ปัจจุบันมีมือถือ 5G เปิดตัวมาก็หลายรุ่นแล้ว แต่ที่ขายในไทยถึงจะมีเพียง 3 รุ่นนี้เท่านั้น วันนี้เราเลยจะมาลองเทียบกันดูว่าตัวไหนน่าซื้อกว่ากัน ซึ่งจะทำการเทียบทั้งสเปคและจำนวนคลื่นที่ใช้ได้เลย เรามาดูกันดีกว่าว่าตัวไหนน่าซื้อกว่ากันระหว่าง S20 Ultra, Find X2 Pro และ Mate 30 Pro

เทียบสเปค S20 Ultra | Find X2 Pro | Mate 30 Pro
Samsung Galaxy S20 Ultra 5G | OPPO Find X2 Pro | HUAWEI Mate 30 Pro 5G | |
---|---|---|---|
หน้าจอ | Dynamic AMOLED 2x 6.9 นิ้ว QHD+ 120 Hz | Ultra Vision AMOLED 6.7 นิ้ว QHD+ 120Hz | OLED 6.53 นิ้ว Full HD+ 60 Hz |
CPU | Exynos 990 | Snapdragon 865 | Kirin 990 5G |
RAM | 12GB LPDDR5 | 12GB LPDDR5 | 8GB LPDDR4 |
ROM | 128GB UFS 3.0 | 512GB UFS 3.0 | 256 GB UFS 3.0 |
กล้องหลัง | 108MP + 12MP + 48MP + ToF | 48MP + 48MP + 13MP | 40MP + 40MP + 8MP + ToF |
กล้องหน้า | 40MP | 32MP | 32MP |
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh + Super Fast Charging up to 45W | 4,260 mAh + Super VOOC 2.0 65W | 4,500 mAh + SuperCharge 40W |
เมื่อมองจากสเปคในตารางแล้ว HUAWEI Mate 30 Pro 5G นั้นเรียกได้ว่าเสียเปรียบอยู่หลายอย่าง ทั้งหน้าจอและ RAM รวมถึงการที่ไม่มี GMS ด้วย แต่ทว่า HUAWEI Mate 30 Pro ก็ยังมีข้อดีอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือเเป็นเครื่อง 5G ที่ราคาถูกที่สุดนั่นเอง เราไปดูกันดีกว่าว่าทั้ง 3 เครื่องนั้นรองรับเครือข่ายอะไรบ้าง
Samsung Galaxy S20 Ultra 5G | OPPO Find X2 Pro | HUAWEI Mate 30 Pro 5G | |
---|---|---|---|
5G NR Modem | Exynos 5123 | Snapdragon X55 5G | Balong 5000 |
ประเภทการเชื่อมต่อที่รองรับ | 5G : sub-6GHz / mmWave 4G : LTE | 5G : sub-6GHz / mmWave 4G : LTE | 5G : sub-6GHz / mmWave 4G : LTE |
ความเร็วสูงสุดในการเชื่อมต่อ | Sub-6GHz : 5.1 Gbps mmWave : 7.35 Gbps | Sub-6GHz / mmWave : 7.5 Gbps | Sub-6GHz : 4.6 Gbps mmWave : 6.5 Gbps |
คลื่น 5G ที่รองรับในไทย | 700, 2600 | 700, 2600 | 700, 2600 |
จากในตารางจะเห็นได้ว่า OPPO FIND X2 ที่ใช้โมเด็มของ Snapdragon X55 5G นั้นรองรับความเร็วได้สูงที่สุดถึง 7.5Gbps อีกทั้งยังรองรับคลื่นมากที่สุดในทั้ง 3 รุ่นด้วย แต่ราคาก็นับว่าสูงที่สุดในทั้ง 3 รุ่นเช่นกัน ส่วน HUAWEI Mate 30 Pro นั้นมีข้อดีคือรองรับคลื่นในไทยครบ แถมยังราคาถูกอีกด้วย และยิ่งซื้อแบบผูกโปรราคาเหลือไม่ถึง 20,000 บาทด้วยซ้ำ

ซึ่งตัวผู้เขียนเคยได้ลองเล่นทั้ง 3 เครื่องมาบ้างแล้ว หากจะให้บอกว่าตัวไหนดีกว่าก็ต้องบอกเลยว่าในตอนนี้ OPPO Find X2 Pro นั้นถือว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไปที่สุดแล้ว ทั้งการรองรับ 5G ทุกคลื่น ฟีเจอร์หน้าจอ 120Hz พร้อมชิปประมวลผลเฉพาะสำหรับหน้าจอแบบเดียวกับใน TV ทำให้ได้ภาพที่ไหลลื่นไม่มีสะดุด อีกทั้งการถ่ายภาพก็ทำได้ดีในทุกสภาพแสง เก็บรายละเอียดได้ครบ แถมยังมีระบบชาร์จที่เร็วที่สุดในตลาดมือถืออีกด้วย ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยค่าตัวที่มากถึง 40,990 บาทเลยทีเดียว

สำหรับคนที่มีงบไม่เยอะแต่อยากได้มือถือ 5G ตอนนี้เลยตัวเลือกที่ถูกที่สุดก็คือ Mate 30 Pro นั่นเอง ซึ่งถึงแม้จะไม่มี GMS แต่ก็ยังพอสามารถหาวิธีลงได้อยู่ และสามารถใช้งาน GMS ได้อย่างเต็มที่ ซึ่ง Mate 30 Pro 5G นี้สามารถหาได้ในราคาถูกที่สุด 16,990 บาทเท่านั้น

ส่วน Samsung Galaxy S20 Ultra 5G นั้นไม่ใช่ไม่ดี เพียงแค่รู้สึกว่าครั้งนี้ Samsung เน้นหนักไปทางกล้องแบบสุดตัว ซึ่งหากมองที่การถ่ายภาพ S20 Ultra นั้นก็ทำออกมาได้ดี เพียงแต่ที่ยังเจออยู่ก็คือความร้อนที่ขึ้นค่อนข้างเร็ว กับน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะไปนิดทำให้ถ้าต้องถือนาน ๆ อาจจะเมื่อยมือได้
ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับตัวของผู้ที่จะซื้อและเงินในกระเป๋า เพราะเอาจริง ๆ ทุกค่ายหากเห็นว่าคลื่นไหนจำเป็นก็จะต้องพยายามหาทางครอบครองคลื่นนั้นให้ได้ อย่างเช่นอาจจะไปร่วมมือหรือเช่าช่องสัญญาณที่ว่างอยู่ก็ได้