OOKLA เผยรายงานการเปลี่ยนมาใช้ 5G SA ทั่วโลก พบในไทยความเร็วลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2023

เทคโนโลยี 5G ในปัจจุบันจะยังคงมีการแบ่งเป็นสองสายตามความแตกต่างหลัก ๆ ในเรื่องเทคนิคการเชื่อมต่อนั่นคือ 5G NSA (non-standalone) ที่ยังคงใช้โครงข่ายของ 4G LTE ในการทำงานอยู่และแบบ 5G SA (standalone) ที่จะอาศัยการทำงานบนโครงข่าย 5G ล้วน ๆ ซึ่งในแต่ละประเทศที่มีการใช้งาน 5G แล้วก็จะทยอยปรับเปลี่ยนจากแบบแรกสู่แบบหลังไปเรื่อย ๆ โดยจุดเด่นของแบบหลังก็คือความเร็วที่ทำได้สูงกว่า แบนด์วิธมากกว่า ความหน่วงต่ำกว่า และยังมีความเสถียรที่สูงกว่าโครงข่ายแบบเก่าด้วย

ล่าสุด OOKLA เจ้าของระบบทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตชื่อดังได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านมาใช้งานระบบ 5G SA ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งก็มีข้อมูลภาพรวมที่น่าสนใจ รวมถึงยังมีข้อมูลของประเทศไทยอีกด้วย

สำหรับในภาพรวมทั่วโลก จุดสีเหลืองของแผนที่ในภาพด้านบนนี้คือบริเวณที่มีการทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ตผ่านโครงข่าย 5G แบบ SA ในช่วงไตรมาสสองของปี 2024 ส่วนอีกภาพที่ใช้จุดสีชมพูจะเป็นของช่วงเวลาเดียวกันในปี 2023 ทำให้เห็นว่าแต่ละประเทศที่มีการใช้งาน 5G แบบ SA อยู่แล้วก็มีการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น เห็นได้ชัดเลยก็เช่นในทวีปยุโรปที่แม้จะยังกระจุกตัวอยู่แค่ในบางประเทศ แต่ความหนาแน่นของแต่ละจุดก็ดูเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับประเทศอินเดีย ญี่ปุ่น ทวีปอเมริกาใต้รวมถึงไทยด้วย ซึ่งของไทยเองจะมีทั้งความหนาแน่นของจุดที่เพิ่มขึ้นและการขยายบริเวณของจุดสีเหลืองที่สื่อถึงความครอบคลุมของ 5G SA ที่เพิ่มจากปีก่อน โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ของประเทศ ส่วนในประเทศใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกานั้นดูจะไม่ค่อยมีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะแต่เดิมก็จัดว่ากระจายตัวได้พอสมควรแล้วในบริเวณที่มีผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ส่วนตรงกลางประเทศนั้นจะเป็นพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัยไม่มากนัก

หากมาเจาะที่ภูมิภาคเอเชีย ในรายงานนี้จะจัดให้ไทยอยู่ในกลุ่ม Emerging Asian Pacific (EMAP) ที่มีการนำข้อมูลเชิงเศรษฐกิจมาเป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดกลุ่มด้วย โดยจะสื่อถึงว่าเป็นกลุ่มประเทศที่มีส่วนในการส่งผลกับเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ พบว่าฟิลิปปินส์ยังคงครองเบอร์หนึ่งในด้านค่ามัธยฐานความเร็วดาวน์โหลดอยู่ที่ 375.4 Mbps แม้จะลดลงจากปีก่อนไปพอสมควร ในขณะที่อินเดียตามมาเป็นอันดับสอง ส่วนไทยอยู่อันดับสามที่ความเร็วดาวน์โหลด 223.61 Mbps

ซึ่งการที่ค่ามัธยฐานของความเร็วดาวน์โหลดในปีนี้ลดลง น่าจะมีสาเหตุมาจากการขยายโครงข่ายของ 5G SA ในแต่ละประเทศ ในขณะเดียวกันจำนวนมือถือที่สามารถใช้ 5G แบบใหม่นี้ก็มีเพิ่มขึ้นด้วย จึงส่งผลให้ความเร็วในการใช้งานลดลงบ้าง เพราะต้องแชร์โหลดกันมากกว่าในปีก่อน

แต่พอเป็นฝั่งความเร็วในการอัปโหลด อันนี้ไทยยังคงนำเป็นอันดับหนึ่งที่ 24.81 Mbps ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 31.51 Mbps ส่วนที่สองเป็นฟิลิปปินส์และอินเดียในอันดับสาม

ส่วนข้อมูลประเทศอื่นตามการจัดของ OOKLA ในปี 2024 ก็มีออกมาดังนี้