กรุงเทพฯ- บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น เปิดตัวกองทัพทีมอาสาสู้ภัยน้ำท่วม ?TRUE SEARCH & RESCUE? โดยมีภารกิจช่วยค้นหาและช่วยเหลือพนักงานและครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วมโดยเฉพาะในพื้นที่และชุมชนที่เข้าถึงยาก ภายใต้โครงการ ?ทรู รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วม? พร้อมเผยมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัยทุกฝ่าย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตามแนวคิดหลัก True Together We can make it True ?ทุกสิ่งเป็นจริงได้ เมื่อเรามีกันและกัน?
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ทรูฯ ตระหนักถึงความสำคัญด้านความรับผิดชอบต่อสังคมมาโดยตลอด โดยมีพนักงานเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงาน หากพนักงานสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้สามารถเดินหน้าไปได้ แล้วยังส่งต่อพลังที่เพิ่มขึ้นนั้นไปยังชุมชนและสังคม นี่คือภารกิจที่ทรูฯ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์ที่อาจมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ตั้งแต่เริ่มสถานการณ์น้ำท่วมในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน กลุ่มผู้บริหารและพนักงานทรูคอร์ปอเรชั่นได้เดินหน้าให้ความช่วยเหลือพนักงานและครอบครัว พัยธมิตรคู่ค้าและผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ จนทำให้เกิดแรงบันดาลใจแก่กลุ่มผู้บริหาร จัดตั้งทีม TRUE SEARCH & RESCUE ขึ้นภายใต้โครงการ ?ทรู รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วม? โดยได้รวบรวมและฝึกอบรมกลุ่มพนักงานจิตอาสา เพื่อภารกิจสำคัญในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่และชุมชนที่เข้าถึงยากทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งยังส่งมอบความช่วยเหลืออื่นๆ และถุงยังชีพ อีกทั้งอพยพพนักงาน รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวออกจากจุดเสี่ยงภัย
จากตัวเลขการดำเนินงานจนถึงวันที่ 4 พ.ย. 2554 สามารถช่วยเหลือพนักงานและครอบครัว รวมถึงผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบแล้วจำนวนกว่า 2,000 ราย และสัตว์เลี้ยงกว่า 70 ตัว เพื่อนำมายังที่พักชั่วคราวและสถานที่ปลอดภัย โดยเฉลี่ยความช่วยเหลือประมาณวันละ 300 ราย รวมงบประมาณที่ใช้ไปในการช่วยเหลือในวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่นี้กว่า 40 ล้านบาท
นอกจากนั้น กลุ่มทรู ยังได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มวิกฤตน้ำท่วม จนถึงแผนฟื้นฟูภายหลังน้ำลด อาทิ จัดหาที่จอดรถและพี่พักให้พนักงานที่ประสบภัย จัดหากระสอบทราย จัดหาน้ำดื่มและอาหารราคาพิเศษ การจ่ายเงินเดือนเร็วขึ้นก่อนกำหนด เงินช่วยเหลือสำหรับบ้านที่พักอาศัยของพนักงานเองที่เสียหายจากน้ำท่วมไม่เกิน 2 หมื่นบาท ตลอดจนมาตรการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 1-3 หมื่นบาทต่อราย และอื่นๆ เป็นต้น
ด้วยแนวคิด True Together We can make it True ยังส่งผลกระทบเชิงบวกถึงนโยบายช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ผู้บริหารทรูฯ กล่าวต่อว่า ถึงแม้ลูกค้ากว่า 5 หมื่นรายจะได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ทรูฯ ยังคงมุ่งหวังให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้เต็มประสิทธิภาพทั่วทุกพื้นที่ จึงมีนโยบายด้านการชำระเงิน (Billing) สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มทรูทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น การยืดเวลาชำระค่าบริการ การขอผ่อนชำระค่าบริการรายเดือนในรอบเดือนตุลาคม ลำหรับลูกค้าทรูมูฟแบบเติมเงินสามารถเติมเงินฟรี 20 บาทต่อครั้งเพื่อใช้ได้ตลอดสัปดาห์ หรือการออกบริการโทรฟรีสำหรับเบอร์โทรกลับและฉุกเฉิน เป็นต้น
ขณะกำลังให้ความช่วยเหลือเยียวยา ผู้ประสบอุทกภัยอยู่นั้น ทรูเองจำเป็นต้องทำงานตรวจสอบ รักษาสถานีฐาน และชุมสายหลักในส่วนของทรูมูฟ ทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์ไปพร้อมๆ กัน โดยประสานงานกับการไฟฟ้านครหลวงและส่วนภูมิภาคในการจำหน่ายไฟ และไม่ดับไฟชุมสายต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง พร้อมกับเสนอมาตรการฟื้นฟูพื้นที่ของลูกค้าหลังน้ำลดแล้วในบางจุด โดยจะเร่งซ่อมแซมระบบเพื่อนำโปรแกรมบริการต่างๆ มาสู่ลูกค้าให้เร็วที่สุด พร้อมปรับเปลี่ยนระบบการทำงานภายในองค์กรให้เป็น Office@Home และ Mobile Office เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น
สำหรับแผนการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ภัยร้ายในอนาคตนั้น ทรูฯ เล็งเห็นความสำคัญในการปรับปรุงระบบโดยจะนำไฟฟ้าและโซล่าร์ซิสเต็มมาใช้เพื่อป้องกันความเสียหายซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ ตลอดจนเตรียมการย้ายศูนย์บริการรับเรื่องร้องเรียน (Call Center) ไปยังหัวหิน และชลบุรี ด้วย
?น้ำท่วมครั้งนี้นับเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับทรูคอร์ปอเรชั่น และคนไทยทุกคน มีโทษ แต่ก็มีคุณค่าเหมือนวิกฤติของคนไทยทุกครั้งที่เรายังผ่านมาได้ เพียงแต่เราต้องเตรียมพร้อมและเตรียมตัวให้ดีและมีสติในทุกสถานการณ์ รวมถึงต้องประเมินค่าของเหตุการณ์ต่างๆ ให้มากกว่านี้ และสร้างมาตรฐานและยกระดับการบริการทั้งหมดในอนาคต? นายศุภชัย กล่าวทิ้งท้าย