ซิมเพนกวินเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการมือถือแบบ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) ซึ่งก็คือผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่ไม่มีเครือข่ายของตนเองแบบค่ายมือถือรายใหญ่ แต่จะใช้เครือข่าย หรือ NETWORK ของ CAT หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือพูดง่ายๆ ว่าไปใช้เสาของ CAT ความถี่ 850 MHz นั่นเองครับ เช่นเดียวกับ 365, 168 เป็นต้น
โดยโปรโมชันฉลองเปิดตัวของซิมเพนกวินก็คืออินเทอร์เน็ตไม่อั้นแบบ FUP ความเร็ว 1 Mbps แต่ๆๆๆๆๆ ความเร็วที่ได้ 1 Mbps นั้น จะต้องเป็น 10,000 ซิมแรกของจังหวัดเท่านั้นนะครับ (หมายถึงซิมที่เปิดสัญญาณในจังหวัดนั้นๆ ไม่เกี่ยวกับจังหวัดที่ระบุไว้ตามบัตรประชาชน)
10,000 ซิมแรกของจังหวัด จะได้ SMS แบบนี้ตอนเปิดใช้งานครับ
แน่นอนว่าออกตัวแรงขนาดนี้ ก็เป็นกระแสขึ้นมาสิครับ เพราะพูดกันตามตรง กลุ่มคนที่เน้นใช้งานเน็ตมือถือเป็นหลักนี่ก็เยอะอยู่ ประเภทที่ว่าใช้เป็นทุกอย่าง ทั้งเล่นโซเชียล, โทรไลน์ ไปจนถึงปล่อยโหลด Bittorrent ก็มีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นโปรโมชันซิม my by CAT หรือโปรเน็ตทรู 512 Mbps คงไม่ขายได้ และแน่นอนว่า FUP 1 Mbps ของซิมเพนกวินนั้นเป็นเจ้าแรกของไทยที่ทำได้จริงซะด้วย (ก่อนหน้านี้มี Jas 4G ออกตัวว่าจะให้ FUP 1 Mbps)
ซิมเพนกวินน้องใหม่ออกตัวแรงมาขนาดนี้ ผมก็เลยจับมาเทียบให้เห็นกันไปเลยว่าระหว่างซิมเพนกวิน เน็ตไม่อั้นความเร็ว 1 Mbps เมื่อเทียบกับเจ้าเก่าอย่าง my by CAT ใครจะคุ้มกว่ากัน แล้วควรเลือกใช้ซิมไหนดี ควรจะเปลี่ยนมาใช้ซิมเพนกวินดีไหม ถ้าเคยใช้ my by CAT กับแพคเกจ 215/512 อยู่แล้ว
ค่าบริการ + ค่าโทรศัพท์
สิ่งแรกที่เราจะเห็นเลยคือซิมเพนกวิน โปรเน็ต 1 Mbps จะมีค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 300 บาท รวม vat อีก 7% = 321 บาท สิ่งที่ได้จากแพคเกจนี้ก็คืออินเทอร์เน็ตไม่อั้น ความเร็ว 1 Mbps ส่วนค่าโทรนั้นคิดตามจริงเป็นวินาที ตกวินาทีละ 1 สตางค์ ผมจะคิดง่ายๆ คือทุกการโทร 5 นาที (300 วินาที) จะมีค่าบริการรวม vat แล้วอยู่ที่ 3.21 บาท
ส่วน my by CAT แพคเกจที่พอจะต่อกรกับซิมเพนกวินได้ก็คือ my 215/512 ที่ให้ใช้เน็ตไม่อั้น ความเร็ว 512 Kbps นาน 31 วัน ค่าบริการรวมภาษีมูลค่าเพิ่มก็จะอยู่ที่ 230.05 บาท ส่วนค่าโทรถ้าคิดตามแพคเกจวินาที จะอยู่ที่วินาทีละ 0.0013 บาทต่อวินาที ทุกการโทร 5 นาทีคอดเป็นเงิน 3.9 บาท (รวม vat แล้ว)
เอาเป็นว่าค่าโทรของซิมเพนกวินนี่ถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด โทร 100 นาที คิดเป็นเงิน 65 บาท ส่วน my by CAT แบบคิดเป็นวินาที โทร 100 นาที คิดเป็นเงิน 78 บาท ส่วนค่าอินเทอร์เน็ต ถ้าไม่ได้เป็น 10,000 คนแรกในซิมเพนกวิน อันนี้ my by CAT จะชนะขาดครับ เพราะแพคเกจเสริมราคาถูกกว่าหลายบาทอยู่
สรุปผล ซิมเพนกวินชนะขาด เพราะได้ค่าโทรถูกกว่า ส่วนโปรเน็ตถ้าอยู่ใน 10,000 ซิมแรกก็คุ้มกว่าเห็นๆ ความเร็วที่ 1 Mbps สามารถดูยูทูปได้ลื่นกว่า 512 Kbps ของ my by CAT เยอะเลย แต่ถ้าไม่อยู่ใน 10,000 ซิมแรกของจังหวัดเนี่ย แนะนำให้เลื่อนลงมาดูทางด้านล่างครับ
สัญญาณและพื้นที่ให้บริการ
ทั้ง my by CAT และซิมเพนกวินก็ล้วนแต่ใช้ความถี่ 850 Mhz ด้วยกันทั้งคู่ โดยซิมเพนกวินเป็นผู้ให้บริการมือถือแบบ MVNO ที่ไปขอเช่าเครือข่ายของ CAT ในการให้บริการโทรศัพท์ เพราะฉะนั้นตรงไหนที่ใช้งานซิม my by CAT ได้ ก็จะใช้ซิมเพนกวินได้เช่นเดียวกัน ใครที่เคยใช้ซิม my อยู่แล้วรู้สึกแฮปปี้ดี เปลี่ยนมาใช้ซิมเพนกวินก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้าใช้ซิม my อยู่แล้วรู้สึกว่าเน็ตไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนตัวผมว่าย้ายมาเพนกวินก็อาจจะพบปัญหาคล้ายกัน แต่ก็ไม่แน่ว่าซิมเพนกวินอาจะมีการจัดการสัญญาณที่ดีกว่า เนื่องจากมีผู้ใช้บริการน้อยกว่า ส่วนเรื่องความเร็วอันนี้ก็ตามแพคเกจครับ เท่าที่ดูคน Testspeed มาอวดกัน ซิมเพนกวินก็ทำได้ตามที่คุยไว้จริงๆ คือดาวน์โหลดวิ่งอยู่ที่ 1 Mbps นิดๆ (สำหรับ 10,000 ซิมแรกของจังหวัด)
สรุปผล ผมยังให้เครดิตซิมเพนกวินเป็นต่ออยู่นิดหน่อย เพราะเป็นผู้ให้บริการหน้าใหม่ ลูกค้าอาจจะไม่เยอะมาก การจัดการสัญญาณก็เลยทำได้ดีกว่า
ช่องทางการเติมเงิน
เป็นน้องใหม่ก็แบบนี้แหละครับ ช่องทางการเติมเงินของซิมเพนกวินก็เลยน้อยตามไปด้วย เท่าที่ทราบมาตอนนี้จะมีแค่เติมเงินผ่าน AirPay และออนไลน์เจ้าอื่นๆ (ราคาบัตรเติมเงินเริ่มต้น 10 บาท) กับหน้าร้านที่ขายซิม (บัตรเริ่มต้น 20 บาท) เป็นหลัก ส่วนช่องทางอย่างตู้บุญเติม หรือ 7-11 ยังต้องรอไปอีกสักพัก ตรงนี้จะแตกต่างจาก my by CAT ที่มีช่องทางในการเติมเงินเยอะกว่า แต่ถ้าในอนาคตซิมเพนกวินสามารถเติมเงินผ่าน 7-11 ได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
สรุปผล ถ้าวัดผลตอนนี้ พี่แมว my by CAT ชนะไปครับ เพราะมีช่องทางเยอะกว่าจริงๆ แต่ในอนาคตถ้าซิมเพนกวินเติมเงินได้ที่เซเว่นอันนี้ก็เสมอกันไป
ถ้าไม่ได้อยู่ใน 10,000 ซิมแรกของจังหวัด ทำยังไงดี?
นั่นน่ะสิครับ ถ้าไม่ได้เป็น 10,000 ซิมแรกของจังหวัด ซิมเพนกวินก็จะมีความเร็วอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 512 Kbps เท่านั้น ทีนี้ล่ะก็คู่แข่งเพียบ ทั้งพี่แมว my by CAT เจ้าเก่าเจ้าเดิม หรือแม้แต่ขาใหญ่อย่าง Truemove-H ก็มีโปรเสริมเติมเงินแนวๆ นี้ออกมาให้เลือกใช้เหมือนกัน และถ้าเทียบราคาระหว่างแพคเกจ 512 Kbps ของทั้ง 3 เจ้า ได้แก่ เพนกวินซิม, my by CAT และ Truemove-H ตามราคาจากถูกที่สุด มาถึงแพงที่สุดก็จะได้ตามนี้ครับ
- my by CAT เน็ตไม่อั้น 512 Kbps / 31 วัน ราคา 231 บาท (รวม vat 7%)
- PenguinSim เน็ตไม่อั้น 512 Kbps / 30 วัน ราคา 321 บาท (รวม vat 7%)
- Truemove-H เน็ตไม่อั้น 512 Kbps / 7 วัน ราคา 89 บาท (รวม vat 7%) 35 วัน = 445 บาท**
**หมายเหตุ แพคเกจของ Truemove-H จะมีค่าโทรให้ด้วย 50 นาที/ สัปดาห์ (ในเครือข่าย)
สรุปผล เรื่องความมั่นคงของแพคเกจ แน่นอนว่าซิมเพนกวินจะมีระยะของโปรโมชันที่นานกว่า เรียกว่าเป็นความเร็วพื้นฐานเลยก็ว่าได้ที่ 512 Kbps ส่วนอีกสองเจ้าที่เหลือ my by CAT โปรโมชัน 215/512 จะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ (แต่ก็มีสิทธิ์ต่อโปร) ทางด้านทรูอันนี้ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมอะไร แต่คาดว่าคงจะมีขายเรื่อยๆ แหละ หาซื้อโปรได้ที่ 7-11 ทุกสาขาครับ
สรุป (สุดท้ายจริงๆ แล้ว)
จากที่เปรียบเทียบมาเนี่ย ณ ตอนนี้ ดูแล้วยังไงๆ ซิมเพนกวินก็ชนะไปแบบใสๆ ทั้งในเรื่องอินเทอร์เน็ตความเร็ว 1 Mbps (สำหรับ 10,000 ซิมแรกของแต่ละจังหวัด) และยังได้เรื่องค่าโทรที่ถูกมาก เพียงวินาทีทีละ 1 สตางค์ คิดแล้วก็ตก 5 นาที 3 บาทนิดๆ เท่านั้นเอง โดยอินเทอร์เน็ตความเร็ว 1 Mbps นี่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เล่นเว็บ เล่นโซเชียล หรือจะใช้ดูยูทูป, Line TV ที่ความละเอียด 480p แบบลื่นๆ แถมยังเป็นอินเทอร์เน็ตแบบไม่อั้นอีกต่างหาก (เดือนละ 321 บาท รวมภาษีแล้ว) เหมาะทั้งการใช้งานเป็นเบอร์หลัก หรือใครที่เน้นเล่นเน็ตอย่างเดียว อยากจะซื้อไปใส่แท็บเล็ตก็ได้ไม่ว่ากัน
แต่ๆๆๆๆๆ สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากเลยก็คือเรื่องของราคาซิมครับ ตอนนี้มีหลายร้านที่ขายซิมเพนกวินเกินราคาไปมาก จากราคาปกติ 49 บาท ถ้าไปซื้อตามมาบุญครอง อันนี้โดนโขกราคาแน่ๆ อย่างต่ำก็ล่อไป 150 บาท อย่างแพงก็ 199 บาท บัตรเติมเงินแยกต่างหากด้วยนะ คือถ้าเจอราคาเกิน 49 บาท อันนี้ผมแนะนำว่าให้รอซิมเพนกวินลง 7-11 จะดีกว่าครับ ถึงตอนนั้นค่อยซื้อก็ยังไม่สาย เผลอๆ ตอนลงเซเว่นช่วงแรกก็น่าจะเป็นซิมรุ่นที่ได้ความเร็วเน็ต 1 Mbps ทั้งหมดก็เป็นได้