ไลน์อัปใหม่ของ iPhone ที่มาพร้อมกับ iPhone 17 Series จาก Apple นั่นก็คือ iPhone Air ที่ถูกออกแบบมาด้วยดีไซน์ที่เพรียวบางเป็นพิเศษ มีตัวเครื่องที่แข็งแกร่งไม่หักหรืององ่ายๆ และยังมาพร้อมสเปคที่จัดอยู่ในระดับเรือธง ไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ในซี่รีส์ iPhone 17 หรือจะพูดได้ว่าเป็นรุ่นน้องๆ iPhone 17 Pro เลยก็ว่าได้ แต่ดูเหมือนจะมีข่าวล่าสุดเผยยอดขายที่ไม่เป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ Apple ต้องปรับลดกำลังการผลิตลง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งจะขายเกลี้ยงในจีนไปหมาดๆ แถมอีกค่ายคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Samsung Galaxy Edge รุ่นบางก็มีข่าวว่าจะพับโปรเจคลงไปเช่นกัน
สำหรับคนที่สนใจอยากจะลองใช้งาน สามารถสั่งซื้อ iPhone Air รุ่นใหม่ได้ในราคาเริ่มต้น 39,900 บาทที่ความจุ 256GB บนหน้าร้านออนไลน์อย่าง Shopee/ Lazada ได้เลย
iPhone Air ยอดขายไม่กระเตื้อง แม้ดีไซน์บางเฉียบพรีเมียมแค่ไหนก็ตาม
ตามการรายงานของ The Elec โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Mizuho Securities บริษัทหลักทรัพย์ของญี่ปุ่น ระบุว่า Apple เตรียมปรับลดกำลังการผลิตของ iPhone Air ลงประมาณหนึ่งล้านเครื่องในปีนี้ เนื่องจากความต้องการในตลาดต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยการปรับลดครั้งนี้ก็ทำให้เห็นถึงอะไรบางอย่างที่ Apple ต้องเจอในตอนนี้ จากการเลือกที่จะมีรุ่นระหว่างนวัตกรรมการออกแบบใหม่ และความต้องการใช้งานจริงของผู้บริโภค
iPhone Air นั้นถูกสร้างขึ้นมาเป็นรุ่นที่มีความบางเบาเป็นพิเศษ ที่ในอดีตดีไซน์บางๆ แบบนี้มักจะได้รับความนิยม แต่ในปัจจุบัน คนที่ใช้งานจริงเริ่มให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะความจุของแบตเตอรี่ ที่มักจะถูกจำกัดในมือถือที่มีตัวเครื่องบาง รวมถึงความสามารถของระบบกล้องที่ไม่สามารถเทียบเท่ากับรุ่นมาตรฐาน และไม่เท่ารุ่น Pro แน่นอน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ใช้งานในตลาดยังไม่ตอบรับ iPhone Air อย่างเต็มที่ แม้จะมีรายงานว่า iPhone Air ได้รับการตอบรับที่ดีและขายหมดอย่างรวดเร็วในช่วงเปิดตัวในประเทศจีนก็ตาม
การตัดสินใจลดกำลังการผลิต iPhone Air นั้นเกิดขึ้นในขณะที่ Apple ยังคงแสดงความมั่นใจในภาพรวมของตระกูล iPhone 17 โดยมีแผนการที่จะเพิ่มกำลังการผลิตรวมของรุ่นอื่นๆ ได้แก่ iPhone 17, iPhone 17 Pro, และ iPhone 17 Pro Max รวมกันถึงสองล้านเครื่อง ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มการผลิตโดยรวมสำหรับ iPhone 17 Series ในช่วงต้นปี 2026 จาก 88 ล้านเครื่องเป็น 94 ล้านเครื่อง
นักวิเคราะห์ชี้ว่าการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์นี้เป็นการตอบสนองเชิงกลยุทธ์ ต่อเทรนด์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป คนส่วนใหญ่มักจะเลือก iPhone 17 รุ่นมาตรฐานที่ให้ความคุ้มค่า หรือขยับไปเลือกรุ่น Pro และ Pro Max ที่มาพร้อมกล้องที่เหนือกว่า และสเปคดีกว่าเพียงเพิ่มเงินอีกนิดหน่อย จึงทำให้ยอดขายของ iPhone Air ซบเซาลง พร้อมแนวโน้มในตลาดมือถือทั่วไปที่พบว่าดีไซน์บางมักจะได้รับเสียงตอบรับที่ไปคนทิศทาง เพราะผู้ใช้บางส่วนรู้สึกว่าแบตเตอรี่ที่ลดลง และกล้องที่จำกัดนั้นไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง
สถานการณ์ของ iPhone Air ที่เกิดขึ้นนี้ ยังเผยให้เห็นถึงปัญหาที่คล้ายคลึงกันกับตลาดคู่แข่ง ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Samsung Galaxy S25 Edge ซึ่งมีดีไซน์บางเหมือนกัน และก็แบตเตอรี่เล็กกว่ารุ่นอื่นๆ ก็ประสบปัญหายอดขายไม่เป็นไปตามเป้าเช่นกัน จนมีข่าวลือว่า Samsung อาจยกเลิกการผลิตรุ่น Galaxy S26 Edge และแทนที่ด้วย Galaxy S26 Plus ในปีถัดไป ที่จะเปิดตัวในปีหน้า 2026
ที่มา: gizmochina
