เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทรูได้เปิดตัวกล่องทีวีรุ่นใหม่คือ TrueID TV ที่เป็นกล่องสำหรับดูทีวี ดูภาพยนตร์ ดูบอลผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งพ่วงฟังก์ชันที่น่าสนใจไว้มากมาย โดยเฉพาะตัวของระบบที่เลือกใช้ Android TV ซึ่งสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มได้ รวมถึงยังใช้เป็น Chromecast สำหรับส่งภาพจากมือถือไปเล่นบนจอทีวีในแบบไร้สายได้อีกด้วย ซึ่งผมเองก็สมัครแพ็คเกจสำหรับดูบอลของทรูไว้อยู่แล้ว ประกอบกับอยากได้กล่อง Android TV มาใช้งานซักเครื่อง ก็เลยสั่งซื้อเจ้ากล่อง TrueID TV เครื่องนี้มา พร้อมกับมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันไปด้วยเลยนั่นเองครับ
กล่อง TrueID TV มีขายตามทรูช้อปครับ โดยถ้าเดินเข้าไปซื้อเลย ก็จะได้เป็นกล่องแบบขายขาดในราคา 2,490 บาท สามารถซื้อมาเสียบกับทีวี แล้วเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อใช้งานได้ทันที หรือจะส่งผ่านเว็บไซต์ WeMall ก็ได้เช่นกัน
โดยในช่วงนี้มีโปรโมชันพิเศษด้วยครับ คือสามารถใช้คะแนนทรูพอยท์ 500 คะแนน ใช้เป็นส่วนลดได้ 500 บาท เท่ากับว่าค่ากล่องจะเหลือเพียง 1,990 บาทเท่านั้น สามารถสอบถามโปรโมชันนี้ได้จากทรูช้อปได้เลย หรือถ้าสั่งผ่าน WeMall ก็มีโปรโมชันนี้ด้วยเช่นกันครับ แล้วแต่ความสะดวกในการหาซื้อแล้วแหละ
คอนเซ็ปท์ของกล่อง TrueID TV กล่องนี้ก็คือ เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้ทีวีกลายเป็นสมาร์ททีวีขึ้นมาได้ด้วยฟังก์ชันของ Android TV + การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และที่สำคัญก็คือการติดตั้งระบบของ TrueID มาให้เป็นแกนหลักของระบบจัดการเนื้อหา ทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมรายการ ภาพยนตร์ ฟังเพลง ดูบอลจากบริการของ TrueID ผ่านอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย ซึ่งส่วนตัวผมมองว่ามันค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกกับการติดตั้งจานดาวเทียม เช่น หอพัก หรือระบบดาวเทียมของที่พักไม่รองรับกับการดูทีวีด้วยกล่องทรู ก็แก้ปัญหาด้วยการใช้กล่อง TrueID TV แล้วดูทีวีผ่านเน็ตเป็นหลักไปซะเลย (เน็ตต้องแรงพอด้วยนะ)
สำหรับอุปกรณ์ที่มาในกล่อง TruID TV ก็มีดังนี้ครับ
- ตัวกล่อง TrueID TV
- อะแดปเตอร์
- รีโมท
- สายแลน
- สาย HDMI
สเปคของกล่อง TrueID TV ก็มีดังนี้
- ชิปประมวลผล Amlogic S905X (4 คอร์)
- แรม 2 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูลในตัว 8 GB เหลือให้ใช้งานได้ 4 GB
- รองรับ MicroSD ได้สูงสุด 128 GB
- Android TV 8.0 รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant
- รองรับการเชื่อมต่อทั้ง LAN และ WiFi 802.11ac (ได้ทั้ง 2.4 และ 5 GHz)
- แสดงผลได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K 60fps รองรับการถอดรหัส MPEG-2, AVC/H.264, HEVC/H.265
- รองรับการเชื่อมต่อจอภาพทั้ง HDMI และแบบ AV (ผ่านตัวแปลง)
- มีพอร์ต Optical รองรับการเชื่อมต่อได้สูงสุด 7.1 ทิศทาง
- Bluetooth 4.1
- มีพอร์ต USB 2.0 มาให้ 2 ช่อง
ส่วนด้านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทางทรูแนะนำว่าควรใช้อินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วดาวน์โหลดขั้นต่ำ 15 Mbps ครับ จะเป็นเน็ตของค่ายใดก็ได้ สามารถใช้ได้ทั้งหมด
สำหรับแต่ละด้านของตัวกล่อง TrueID TV ก็มีจุดที่น่าสนใจดังนี้
- ด้านหน้า: เซ็นเซอร์อินฟราเรดสำหรับรับคำสั่งจากรีโมท และไฟแสดงสถานะการเชื่อมต่อ การทำงานของกล่อง
- ด้านขวา: ช่อง MicroSD
- ด้านหลัง: USB, LAN, HDMI, AV, ช่องเสียบสายอะแดปเตอร์ และริมขวาสุดคือสวิตช์เปิด/ปิดกล่อง
- ด้านซ้าย: USB และ Optical
ส่วนของรีโมทกล่อง TrueID TV ก็จะมีลักษณะที่เหมือนกับรีโมททีวีทั่ว ๆ ไปเลยครับ โดยมีทั้งแผงปุ่มตัวเลขสำหรับใช้กดเลขช่องได้โดยตรง ปุ่มลัดสำหรับเข้าเมนูรับชมภาพยนตร์ ส่วนฝั่งด้านล่างก็มีทั้งปุ่มสั่งงาน เช่น ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มโฮม และปุ่มสำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant ส่วนปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มเปลี่ยนช่องขึ้น/ลงจะอยู่ตรงแถวด้านล่างสุดเลย
ในการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant นั้น สามารถทำได้ด้วยการกดปุ่มรูปไมค์บนรีโมท จากนั้นก็พูดใส่รีโมทได้เลย ซึ่งช่องรับเสียงของไมค์จะซ่อนอยู่ตรงจุดด้านบนใกล้ ๆ กับปุ่มเปิด/ปิดเลยครับ เมื่อกดแล้ว ก็จะมีไฟสีแดงติดขึ้นมาด้วย
เมื่อเปิดใช้งาน และมีการเชื่อมต่อเรียบร้อยดี ก็จะมีไฟสีเขียวติดขึ้นมาตามภาพด้านบนเลย ซึ่งผมเองเลือกใช้การเชื่อมต่อผ่าน WiFi 5 GHz ภายในบ้านครับ ส่วนช่อง USB ด้านข้างผมก็เอาตัวรับสัญญาณของเมาส์ไร้สายมาเสียบไว้ เพราะมีบางสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้เมาส์ช่วยในการควบคุมอยู่เหมือนกัน นั่นคือการใช้งาน Netflix นั่นเอง ซึ่งเดี๋ยวจะมีรีวิวต่อในส่วนของรีวิวการใช้งานครับ
เมื่อลองเทียบขนาดกับกล่อง Apple TV gen 3 ที่ผมมีอยู่ จะเห็นได้ชัดว่ากล่อง TrueID TV มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย แต่ก็บางกว่าอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน
วิธีการติดตั้งกล่อง TrueID TV ก็ไม่ยากครับ ขั้นแรกคือต่อกล่องเข้ากับทีวีก่อนเลย จากนั้นระบบจะมีตัวช่วยในการตั้งค่า เช่น การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต การล็อกอินบัญชี Google การติดตั้งแอปเสริม การแพร์กล่องเข้ากับรีโมทที่ให้มา รวมถึงสามารถล็อกอินบัญชี TrueID ได้อย่างง่าย ๆ ด้วยการสแกน QR code ที่ขึ้นอยู่บนจอทีวี เมื่อเสร็จแล้วก็สามารถดูทีวี ดูหนัง ดูบอลได้เลย
รีวิวการใช้งานกล่อง TrueID TV
อินเตอร์เฟสหลักของซอฟต์แวร์ในกล่อง TrueID TV ก็จะเป็นหน้ารวมคอนเทนต์ที่มีอยู่บน TrueID เช่น ภาพยนตร์ ซีรีส์และรายการต่าง ๆ รวมถึงเมนูของแอปพลิเคชันที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องด้วย สำหรับด้านล่างนี้จะเป็นอินเตอร์เฟสของการรับชมภาพยนตร์ก่อนนะครับ
ในการรับชมภาพยนตร์จากกล่อง TrueID TV นั้น หากผู้ใช้งานมีแพ็คเกจของบริการ TrueID อยู่ ก็สามารถรับชมภาพยนตร์ทั่วไปที่มีอยู่ได้ทันที ส่วนเรื่องไหนที่มีคำว่า Premium อยู่ เช่น เป็นหนังใหม่ที่เพิ่งออกมาได้ไม่นาน การรับชมจะใช้เป็นลักษณะของการเช่าที่ผู้ใช้สามารถจ่ายเพื่อรับชมได้ทันที ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าฟังก์ชันนี้ทำออกมาได้ยืดหยุ่นทีเดียว เนื่องจากผู้ใช้สามารถเลือกวิธีในการจ่ายค่าชมได้ถึง 3 วิธี ได้แก่
- ใช้ ticket ที่ได้มาจากแพ็คเกจ TrueID เช่น อาจจะได้มาเดือนละ 5 ใบ/บัญชีผู้ใช้งาน
- ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบิท (ด้วยการสแกน QR เพื่อจ่ายเงินผ่านแอป TrueID)
- จ่ายด้วยคะแนนทรูพอยท์ (ใช้ได้ 2 ครั้งต่อเดือน)
ภาพยนตร์ที่กดเช่ามาเรียบร้อยแล้ว จะสามารถรับชมได้ภายใน 30 วันหลังกดเช่า และเมื่อเปิดดูแล้ว ก็จะมีเวลารับชมได้ภายใน 48 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งก็เหมือนกับ iTunes Store เลยครับ
การรับชมภาพยนตร์นั้น ผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนภาษาของเสียงและซับได้ตามที่มีมา รวมถึงยังสามารถปรับความละเอียดของภาพได้
ถัดลงมาก็จะเป็นกลุ่มของรายการทีวี และรายการแบบ Exclusive ที่มีเฉพาะบน TrueID เท่านั้น ตัวอย่างก็เช่น เนื้อหาจาก BNK48 เป็นต้น
ต่อมาก็เป็นคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอล ที่ถ้าหากแพ็คเกจของผู้ใช้งานนั้นครอบคลุมถึงการดูบอลผ่านช่อง bein Sports ด้วย ก็จะสามารถเข้ามาดูไฮไลท์การแข่งขันต่าง ๆ ได้เลย รวมถึงยังสามารถตั้งเวลาให้ระบบแจ้งเตือนเมื่อการแข่งขันของคู่ที่ต้องการรับชมเริ่มขึ้น
การรับชมทีวีก็สามารถทำได้ทั้งจากการกดปุ่มลัดบนรีโมท หรือจะกดเลขช่องที่ต้องการได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ในเมนูใดก็ตาม โดยผู้ใช้สามารถเรียกดูผังรายการได้ สามารถปรับความละเอียดของภาพได้ รวมถึงสามารถเปลี่ยนภาษาของเสียงในแต่ละรายการได้ด้วย (ขึ้นอยู่กับต้นทางด้วย ว่ามีปล่อยมากี่ภาษา)
ด้านของการติดตั้งแอปลงในกล่อง TrueID TV นั้น มีด้วยกัน 2 วิธี สำหรับวิธีแรกก็คือการติดตั้งผ่าน Play Store ภายในเครื่อง ที่เป็นแหล่งรวบรวมแอปสำหรับใช้งานบน Android TV ซึ่งแอปส่วนมากแล้วก็จะเป็นแอปด้านความบันเทิง เช่น แอปดูหนัง ฟังเพลง ดูทีวีออนไลน์ ระบบ media server ภายในบ้าน เป็นต้น ส่วนเกมก็พอมีอยู่บ้างครับ เช่นเกม Asphalt
อีกวิธีก็คือการติดตั้งแบบ sideload ที่ผู้ใช้สามารถโหลดไฟล์ .apk จากที่อื่นมาใส่ใน MicroSD / USB drive เพื่อมาติดตั้งภายในเครื่องผ่านแอปประเภท file explorer เช่น ES File Explorer เป็นต้น ซึ่งแอปที่จะนำมาติดตั้งนี้ สามารถใช้ได้ทั้งไฟล์ .apk ที่เป็นเวอร์ชันสำหรับ Android TV โดยตรง รวมถึงไฟล์ที่เป็นเวอร์ชันสำหรับใช้ในมือถือ แท็บเล็ต Android ก็ได้เช่นกัน แต่ก็ไม่รับประกันนะครับว่าจะสามารถใช้งานได้
หนึ่งในคำถามที่มีคนสงสัยมากที่สุดข้อหนึ่ง รวมถึงตัวผมเองด้วยก็คือ
เราสามารถติดตั้งแอป Netflix ลงในกล่อง TrueID TV ได้หรือไม่
ซึ่งผมทดลองเรียบร้อยแล้วครับ โดยในการติดตั้งแอป Netflix นั้น จะต้องใช้ไฟล์ .apk มาติดตั้งเอง เนื่องจากใน Play Store ที่เปิดจากในกล่อง TrueID TV จะไม่มีแอป Netflix ให้เลือก
โดยไฟล์ apk ของแอป Netflix เองก็จะแบ่งเป็นสำหรับมือถือ/แท็บเล็ต และสำหรับ Android TV ด้วย ในครั้งแรกผมลองใช้ไฟล์ของเวอร์ชัน Android TV มาลองก่อน ปรากฏว่าไม่สามารถใช้งานได้เลย จนต้องลบแอปทิ้งไป
หลังจากนั้นก็เลยเปลี่ยนไปใช้ไฟล์เวอร์ชันสำหรับมือถือแทน ผลคือสามารถใช้งานได้ ล็อกอินได้ แต่ในการควบคุมการใช้งาน เช่น การเลือกภาพยนตร์ที่จะชม จะต้องใช้เมาส์ช่วยด้วยครับ ดังนั้นแนะนำว่าควรจะมีเมาส์ไร้สายไว้ใกล้มือด้วยซักตัวนึง ส่วนในการรับชมภาพยนตร์นั้น บางเรื่องก็เปิดชมได้ไม่มีปัญหา บางเรื่องก็รับชมไม่ได้เลยก็มีครับ
ดังนั้นก็พอสรุปได้ว่า สามารถใช้ Netflix กับกล่อง TrueID TV ได้ แต่ทำงานได้ไม่ 100% นะ
ส่วน Line TV นั้น ผมก็ทดลองแล้วเหมือนกันครับ พบว่าสามารถใช้งานได้นะ แต่ภาพจะแสดงผลในแบบของมือถือ นั่นคือพลิกในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาไป 90 องศา คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่ apk มีทำมาเฉพาะเวอร์ชันบนมือถือ/แท็บเล็ตเท่านั้น ทำให้ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ Android TV ได้อย่างเต็มที่
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการรับชมภาพยนตร์ด้วยกล่อง TrueID TV ก็คือการซื้อหรือเช่าผ่านทาง Google Play Movies & TV นั่นเอง
การรับชม YouTube ก็สามารถทำได้ทันทีทั้งจากการเปิดแอป YouTube ในกล่อง TrueID TV หรือจะอาศัยการ cast จากมือถือโยนขึ้นไปก็ได้เช่นกันครับ อินเตอร์เฟสของแอป YouTube ก็ถือว่าทำมาได้ดี รวมถึงยังสามารถรับชมคลิปได้ที่ความละเอียดระดับ 4K อีกด้วย
อีกแอปที่น่าสนใจก็คือ Spotify ที่มีให้ใช้งานบน Android TV ได้เลย การใช้งานก็แทบไม่แตกต่างจากในมือถือเลยครับ รวมถึงยังสามารถใช้มือถือที่ลิงค์ด้วยบัญชี Spotify เดียวกันในการควบคุมการเล่นเพลงได้อีกด้วย
ส่วนด้านล่างนี้ เป็นการรีวิวในด้านของตัว Android TV ที่มากับกล่อง TrueID TV บ้างครับ
ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเมนูการตั้งค่าได้จากไอคอนรูปเฟืองที่มุมขวาบนของหน้าหลัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะมีโครงสร้างของเมนูที่ใกล้เคียงกับ Android ในมือถือและแท็บเล็ตที่หลาย ๆ ท่านคุ้นเคย
ในเมนู Network นอกเหนือจากมีตัวเลือกของ WiFi ให้เชื่อมต่อแล้ว ยังมีเมนูตรวจสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตอีกด้วย ซึ่งในภาพข้างบนนี้เป็นการทดสอบกับ WiFi 5 GHz ในบ้านผมเอง แม้ความเร็วจะไม่ได้สูงเหมือนกับเวลาทดสอบด้วยเครื่องอื่น ๆ (คาดว่าน่าจะมาจากข้อจำกัดของตัวชิป) แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดูทีวี ดูหนังบนกล่อง TrueID TV ได้ลื่นไหลอยู่
เมนู Apps ก็เป็นจุดที่รวมรายชื่อแอปที่ติดตั้งอยู่ ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้ามาสั่งปิด สั่งลบแอปได้ตามต้องการ
ส่วนของ Storage ก็จะระบุชัดเจนเลยว่าพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องเหลือให้ใช้งานได้เท่าไหร่ ซึ่งระบบจะแจ้งว่าเหลือให้ใช้งานได้ 4 GB จากพื้นที่ทั้งหมดตามสเปคคือ 8 GB
Android TV ที่ติดตั้งมาในเครื่องก็เป็นเวอร์ชัน 8.0 แพทช์ความปลอดภัยเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2018
ส่วนภาษาของการแสดงผล เช่น เมนู ปุ่มสั่งงาน ข้อความแจ้งข้อมูลต่าง ๆ สามารถเลือกใช้เป็นภาษาไทยได้ด้วย แต่สำหรับคีย์บอร์ดที่ติดมากับรอมก็จะเป็น Gboard ครับ แต่ไม่รองรับภาษาไทย หากต้องการพิมพ์ภาษาไทย ก็คงต้องติดตั้งแอปอื่นเอง ซึ่งผมลองดูจาก Play Store ในเครื่องแล้วก็พบว่ามีแอปคีย์บอร์ดภาษาไทยให้ใช้งานได้อยู่นะ
เมื่อตรวจสอบด้วยแอป DRM Info ก็พบว่ากล่อง TrueID TV ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน Widevine ระดับ L1 เลย
อีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจก็คือ ความสามารถในการสั่งงานผ่านเสียงของ Google Assistant จากรีโมทในมือ ซึ่งความสามารถในการฟังเสียงพูด และแปลเป็นคำสั่งถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว โดยผลการค้นหาจะเน้นที่ผลจาก YouTube เป็นหลัก
การ cast ก็สามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่กดไอคอนรูป cast ที่อยู่ในแต่ละแอป แล้วเลือก cast ไปยังกล่อง TrueID TV ได้ทันที
สำหรับความลื่นไหลในการใช้งานนั้น โดยรวมแล้วก็จัดว่าอยู่ในระดับที่โอเคครับ ช้ากว่ากล่องทีวีทั่วไปเล็กน้อย อาจจะมีหน่วง ๆ บ้างตอนช่วงที่เปิดกล่องขึ้นมาใหม่ ๆ เนื่องจากระบบต้องโหลดเซอร์วิสต่าง ๆ และแอปบางตัวที่ต้องทำงานทันทีหลังระบบเริ่มทำงาน ส่วนหลังจากที่ระบบเปิดแอปที่จำเป็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว การทำงานของระบบก็จะไหลลื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดยรวมแล้ว กล่อง TrueID TV นับเป็นกล่อง media player ที่ครบครันสำหรับการใช้งานด้านความบันเทิงทั่วไปภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นดูทีวี ดูหนัง ฟังเพลงผ่านอินเตอร์เน็ต พ่วงมาด้วยความสามารถของระบบปฏิบัติการ Android TV ที่ให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอปเพิ่มได้เอง (แม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง) รองรับการใช้งานแบบ Chromecast ที่ผ่านการตรวจสอบจากทาง Google โดยตรง ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่ากล่องดูทีวีทั่ว ๆ ไป
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้งาน TrueID อยู่แล้ว หรือได้รับสิทธิ์ดูทีวีผ่าน TrueID พ่วงมาจากแพ็คเกจอื่น กล่อง TrueID TV ก็จะช่วยมาเสริมความสะดวกสบายให้กับการใช้งานขึ้นไปอีก ทำให้เป็นกล่องเดียวที่ตอบโจทย์ความบันเทิงได้อย่างครบครัน