รายงานฉบับล่าสุดของ OpenSignal เผยให้เห็นถึงตัวเลขเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต 4G ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2017 ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนกว่า 50 พันล้านรายการ 88 ประเทศทั่วโลก บนอุปกรณ์กว่า 5 ล้านอุปกรณ์ ช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2017 มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
ความเร็วเฉลี่ยที่เร็วอยู่แล้วก็ไม่ได้เร็วเพิ่มขึ้นจากเดิม
ถึงแม้ปัจจุบันเราจะเห็นข่าวเกี่ยวกับความเร็วของ Cellular Data ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ออกแบบมาให้รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ณ ปัจจุบันที่ผมเขียนบทความนี้ สมาร์ทโฟนบางรุ่นสามารถรับอินเทอร์เน็ต 4G ที่ความเร็วสูงสุดได้ระดับ Gbps แต่ในแง่ของตัวเลขการใช้งานจริงพบว่าความเร็วเฉลี่ยของ 4G ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับข้อมูลก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่
สำหรับค่าเฉลี่ยความเร็ว 4G ในอันดับต้น ๆ ของโลกจะอยู่ที่ประมาณ 45 Mbps และเท่าที่ดูจากรายงานดังกล่าวก็ยังไม่พบว่ามีค่าเฉลี่ยสูงเกิน 50 Mbps อยู่ดี
มีเพียง 5 ประเทศที่มี 4G ครอบคลุมทุกพื้นที่มากกว่า 90%
ถึงแม้ตัวเลขด้านความเร็วอาจจะยังไม่เป็นที่ประทับใจเท่าไหร่นัก แต่ในแง่ของความครอบคลุมของสัญญาณ 4G กลับมีตัวเลขที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรายงานครั้งก่อนหน้า เพราะประเทศที่มี 4G ครอบคลุมมากกว่า 90% เพิ่มขึ้นจาก 2 ประเทศเป็น 5 ประเทศ จากเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
เป้าหมายของผู้ให้บริการในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องความเร็ว แต่เป็นเรื่องความครอบคลุม
จากข้อมูลด้านบนทั้ง 2 ข้อ แสดงให้เห็นว่าปัจจัยด้านความเร็วไม่ใช่สิ่งที่ผู้ให้บริการโฟกัสเป็นเรื่องหลัก แต่ความครอบคลุมของ 4G LTE เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการทั่วโลกให้ความสนใจ ส่วนตัวคิดว่าความเร็วโดยเฉลี่ยที่เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป ถ้าอินเทอร์เน็ต 4G วิ่งนิ่ง ๆ สัก 6 Mbps ขึ้นไปก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้งานได้เป็นอย่างดีแล้ว
ยุโรป และอเมริกามีความเร็ว 4G ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าความเร็วเฉลี่ยสูงสุดของ 4G ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากข้อมูลชุดก่อน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือความเร็ว 4G ในกลุ่มประเทศทางฝั่งยุโรปและอเมริกากลับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะประเทศเนเธอร์แลนด์, สเปน และประเทศแคนาดา ที่มีความเร็ว 4G เฉลี่ยสูงขึ้นเป็น 30 Mbps
อันดับความครอบคลุมของ 4G ในไตรมาสที่ 4 ปี 2017
ประเทศไทยเราจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกในแง่ความครอบคลุมของสัญญาณ 4G โดยมีความครอบคลุมสูงถึง 85.58% ของพื้นที่ทั้งหมด สูงที่สุดในประเทศทางฝั่ง South East Asia และสูงกว่าประเทศทางฝั่งยุโรปหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงมีแนวโน้มที่จะมีความครอบคลุมของ 4G เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วน 5 อันดับประเทศที่มี 4G ครอบคลุมมากที่สุดได้แก่ เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, นอร์เวย์, ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกาตามลำดับ ประเทศในกลุ่มดังกล่าวมีการให้บริการ 4G สูงถึงร้อยละ 90 ขึ้นไป 3G, 2G นี่เป็นของหายากเลยก็ว่าได้ครับ
อันดับความเร็ว 4G โดยเฉลี่ย ในไตรมาสที่ 4 ปี 2017
ด้านความเร็ว 4G อย่างที่ได้กล่าวไปว่ามันไม่ได้มีอะไรหวือหวา หรือพัฒนาขึ้นจากข้อมูลชุดก่อนหน้า โดยประเทศที่มีความเร็ว 4G สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก 5 อันดับ ได้แก่ สิงคโปร์, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, เกาหลีใต้ และฮังการี
ข้อสังเกตของข้อมูลชุดนี้อยู่ที่การจัดเก็บข้อมูลครับ ในรายงานระบุว่าความเร็ว 4G ของแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่หลัก ๆ ก็คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดการความถี่ เช่น LTE-Advance และนอกจากเทคโนโลยีแล้ว โทรศัพท์หรืออุปกรณ์ที่รองรับ LTE-Advance ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ค่าความเร็วเฉลี่ยเพิ่มมากขึ้นด้วย
ส่วนความเร็วเฉลี่ย 4G ของประเทศไทยกลับอยู่ในอันดับท้าย ๆ โดยมีความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 9.60 Mbps น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมาร์เสียอีก เข้าใจว่าสมาร์ทโฟนน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าความเร็วเฉลี่ยของ 4G ในบ้านเราไม่สูงมาก ด้วยความที่สมาร์ทโฟนราคาประมาณ 8,000 บาทเป็นช่วงราคาที่ขายดีที่สุด แน่นอนว่าด้วยราคาเพียงเท่านั้น ส่วนมากจะไม่รองรับ LTE-Advance
ภาพรวมของ 4G ในประเทศไทยสำหรับผู้เขียนเองก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ประทับใจ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ครับ ทั้งในด้านความครอบคลุมของสัญญาณ, ความเร็ว และด้านราคา เพราะถ้าเทียบกับกลุ่มประเทศทางฝั่งยุโรป อย่างเมื่อปลายปีที่แล้วผู้เขียนได้เดินทางไปที่ประเทศเยอรมันนี และประเทศออสเตรีย ก็ไม่ได้ประทับใจ 4G ของฝั่งทางนั้นสักเท่าไหร่ แม้ว่าความเร็วจะอยู่ในระดับที่ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อปี 2016 (ในช่วงเวลาเดียวกัน ประมาณเดือนพฤศจิกายน) แต่ในแง่ของความครอบคลุมยังเป็นรองบ้านเราพอสมควร เดี๋ยวก็สลับไป 3G/ 2G แล้วพอหลุดจาก 4G ไปก็คือความเร็วตกลงมาอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญคือราคาค่าอินเทอร์เน็ตของทางฝั่งยุโรปนี่โหดร้ายพอสมควร
ส่วนตัวมองว่าประเทศทางฝั่งเอเชียมีค่าบริการ, ความเร็ว และความครอบคลุมอยู่ในระดับที่ดี อย่างไต้หวัน, ญี่ปุ่น และเมียนมาร์ เท่าที่ได้ลองใช้ 4G ประเทศเขาผ่านซิมสำหรับนักท่องเที่ยว มีปริมาณดาต้าให้มากพอสมควร อย่างไต้หวันนี่มี Unlimited แบบความเร็วสูงมาก แถมราคาต่อ 7 วันไม่แพงเสียด้วยครับ ถ้าจำไม่ผิดอยู่ที่ประมาณ 500 บาท
ถ้าวัดกันที่คุณภาพ กับราคา ผมก็ยังมองว่าประเทศไทยเราไม่ได้ขี้เหร่เลยครับ แพ็กเกจรายเดือน 899 บาทที่บ้านเรา ให้อินเทอร์เน็ต กับค่าโทรในปริมาณที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ยังไม่นับพวกโปรสำหรับย้ายค่ายที่ลดราคากัน 50% อีก ส่วนเรื่องความเร็ว ในกรุงเทพ ฯ และปริมณฑลผมว่าความเร็ว 4G ที่ใช้กันก็ถือว่าเร็วมาก ๆ โดยเฉพาะเครื่องที่รองรับ LTE-Advance ก็น่าจะ SpeedTest ได้ในระดับ 50 Mbps ขึ้นไปอยู่แล้ว (ทดสอบกับ Huawei Mate 10 Pro และ iPhone 7 Plus)
ที่มา: opensignal