ก่อนหน้านี้ได้มีกระแสของ “เพนกวิน” ค่ายมือถือน้องใหม่จากบริษัทเดอะไวท์สเปซ ซึ่งเป็นค่ายมือถือแบบ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่าเป็นเครือข่ายที่ไม่มีโครงข่ายของตนเองนั่นเอง และทางบริษัทได้เช่าโครงข่ายจาก CAT Telecom หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) โดยจะใช้งานสัญญาณแบบ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ซึ่งเป็นคลื่น 3G ที่ทางค่ายมือถือต่างๆ ใช้งานอยู่ในปัจจุบันนี้
จุดขายอยู่ตรงไหน?
โดยจุดเด่นที่ทำให้เครือข่ายน้องใหม่เจ้านี้เป็นที่สนใจจากผู้คนจำนวนมากนั่นคือ ความคุ้มค่าของโปรโมชั่น ซึ่งผมคิดว่าทางผู้ให้บริการอาจจะเน้นไปที่กลุ่มคนที่ไม่ต้องการใช้งานเน็ตความเร็วสูงแต่อยากได้เน็ตที่ใช้งานได้เรื่อยๆทั้งเดือนมากกว่า และที่สำคัญคือราคาที่เป็นมิตร ซึ่งเมื่อได้มีการเปิดตัวซิมค่ายใหม่นี้ออกมาก็เท่ากับว่าตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มผู้ใช้งานดังกล่าวไปแบบเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็วขั้นต่ำที่หากเปิดเบอร์ทันภายใน 10,000 คนแรกของจังหวัดจะได้เป็น 1 Mbps หรือจะเป็นเรื่องของคุณภาพสัญญาณ 3G เทียบเท่าค่ายมือถือชั้นนำ
โดยจุดขายของซิมเพนกวินนั้นอยู่ที่ หากเราเปิดเบอร์ใหม่ภายใน 10,000 เบอร์แรกของแต่ละจังหวัดเราจะได้รับสิทธิพิเศษในการใช้งาน 3G ที่ความเร็ว 1 Mbps (จากปกติ 512 kbps ) เท่ากับว่าเร็วกว่า 1 เท่าตัวเลยทีเดียว และสำหรับพื้นที่ในการให้บริการนั้นด้วยความสงสัยผมจึงได้ลองเช็คดูว่าบริเวณพื้นที่ที่ผมอยู่นั้นสัญญาณครอบคลุมหรือไม่ ก็ได้รู้สึกอุ่นใจมากขึ้นเพราะสัญญาณของเพนกวินนั้นครอบคลุมทั่วประเทศดังภาพด้านล่าง
ดังนั้นในเรื่องของพื้นที่ให้บริการนั้นไม่ต้องเป็นกังวลเพราะจะเห็นได้ว่าสัญญาณของเพนกวินนั้นครอบคลุมอย่างทั่วถึงทุกภาคของประเทศไทยเลยทีเดียว เรื่องต่อมาที่จะต้องมาดูกันนั่นก็คือเรื่องของโปรโมชั่นซึ่งโปรโมชั่นของเพนกวินตอนนี้นั้นมีไม่มากเนื่องจากเป็นช่วงที่เพิ่งเปิดให้บริการใหม่ โดยโปรโมชั่นของเพนกวินจะมีดังต่อไปนี้
จะเห็นได้ว่าโปรโมชั่นของทางเพนกวินนั้นจะเน้นไปที่แพ็คเกจ 3G เป็นหลักซึ่งก็ไม่ได้มีข้อบังคับแต่อย่างใด เราสามารถเลือกเองได้ว่าจะใช้งานแบบรายสัปดาห์หรือจะใช้งานแบบรายเดือน ส่วนค่าใช้จ่ายแบบรายสัปดาห์นั้นจะอยู่ที่ 100 บาทและแบบรายเดือนจะอยู่ที่ 300 บาท/เดือนเท่านั้น และในส่วนนี้ผู้ที่เปิดเบอร์ใหม่ใน 10,000 คนแรกก็จะได้รับสิทธิ์ใช้งาน 3G ความเร็วขั้นต่ำ 1 Mbps ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ซิมเพนกวินเป็นที่ต้องการของผู้คนในขณะนี้
ในตอนแรกนั้นผมได้ยินว่าซิมเพนกวินนั้นจัดว่าหายากพอสมควร ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าซิมเพนกวินวางจำหน่ายที่ห้างมือถือชั้นนำเป็นส่วนใหญ่ ด้วยความสงสัยผมจึงได้ลองสุ่มตรวจสอบที่ห้างไอทีชื่อดังย่านงามวงศ์วานก็พบว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างก็บอกว่ายังไม่มีวางจำหน่าย บางร้านก็อ้างว่าเซลส์ยังไม่ติดต่อมา ทำเอาผมเกือบที่จะถอดใจไปแล้วเหมือนกัน และผมจึงได้เดินทางต่อไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังบนถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากเท่าไรนัก
ซึ่งผมได้ข้อมูลมาว่าห้างนี้มีซิมเพนกวินขาย และในที่สุดผมก็ได้เจอซิมเพนกวินตัวเป็นๆ จริงๆ เหมือนอย่างที่ได้ข่าวมา และที่น่าสนใจนั่นคือคนขายยังขายราคาเท่ากับที่หน้าซองบอกนั่นคือ 49 บาทเท่านั้นเอง และเมื่อได้ซิมมาแล้วผมก็ได้เริ่มทดลองการใช้งาน ซึ่งเราจะต้องลงทะเบียนซิมก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งทางร้านที่จำหน่ายซิมให้กับผมได้ทำการลงทะเบียนซิมมาให้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อเราแกะซองก็จะเห็นสิ่งของตามภาพดังต่อไปนี้
ความเร็ว 3G
และก็มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอยนั่นคือเรื่องของการใช้งานซิมเพนกวินว่าจะตอบโจทย์การใช้งานในส่วนไหนบ้าง เริ่มจากในส่วนแรกนั่นคือการเทสสปีดของ 3G ก่อนว่าความเร็วของ 3G นั้นตรงกับที่ทางเครือข่ายโฆษณาเอาไว้หรือเปล่า และผลที่ออกมาก็เป็นดังภาพที่เห็นด้านล่างนี้เลย จะเห็นได้ว่าความเร็วในการดาวน์โหลดและอัพโหลดนั้นอยู่ที่ 1 Mbps ซึ่งเท่ากับความเร็วที่ได้มีการโฆษณาเอาไว้
แต่ก่อนอื่นให้ลองสังเกตดูว่ามีข้อความที่บอกว่าเราได้สิทธิ์ใช้งาน 3G ความเร็ว 1 Mbps เข้ามาหรือไม่หากไม่มีข้อความเข้ามาและความเร็วที่ได้ไม่ถึง 1 Mbps นั่นหมายความว่าเราอาจจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการใช้งาน 3G ความเร็ว 1 Mbps เนื่องจากมีผู้เปิดเบอร์ใหม่เกิน 10,000 คนในจังหวัดที่เราอยู่นั่นเอง และนี่คือตัวอย่างข้อความที่จะแจ้งเข้ามาหากเราเป็น 10,000 คนแรกที่ได้รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็ว 1 Mbps
ดู YouTube ได้หรือไม่??
คำถามข้อต่อมานั่นคือ 3G ความเร็ว 1 Mbps นั้นทำอะไรได้บ้าง?? ซึ่งเป็นคำถามที่หลายๆ คนรวมถึงตัวผมเองก็สงสัยในจุดนี้ เพราะไม่เคยมีผู้ให้บริการเจ้าไหนที่ให้ 3G ขั้นต่ำหลัก Mbps มาก่อนผมจึงได้ทดสอบกับการดูวีดีโอบน YouTube เป็นอันดับแรกและเมื่อได้ดูวีดีโอบนความละเอียดระดับต่างๆ ก็ได้พบกับข้อสังเกตเล็กๆน้อยๆ ดังต่อไปนี้
ความละเอียด
- 1080p – ภาพสะดุดและดาวน์โหลดนาน ความเร็ว 3G ยังไม่เพียงพอกับการดูแบบ Full HD แห่หากกด Pause ทิ้งไว้สักครู่ก็จะพอดูได้เหมือนกัน
- 720p – ดูได้ไหลลื่นผสมกับสะดุดเป็นระยะๆ แต่โดยรวมยังถือว่าโอเคอยู่
- 480p – ดูได้ลื่นมาก สามารถกด Seek ข้ามไปช่วงต่างๆ และดูต่อไปได้อย่างไม่สะดุด (ต้องรอโหลดประมาณ 5 วินาที) ซึ่งความละเอียดต่ำกว่านี้นั้นก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ในตอนแรกที่พบว่าซิมเพนกวินนั้นดู YouTube ความละเอียดแบบ HD ได้ผมรู้สึกประทับใจขึ้นมาทันทีเลย ยังไม่รวมถึงการเล่นโซเชียลอย่างเช่น Facebook ที่การโหลด Feed ใหม่ๆนั้นทำได้น่าพอใจมาก เล่นได้ดีกว่าความเร็วขั้นต่ำจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ ซึ่งถือว่าในเรื่องของความเร็วทำได้น่าประทับใจ ถึงแม้จะไม่รวดเร็วมากเหมือนกับแพคเกจหลักๆ จากผู้ให้บริการเจ้าต่างๆ แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันอย่างแน่นอน และที่น่าสนใจนั่นคือผมสังเกตได้ว่าเปิดแผนที่ในการขับรถได้เร็วกว่า 3G ขั้นต่ำมากซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง??
เนื่องจากซิมเพนกวินเป็นที่ต้องการสำหรับคนจำนวนมากในตอนนี้คำถามที่ฮอตฮิตที่สุดนั้นได้แก่เราจะสามารถจะซื้อซิมเพนกวินได้ที่ไหน? และผมได้ไปเจอข้อมูลดีๆ จากเว็บไซต์ Pantip.com ที่ได้ระบุถึงสถานที่จำหน่ายซิมเพนกวินในกรุงเทพและปริมณฑล รวมไปถึงจังหวัดอื่นๆ ดังนี้
พื้นที่ในต่างจังหวัด
บทสรุป
ซิมเพนกวินจัดว่าเป็นซิมทางเลือกใหม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการความเร็วสูงมาก แต่ต้องการ 3G ที่สามารถใช้งานได้เรื่อยๆ ทั้งเดือน อีกทั้งค่าโทรของซิมเพนกวินนั้นก็ยังถูกมากอีกเช่นกันโดยทางเครือข่ายคิดเป็นวินาทีละ 1 สตางค์เท่านั้น และยังสามารถโทรได้ทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม. อีกด้วย ในเรื่องการใช้งาน 3G ก็คิดตามจริงด้วยเช่นกัน โดยทางเครือข่ายจะคิดวันละไม่เกิน 20 บาทเท่านั้น ที่น่าสนใจคือเมื่อเราเล่น 3G ครบ 20 บาทเราจะได้สิทธิ์เล่น 3G ฟรีถึงเที่ยงคืนกันเลย แต่ทางที่ดีผมแนะนำให้สมัครโปรแบบรายเดือนจะดีที่สุด ซึ่งจุดนีั้ถือว่าเป็นจุดแข็งที่ทำให้ซิมเพนกวินนั้นเป็นที่สนใจของผู้คน โดยรวมแล้วส่วนตัวผมถือว่าเป็นเครือข่ายที่ใช้ดี แต่อาจจะต้องรอดูอีกครั้งตอนที่มีผู้ใช้งานมากกว่านี้ว่าสัญญาณจะดีเหมือนเดิมหรือไม่
จุดเด่น
- ซิมราคาถูกเพียง 49 บาทเท่านั้น
- คิดอัตราค่าบริการ 3G ไม่เกิน 20 บาท/วัน
- โทรถูกแบบไม่จำกัดเครือข่ายและช่วงเวลา เฉลี่ยแล้วนาทีละประมาณ 60 สตางค์
- 3G มีความเร็วตามที่ได้โฆษณาไว้ที่ 1 Mbps
ข้อสังเกต
- ซิมยังวางจำหน่ายไม่ทั่วทุกพื้นที่ และไม่ได้ใช้งาน 3G ความเร็ว 1 Mbps แบบนี้ตลอดไป ซึ่งจะใช้ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น
- พบปัญหาสัญญาณอ่อนบ้างเป็นบางพื้นที่แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่มากแต่อย่างใด
- การเติมเงินใน 7-Eleven ตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้ที่ง่ายสุดคือใน AirPay
- ไม่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง