นิยามใหม่แห่งการสื่อสารแบบเรียลไทม์พร้อมสเปคและขุมพลังเหลือล้น ความละเอียดคมชัดดีเยี่ยม กล้องถ่ายภาพคู่พร้อมเลนส์ ZEISS ช่วยให้คุณสามารถถ่ายทอดบอกเล่าเรื่องราวผ่านเลนส์ระดับโลกและถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์โดยใช้โหมด Dual-Sight รวมถึงระบบเสียงคุณภาพโดย Nokia OZO spatial 360° audio
กรุงเทพฯ – 16 สิงหาคม 2560 – โนเกีย ภายใต้การดูแลของบริษัท HMD Global เผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธง ที่มาพร้อมระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัด พร้อมนิยามใหม่ของการถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ผ่านเลนส์แบบเรียลไทม์ด้วยครั้งแรกของ 3 ปรากฎการแห่งนวัตกรรมที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบสร้างคอนเทนต์ (content creator) นอกจากนี้ ตัวเครื่องเป็นวัสดุอลูมิเนียม บางเฉียบ พร้อมการออกแบบอย่างสวยงาม แฝงไปด้วยความคงทน และแนวคิดสร้างสรรค์ Nokia 8 ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด รวมถึงโครงสร้างที่มาพร้อมกับกล้องคู่แบบ Dual-Camera และประสิทธิภาพของ ZEISS เลนส์กล้องชั้นยอดระดับโลกเพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านการถ่ายภาพ
คุณสมบัติเด่นของ Nokia 8 คือ กล้องถ่ายวีดีโอแบบคู่หรือ Dual-Sight ที่ฉีกกฎของการ Live Steaming ครั้งแรกของโลก ช่วยเพิ่มมิติของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือทาง YouTube ได้ Nokia 8 ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมที่คิดค้นเพื่อรองรับการถ่ายภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรังสรรค์เรื่องราวแห่งความประทับใจผ่าน ภาพ แสง สี และเสียง ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากโนเกียไปสู่สังคมออนไลน์อย่างง่ายดายและรวดเร็วด้วยการกดพียงครั้งเดียว
นอกจากนี้ Nokia 8 ยังเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีเสียงแบบ Nokia OZO Audio ที่ให้มิติเสียงแบบ 360 องศา เพื่อความสมบูรณ์ของคุณภาพเสียงราวกับผู้ฟังได้อยู่ที่นั่นจริงๆ เสมือนเอาเทคโนโลยีในหนังฮอลลีวูด (Hollywood Technology) มาวางไว้บนมือของคุณ ทั้งเรื่องของคุณภาพของภาพและเสียงขนาด 4K ที่คุณและเพื่อนๆ บนโลกออนไลน์จะได้รับประสบการณ์ที่สมจริง รวมถึงยังช่วยบันทึกเสียงได้จากทุกทิศทางอีกด้วย
สำหรับความพิถีพิถันในการผลิต Nokia 8 ที่ตัวเครื่องทำจากวัสดุที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ไร้รอยต่อ ภายใต้แบบพิมพ์อลูมิเนียมเดียวกันกับรุ่น 6000 Series ซึ่งผลิตจากวัสดุที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับการผลิต Nokia 8 โดยเฉพาะ มีขอบเครื่องหนาเพียง 4.6 มิลลิเมตร ส่วนตัวเครื่องความหนาเฉลี่ย 7.3 มิลลิเมตร พร้อมดีไซน์ที่สวยงาม รวมถึงจอสัมผัสที่มีคุณสมบัติสูง ผ่านกระบวนการขัดเงา การประกอบตัวเครื่อง และระบบการทำงานด้วยความใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตกว่า 20 ชั่วโมง นอกจากนี้ โทรศัพท์เครื่องนี้มาพร้อมกับขุมพลังชิปเซ็ต Qualcomm SnapdragonTM 835
Mobile Platform และระบบเพียวแอนดรอยด์ (Pure Android) ที่มีความปลอดภัยและอัพเดทอยู่เสมอ เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนแห่งอนาคตที่มีความสมบูรณ์ที่สุด
เพราะความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับโนเกีย สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ของโนเกียจึงมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความทันสมัย โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจจาก Nokia 8 และระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ๆ จากแอนดรอยด์
เหนือกว่าการเซลฟี่ มากกว่าด้วยการถ่ายแบบ “Bothie”
หลายเรื่องราวรอบตัวเรามีสองด้านให้ต้องค้นหาอยู่เสมอ เช่นเดียวกับนวัตกรรม Dual-Sight ของ Nokia 8 จะทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอภาพความประทับใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้ถูกพัฒนาให้มาพร้อมกับเลนส์ ZEISS สุดคมชัด นอกจากนี้ ยังเพิ่มลูกเล่นในแบบของคุณเองผ่านระบบการทำงาน Dual-Sight ซึ่งเหมาะสำหรับนักสร้างคอนเทนต์ (Content creator) ที่สามารถนำเสนอเรื่องราว และไลฟ์สไตล์ของคุณผ่านโซเชียลได้อย่างไม่ซ้ำใครในแบบ “Bothie” ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นพิเศษของแอพลิเคชั่นกล้องในแบบเฉพาะของ Nokia 8 แฟนๆ ยังสามารถถ่ายภาพและอัพโหลดไปเก็บไว้ที่ Google Photos ได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย
มิติใหม่แห่งระบบเสียงคุณภาพจาก Nokia OZO Audio
เต็มอิ่มกับระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 360 องศา ไมโครโฟน 3 ตัว เสมือนยกเอาเทคโนโลยีระดับฮอลลีวูดมาวางไว้ในมือคุณ นับเป็นความล้ำหน้าอีกขั้นของมิติเสียงแห่งคุณภาพของสมาร์ทโฟนที่สามารถบันทึกเสียงได้อย่างคมชัด มีเนื้อเสียงที่ชัดเจนกว่าระบบเสียงของสมาร์ทโฟนทั่วไป ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับฟังเสียงอย่างมีมิติ พร้อมระบบบันทึกวิดีโอระดับ 4K
สมบูรณ์แบบ และแม่นยำทุกการทำงาน
Nokia 8 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm® SnapdragonTM 835 Mobile Platform เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ตัวใหม่ล่าสุดนี้
ในด้านการออกแบบนั้น Nokia 8 ใช้วัสดุโลหะขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody ที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นสำคัญ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือ ดีไซน์ ตัวเครื่องที่ดูเรียบโก้ และหรูหรา ภายในมีการเคลือบด้วยแกรไฟต์สำหรับวัสดุที่เป็นทองแดง เพื่อป้องกันความร้อนจากการทำงานของเครื่องในระยะเวลานานๆ นอกจากนี้ Nokia 8 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว หรือ Qualcomm® Quick ChargeTM 3.0 เพื่อให้คุณสามารถสนุกกับการถ่ายรูปและบันทึกเหตุการณ์ความทรงจำพร้อมแชร์ทางโซเชียลมีเดียได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด
จูโฮ ซาร์วีกาส ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ ของบริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่นิยมการถ่ายรูปและแชร์เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน รวมถึงการถ่ายทอดสดวีดีโอ เรื่องราวและไลฟ์สไตล์ผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งยังมีการบริโภคข่าวสารข้อมูลมากขึ้นอีกด้วย ในขณะเดียวกันผู้บริโภคก็เริ่มมองหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะสร้างคอนเทนต์ของตัวเองขึ้นมา เพื่อสื่อสารเรื่องราวของตัวเองไปยังสังคมออนไลน์ ผู้บริโภคกลุ่มนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ทางบริษัทฯ ต้องคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับโลกการสื่อสารจนนำไปสู่สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Nokia ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งต้องการสร้างความสมดุลและความสมบูรณ์แบบของดีไซน์ในระดับพรีเมียม ไปพร้อมกับประสิทธิภาพของการทำงานที่ดีเยี่ยมเช่นกัน
ระบบปฏิบัติการคุณภาพแบบเพียวแอนดรอยด์
สมาร์ทโฟนโนเกียทุกรุ่นทำงานด้วยระบบปฏิบัติการเพียวแอนดรอยด์ ที่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวกับดีไซน์ที่โดดเด่น และฟีเจอร์ด้านความบันเทิงอย่างครบครัน โดยใช้ขุมพลังจากชิปเซ็ตประมวลผล SnapdragonTM 835 Mobile Platform ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ความบันเทิงคุณภาพระดับพรีเมียม มีการอัพเดทระบบความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน จึงมั่นใจได้ว่า Nokia 8 ในมือของคุณจะใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดและสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยอยู่เสมอ
การวางจำหน่าย
Nokia 8 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงินเงา สีน้ำเงินด้าน สีทองแดง และสีเงิน เริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกตลอดเดือนกันยายน ด้วยราคาประมาณ 599 ยูโร หรือประมาณ 24,000 บาท
ข้อมูลทางเทคนิคของ Nokia 8
- ข้อมูลเครือข่าย (Network)
GSM: 850/900/1800/1900
WCDMA: 1, 2, 5, 8
TDS-CDMA: 34, 39
LTE: 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 39, 40, 41
- ความเร็วเครือข่าย LTE Cat 9, 3CA, 450Mbps DL / 50Mbps UL
- รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
- ระบบปฏิบัติการ Android Nougat 7.1.1
- หน่วยประมวลผลและชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon 835 MSM8998 (4 * 2.45GHz Qualcmm® Kyro + 4 * 1.8GHz Kryo)
- RAM 4GB LPPDDR4X
- หน่วยความจำภายใน 64 GB พร้อมช่องเสียบการ์ด MicroSD (รองรับสูงสุด 256 GB)
- ฟอร์มแฟคเตอร์ สแต็คพอยต์ IP54 touch monoblock พร้อมปุ่มระบบสัมผัส capacitive
- จอแสดงผล: 5.3 “IPS LCD QHD 2560 x 1440, ความสว่างหน้าจอ 700nts, Corning®Gorilla® Glass 5, 2.5D Glass
- เลนส์กล้องจาก ZEISS
- กล้องหลัก: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, แฟลชคู่
- กล้องด้านหน้า: 13 ล้านพิเซล ขนาดรูรับแสง f / 2.0, พร้อมแฟลช
- พอร์ตเชื่อมต่อประเภท C, USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
- ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
- เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง เครื่องวัดความใกล้เคียง, เครื่องวัดความเร็วในการวัด, เข็มทิศ E, เข็มหมุน, Fingerprint Sensor
- แบตเตอรี่ 3090 mAh พร้อมQualcomm® Quick Charge ™ 3.0 (18 วัตต์, 5V / 2.5A, 9V / 2A, 12V / 1.5A)
- รองรับไฟล์เสียงแบบ MP3, M4A, AAC, OGG, WAV, AMR, AWB (AMR-WB), FLAC, MIDI (MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA) รองรับไฟล์วิดีโอแบบ MP4, 3GP, 3G2, AVI, MKV, WEBM
- ขนาด: 151.5 x 73.7 x 7.9 มม. (camera bump ขนาด 0.4 มม.)
- น้ำหนักเบา เพียง160 กรัม