แม้ว่าจะเพิ่งเปิดตัว iPhone 16 ไปได้ไม่กี่เดือน แต่ก็เป็นปกติที่ Apple จะมีการพัฒนารุ่นที่จะออกในอีกสองสามปีล่วงหน้าไปบ้างแล้ว โดยล่าสุดมีรายงานข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 18 ที่จะได้รับการเปิดตัวในปี 2026 ออกมา
ในรายงานระบุว่าจะมีการปรับเปลี่ยนภายในในแบบแทบจะรื้อโครงสร้างใหม่เกือบทั้งหมด โดยจุดประสงค์หลักก็คือเพื่อเน้นเพิ่มประสิทธิภาพด้าน AI โดยเฉพาะ ซึ่งก็มีข้อมูลมาจากสื่อในเกาหลีใต้ระบุว่า Samsung เองก็เริ่มวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการแพ็คเม็ดแรม LPDDR ที่เหมาะสำหรับการใช้เป็นแรมให้กับสมาร์ตโฟน โดยระบุว่าเป็นความต้องการของ Apple เองที่อยากได้เม็ดแรมแบบแยกออกมาจากชิปเซ็ตหลัก เพื่อศึกษาและหาแนวทางในการเพิ่มแบนด์วิธหน่วยความจำ ต่างจากในปัจจุบันที่มีการนำเม็ดแรมไปวางไว้เหนือชิปเซ็ตหลัก
ตรงนี้ก็อาจจะดูขัดกับแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบัน แม้กระทั่งแนวคิดของ Apple เอง ที่มักนำแรมไปอยู่ให้ชิดกับชิปเซ็ตหลักหรือ CPU ให้มากที่สุดเพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุด แต่ในจุดนี้ก็มีรายงานจากต้นทางออกมาว่า การวางแรมในลักษณะดังกล่าวอาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานด้าน AI มากนัก เนื่องจากการใช้งาน AI นั้นต้องการความกว้างบัสและจำนวนแชนเนลในการรับส่งข้อมูลจำนวนมาก เพื่อให้มีแบนด์วิธที่สูง สามารถทำงานแบบคู่ขนานกันได้ ซึ่งการที่จะทำให้มีความกว้างบัสและแชนเนลที่มาก จำเป็นจะต้องมีการเพิ่มจำนวนขาพิน I/O ของตัวชิปให้มากขึ้น เปรียบเสมือนการตัดถนนเพิ่ม ส่งผลให้ชิปแรมก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ซึ่งถ้าหากยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิมที่วางชิปแรมไว้เหนือชิปเซ็ตหลัก ก็จะไม่สามารถขยายขนาดเม็ดแรมได้เลย เพราะจะต้องอ้างอิงขนาดให้เท่ากับชิปหลักเสมอ รวมถึงยังมีความร้อนสะสมที่สูงด้วย จึงเกิดเป็นข้อจำกัด และอาจทำให้ Apple ต้องเปลี่ยนกลับมาใช้การวางเม็ดแรมแยกออกมา
ก็คงต้องติดตามกันต่อไป เนื่องจากการแยกชิปแรมออกมาแบบนี้ แม้จะได้บัสและแชนเนลที่เพิ่มขึ้น แต่ก็จะมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลลดลงเนื่องจากระยะห่างระหว่างชิปที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง Apple คงต้องศึกษากันต่อไป ก่อนที่จะนำมาใส่ใน iPhone ในอนาคต
ที่มา: 9to5Mac