Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone X หน้าจอแตก ส่งเคลมได้หรือไม่ เสียค่าซ่อมเท่าไหร่?
    Editorial

    iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone X หน้าจอแตก ส่งเคลมได้หรือไม่ เสียค่าซ่อมเท่าไหร่?

    Jamikorn SingnamthiengBy Jamikorn Singnamthieng25 ธันวาคม 2017Updated:1 สิงหาคม 2018
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    iPhone-X-how-to-buy-and-where-to-buy-0001

    ช่วงหลังมานี้ Apple ได้เปลี่ยนเงื่อนไขในการซ่อมแซม iPhone จากเดิมที่ไม่ว่าตัวเครื่องเมื่ออยู่ในประกัน จะเสียด้วยอาการอะไรก็ตาม ถ้าไม่ได้อยู่นอกเงื่อนไขการรับประกัน จะทำการเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทันที ไม่มีการแกะซ่อมเหมือนสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น ๆ

    ข้อดีของการซ่อมในลักษณะของการเปลี่ยนเครื่องก็คือผู้ใช้ได้เครื่องใหม่ (เป็นเครื่อง Refurbished ที่ผ่านมาตรฐาน Apple แล้ว) แต่ข้อเสียของเงื่อนไขการซ่อมในแบบดังกล่าวก็มีเช่นเดียวกัน ในกรณีที่ iPhone เกิดความเสียหายนอกเหนือเงื่อนไขการรับประกัน เช่น ทำหล่นแล้วจอแตก พอนำไปส่งซ่อมที่ศูนย์บริการของทาง Apple ก็จะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนเครื่องแบบมีค่าใช้จ่าย ต่อให้กระจกหน้าจอแตกเพียงอย่างเดียว สามารถทัชสกรีนได้ตามปกติ Apple ก็จะทำการเปลี่ยนเครื่อง และแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่อง iPhone ตามเงื่อนไขเดิมก็กินราคาประมาณ 50% ของราคาเครื่องมือหนึ่ง ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยก็ประมาณ 10,000 – 15,000 บาทเลยทีเดียว

    Review-iPhone-X-SpecPhone-0017

    ส่วนเงื่อนไขการซ่อมเครื่องแบบใหม่ที่ Apple ใช้กับประเทศไทย จะเป็นการเปลี่ยนอะไหล่เป็นชิ้น ๆ ตามอาการที่มีปัญหา แบบเดียวกับการซ่อม Macbook ทำให้ซ่อมที่นอกเหนือระยะประกัน หรือนอกเงื่อนไขการรับประกันมีราคาถูกลงมาพอสมควร (แต่ก็ยังแพงอยู่ดี เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น) เช่น หน้าจอแตก ก็เปลี่ยนแค่หน้าจอ, แบตเตอรี่เสื่อม ก็เปลี่ยนแค่แบตเตอรี่ หรือถาดซิมบวม ก็เปลี่ยนเฉพาะถาดซิม ไม่มีการยุ่งกับอะไหล่ชิ้นอื่น อย่างไรก็ตาม ในเคสที่อาการหนัก เช่น กระจกหลังแตก, บอร์ดพังก็ยังคงเป็นการซ่อมแบบเปลี่ยนเครื่อง (Refurbished) เหมือนเดิม แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการเปลี่ยนอะไหล่เป็นชิ้น ๆ ตามอาการ

    โดยการส่งซ่อม iPhone สามารถส่งซ่อมกับศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Apple ได้แก่

    • iCare
    • iServe
    • iService
    • Macintosh Center

    ส่วนการส่งซ่อมกับ AIS, TrueMove H และ dtac จะมีค่าเท่ากับส่งให้ทาง Apple โดยตรงเช่นกัน เพราะในเงื่อนไขใหม่ ทางโอเปอร์เรเตอร์ไม่ได้แกะเครื่องซ่อมเองแล้ว มีลักษณะคล้าย ๆ กับการเป็น Drop point คือศูนย์รับ – ส่งเครื่องซ่อมมากกว่า อย่างไรก็ตาม เป็นหน้าที่ของลูกค้าที่ต้องเสียเวลาไปส่งเครื่องซ่อม แล้วก็รับเครื่องซ่อมเอาเอง

    ด้านระยะเวลาในการส่งซ่อมกับศูนย์บริการ AASP (Apple Authorized Service Provider) จะอยู่ที่ประมาณ 7 – 14 วันทำการ ไม่รวมเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดราชการครับ ซึ่งก็ถือว่าใช้เวลานานพอสมควร เพราะต้องมีการตรวจสอบเครื่องโดยช่างชาวไทย จากนั้นส่งเรื่องไปที่ Apple สิงคโปร์เพื่อทำการเบิกอะไหล่ พอได้อะไหล่มาก็ทำการเปลี่ยน แล้วตรวจสอบอีกทีก่อนส่งให้กับลูกค้า

    ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อต้องทำการส่ง iPhone ไปซ่อมก็คือไม่มีเครื่องใช้ระหว่างรอซ่อม และด้วยระยะเวลาในการซ่อมที่นานพอสมควร เฉลี่ยประมาณ 1 สัปดาห์ หรืออาจนานกว่านั้น การไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ในยุคปัจจุบันก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน ส่วนตัวมองว่าทำให้ใช้ชีวิตลำบากขึ้นเยอะเหมือนกัน เพราะปัจจุบันสมาร์ทโฟนแทบจะเป็นทุกอย่างในชีวิตไปแล้ว ทั้งการทำงาน, โซเชียล, การติดต่องาน รวมถึงเรื่องการทำธุรกรรมต่าง ๆ ครั้นจะไปซื้อสมาร์ทโฟนมาใช้ระหว่างซ่อมก็ดูจะสิ้นเปลืองเกินไป หรือถ้าซื้อเครื่องที่ราคาไม่แพงมากมาใช้ไปก่อนก็คงใช้งานได้ไม่สะดวกเท่าไหร่

    Review-iPhone-X-SpecPhone-0004

    ทีนี้มาเข้าสู่ประเด็นหลักของบทความนี้ นั่นก็คือเรื่องราคาค่าซ่อมหน้าจอ iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone X รวมถึง iPhone รุ่นอื่น ๆ โดยผมไปหาข้อมูลราคาค่าเปลี่ยนหน้าจอมาจากแฟนเพจ iServe ซึ่งเป็นศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจากทาง Apple

    iPhone-Screen-Repair-with-AASP

    • iPhone 8 Plus, 7 Plus และ iPhone 6s Plus – 6,500 บาท
    • iPhone 8 , 7, 6s และ iPhone 6 Plus – 5,500 บาท
    • iPhone 5s, SE และ iPhone 6 – 5,000 บาท
    • iPhone X – 12,500 บาท

    จะเห็นว่าราคาเปลี่ยนจอ iPhone ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ก็มีราคาที่สูงในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะ iPhone X ที่มีราคาสูงถึง 12,500 บาท หรือ iPhone 8 Plus ก็มีราคาค่าเปลี่ยนหน้าจอสูงถึง 6,500 บาท ทำให้หลายคนเลือกเปลี่ยนจอกับร้านข้างนอก ซึ่งมีราคาถูกกว่าหลายเท่า แต่ก็ต้องแลกมากับความเสี่ยงหากเจอร้านที่ไม่ชำนาญ รวมถึงอะไหล่ที่เปลี่ยนมาก็คุณภาพไม่เท่ากับของศูนย์บริการ และยิ่งเป็น iPhone รุ่นใหม่ ตั้งแต่ iPhone 8, iPhone 8 Plus ขึ้นไปที่มาพร้อมกับหน้าจอ True-tone Display การแกะซ่อมโดยช่างที่ไม่ชำนาญอาจมีผลกับเซ็นเซอร์อื่น ๆ ได้

    iPhone 7 Plus iPhone 8 iPhone 8 Plus iPhone X
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Jamikorn Singnamthieng

    Related Posts

    สรุปจุดเด่น Samsung Galaxy S26 Ultra มีอะไรใหม่บ้าง ถ้ารอซื้อรุ่นใหม่จะคุ้มแค่ไหนในปี 2026

    17 ธันวาคม 2025

    5 เหตุผลที่ควรซื้อ iPhone 17 Pro/ iPhone 17 Pro Max เล่นเกมในปี 2025 มีอะไรที่ทำให้น่าใช้บ้าง

    13 ธันวาคม 2025

    วิธีปิดโฆษณา Xiaomi, Redmi และ POCO บนระบบ MIUI และ HyperOS ในปี 2025 แบบง่ายๆ ปิดได้ทุกแอป

    12 ธันวาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    vivo นำเสนอสมาร์ตโฟนหลากหลายซีรีส์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์พร้อมส่ง Y31 5G เสริมไลน์อัปส่งท้ายปี

    23 ธันวาคม 2025

    OPPO Find X9 Ultra เตรียมเปิดตัวพร้อมกล้องคู่ 200MP ที่ซูมออปติคอลได้ 10 เท่า

    23 ธันวาคม 2025

    ซัมซุง ชู SmartThings สร้างประวัติศาสตร์ใหม่เขย่าวงการ ขึ้นแท่นเจ้าแรกที่รองรับกล้องมาตรฐาน Matter 

    22 ธันวาคม 2025

    Alldocube มอบความสุขส่งท้ายปี จัดโปรแรงให้ iPlay 60 Pro สมาร์ทแท็บเล็ต จอใหญ่ใส่ซิมได้ ราคาใหม่เพียง 4,999 บาท

    22 ธันวาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X