เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ Jeff Pu ได้ให้ข้อมูลว่า iPhone 17 Pro จะมาพร้อมกับชิป A19 Pro ส่วน iPhone 17 Air จะใช้ชิป A19 และรุ่นพื้นฐานจะยังคงใช้ชิป A18 เช่นเดียวกับ iPhone 16 แต่รายงานล่าสุดจาก Jeff Pu เจ้าตัวเองก็กลับลำอีกครั้ง และได้เปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว โดยระบุว่า iPhone 17 รุ่นพื้นฐานจะได้รับการอัปเกรดเป็นชิป A19 ซึ่งทำให้รุ่นนี้จะได้ชิปซีรีส์เดียวกับรุ่นพี่ และมีประสิทธิภาพสูงกว่าที่คิดเอาไว้
iPhone 17 จะมาพร้อมชิป A19

การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่า iPhone 17 รุ่นพื้นฐานจะมีประสิทธิภาพที่ทัดเทียมกับรุ่น Air และเข้าใกล้รุ่น Pro มากขึ้น โดย Jeff Pu ยังเปิดเผยว่า iPhone 17 รุ่นพื้นฐานจะมาพร้อมกับ RAM 8GB LPDDR5 ในขณะที่ iPhone 17 Air (LPDDR5) จะมี RAM 12GB รวมถึงรุ่น Pro และ Pro Max ที่ได้แรม 12GB ด้วย แต่เป็นแบบ LPDDR5X ที่เร็วกว่า
ซึ่งช่วยให้ทั้งสี่รุ่นในตระกูล iPhone 17 มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่ต้องการพลังประมวลผลสูง และนี่ก็เป็นความแตกต่างที่แยกรุ่นปกติกับรุ่นพรีเมียมออกจากกันด้วยตัวแรมนั่นเอง ทั้งนี้ก็อาจจะมาพร้อมกับชิป Wi-Fi 7 ที่ Apple ออกแบบเองใหม่อีกด้วย

ในด้านของหน้าจอ iPhone 17 รุ่นพื้นฐานคาดว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า และมีขอบหน้าจอที่บางลงตามรอย iPhone 16 Pro รวมไปถึงหน้าจอแบบ LTPO ที่เล่นได้ลื่น 120Hz เหมือนรุ่นพี่แล้ว การอัปเกรดเหล่านี้จะทำให้ iPhone 17 รุ่นพื้นฐานมีความน่าสนใจและน่าใช้งานมากขึ้น คาดว่าจะเปิดตัว iPhone 17 ทุกรุ่นในวันที่ 8 กันยายนนี้

นอกจากนี้ Jeff Pu ยังระบุว่า iPhone 17 ทุกรุ่นจะนำเทคโนโลยี Metalens มาใช้กับเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ ซึ่งอาจช่วยลดขนาดของ Dynamic Island ได้อย่างมาก เดิมทีเขาเคยคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้เฉพาะในรุ่น Pro Max เท่านั้น แต่ข้อมูลใหม่ชี้ว่าทั้งสี่รุ่นจะได้รับการอัปเกรดนี้ ซึ่งจะช่วยให้การออกแบบหน้าจอประหยัดพื้นที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้าของ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังที่ระบุว่า Dynamic Island ของ iPhone 17 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเทียบกับ iPhone 16 ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อมูลล่าสุดนี้
ที่มา: 9to5Mac