[Mini Review] Samsung Galaxy A3 (2017) น้องเล็กที่ราคาไม่เล็ก แต่ซื้อได้ในราคาโปร 6,990 บาท !!

เปิดตัวและวางขายกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Samsung Galaxy A Series ซึ่งเราได้ตัวเครื่องมาพรีวิวครบทั้งสามรุ่นด้วยกัน แต่ในวันนี้มาดูพรีวิวน้องเล็กสุด Samsung Galaxy A3 (2017) กันก่อน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลายอย่าง และมีสิ่งที่น่าผิดหวังอยู่หลายอย่างเช่นเดียวกัน โดยเพื่อน ๆ สามารถตามไปดูในบทความพรีวิวด้านล่างได้เลยครับ

รายละเอียดสเปค Samsung Galaxy A3 (2017)

• หน้าจอ 4.7 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด HD 720p
• ขนาดตัวเครื่อง 135.4 x 66.2 x 7.9 มม.
• ชิปประมวลผล  Octa-core @ 1.6 GHz Cortex-A53
• ชิปประมวลผลกราฟฟิก Mali-T830MP2
• แรม 2 GB / รอม 16 GB
• กล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9 และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9
• แบตเตอรี่ขนาด 2350 mAh
• คุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ที่กันน้ำลึก 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที
• รองรับฟีเจอร์ Samsung Pay
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม
• พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C 1.0
• รองรับ Dual SIM และเพิ่ม microSD ได้สูงสุดที่ 256 GB
• ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow
• มาด้วยกัน 3 สีคือ Black Sky, Gold Sand และ Blue Mist
• ราคา 11,900 บาท
• รายละเอียดสเปคเต็ม Samsung Galaxy A3 2017

Design

ในส่วนของอุปกรณ์ในกล่องของ Samsung Galaxy A3 (2017) จะมีตัวเครื่อง หูฟัง Smalltalk ที่มีปุ่มรับสาย เพิ่มเสียง และลดเสียงได้ หัวชาร์จ สายชาร์จที่เป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และแถมหัวแปลงเป็น microUSB ด้วย และคู่มือ ให้ครบแบบพร้อมใช้งานได้ในทันทีไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มนอกจากไปติดฟิล์มกันรอยกันเอาเอง

ความรู้สึกแรกเมื่อเปิดกล่องออกมารู้สึกว่าสีดำ Black Sky โทนใหม่ของ Samsung นั้น ดูดีกว่าสีดำที่อยู่ใน Samsung Galaxy A3 รุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยสีดำจะมีประกายเล็กน้อยแล้วจึงเคลือบด้วยวัสดุกระจกอีกที ทำให้ตัวเครื่องเงางาม และมีการตัดขอบด้วยโลหะสีดำด้านจากรุ่นเดิมที่ตัดของด้วยสีเงิน ทำให้ Samsung Galaxy A3 2017 ดูตัวเครื่องคมเข้มไปด้วยสีดำทั้งตัวเครื่อง

ในส่วนด้านหลังของตัวเครื่องเงางามไม่มีที่ติ แต่ใช้ไปสักพักแน่นอนเลยว่ารอยนิ้วมือมาเต็มแน่ ๆ ต้องขยันทำความสะอาดบ่อย ๆ แต่เพื่อแลกกับความสวยต้องได้อย่างเสียอย่าง สำหรับการออกแบบที่ด้านหลังมีความโค้งมนรับกับมือเป็นอย่างดี วัสดุให้สัมผัสที่ดีเป็นกระจกแน่นหนา มีการปรับดีไซน์กล้องหลังที่ไม่นูนออกมาแล้ว เรียบเนียนไปกับพื้นผิวด้านหลังตัวเครื่อง

สำหรับด้านหน้าตัวเครื่องนั้นก็ไม่มีอะไรหวือหวา ยังคงมีการออกแบบคล้าย ๆ กับสมาร์ทโฟนของซัมซุงทั่วไปคือ ปุ่มโฮมที่มีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างปุ่มย้อนกลับและปุ่ม Multitasking ที่เป็นปุ่มแบบสัมผัสและเรืองแสงเมื่อสัมผัส แต่โดยรวมแล้วตัวเครื่องจะดูมีความโค้งมนมากกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย และจะมีจุดสังเกตที่ดูเป็นรุ่นใหม่คือขอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะนั้น จะเป็นสีที่กลมกลืนไปกับสีตัวเครื่อง ซึ่งสีที่เราได้มาพรีวิวคือสีดำ โลหะก็จะเป็นสีดำด้าน

ด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ไมค์รับเสียงสนทนา และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงการออกแบบของ Series A 2017 คือการเปลี่ยนตำแหน่งของลำโพงขับเสียงมาไว้ตรงด้านซ้ายบนของตัวเครื่อง ซึ่งจากการงานใช้งานจริงเป็นประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด เวลาดูวิดีโอ หรือเล่นเกมส์ในตัวเครื่องแนวนอน เนื่องจากมือจะไม่เผลอปิดลำโพงแล้ว จากรุ่นเดิมที่มีลำโพงขับเสียงอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง

ด้านบนของตัวเครื่องก็จะมีกล้องหน้า ลำโพงสนทนา ไมค์ตัดเสียงรบกวนและช่องใส่ซิมพร้อมกับ microSD ในช่องเดียวกัน

สำหรับการจับถือตัวเครื่องนั้น หากใครใช้สมาร์ทโฟนจอใหญ่กว่า 5.2 นิ้วมาก่อน จะรู้สึกว่าตัวเครื่องนั้นเล็กมาก ซึ่งสามารถใช้งานมือเดียวได้อย่างสบาย เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มือเล็ก ๆ เป็นอย่างดี เพราะมันเล็กและเบา โดยตัวเครื่องมีน้ำหนักอยู่ที่ 135 กรัม

สำหรับหน้าจอของ Samsung Galaxy A3 (2017) มีขนาด 4.7 นิ้ว หน้าจอแบบ Super AMOLED ความละเอียดแบบ HD ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียเพราะขนาด Galaxy J7 ที่มีราคาต่ำกว่ายังให้หน้าจอความละเอียด Full HD แต่สำหรับ Galaxy A3 (2017) ที่เปิดตัวราคาอยู่ที่ 11,900 บาทกลับมีหน้าจอความละเอียด HD เท่านั้น แต่ประสิทธิภาพในการแสดงผลของหน้าจอถือว่าสามารถทำออกมาได้ดีตามสไตล์ Super AMOLED

สิ่งที่น่าชื่มชมอีกอย่างคือแบตเตอรี่ จากการลองเล่นและนำออกไปถ่ายรูปที่ใช้งานติดต่อกันประมาณ 4 ชั่วโมง แบตเตอรี่ลดประมาณ 15 % เท่านั้น จัดว่า Samsung Galaxy A3 (2017) นั้นมีแบตที่อึดพอสมควร

Software

ซอฟต์แวร์ของ Samsung Galaxy A3 (2017) ยังคงมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow และมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาอินเตอร์เฟซเล็กน้อยให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ซึ่งใครที่ใช้สมาร์ทโฟน Samsung มาก่อนก็จะคุ้นชินเพราะเปลี่ยนแปลงไม่มาก ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่าจะได้รับอัพเกรดเป็น Android 7.0 Nougat หรือเปล่า แต่คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับอัพเกรด จากการใช้งานประสิทธิภาพของชิปประมวลผล Exynos 7870 นั้นทำได้ดี แต่แรมน่าจะให้มาเยอะกว่านี้เนื่องจากแรมขนาด 2 GB อาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบัน

Feature

สำหรับจุดเด่นของ Samsung Galaxy A3 (2017) ก็คือรองรับมาตรฐานกันน้ำ IP68 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับเดียวกันกับ Samsung Galaxy S7 Edge โดยสามารถกันน้ำระดับความลึกไม่เกิน 1.5 เมตรได้สูงสุด 30 นาที และอีกหนึ่งจุดเด่นคือรองรับ Samsung Pay ที่เป็นการผูกบัตรเครดิตเข้ากับโทรศัพท์ให้นำไปใช้ชำระค่าบริการต่าง ๆ เปรียบเสมือนบัตรเครดิตได้ทันที

Camera

ในส่วนของกล้องนั้นมากับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลรูรับแสงกว้าง f/1.9 และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9 เช่นเดียวกัน ซึ่งคุณภาพของรูปภาพที่ถ่ายออกมานั้นแตกต่างจากกล้องของรุ่นพี่อย่าง Samsung Galaxy A5 (2017) , Samsung Galaxy A7 (2017) อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากกล้องของ Samsung Galaxy A3 (2017) จะเก็บภาพย้อนแสงได้แย่กว่าพอสมควรถึงแม้จะเปิดโหมด HDR และแสดงสีของภาพที่ดูจืดไปหน่อย แต่ถ้าปรับเป็นโหมดแมนนวลปรับแต่งเอง หรือเอาภาพไปปรับแต่งเล็กน้อยภาพก็จะสวยขึ้น ส่วนกล้องหน้านั้นถือว่าทำได้ดี ฟีเจอร์ Face Detection จับที่หน้าและทำการปรับแต่งอัตโนมัติชนิดที่ว่าจบเลย ไม่ต้องไปแต่งเพิ่ม ซึ่งสามารถดูตัวอย่างได้จากแกลลอรี่ด้านล่างได้เลยครับ

ตัวอย่างภาพถ่าย Samsung Galaxy A3 (2017)