ตอนที่เขียนบทความนี้ Admin อยู่ที่ไต้หวันครับ เนื่องจากตอนนี้ที่ไต้หวันกำลังมีงาน Computex 2015 โดยในงาน Computex ก็จะมีหลายแบรนด์นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ของตัวเองมาเปิดตัวกันในงาน เราก็เลยถือโอกาสมาเที่ยว และเก็บข้อมูลไปพร้อมๆ กันซะเลย (แต่เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนที่ทำงานจะดีกว่า 555)
พริตตี้อย่างจี๊ดอ่ะ ><
Kingston ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมกับให้เกียรติเราเข้าไปสัมภาษณ์ผู้บริหารของทาง Kingston ด้วยหล่ะครับ โดยผลิตภัณฑ์ในงานก็ได้แก่ SSD, Ram และผลิตภัณฑ์ประเภท Flash Memory แต่ในบทความนี้ผมจะเริ่มจากผลิตภัณฑ์ตัวไฮไลท์ในงานที่เกี่ยวข้องกับฝั่ง Mobile โดยตรงอย่าง Kingston USB OTG Flash Drive รุ่นใหม่ กับ MicroSD Card ครับ
Kingston DataTraveler microDuo 3C OTG Drive
สำหรับ MicroDuo 3C จะเป็นเจนเนอร์เรชันล่าสุดของ FlashDrive OTG ของ Kingston ครับ ทีเด็ดของรุ่นนี้อยู่ที่การเป็นแฟลชไดรฟ์ที่รองรับ USB 3.1 (สามารถเสียบกับพอร์ท USB 3.0, USB 2.0 ได้เช่นกัน) โดยตัวที่นำมาแสดงในงานจะเป็นรุ่นความจุ 32 GB ซึ่งมีความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 100MB/s และความเร็วในการเขียนอยู่ที่ 15MB/s (รุ่นความจุ 16GB จะเป็น Read 100MB/s Write 10MB/s)
หน้าตาก็ประมาณนี้ เมื่อเทียบกับรุ่น DataTraveler microDuo 3.0 ก็จะเห็นความแตกต่างแบบชัดๆ ที่ตัวปลอกครับ รุ่นใหม่จะเป็นแบบใส ส่วน MicroDuo 3.0 จะเป็นแบบสีทึบ
ขนาดของ DataTraveler microDuo 3C ค่อนข้างเล็กครับ พกพาสะดวก
และเมื่อเป็น DataTraveler microDuo ก็แปลว่าต้องมี 2 หัว แต่หัวอีกด้านของ DataTraveler microDuo 3C จะเป็นพอร์ทเชื่อมต่อจากอนาคตอย่าง USB Type-C ซึ่งในอนาคตก็จะเป็นพอร์ทเชื่อมต่อของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ รวมถึง Computer ด้วย เรียกว่าพอร์ทเดียวนี่ครอบจักวาลเลย
ตัวพอร์ท USB Type-C จะมีขนาดใหญ่กว่าพอร์ท Lightning เล็กน้อยครับ และเมื่อเทียบกับพอร์ท MicroUSB ก็จะพบว่า USB Type-C มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยเช่นกัน
และนอกจากนี้ ในงานก็มี MicroSD Card จัดแสดงด้วยเช่นกัน ที่เห็นในรูปก็จะเป็น MicroSD Card ความจุ 64 GB มีความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 90MB/s และความเร็วในการเขียนที่ 80MB/s ซึ่งถือว่าเร็วมากๆ ครับ ได้ทั้งความเร็วและความจุเลย
บทสัมภาษณ์สุด Exclusive กับผู้บริหาร Kingston
และในตอนท้ายของงาน ผมก็ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ทางผู้บริหารของ Kingston ด้วยครับ แต่ด้วยเว็บเราเป็นสายสมาร์ทโฟน เพราะฉะนั้นคำถามก็เลยจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ของ Kingston ที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือ รวมถึงทิศทางแนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในฝั่งของโมบายด้วยครับ
Q: Kingston จะมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่แบบว้าวๆ ที่เกี่ยวกับทางฝั่งโมบาย (Notebook, Smartphone) ไหม
A: ในตอนนี้เราก็มีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เป็นแฟลชไดรฟ์ OTG USB Type-C (ตัวที่อยู่ในบทความนี่แหละครับ) ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อกับ Mac (Macbook 12″) Chromebook ซึ่งน่าจะถูกใจผู้ใช้หลายคน แล้วก็ยังมีแฟลชไดรฟ์ USB 3.1 ที่มีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อนๆ
Q: Kingston สนใจที่จะผลิตแฟลชไดรฟ์สำหรับ iOS (iPhone, iPad) บ้างไหม
A: อันที่จริง Kingston ก็มีอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อและถ่ายโอนไฟล์ผ่าน iOS ได้ ซึ่งก็คือ Kingston MobileLite Wireless G2 นั่นเอง โดยตัว MobileLite Wireless G2 จะทำหน้าที่เป็นทั้ง Card Readers แบบไร้สาย, เสียบ FlashDrive, เป็น Wireless Rounter แถมยังเป็น Powerbank ได้อีกต่างหาก
Q: ในอนาคตผลิตภัณฑ์ MicroSD Card ของ Kingston จะเน้นไปที่อะไรมากกว่ากัน ระหว่างความเร็ว กับความจุ
A: ถ้าพูดถึงสิ่งที่เราจะเน้นในผลิตภัณฑ์ของ Kingston อันดับแรกที่ให้เราจะให้น้ำหนักมากเป็นพิเศษคือเรื่องของความเสถียรมากกว่าความเร็วกับความจุ แล้วก็ไม่ใช่เพียงแค่ MicroSD Card เท่านั้น ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Kingston ก็มุ่งเน้นไปที่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ซึ่งก็คือความเสถียรและความทนทานกว่าแบรนด์อื่นๆ
Q: ตอนนี้มีมือถือบางรุ่น (HTC One M9+) รองรับ MicroSD Card ความจุสูงถึง 2 TB แล้ว Kingston จะผลิต MicroSD Card ความจุสูงขนาดนั้นออกมาไหม
A: แน่นอนว่าเราพยายามที่จะผลิต MicroSD Card ความจุสูงอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอให้อะไรๆ ลงตัวก่อนนะ เราถึงจะมีประกาศออกมาอีกที
Q: ในอนาคตจะยังมีการผลิต MicroSD Card ที่มี Class ต่ำกว่า Class 10 หรือไม่ เพราะเอาเข้าจริง ตอนนี้ราคาของ MicroSD Card คลาส 10 กับคลาสที่ต่ำกว่า (Class 4/ Class 6) ก็ไม่ได้มีราคาแตกต่างกันมากมายเท่าไหร่
A: แนวโน้มของ MicroSD Card กำลังจะเปลี่ยนจาก Class 10 ไปเป็น USH-1 U3 ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ราคาของ MicroSD Card คลาส 10 กับคลาสอื่นๆ จะมีราคาใกล้เคียงกัน แต่อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ของเราก็ยังคงเน้นไปที่ความเสถียรและความทนทานเหมือนเคย