แม้ว่าจะยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนก่อนจะถึงกำหนดการเปิดตัว แต่กระแสข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ก็เปิดเผยออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดทาง Android Headlines ได้เผยภาพเรนเดอร์ที่อ้างอิงจากไฟล์ CAD ของตัวเครื่องอย่างเป็นทางการ เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจน และไม่ใช่แค่การปรับโฉมภายนอกเท่านั้น แต่ยังมีข้อมูลสเปคที่ได้รับการอัปเกรดใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย
แต่ถ้าใครไม่อยากรอรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวปีหน้า ตอนนี้ก็มี Galaxy S25 Ultra ในราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท (Shopee/ Lazada) ที่ยังคงมีขายอยู่ด้วย
Samsung Galaxy S26 Ultra เผยเรนเดอร์ดีไซน์ใหม่

จากการเปิดเผยดีไซน์ของ Samsung Galaxy S26 Ultra จะเห็นได้ว่ามีการออกแบบโมดูลกล้องหลังใหม่ทั้งหมด โดยเปลี่ยนดีไซน์แบบ Floating Camera ที่มีมาตั้งแต่รุ่น S22 Ultra หรือแบบเลนส์ฝัง ไปเป็นแบบ Camera Island ที่มีโมดูลทรงแคปซูลนูนขึ้นมาชัดเจน และมีเลนส์กล้อง 3 ตัวเรียงในแนวตั้งอยู่บนฐานโมดูล คาดว่าจะนูนขึ้นมาจากตัวเครื่อง 4.5 มิลลิเมตร ในขณะที่ตัวเครื่องจะมีความบางประมาณ 7.9 มิลลิเมตร บางกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย ส่วนกล้องอื่นๆ ยังแยกไว้ข้างๆ เหมือนเดิม
ในส่วนของด้านหน้า S26 Ultra ยังคงมีหน้าจอแบบแบน ขอบจอบางและสมมาตรกันทุกด้าน พร้อมกล้องหน้าแบบเจาะรูตรงกลางตามปกติ ขอบตัวเครื่องแบนเช่นกัน แต่จะมีการลบมุมโค้งขึ้นให้จับถือได้ถนัดมือ ปุ่มควบคุมทั้งหมดจะอยู่ที่ฝั่งขวาของเครื่อง ในขณะที่ด้านล่างจะเป็นถาดซิม, พอร์ต USB Type-C, ลำโพงหลัก และช่องเก็บปากกา S Pen ซึ่งถูกขยับไปอยู่ที่มุมซ้ายสุดของตัวเครื่อง
สเปค Samsung Galaxy S26 Ultra
นอกจากดีไซน์ภายนอกแล้ว ก็ยังมีข้อมูลสเปคจากข่าวลือที่ออกมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชิปใหม่ Snapdragon 8 Elite Gen 5 for Galaxy ซึ่งเป็นชิปที่ปรับแต่งให้มีความเร็วสูงกว่ารุ่นปกติ คาดว่าจะมี RAM LPDDR5X สูงสุด 16GB และความจุแบบ UFS 4.0 หรือ UFS 4.1 สูงสุด 1TB และยังมีข่าวว่าจะมีการปรับการชาร์จไวจาก 45W ที่ใช้มานานหลายปี เป็น 60W หรือ 65W และยังคงความจุไว้ที่ 5,000mAh เท่าเดิม
ส่วนกล้องถึงแม้ว่าจะมีข่าวว่าไม่ได้เปลี่ยนความละเอียดไปจากเดิม ที่มี 200MP แต่คาดว่าจะเปลี่ยนไปใช้เซ็นเซอร์รุ่นใหม่ ไม่ก็มีการปรับเปลี่ยนสเปคอย่างรูรับแสง เพื่อคุณภาพของภาพถ่ายที่ดียิ่งขึ้น ส่วนกล้องอื่นๆ ยังคงเหมือนเดิมหมด
โดยสรุปแล้ว Samsung Galaxy S26 Ultra ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้ดูโค้งมนขึ้น เปลี่ยนโมดูลกล้องหลังใหม่ ซึ่งก็ดูคล้ายกับตัวก่อนหน้าในภาพรวม พร้อมกับอัปเกรดประสิทธิภาพในทุกๆ ด้าน ทั้งชิปเซ็ตประมวลผลที่เร็วขึ้น, ระบบกล้องที่อาจถูกยกระดับไปอีกขั้น และเทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนรายละเอียดสเปคอื่นๆ ที่แน่นอน คงต้องรอการอัปเดทกันต่อไป
ที่มา: Android Headlines