ในที่สุดก็มีถึงวันที่หลายๆ คนรอคอยเสียที สำหรับผู้ที่ปรารถนาจะซื้อเพลง ซื้อหนัง เช่าหนังจากใน iTunes หลังจากที่ในบางประเทศนั้นเปิดให้ซื้อมาได้นานแล้ว ล่าสุด Apple ได้เปิดให้ผู้ใช้ Apple ID ของไทยสามารถซื้อ content ที่อยู่บน iTunes Store ได้เสียที โดยหลักๆ ก็คือเพลงและภาพยนตร์นั่นเอง
ซึ่งในขณะนี้ ผู้ใช้สามารถกดซื้อเพลงไม่ว่าจะแบบเพลงเดียวหรือซื้อทั้งอัลบั้มก็สามารถทำได้แทบจะทั้งหมดแล้ว เนื่องด้วยในขณะนี้ทาง Apple กำลังค่อยๆ ทำการอัพเดตฟีเจอร์และเพลงเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนเพลงไทยนั้นก็ยังมีไม่ค่อยมากครับ เท่าที่ผมหาเจอก็เป็นเพลงจากค่าย Sony Music และ LOVEiS ซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ตอนนี้ยังหาเพลงไทยได้ค่อนข้างยากซักหน่อย แต่ถ้าใครอยากฟังเพลงต่างประเทศ ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ทีเดียว เพราะกดซื้อได้แทบจะทุกเพลงใน iTunes Store เลย
ส่วนเพลงนั้นก็จะมาในฟอร์แมต AAC (นามสกุลไฟล์ .m4a) ที่บิตเรต 256 kbps ก็เรียกได้ว่าคมชัดพอที่จะฟังได้อย่างสบายๆ
ในส่วนของภาพยนตร์ก็มีให้เลือกทั้งซื้อขาด (มีให้เลือกย่อยอีกว่าจะซื้อแบบภาพความละเอียดระดับ HD หรือแบบธรรมดา) หรือว่าจะเช่าก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเจอว่าให้ซื้อมากกว่าครับ โดยการเช่านั้นจะมีระยะเวลาในการถือครองอยู่ 30 วัน และเมื่อเริ่มต้นดูแล้ว จะต้องดูให้จบภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งตอนนี้หลายๆ เรื่องก็เริ่มมีตัวเลือกของพากษ์ไทยและซับไทยมาบ้างแล้ว ใครเป็นคอหนังเรียกว่าน่าสนใจมากกับตัวของ iTunes Store
นอกจากจะใช้งานบนโปรแกรม iTunes ในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้แล้ว แอพ iTunes ที่อยู่ใน iOS ก็สามารถใช้ซื้อเพลง หนังได้เช่นเดียวกัน ส่วนในรูปซ้ายบนนั้นก็เป็นตัวเลือกในหน้า Settings ของ Store ที่สามารถดาวน์โหลดเพลงที่เราซื้อจาก iTunes ในคอมพิวเตอร์มาลงในอุปกรณ์ iOS ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ยังบริการที่เกี่ยวกับเพลงก็มีการเปิดให้ผู้ใช้ Apple ID ไทยได้ใช้เพิ่มเช่นกัน นั่นคือ iTunes Match ที่จะช่วย sync เพลงที่เราซื้อขึ้นไปไว้ใน iCloud จากนั้นไม่ว่าเราจะใช้อุปกรณ์ iOS หรือ OS X เครื่องใด ก็สามารถรับฟังเพลงได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะระบบจะค้นหาว่าเพลงใดของเราที่มีใน iTunes Store บ้าง ระบบก็จะเล่นเพลงให้จาก iTunes โดยตรงแบบไม่ต้องโหลดเพลงลงเครื่อง แต่ทั้งนี้ iTunes Match ก็คิดค่าบริการรายปีอยู่ที่ $24.99 หรือราวๆ 700 กว่าบาท
ส่วนอีกอย่างที่มีการเพิ่มเติมเข้ามาใกล้ๆ กันก็คือการเปิดตัวแอพ Podcasts แบบแยกตัวออกมาจาก Music อย่างเป็นทางการ ซึ่งตัวอย่างหน้าตาก็ตามในภาพข้างบนเลยครับ แต่เครื่องที่จะติดตั้งได้ จะต้องใช้งาน iOS 5.1 ขึ้นไปเท่านั้นนะ