เมื่อวานนี้ (28 กรกฎาคม) ทางทีมงานได้มีโอกาสัมผัสการใช้งาน NFC หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ Near Field Communication ที่เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะทำให้การใช้งานของสมาร์ทโฟนง่ายขึ้น อาทิเช่น การถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเครื่อง, เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นสมาร์ทการ์ด หรือใช้บริการต่างๆ อย่างการซื้อสินค้าและบริการ ที่อาศัย NFC โดย Nokia เป็นผู้จัดกิจกรรมนี้ในบรรยากาศร้านอาหารที่เป็นกันเอง
ซึ่งในงานก็ได้นำอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับ NFC มาโชว์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลำโพงที่ให้เสียง 360 องศา ขนาดพกพา และหูฟังเฮ็ดเซ็ท
รวมไปถึง Nokia ยังให้ข้อมูลอื่นๆ ของ NFC อีก ที่ในขณะนี้ NFC ได้ติดตั้งไปในสมาร์ทโฟนรุ่น C7 และ N9 แล้ว ที่ในอนาคตก็จะมีรุ่นที่ติดตั้ง NFC มากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งในปีหน้าเชื่อได้ว่าจะมีอุปกรณ์ที่รองรับ NFC กว่าล้านชนิดด้วย ซึ่งจะเป็นช่องทางให้กับริการแล้วและธุรกิจต่างๆ อีกมากมาย
ยกตัวอย่างการใช้งาน NFC จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน คือ การแชร์ไฟล์ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือเสียงไปยังอุปกรณ์ NFC, ใช้เป็นสมาร์ทการ์ดให้การซื้อสินค้าและบริการต่างๆ, เชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น, เข้าสู่การใช้งานข้อมูลหรือเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้นไม่ต้องอาศัย QR Code
ตามภาพด้านบนจะเป็นชิป NFC ที่ไว้ใช้งานในการแสดงข้อมูล ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีลักษณะเป็นสติกเกอร์วงกลม โดยการใช้งานก็ง่ายๆ เพียงใส่ข้อมูลลงไปและนำไปแปะกับโปสเตอร์ภาพหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการ จากนั้นก็นำสมาร์ทโฟนที่มี NFC มาแตะ เพียงเท่านั้นเอง
ที่เรียกได้ว่า NFC จะมาช่วยให้การใช้งานสมาร์ทโฟนของเราง่ายยิ่งกว่าเดิม จากเดิมที่เราต้องทำการเชื่อมต่อกับหูฟังเฮ็ดเซ็ทหรือโอนไฟล์ข้อมูลผ่าน Bluetooth ให้ยุ่งยาก มาในตอนนี้ถ้าอุปกรณ์ไหนรองรับ NFC ก็เพียงนำอุปกรณ์นั้นๆ มาแตะหรือสัมผัสกันแทน
ทดลองการใช้งานโดยเมื่อเรานำสมาร์ทโฟนที่มี NFC สัมผัสกับอุปกรณ์ที่รองรับ NFC หน้าจอก็จะแสดงผลว่าได้มีการใช้ NFC ขึ้น พร้อมกับสามารถใช้งานได้ทันที อย่างเช่นเราเปิดเพลงในสมาร์ทโฟนอยู่ เมื่อเรานำไปสัมผัสกับลำโพงที่รองรับ NFC เสียงเพลงก็จะดังจากลำโพงขึ้นมาแทน แต่ถ้าเป็นในส่วนของการส่งไฟล์อื่นๆ จำเป็นต้องเข้าแอพพลิเคชั่นที่ไว้ถ่ายโอนจากนั้นเลือกไปยังไฟล์ที่ต้องการ แล้วก็สัมผัสสมาร์ทโฟนอีกเครื่อง ไฟล์ก็จะทำการถ่ายโอนไปทันทีเช่นกัน ที่จัดได้ว่าจากการทดลองใช้งานจริงๆ มีความสะดวกมากๆ
ว่าแล้วก็มาดูกันซะหน่อยกับลำโพงจากทาง Nokia ที่ืจะเรียกว่าเป็นลำโพงที่รองรับ NFC ตัวแรกของโลกก็คงไม่ผิดอะไร กับลำโพง Nokia Play 360 ที่เป็นลำโพงแบบพกพา ที่มีแบตเตอรี่ในตัวใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง พร้อมทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และช่องต่อเสียงขนาด 3.5 ม.ม. อีกด้วย
นอกเหนือจากนั้นยีงมีความสามารถพิเศษ เมื่อนำ?Nokia Play 360 จำนวน 2 ตัวมาเชื่อมต่อกันก็จะสามารถให้เสียงระบบสเตอริโอได้
สุดท้ายกับ Nokia N9 ตัวจริง ที่ได้มีการนำออกมาอวดโฉมให้ได้เห็นเป็นครั้งแรกจากทางโนเกีย ประเทศไทย ที่หลายๆ คนก็จากพอรู้มาบ้างว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น?Symbian เสียแล้ว แต่เป็น Meego แทน แน่นอนว่ามาพร้อมด้วยวัสดุดีไซน์ที่สวยงามและเข็งแรงตามสไตล์ Nokia เช่นเดิม
สำหรับในส่วนของด้านหน้าตัวเครื่องจะไม่มีปุ่มกดใดๆ เลย และทางขวาล่างจะเป็นกล้องหน้า ที่สำคัญกระจกหน้าจอจะมีลักษณะเป็นขอบเว้าลง เข้ากับตัวบอดี้อยู่พอสมควร ซึ่งเมื่อจับถือใช้งานจะรู้สึกได้ว่าเข้ารูปมือได้กระชับมากกว่า
ด้านบนตัวเครื่องจะเป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 ม.ม. ที่มาพร้อมด้วยช่องต่อ microUSB และช่องใส่ซิมการ์ด โดยมีฝาปิดอยู่อย่างมิดชิดที่ดูแล้วเนียบมากๆ
ด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นเพียงลำโพงแบบโมโน
ด้านขวาของ Nokia N9 ใน 2 ปุ่มแรกจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ถัดลงมาก็จะเป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง โดยข้างจะมีเพียง 3 ปุ่มเท่านั้น ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องเรียบๆ ไม่มีปุ่มอะไรเลย
ด้านหลังจะเรียบๆ มีเพียงแค่โลโก้ Nokia พร้อมกับกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลกับเลนส์ CarlZeiss เจ้าประจำอยู่บริเวณตรงกลางตัวเครื่อง?แน่นอนว่ามีแฟลช LED 2 ดวงมาให้ด้วย
สำหรับการใช้งานของ Meego เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาเราก็จะเห็นไอคอนเเอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เราสามารถเลื่อนลงเพื่อใช้งานแอพพลิเคชั่นที่อยู่ด้านล่างได้
อีกทั้งสามารถเลื่อนไปทางซ้ายเพื่อดูข้อมูลต่างๆที่เราสนใจได้ ไม่ว่าจะเป็นสเตตัสของ Facebook, Twitter, RSS Feed ต่างๆ ซึ่งมีเเนวคิดคล้ายกับ People Hub ใน Windows Phone 7
ส่วนการมัลติทาสก์นั้นก็ใช้การลากจอไปด้านขวาเเทน จากนั้นเราจะเห็นเเอพลิเคชั่นต่างๆ ที่เราเปิดเอาไว้ก่อนหน้าเเละสลับไปใช้งานได้ทันที โดยสามารถปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการใช้งานได้ง่ายๆ เพียงกดค้างไว้ที่หน้าจอ ก็จะมีกากบาทตรงมุมขวาของแต่ละหน้าต่างขึ้นมา จากนั้นก็กดปิดครับ
สำหรับแถบด้านบนเมื่อเรากดก็จะมีให้เลือกโปรไฟล์การใช้งานอย่างให้ภาพก็จะเห็นเป็น Silent, Beep และ Ringing นอกเหนือจากนั้นยังมีปรับระดับเสียงและปรับแต่งการเชื่อมต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ตหรือ Bluetooth
หน้าจอล็อคสกรีนที่ดูเรียบๆ และสวยงาม สำหรับการปลดล็อคก็ทำได้ง่ายๆ เพียงเลื่อนไปด้านเท่านั้นเอง ว่าไปแล้วอารมณ์ก็เหมือนๆ กับ Windows Phone 7 ทีเดียวเชียว ที่โดยรวมแล้วถือเป็นสมาร์ทโฟนหนึ่งตัวที่น่าสนใจ แต่จะมาเมืองไทยอย่างจริงจังเมื่อไหร่นั้น อันนี้ยังไม่ทราบได้ครับ
ส่วนสเปคอื่นๆ ข้อมูลมีดังนี้
- ใช้ตัวประมวลผล TI OMAP 3630 ความเร็ว 1 GHz ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ใน Motorola Defy หรือ LG Optimus Black เเรมขนาด 1 GB
- จอเเบบ AMOLED ขนาด 3.9 นิ้ว ความละเอียด 854 x 480
- ความจุภายใน 16 เเละ 64 GB
- ใช้คลื่นความถี่ GSM เเละ 3G ที่ใช้ในบ้านเราได้
- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash สามารถ่ายมุมกว้างได้ ถ่ายวีดีโอความละเอียด 720p
- ขนาด 116.45 x 61.2 x 12.1 มิลลิเมตร หนัก 135 กรัม
- วัสดุทำด้วยโพลีคาร์บอเนต สามารถกันรอยขีดข่วนที่เกิดจากกุญเเจ หรือวัสดุมีคมอื่นๆได้
- รองรับสัญญาณ Wi-Fi 802.11b/g/n
- ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร พร้อมกับ AV Connector
- ระบบปฏิบัติการณ์ Meego 1.2 รหัส Harmattan
สรุปกิจกรรมที่ Nokia มีให้ทดลองใช้งานจริง กับเทคโนโลยี NFC ก็ถือได้ว่าเป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย คาดว่าในอนาคตคงจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลายแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามคงต้องให้ทางเอกชนหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงรัฐบาลลงมาให้ความสำคัญมากยิ่ง เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว เทคโนโลยี NFC นี้อาจจะไม่เป็นมาตรฐานพอที่จะให้ใช้งานได้อย่างทั่วไปได้ ซึ่งนอกเหนือจากที่เราจะเห็น Nokia ได้ใส่ NFC มาในรุ่น C7 และ N9 แล้วนั้น ในฝั่งของ Android ที่เห็นๆ อยู่ก็จะมี Nexus S เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ส่วน iPhone และ BlackBerry ในอนาคตก็คาดว่ารุ่นใหม่ๆ ก็จะติดตั้งเทคโนโลยี NFC นี้มาเช่นกันครับ