ในงานเปิดตัว iPhone 16 ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหูฟังไร้สายก็มีการอัปเดตด้วยเช่นกัน ถ้าให้สรุปสั้น ๆ ก็คือมีการเปิดตัว AirPods 4 ที่มีสองรุ่นย่อย ประกาศเปลี่ยน AirPods Max เป็นรุ่นชาร์จผ่านช่อง USB-C โดยมีสเปคกับฟีเจอร์เท่าเดิม และตีบวก AirPods Pro 2 ให้สามารถใช้เป็นเครื่องช่วงฟังทางการแพทย์ได้
สำหรับใครที่เล็งว่าจะซื้อหูฟังไร้สายใหม่ หรือตั้งใจไว้ว่าอยากซื้อ AirPods ในช่วงปลายปีนี้ เรามาดูกันครับว่าจะมีรุ่นไหนน่าใช้บ้าง ทั้งกับรุ่นที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการบนหน้าเว็บไซต์ Apple ทั้ง 3 ซีรีส์ที่แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย รวมถึงรุ่นอื่นที่ยังมีขายอยู่ตามช่องทางต่าง ๆ ด้วย
AirPods 4
เป็นหูฟังไร้สายแบบ TWS รุ่นเริ่มต้นสุดในขณะนี้ มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมที่เห็นได้ชัดในบางจุด เช่น
- ตัวเคสมีขนาดเล็กลง พร้อมพอร์ตชาร์จที่เปลี่ยนเป็น USB-C ในทุกรุ่น กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54
- เปลี่ยนมาใช้ชิป H2 และ Bluetooth 5.3
ซึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือ AirPods 4 จะมีแบ่งออกเป็นสองรุ่นย่อย ได้แก่รุ่นธรรมดาราคา 4,990 บาทและรุ่นที่มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC ในราคา 6,490 บาท โดยส่วนต่าง 1,500 บาทนี้ สิ่งที่ผู้ใช้รุ่น ANC จะได้เพิ่มมาก็ได้แก่
- มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ANC รองรับการปรับระดับตามสภาพแวดล้อม และมีโหมดฟังเสียงภายนอก (transparency) คล้ายกับใน AirPods Pro
- มีระบบช่วยเบาเสียงลง เมื่อตรวจจับว่าผู้ใช้กำลังพูดคุยกับคนที่อยู่ใกล้ ๆ
- สามารถชาร์จไฟเข้าเคสแบบไร้สายได้ ทั้งจากแท่นชาร์จ Qi และแท่นชาร์จ Apple Watch
- มีลำโพงที่ตัวเคสด้วย ไว้ใช้ช่วยในการค้นหาตำแหน่งผ่านระบบ Find My
- ใช้งานแบบปิด ANC ได้นานกว่ารุ่นปกติ (ที่ไม่มีระบบ ANC) ประมาณ 1 ชั่วโมง
ถ้าดูจากสิ่งที่ได้ ก็จะให้ความรู้สึกว่า AirPods 4 รุ่น ANC น่าจะคุ้มพอตัวเมื่อเทียบกับรุ่นปกติ เพราะได้ระบบตัดเสียงรบกวนแบบรุ่นโปร โดยที่รูปทรงหูฟังยังเป็นแบบ open-ear ในสไตล์ AirPods รุ่นปกติอยู่ คือแบบกึ่งแปะกึ่งสอดช่องหู เนื่องจากบางท่านอาจจะไม่ชอบใช้หูฟังแบบ in-ear ซึ่งหูฟังส่วนใหญ่ที่มีระบบ ANC ก็มักจะเป็นแบบ in-ear แทบทั้งนั้น และยิ่งถ้านำไปเทียบกับ AirPods Pro 2 ที่วางจำหน่ายในราคา MSRP ที่ 8,990 บาท ก็จะทำให้ดูเหมือนว่าราคา 6,490 บาทของ AirPods 4 ANC ดูน่าสนใจไม่น้อย
แต่ถ้าไม่รีบใช้ และสามารถซื้อแบบออนไลน์ได้ แนะนำว่าไว้รอช่วงลดราคาประจำเดือนจะคุ้มกว่าครับ เพราะมักจะมีการจัดโปรโมชัน AirPods Pro 2 ในราคาประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าสามารถซื้อได้ในราคานี้ แน่นอนว่าตัว Pro 2 คุ้มกว่า เพราะได้เสียงที่ดีกว่า ฟีเจอร์เยอะกว่า แต่ก็ต้องหมายเหตุไว้ซักนิดนึงว่า AirPods Pro จะเป็นรุ่นที่ใช้ดีไซน์แบบหูฟัง in-ear ซึ่งบางท่านอาจจะไม่ถนัดในการใช้งานก็ได้ แนะนำว่าอาจจะไปหาลองดูก่อนก็ดีครับ แม้ว่าในกล่องจะมีจุกหูฟังให้มา 4 ขนาดก็ตาม แต่ข้อจำกัดในการใช้งานหูฟังของแต่ละท่านย่อมไม่เหมือนกัน บางท่านคือไม่สามารถใช้หูฟัง in-ear ได้เลยก็มี ใส่แล้วมึนศีรษะบ้างก็มี
อีกหนึ่งรุ่นที่จะมาเป็นคู่เทียบได้ก็คือ AirPods 3 ที่ในขณะนี้ก็ยังมีวางขายที่ร้านตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple อย่างเป็นทางการอยู่ในราคา 6,100 – 6,400 บาท แล้วแต่ว่าเป็นรุ่นเคสชาร์จปกติหรือรุ่นเคสชาร์จ MagSafe ซึ่งถ้าเป็นราคานี้อาจจะไม่ค่อยน่าดึงดูดมากนักครับ สู้ซื้อรุ่นใหม่สุดไปเลยดีกว่า แต่จะเริ่มน่าสนใจก็ตอนช่วงจัดโปรออนไลน์ที่ราคาจะลงมาอยู่ประมาณ 5,000 บาท แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้ ส่วนตัวผมมองว่า AirPods 4 รุ่นปกติก็ยังน่าสนใจกว่าอยู่ดีครับ เพราะได้ดีไซน์ใหม่ที่ปรับให้กะทัดรัดขึ้น พอร์ตชาร์จก็เป็น USB-C ชิปใหม่ ฟังก์ชันเยอะกว่า ส่วนถ้าต้องการ AirPods ราคาเบาจริง ๆ ก็ยังพอจะมี AirPods 2 ที่เป็นตัวเลือกได้อยู่ครับ ราคาเต็มหน้าร้านในขณะที่เขียนบทความนี้จะอยู่ที่ 4,990 บาท ส่วนราคาช่วงออนไลน์จะสามารถกดได้สุด ๆ มาอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท
อีกกรณีที่ถ้าต้องการ AirPods ราคาถูกจริง ๆ ก็คือดูเป็นของมือสองที่ราคาของ AirPods 3 จะเริ่มที่ประมาณพันกลาง ๆ ถึงสองพันบาท ส่วนรุ่น Pro ก็จะใกล้เคียงกัน ขึ้นอยู่กับรุ่นและสภาพ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราวสองพันกลาง ๆ ขึ้นไป ซึ่งถ้าไม่ซีเรียสเรื่องความรู้สึกในการใช้งาน ก็สามารถหาซื้อมาใช้ได้ครับ จะมีที่ควรตรวจสอบดี ๆ ก็คือเรื่องอายุการใช้งานจากเจ้าของเดิมว่าผ่านมาเท่าไหร่แล้ว และระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ใช้ได้จริง ณ ปัจจุบัน เพราะข้อจำกัดหลัก ๆ ของหูฟัง TWS เลยคือเรื่องแบตเตอรี่ในหูฟังที่อาจจะเสื่อมได้ง่ายเมื่อใช้งานมาซัก 1-2 ปีขึ้นไป ซึ่งถ้าซื้อ AirPods มือสองมาแล้วต้องมาหาร้านเปลี่ยนแบตอีก อันนี้น่าจะเริ่มไม่คุ้มละ เพราะเท่าที่ผมสอบถาม (และหาร้านเปลี่ยนมาเอง) ค่าเปลี่ยนแบต AirPods ทรงปกติจะอยู่ที่ข้างละประมาณ 600-700 บาท ส่วนถ้าเป็นรุ่นโปรจะอยู่ที่ข้างละพันนิด ๆ เลย
สรุป
- ถ้าเป็นรุ่นปกติ AirPods 3 อาจจะยังคุ้มกว่า ในกรณีที่ได้โปรส่วนลดหนัก ๆ
- ถ้าเป็นรุ่น ANC อันนี้รอช่วงวันเลขเบิ้ล วันกลางเดือน วันเงินเดือนออก บางทีอาจได้ Pro 2 ในราคาพอ ๆ กัน ก็ซื้อ Pro 2 น่าจะดีกว่า (ถ้าสามารถใช้หูฟัง in-ear ได้)
- แต่ถ้าอยากได้หูฟังแบบ open แล้วมี ANC ด้วย ก็จัด AirPods รุ่นใหม่ได้เลย
AirPods Pro 2
ด้านของรุ่นโปร Apple ยังไม่ได้มีการออกรุ่นใหม่มาเสริมแต่อย่างใด หลังจากรุ่นล่าสุดได้รับการเปิดตัวตั้งแต่เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน แต่ในงานเปิดตัว iPhone 16 ก็มีการเปิดตัวฟังก์ชันใหม่ของ AirPods Pro 2 อยู่พอสมควร โดยจะเน้นไปด้านสุขภาพ เช่นการใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยตรวจความสามารถในการได้ยินเสียง และที่สำคัญคือสามารถใช้เป็นเครื่องช่วยฟังได้ด้วย ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน ซึ่งในปัจจุบัน FDA ของสหรัฐฯ ที่เทียบกับไทยก็คือ อย. ได้รับรองให้สามารถใช้ AirPods Pro 2 เป็นอุปกรณ์ช่วยฟังในสหรัฐฯ ได้เรียบร้อยแล้ว ส่วนในไทยคาดว่าจะต้องรอกันอีกซักระยะครับ เพราะฟังก์ชันนี้เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ ด้านการแพทย์ ทำให้จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบและอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน
ส่วนในการใช้งานด้านอื่น ๆ ใช้ฟังเพลง ใช้ตัดเสียงรบกวนแบบ ANC ก็ยังเป็นสิ่งที่ AirPods Pro 2 ทำได้ดีตามเดิม ด้วยเสียงที่เป็นแนว flat กับระบบตัดเสียงรบกวนที่ผู้ใช้หลายรายให้ความเห็นว่าค่อนข้างเป็นธรรมชาติ สามารถใช้งานได้สบายหู มีฟังก์ชันที่ทำงานร่วมกับ Siri ได้ง่ายขึ้น เช่นการพยักหน้าเพื่อแทนการตกลง ส่ายหน้าเพื่อปฏิเสธ รวมถึงความง่ายในการใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ใน ecosystem ของ Apple จึงทำให้ AirPods Pro 2 ยังเป็นทางเลือกที่ดีอยู่สำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังไร้สาย TWS ตัวจบของสาย Apple
จะมีที่ดูแรงไปนิดก็คือราคา 8,990 บาทครับ แนะนำว่าถ้าอยากเซฟเงินลงก็รอช่วงโปรพิเศษจากแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างพวกวันเลขเบิ้ล โปรกลางเดือน โปรวันเงินเดือนออก เพราะจะสามารถหาซื้อ AirPods Pro 2 จากร้านตัวแทนจำหน่ายแบบ official ของ Apple เองในราคาประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น ประหยัดไปได้เกือบ 3,000 บาทเลย
สำหรับถ้าต้องการเป็นมือสอง ช่วงราคาที่มีให้เลือกเยอะหน่อยก็จะเริ่มต้นประมาณสองพันกลาง ๆ ขึ้นไป ซึ่งโดยมากจะหมดระยะเวลาประกันศูนย์แล้ว ถ้ายังมีประกันอยู่ก็จะเริ่มที่สามพันกลาง ๆ ขึ้นไป อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความพอใจได้เลย ส่วนกรณีของ AirPods Pro 1 มือสองก็มีวางขายพอสมควรทีเดียวครับ ราคาเริ่มที่พันกลาง ๆ แต่ก็จะใกล้เคียงกับเคสด้านบน คืออาจจะเสี่ยงเรื่องแบตเสื่อมซักนิดนึง เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์เองก็มีอายุในตลาดมานานพอสมควรแล้ว บางตัวก็อาจมีปัญหาเสียงซ่าในบางครั้งที่เปิด ANC ซึ่งเป็น defect ประจำตัวของรุ่นแรก จนทำให้ Apple ต้องออกโปรแกรมรับเปลี่ยนหูฟังล็อตที่มีปัญหากันเลยทีเดียว ซึ่งผมก็นำไปเปลี่ยนมาครับ น่าเสียดายที่โปรแกรมนี้หมดเวลาไปแล้ว ดังนั้นถ้าหากต้องการซื้อ AirPods Pro 1 มือสองก็อาจต้องตรวจสอบกันเยอะนิดนึง
สรุป
หากโจทย์ในใจคืออยากซื้อ AirPods Pro ก็จัดไปได้เลยครับ ยังไม่น่าจะมีการออกรุ่นใหม่ตามมาในเร็ว ๆ นี้ เรื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็ยังจัดว่าล่าสุดอยู่ ถ้าต้องการราคาดีก็รอช่วงจัดโปรบนแพลตฟอร์มออนไลน์
หรือบางทีถ้าลองส่องในแพลตฟอร์มขายของมือสองเช่น FaceBook Marketplace ดี ๆ อาจจะเจอ AirPods 4 ANC รวมถึง AirPods Pro 2 และ AirPods Max ของใหม่ในราคาดีก็ได้ครับ เพราะอาจจะมาจากผู้ที่ซื้อ Mac ผ่านโปรโมชัน back to school แล้วได้หูฟังมาฟรีหรือในราคาลดพิเศษ แล้วนำมาขายต่อก็ได้ ซึ่งโปรโมชันนี้ก็เพิ่งหมดไปเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง
AirPods Max
สำหรับรุ่นใหญ่สุดอย่าง AirPods Max ก็ยังคงมีวางจำหน่ายต่อไป ไม่ได้มีการออกรุ่นใหม่มาทดแทน แต่จะมีส่วนที่ได้รับการปรับปรุงในปีนี้อยู่สองจุดใหญ่ ๆ นั่นคือ
- เปลี่ยนพอร์ตชาร์จที่ตัวหูฟังจาก Lightning เป็น USB-C
- เปลี่ยนสีที่มีให้เลือกเป็นสีฟ้า ม่วง ดำมิดไนท์ ทองสตาร์ไลท์ และสีส้ม
ส่วนด้านของสเปค ไดรเวอร์ แบตเตอรี่ ฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่างความสามารถในการตัดเสียงรบกวนแบบ ANC ระบบเสียง Spatial จะยังคงเหมือนเดิม รวมถึงราคาก็ยังคงอยู่ที่ 19,900 บาท ซึ่งถ้ามองเฉพาะกลุ่ม AirPods อย่างเดียวก็คงต้องบอกว่าเป็นเพียงตัวเลือกเดียวสำหรับสายหูฟังครอบหูแบบไร้สายแล้ว ส่วนถ้าต้องการประหยัดงบลงมาหน่อยก็จะมีของมือสองสภาพสวยให้เลือกซื้อตั้งแต่ราคาหมื่นต้น ๆ ขึ้นไป โดยขณะนี้ก็จะเป็นรุ่นที่ชาร์จผ่านพอร์ต Lightning เป็นหลัก แต่ถ้ามองจากหูฟังแบบครอบหูทั้งตลาด หลายท่านอาจจะให้ความเห็นว่ามีแบรนด์อื่นที่น่าสนใจกว่าอยู่หลายรุ่นทีเดียว ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบในดีไซน์ แนวเสียง และความสะดวกในการใช้งานครับ เพราะถ้าเป็น AirPods Max จับคู่กับผลิตภัณฑ์ Apple อย่าง iPhone, iPad และ Mac มันสะดวกกว่าใช้หูฟังแบรนด์อื่นจริง ๆ และเป็นจุดแข็งของการใช้งานเป็น ecosystem เลย ส่วนเรื่องแนวเสียงก็จะเป็นแนวกลาง ๆ กราฟเสียงก็ออกมาค่อนข้าง flat เหมาะกับผู้ที่ต้องการเสียงแบบไม่จัดจ้านมากนัก ฟังสบาย
สรุป
ในกรณีที่คุณอยากซื้อ AirPods Max อยู่แล้ว ตอนนี้จัดว่าเป็นช่วงเวลาที่กำลังเหมาะเลย ด้วยเหตุผลหลัก ๆ 3 ข้อได้แก่
- มั่นใจได้ว่ายังไม่ตกรุ่น ไม่มีรุ่นใหม่ออกมาแทนเร็ว ๆ นี้แน่นอน
- ของใหม่เปลี่ยนพอร์ตชาร์จเป็น USB-C แล้ว หาสายชาร์จได้ง่าย ใช้ร่วมกับมือถือ กับ iPhone รุ่นใหม่ ๆ ได้เลย
- ถ้าต้องการมือสองสภาพค่อนข้างดี ก็สามารถหาได้ในราคาหมื่นต้น ๆ ซึ่งถือว่าราคาโอเค จับต้องได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าไปลองฟังเสียงกับทดสอบตอนสวมใส่ดูก่อนว่าเป็นอย่างไร บีบศีรษะหรือไม่ หนักเกินไปหรือเปล่า เพราะราคานั้นก็เป็นหลักหมื่นอยู่เหมือนกัน