกำลังเข้าสู่โหมดสลีป ใกล้กันจะเป็นตำแหน่งของช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ซึ่งในส่วนของหูฟังนั้นทาง Acer ได้แถมหูฟังมาให้ฟรีๆ ภายในกล่องของ Acer Liquid Z530S ด้วยเช่นกัน เรียกว่าไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มให้วุ่นวายเลยล่ะครับ
ด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ และ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แบบ Micro USB และใกล้ๆ ช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่จะสังเกตเห็นช่องเล็กที่ใช้ในการแกะฝาหลังของ Acer Liquid Z530S ออกมาเพื่อใส่ซิมการ์ด , เปลี่ยนแบตเตอรี่ และ เปลี่ยนฝาหลังของตัวเครื่องในแบบที่ผู้ใช้งานนั้นต้องการจะใช้งาน
ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ อยู่ในจุดนี้เลย จะมีแค่เพียงขอบตัวเครื่องสีเงินที่ช่วยทำให้ Acer Liquid Z530S นั้นดูพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น และที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของปุ่มควบคุมระดับเสียงซึ่งวางตำแหน่งได้พอดีกับนิ้วมือของเราอีกด้วย
ด้านหลังของ Acer Liquid Z530S จะสังเกตได้ว่าจะประกอบไปด้วยกล้องถ่ายภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชแบบ LED ใกล้ๆกันจะเป็นตำแหน่งของไมค์ตัวที่สองที่จะใช้เพื่อตัดเสียงรบกวนในขณะที่เรานั้นกำลังทำการสนทนาโทรศัพท์ ตรงกลางของด้านหลังจะเป็นโลโก้ Acer เด่นชัดด้วยตัวอักษรสีเงินที่ทำให้ตัวเครื่องนั้นมีความสวยงาม
ด้านล่างของด้านหลังตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของลำโพงโทรศัพท์โดย Acer Liquid Z530S มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอ ซึ่งเมื่อลองฟังเสียงจากลำโพงก็พบว่าเสียงที่ออกมานั้นดังฟังชัดใช้ได้เลย และที่น่าสนใจก็คือถึงวางไว้กับพื้นเสียงก็ยังดังออกมาได้เหมือนเดิม
นอกจากนี้จะสังเกตได้ว่าที่ด้านล่างของฝาหลังจะมีโลโก้ DTS ซึ่งหมายความว่านอกจากเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องแล้ว Acer Liquid Z530S ยังมาพร้อมกับระบบเสียงระดับคุณภาพอีกด้วย และเมื่อทำการแกะฝาหลังตัวเครื่องออกมาก็จะพบกับช่องใสซิมการ์ด ซึ่ง Acer Liquid Z530S นั้นรองรับการใช้งาน 2 ซิม แต่ที่จะสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนนั่นคือไม่มีช่องสำหรับใส่ Micro SD ซึ่งเท่ากับว่าข้อจำกัดของ Acer Liquid Z530S อย่างหนึ่งนั่นคือไม่รองรับการใช้งานหน่วยความจำภายนอก หรือ Micro SD นั่นเอง ซึ่งส่วนตัวผมรู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะหน่วยความจำตัวเครื่องแม้จะมีถึง 32 GB แต่ทุกวันนี้ก็มีผู้ใช้งานบางคนที่ใช้งานเกิน 32 GB ไปแล้วอยู่เหมือนกัน ซึ่งการไม่รองรับ Micro SD ในกรณีที่เครื่องขัดข้องเราอาจจะต้องสูญเสียข้อมูลภายในเครื่องไปได้
และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจนั่นคือ Acer Liquid Z530S มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2,420 mAh ที่สามาารถถอดเปลี่ยนได้ในกรณีที่แบตเตอรี่ก้อนเดิมที่ติดเครื่องมานั้นเสื่อมสภาพการใช้งาน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะสามารถซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ได้รวดเร็วกว่ามือถือที่ใช้ดีไซน์แบบแบตเตอรี่ในตัว ซึ่งแบตเตอรี่ความจุเท่านี้ถือว่าอยู่ในระดับพอใช้งานทั่วไปได้พอดีๆ แต่หากใช้งานหนักๆ ก็อาจจะต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่ 2-3 รอบต่อวันเลยทีเดียว ในเรื่องของการพกพา Acer Liquid Z530S เป็นมือถือที่พกพาง่ายมากอีกหนึ่งรุ่นและเนื่องจากเคสที่ติดมากับตัวเครื่องเป็นเคสแบบฝาพับจึงไม่ต้องกังวลว่าเมื่อใส่ไว้ในกระเป๋าหน้าจอของเรานั้นจะเป็นรอยหรือไม่ และมาพูดถึงเรื่องต่อไปนั่นคือเรื่องของซอฟท์แวร์กันต่อดีกว่าครับ
Software
เรื่องของซอฟท์แวร์ Acer Liquid Z530S มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 5.1 Lollipop ทำให้เรื่องของการรองรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ จาก Google นั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลย แอพพลิเคชั่นจาก Google นั้นก็ติดตั้งมาให้อย่างครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นแอพด้านความบันเทิงหรือแอพพื้นฐานที่เรานั้นต้องใช้ในทุกๆวัน ซึ่งแอพจาก google ที่ติดตั้งมาใน Acer Liquid Z530S นั้นได้แก่ Google , Google Chrome , Gmail , Maps , Google Drive , Hangout , Photo , Youtube และอื่นๆ หรือจะเป็นเกมที่ทาง Acer ได้ใส่มาไว้ให้ในเครื่อง ก็มีให้เลือกเล่นอย่างหลากหลาย ไมว่าจะเป็น Danger Dash , Ninja Up , Real football 2 และ Spider Man Ultimate เกมซุปเปอร์ฮีโร่จากค่าย Marvel ก็มีมาให้เล่นตั้งแต่เปิดเครื่องโดยเราไม่ต้องไปเสียเวลามานั่งดาวน์โหลดเลย
Acer Liquid Z530S มาพร้อมกับ UI ที่เรียบง่าย สวยงาม และยังสามารถปรับแต่งได้อีกเล็กๆน้อยๆ ตามสไตล์ของผู้ใช้งานแต่ละคนอีกด้วย ซึ่งจะไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นมือถือ Android ไปอย่างแน่นอน และเรามาพูดถึงเรื่องตอไปนั่นก็คือเรื่องของฟีเจอร์กันต่อเลยครับ
Feature
มาพูดถึงเรื่องของฟีเจอร์หรือลูกเล่นกันบ้าง Acer Liquid Z530S มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายต่อหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งแต่ละอันนั้นเราสามารถใช้งานได้จริงๆ อีกด้วย เรียกว่าจะช่วยเพิมความสะดวกสบายในการใช้งาน และฟีเจอร์หรือลูกเล่นของ Acer Liquid Z530S นั้นจะมีดังต่อไปนี้
Quick Touch
เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้การใช้งาน Acer Liquid Z530S นั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายบมากยิ่งขึ้น ด้วยการวาดนิ้วมือตามแบบที่ได้ตั้งค่าไว้เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิเช่น
- วาดนิ้วไปทางขวาเพื่ออัพเดทข่าวสารต่างๆ ในขณะที่ปิดหน้าจอ
- วาดนิ้วเป็นตัว V เพื่อใช้งานโทรศัพท์
- วาดนิ้วเป็นตัว C เพื่อใช้งานกล้องถ่ายภาพ
- วาดนิ้งเป็นตัว I เพื่อปลดล็อคตัวเครื่อง
- วาดนิ้วเป็นตัว Z เพื่อเปิดเพลง
Acer Care Center
เป็นฟีเจอร์ที่จะทำให้เรานั้นสามารถเช็คความสมบูรณ์ของตัวเครื่องว่ามีส่วนไหนที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ซึ่งตามปกติแล้วเราอาจจะต้องใช้โค้ดพิเศษในการเข้าสู่โหมดทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่อง แต่ Acer Liquid Z530S นั้นสามารถเช็คได้ง่ายๆ ด้วยการเข้าแอพพลิเคชั่นเท่านั้น โดยสามารถเช็คได้ค่อนข้างละเอียดอยู่เหมือนกัน
AcerEXTEND
เป็นฟีเจอร์ที่จะสร้างหน้าจอเสมือนของ Acer Liquid Z530S ลงในอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นหน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้วยการใช้ Blutooth และก่อนจะสามารถใช้งานส่วนนี้ได้เราจะต้องจับคู่ระหว่าง Acer Liquid Z530S กับคอมพิวเตอร์ที่เราต้องการจะเชื่อมต่อเสียก่อน ซึ่งคอมพิวเตอร์นั้นจะต้องลงโปรแกรม AcerEXTEND เอาไว้ด้วยเช่นกันและเมื่อเราทำการจับคู่กันเรียบร้อยแล้ว หน้าจอคอมพิวเตอร์จะปรากฎหน้าจอเสมือนของ Acer Liquid Z530S ขึ้นมาเรียกว่าไม่ว่าเราทำอะไรในมือถือภาพจะปรากฎบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันที
Camera
พูดถึงเรื่องของกล้องถ่ายภาพกันบ้าง Acer Liquid Z530S มาพร้อมกับกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซลทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งคุณภาพของภาพถ่ายนั้นจัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ แต่ที่น่าสนใจนั่นคือภาพถ่ายในเครื่องที่เราดูในมือถือกับที่ดูในคอมพิวเตอร์นั้นคุณภาพใกล้เคียงกันเลย จะมีแต่เรื่องของความละเอียดเท่านั้นที่จะสังเกตเห็นได้ชัด เนื่องจากกล้องของ Acer Liquid Z530S มีความละเอียดที่ 8 ล้านพิกเซลเท่านั้น สรุปง่ายๆ ว่าอย่างน้อยข้อดีของ Acer Liquid Z530S อย่างหนึ่งก็คือกล้องไม่หลอกตา เหมือนกับมือถือบางรุ่นที่เวลาดูในมือถือภาพถ่ายนั้นสวยงาม แต่เมื่อดูในคอมพิวเตอร์ภาพกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
กล้องของ Acer Liquid Z530S นั้นสามารถตั้งค่าได้อย่างหลากหลาย และมีโหมดให้ได้เลือกใช้งานหลายโหมดด้วยกัน ได้แก่โหมด HDR , Panorama , Beautification , Bright Magic , Smile Shutter , Picture With Sound , Multi Angle View , Presentation , Gourmet เรียกว่ามีโหมดต่างๆ ใส่มาให้อย่างครบเครื่องเลย ที่น่าสนใจนั่นคือกล้องถ่ายภาพของ Acer Liquid Z530S นั้นรองรับการสั่งการด้วยเสียงด้วยเช่นเดียวกันเพียงแค่เราเปิดกล้องถ่ายภาพแล้วพูดว่า Capture หรือ Cheese กล้องก็จะทำการถ่ายภาพให้โดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องกดปุ่มใดๆ ทั้งสิ้นซึ่งตรงนี้ถือว่าค่อนข้างสะดวกต่อการใช้งาน
และที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างนั่นคือกล้องถ่ายภาพของ Acer Liquid Z530S นั้นมีปุ่ม Favorite Shot มาให้ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ว่าต้องการให้ปุ่ม Favorite Shot นั้นเป็นโหมดไหน อย่างเช่นผมตั้งให้เป็นโหมดบิวตี้หรือโหมดหน้าสวย เวลาถ่ายรูปคนก็เพียงแค่กดปุ่มในวงกลมเท่านั้น Acer Liquid Z530S ก็จะถ่ายภาพแบบโหมดบิวตี้ให้ทันที ส่วนจะถ่ายภาพปกติก็เพียงกดที่รูปกล้อง Acer Liquid Z530S ก็จะถ่ายภาพแบบโหมดปกติมาให้ซึ่งตรงนี้ถือว่าฉลาดมากๆ เลย ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเปลี่ยนโหมดไปมาให้วุ่นวายเลยล่ะครับ กล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซลของ Acer Liquid Z530S นั้นก็ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเช่นเดียวกับกล้องที่ด้านหลังตัวเครื่อง เพียงแค่จะมีโหมดต่างๆ มาให้ใช้งานน้อยกว่าเท่านั้นเอง และนี่คือตัวอย่างภาพที่ถ่ายจากกล้องของ Acer Liquid Z530S
Performance
และมาพูดถึงเรื่องสุดท้ายนั่นคือเรื่องของประสิทธิภาพของตัวเครื่องซึ่ง Acer Liquid Z530S นั้นมาพร้อมกับซีพียู MediaTek MT 6753 แบบ Octa Core ความเร็ว 1.3 GHz และแรมขนาด 3 GB ทำให้เรื่องของการใช้งานทั่วไปนั้นก็สามารถทำได้เช่นเดียวกับมือถือรุ่นอื่นๆ อีกทั้ง Acer Liquid Z530S มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 5.1 Lollipop ทำให้เรื่องของความสเถียรของระบบนั้นหายห่วงไปได้ในระดับหนึ่งเลย นอกจากนี้ Acer Liquid Z530S ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB ทำให้เรื่องขนาดของแอพพลิเคชั่นที่จะติดตั้งนั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่สิ่งที่จะต้องพิจารณานั่นคือ Acer Liquid Z530S นั้นไม่รองรับการใช้งาน Micro SD ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่น,เพลง,รูปถ่าย หรือ วีดีโอ จะอยู่บนตัวเครื่องทั้งหมด ดังนั้นอาจจะต้องมีการสำรองข้อมูลอยู่บ่อยๆ Acer Liquid Z530S มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2,490 mAh ซึ่งหากไม่ได้ใช้งานหนัก ก็เพียงพอที่จะอยู่ได้ตลอดวันแล้ว
เมื่อทดสอบโดยการเล่นเกมอย่าง Asphalt 8 และ Need For Speed No limits ก็พบว่าสามารถเล่นได้อย่างราบรื่นไม่มีอาการกระตุกให้เห็น เพื่อความแน่ชัดผมจึงได้ลองเล่น Modern Combat 5 อีกหนึ่งเกมก็พบว่าสามารถเล่นได้ลื่นๆ เช่นเดียวกัน ดังนั้นสรุปง่ายๆ ว่า Acer Liquid Z530S นั้นเป็นมือถือที่สามารถเล่นเกมได้กำลังดี ถ้าเทียบกับราคา 7,990 บาทแล้วจะคุ้มหรือเปล่า? ส่วนตัวผมมองว่าถ้าไม่ยึดติดในเรื่องของแบรนด์ หรือสเปคตัวเครื่อง Acer Liquid Z530S รุ่นนี้เป็นมือถือที่น่าคบหาอีกหนึ่งรุ่น เมื่อเทียบกับความใส่ใจในตัวสินค้าและความรู้สึกของผู้ใช้งานที่ทางผู้ผลิตได้ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ ตรงจุดนี้ถือว่า Acer นั้นทำได้ดีทีเดียวครับ